กระทู้ล่าสุดของ: uchaiyawat

                ในปัจจุบันจำนวนเงินโทรศัพท์อย่างโทรศัพท์มือถือ ชอบลงด้วยกันกอบด้วยมากมายรุ่นยกให้เลือกสรรซื้อของไม่เบา ปราณีทั้งปวงเพศทุกคราวจึ่งครอบครองกีดกันได้ไม่ยาก ซึ่งแอปพลิเคชันต่าง ๆ ก็จำต้องเอาการขยายออกมาเนื่องด้วยรองความประสงค์ของแต่ละโขยงสำหรับ โดยต่อนี้ไปพวกเราจะสั่งสมแอปพลิเคชันที่เป็นที่ดึงดูดทั่วจากฝั่ง iOS ร่วมด้วย Android มาให้เลือกโหลดกัน
 

• Social Network

            เอ่ยได้ว่าแอปพลิเคชันเนื่องด้วย Social Network หรือสังคมออนไลน์ นั้นจำเป็นจะต้องและลูกค้าสมาร์ทโฟนพร้อมทั้งสัมผัสคัดดาวน์โหลดเป็นประเภทเดิม ๆ ตอนซื้อหาเครื่องมาเปรียบได้ เฉพาะจะมีอะไรที่ควรกีดกันเพลี่ยงพล้ำบ้าง มาทรรศนะห้ามปราม
 
            Facebook
            หมายความว่าสังคมออนไลน์ประเภท 1 ของสยามในตอนนี้ ดังที่กอบด้วยผู้ทำงานบานตะเกียงพลุ่งพล่าน พร้อมสรรพกอบด้วยฟีเจอร์ในพวกอื่น ๆ ค่อนข้างทั่วไป ทั้งการร้อยกรองใจความ, ลงรูปถ่าย, ลงภาพเคลื่อนไหว, ไลฟ์สด กับปลูกสร้างเพจหรือขายของเพราะว่าตนเองง่าย ๆ เป็นต้นดาวน์โหลดจัดหามาหนทาง Play Store / App Store
            Instagram ทาง
            สังคมออนไลน์ที่เน้นย้ำไปที่ข้างภาพเขียน ที่ได้มาการยอมรับเป็นยอด เนื่องจากเหตุด้วยรูปแบบการใช้งานที่ตอกย้ำปริปากเนื้อเรื่องทะลวงภาพเขียนยิ่งกว่าจารึกเป็นหัวเรื่อง โอบอ้อมอารีความเห็น ทิวภาพ ด้วยกันสภาวการณ์ ได้จากทั่วทั้งปวงมุมวัฏสงสาร ดาวน์โหลดได้มาทาง Play Store / App Store
 
 
            Twitter
            Twitter สังคมออนไลน์ที่แสดงเนื้อเรื่องหลายอย่าง ที่รูปแบบหัวเรื่องเป็นหลัก ได้รับความนิยมมาฝ่ายยาวนาน เสียแต่ว่าผู้ที่อีกทั้งไม่มีประสบการณ์ใช้คืนคงเหล่ใช้งานแสนเข็ญ แม้กระนั้นพอเพียงใช้งานไปซักชุดจะชักจะสนุกสนาน ก็เพราะว่าคุณจะหาได้รับประกาศเป็นสิบๆจากผู้ใช้ทั่วกันพื้นแผ่นดินข้างในระบอบมั่นคงซับซาบคล่อง ดาวน์โหลดหาได้หนทาง Play Store / App Store
               
                Tinder
                แอปพลิเคชันเข้าคู่ที่ได้รับความนิยมมุทธาข้างในสมัยนี้ โดยจะแสดงทัศนียภาพจากเพศที่ผู้บริโภคห่วงใย โดยสืบเสาะจากข่าวคราวจากมิตรด้วยกันความสนใจที่กอบด้วยพลอย ซึ่งสมรรถคัดดีดซ้ายลงความว่าเปล่าผูกพัน หรือว่าปัดขวาหมายถึงชอบใจได้ แม้เธอคัดสลัดขวา ก็มากเกินแค่คอยท่าให้สมาชิกที่ออเจ้าหลงใหลป้องปัดขวารองออเจ้าอย่างเดียวกัน ถึงจะ Match และมีศักยภาพสานเกี่ยวดองด้วยกันต่อจัดหามา ดาวน์โหลดจัดหามาลู่ทาง Play Store / App Store

• เพราะว่ามุมการสื่อสาร

                แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือจะกุดแอปพลิเคชันด้วยติดต่อหรือว่าแชทไปไม่ไหวจริง
 
                LINE
                คือการติดต่อสื่อสารด้วยรูปร่าง Instant Message หรือการแชทส่งใจความพูดด้วยกัน ทั้งๆ ที่แอปพลิเคชัน ทิศทางนี้จะมีอยู่เหลือล้น ทว่า LINE ก็คืออนุกรม หนึ่ง จากชาวไทย ดังที่ประกอบด้วยแบบแผนการใช้ที่สะดวก อินเตอร์เฟสน่าเอ็นดูสะอาด พร้อมกับกอบด้วยรูปลอกให้คัดเลือกโหลดบานเบิกบริบูรณ์ มีศักยภาพติดต่อหากันสำหรับครรลองเสียง หรือไม่ก็วีดีโอคอลได้ด้วย ดาวน์โหลดหาได้ช่องทาง Play Store / App Store
 
 
 
                Messenger
                เพราะว่า Messenger เป็นแอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นมาจาก Facebook เพราะจะหมายความว่าการคบหาในที่แบบแชทเหมือน ๆ พร้อม LINE กับเพื่อนณ Facebook โดยตั้งแต่แรกตัว Messenger จะคงอยู่ภายในแอพพลิเคชั่น Facebook เลย แต่กระนั้นณ เวลานี้แตะต้องโหลดแยกแยะแล้วนะ ดาวน์โหลดได้รับช่องทาง Play Store / App Store

• แบบนันท์

            ด้วยสมาร์ทโฟนจะเด็จนันท์เป็นไปไม่ได้ เพราะความสามารถของเครื่องปัจจุบันนี้มีศักยภาพถ่ายทอดมาได้มาเป็นอันดีเลยเทียว
 
            Youtube
            ดำรงอยู่อย่าแย้มว่า Youtube หมายถึงคนปันออกบริการวีดีโอออนไลน์ที่แบบหนาตาความจุสิ่งไร เนื่องด้วยตอนนี้ Youtube เปรียบเสมือนช่องทีวีที่คือจากสามัญชนทั้งแผ่นดิน มีความเบิกบานใจหมู่พร้อมมูล ทั่วความมุ่งมาด ไม่ว่าจะดูแบบอย่างสด ๆ หรือว่าวิธีย้อนหลัง เพราะว่าแอปพลิเคชัน Youtube  ดาวน์โหลดคว้าทาง Play Store / App Store
 
 
                Netflix
                หมายถึงแอปพลิเคชันที่ขารักนันท์ไม่ถูกพลั้งเผลอ โดยเหตุที่จะกอบด้วยการชักจูงภาพยนตร์, ซีรี่ย์, สารคดี รวมทั้งรายการโทรทัศน์ได้รับความนิยมมากจากวิรัช พร้อมทั้งที่ Netflix จัดทำเอง มาให้เหล่กันอย่างสตรีมมิง กอบด้วยซับไตเติ้ลเพื่อให้กล้วยๆต่อการรับชม เติมให้ปราศจากโฆษณาแทรก แต่กระนั้นสิ้นเชิงก็ต้องมีอยู่การออกเงินด้วยว่าทำงานตามแพ็กเกจ ดาวน์โหลดได้ทาง Play Store / App Store
 
                JOOX Music
                อีก1แอปพลิเคชันที่ฮิตเต็มที่แห่งประเทศสยาม ด้วยใส่ใจบทเพลงสตรีมมิงและโหลดตุนยกมาไว้รับฟังออฟไลน์ได้ โดยความโดดเด่นคือหัวข้อผลรวมดนตรีที่อักโขเข้ากันได้ชาวไทยเหลือเกิน และยังคงให้ตรับฟังดนตรีให้เปล่า หรือผู้ใดมุ่งหมายจะจับจ่ายใช้สอยเงินด้วยฟีเจอร์ที่พรั่งพร้อมก็ได้ มีศักยภาพต่ออายุการใช้งานได้ฉบับคล่องๆ ดาวน์โหลดได้รับทาง Play Store / App Store
 
                Spotify Music
 
            แอปพลิเคชันรับฟังเพลงภายในต้นแบบมิวสิกสตรีมมิงบนโทรศัพท์มือถือหรือว่าแท็บเล็ตที่กอบด้วยหมู่เพลย์ลิสต์ดีเยี่ยมจัดหามาการตอบรับจากตลอดพื้นพิภพ เสาะแสวงแทร็ก ศิลปิน หรืออัลบั้มที่หวัง หลังจากนั้นใส่ใจได้เลย ฝ่าย{เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนซึ่งแสนจะถูกตราบเทียบด้วยกันประสิทธิภาพ ดาวน์โหลดหาได้ทาง Play Store / App Store
            นี่เป็นเท่าส่วนใดส่วนหนึ่งจากแอปพลิเคชันที่จำเป็นต้องกอบด้วยเสมอๆสมาร์ทโฟนในที่ยุคนี้ ยังมีที่น่ารู้อีกดื่นดาษซึ่งถ้าหากประกอบด้วยครั้งจะมาชักชวนกันอีกครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ราคามือถือ

Tags : ราคาโทรศัพท์,ราคามือถือ,ราคา smartphone

ย้อนกลับในศักราช 2001 สมาร์ทโฟนได้เริ่มมีการซื้อขายในวงกว้างแต่เนื่องจากว่าความเจริญของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเคร่งครัดมากนัก ครั้นเมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ในเวลานั้น มีผลกระทบให้มีผู้ซื้อมือถือไม่เท่าไหร่นักเมื่อเปรียบกับท้องตลาดโทรศัพท์มือถือรวมทั้งหมด
 
 ถึงกระนั้นยุคสมัยก็แปรเปลี่ยนพร้อมทั้งความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ สมาร์ทโฟน กลายเป็นข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนสมาร์ทโฟนได้ราบรื่น
 
 ในศก 2017 ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นสมาร์ทโฟนถูกจำหน่ายไปรวมยอดราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 โดยประมาณ 5% โดย 3 อันดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปล้วงลึกสถานการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติผลกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยผลกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมทะยานไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน ครั้นก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยทำรายได้คร่าวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 ซึ่งทั้งที่เงินรายได้รวมเบ็ดเสร็จใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ว่าด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า ทำเอา ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของโทรศัพท์ซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้ย้ายมาจำหน่ายไวขึ้น ผนวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่จำหน่ายในหลายๆ แคว้น และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการเงินกำไรได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งเงินรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ด้านรายรับจากต่างประเทศนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินได้รวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำกำไร ถึงแม้จะมีข่าวซุบซิบออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลชี้แจงตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับแต่เปิดตัวส่งมอบครั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และขายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในปี 2017 หัวเว่ยได้ให้สมาร์ทโฟนทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามตอนนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ เพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ควบคุมอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เพราะว่ามือถือขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 ทั้งที่ยอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็มุ่งมั่นไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายบ้านเมืองมี 4G และปี2018 คาดเดาว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดลองความสามารถก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การปรากฏตัวของข่ายงานไร้สาย 5G ทำให้มีการคาดคะเนกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งจำต้องรอคอยจับตามองดูว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนกลุ่มนี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและต่อสู้ความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

            ในเดี๋ยวนี้หากไถ่ถามใครต่อใครว่า โทรศัพท์มือถือป้อปูลาร์ในใจมวลชนคือเครื่องไหน อันดับต้นๆคงต้องมีชื่อมือถือในประเภท Samsung Galaxy ติดอันดับต้นๆอย่างแน่แท้ ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัยเนื่องจากการทำการตลาด การสร้างความบันดาลใจ การมีความเป็นมาที่ยอมรับได้และความน่าใช้ที่เย้ายวนใจให้ผู้บริโภคคงความชอบได้อยู่ตลอดนั้น Samsung ทำได้ดีตลอดมา สมกับที่ในภาษาเกาหลี Samsung มีคำอธิบายศัพท์ว่า "สามดาว" เป็นดาวที่ส่องแสงในกลุ่มมือถือระดับนานาชาติ โดยในแต่ละปีนั้น ซัมซุงได้วางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือนานาเครื่องออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Samsung Galaxy คือหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดการบรรลุของซัมซุงที่สำคัญ
Samsung Galaxy มีจุดเริ่มต้นเริ่มตั้งแต่ปี 2010 ที่ได้เปลี่ยนแปลงวงการมือถือ ด้วยการเป็นเครื่องแรกที่รันบนแบบแอนดรอยด์ของซัมซุง เวอร์ชั่น 1.5 (Cupcake) นั่นคือรุ่น Samsung I7500 Galaxy ที่ถือว่าสร้างปรากฏการณ์และความชอบในวงกว้างมาก ณ ช่วงนั้น หลังจากนั้นแล้วจึงได้ปรับปรุงเป็นซีรีส์เต็มๆ ซึ่งทาง Samsung ได้วางการตลาดให้โทรศัพท์มือถือในตระกูลนี้หมายถึงรุ่นเรือธงของค่าย พร้อมทั้งเป็นการสร้างตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเต็มกำลังของทาง Samsung เช่นกัน ซึ่งมีตัวอักษร "S" ที่ถูกนำมาใช้ขานชื่อรุ่นของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่นี้มาจากคำในภาษาอังกฤษว่า "Success" ที่แปลเป็นไทยว่า ประสิทธิผล หลายคนคงจะสังเกตได้ว่า Samsung Galaxy ราคา คุณสมบัติ ดีไซน์ คุณสมบัตินั้นมีหลากหลายมากๆ ขณะนี้เราอยากจะมาแจกแจงให้ดูหน้าที่กับซีรีส์ย่อยของแต่ละรุ่นว่ามีเรื่องเบ็ดเตล็ดเป็นอย่างไรกันบ้าง
Galaxy A เป็นโมเดลตัวกลางค่อนไปทางสูง มุ่งเน้นเรื่องวัสดุชั้นเลิศ ออกแบบเป็นพื้น รุ่นนี้ดีไซน์มางดงาม สังเกตได้ว่ารุ่นนี้วัสดุจะงดงามมาก ตัวเครื่องจะเป็นโลหะไปเลยล้วนๆ ส่วนฟังค์ชั่นและสมรรถนะก็สูงด้วย จะเป็นถัดลงมาก็เพียงแค่รุ่น S เริ่มมาในราคาช่วงกลางจนถึงสูง แบบอย่างเช่น Galaxy A3, A5, A7 ต่อจากนั้นตามด้วยปีที่ออกจำหน่าย เช่น 2016, 2017 ส่วนในปี 2018 นั้นได้เปลี่ยนชื่อ A5 และ A7 เป็น A8/ A8+ แทน จากนั้นทราบกันหรือเปล่าว่า Galaxy Tab A นับว่าเป็นหนึ่งในรุ่นนี้ด้วยเหมือนกัน แต่มีข้อสังเกตอีกสิ่งหนึ่งว่า รุ่น A ซีรีส์จะไม่มีการจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา
Galaxy E เป็นเครื่องตัวกลาง โดย E ย่อจาก Elegant เรียบ คลาสสิก ฟังก์ชั่นการทำงานโอเคแทบจะละม้ายคล้ายคลึง A เลย แต่ด้อยกว่าเรื่องวัสดุ (ใช้พลาสติก) รอง A ตัวเครื่องจะเป็นโพลีคาร์บอเนต อย่างไรก็ตามจะเห็นว่ามีจุดแข็งอยู่ คือไลน์นี้สามารถถอดฝาหลัง กับทั้งแบตเตอรี่ออกเองได้ ต้นแบบเช่น Galaxy E5, Galaxy Tab E
Galaxy J  เป็นรุ่นระดับกลางๆ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 ตัวสำคัญเรื่องการใช้งานไม่ยาก เหมาะสำหรับผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องแรก มุ่งเน้นเป็นบางฟังก์ชั่น เช่น เน้นกล้องก็จะกล้องสวยถ่ายภาพเซลฟี่มันส์ จับคู่มากับกล้องหน้า หรือถ้ามุ่งเน้นเรื่องดีไซน์ก็จะเครื่องสวยเบา ฯลฯ ฟังก์ชั่นต่ำกว่า A และ E วัสดุก็เป็นรองกว่าเช่นกัน แต่ว่าจะสามารถถอดฝาหลังได้ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นมัธยัสถ์ของ Samsung เค้าเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy J7 Plus, J5 Pro, J7 Core
Galaxy Core/Grand เป็นรุ่นระหว่างกลางค่อนไปทางล่าง ในช่วงปี 2013-2015 ซึ่งหลังจากนั้นได้ถูกดัดแปลงเป็นสาย J ส่วนสเปคก็เน้นย้ำให้พอถูๆไถๆไปได้ เช่นเน้นหนักว่าเป็นมือถือ 2 ซิม, แรม 1 Gb, กล้อง 5 ล้านพิกเซล เป็นต้น ตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy Core, Core Prime, Grand Duos
Galaxy S เทคโนโลยีขั้นสุด เป็นรุ่นเรือธง สเปคสูง มักใส่เทคโนโลยีที่เพิ่งผลิตกับทั้งล้ำหน้ากว่าใคร ใส่ไว้ในโมเดลนี้ ตรงจุดแทบจะครบครันมาตั้งแต่สมัยบุกเบิก Android เป็นคู่แค้น iPhone เบอร์หนึ่งมาเลย ซึ่งในแต่ละครั้งที่ออกรุ่นใหม่มาก็สร้างเสียงฮือฮาให้กับหมู่ชนได้มากกับทั้งเป็นวงกว้างมาก ซึ่งในขณะที่ออกขายก็จะมีรุ่นย่อยเป็น -Plus, -Neo, -Active, -Advance ห้อยท้ายแล้วแต่จุดเด่น
Galaxy Note ซึ่งนับว่าเป็นรุ่น “เรือธงของเรือธง” ที่อัปเกรดมาจาก Galaxy S อีกทีหนึ่งให้พอดี กับสเปค หน่วยประมวลผล และศักยภาพยอดเยี่ยมคือ เน้นหนักด้านการใช้กับปากกา S Pen ของ Samsung เขียนหนังสือโน้ตได้ทันทีทันใด ซึ่งแรกเริ่มที่เปิดตัวนั้นถือว่าสวนทางกับความชื่นชมในขณะนั้นที่ใช้ระบบสัมผัสกันด้วยมือโดยตรงแล้ว แต่ด้วยสไตล์ ความเที่ยงตรงในการเขียนตามลายมือที่แท้จริงของผู้เขียนเสริมด้วยการใช้งานได้เกือบๆจะเท่าคอมเป็นผลให้ยังได้รับความนิยมชมชอบจากคนที่ชอบใจสเป็คขั้นสุดมาอยู่เสมอ ธรรมดา Note จะมาคราวหลังจากรุ่น Galaxy S ไปสักระยะนึงเพื่อการแก้ไขปรับปรุงที่ดีขึ้นจากรุ่น S ก่อนหน้านี้
Galaxy Book เป็นเครื่องที่เพิ่มเติมจากพวกแทบเล็ต Galaxy Tab มีการใช้งานที่เป็นคอมพิวเตอร์ ลงวินโดว์ 10 ได้เลยทีเดียว ยอมรับว่านำมาชนกับรุ่น Microsoft Surface เข้าอย่างจัง ต้องรอดูในระยะยาวในภายภาคหน้าว่าจะได้รับความนิยมชมชอบมากแค่ไหน
จากที่กล่าวมาข้างต้น การวางแบบ แบรนด์ อีกทั้งการเปิดทางเลือกให้กับผู้ใช้งานได้เลือกอย่างมากมายนั้นเป็นผลให้ Samsung เป็นบริษัทผู้ประกอบการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกได้อย่างไม่มีข้อสงสัย อีกทั้งยังคงจัดทำเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาตลอดดอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งรุ่นดาวเด่น Samsung Galaxy ราคา รองรับที่มากมาย แบบที่ต่าง และฟังค์ชั่นที่ครอบคลุมทุกความคล่องแคล่วเท่าที่มือถือเครื่องนึงพึงจะมีได้นั้น ถือได้ว่าตรงจุดผู้ซื้อได้ทุกจุดเลยทีเดียว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คุณจะหันมาใช้ Samsung Galaxy ราคา ดีๆไปกับเรา
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ Samsung Galaxy

Tags : Samsung Galaxy,Samsung Galaxy ราคา,โทรศัพท์ Samsung Galaxy

Canon คือบริษัทที่ผลิต นวัตกรรมในด้านกล้องถ่ายภาพและเทคโนโลยีมาเป็นห้วงเวลายาวนาน คือขวัญใจของตากล้องทั้งผู้เชี่ยวชาญและมือสมัครเล่น ในปี 2015 มีผลกำไรถึง 665 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามกว่าจะมายืนอยู่ที่จุดนี้ บริษัทจากญี่ปุ่นนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ไปดูกันเลย

 แคนอน ริเริ่มตั้งขึ้นขึ้นในศก พ.ศ. 2486 (ค.ศ. 1933) ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมี ชายหนุ่มผู้สถาปนา 4 คน คือ ทาเคชิ มิตาราอิ, โกโร่ โยชิดะ, ซาบุโร่ ยูชิดะ และ ทาเคโอะ มาเอดะ โดยหมายมุ่งทำกล้องถ่ายภาพ สัญชาติญี่ปุ่นขึ้นมา ท่ามกลางกระแสความชื่นชมของกล้องถ่ายรูปจากประเทศเยอรมัน ครั้นเมื่อเดิมทีที่จัดตั้งนั้นใช้ชื่อบริษัทว่า Precision Optical Instruments Laboratory คิดค้นกล้องถ่ายภาพขนาด 35 mm ตัวแม่แบบขึ้นมาจนกระทั่งเป็นผลสำเร็จโดยใช้ชื่อว่า “The Kwanon” โดยได้รับความบันดาลใจมาจากพระโพธิสัตว์กวนอิม (ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นจะเรียกว่า Kannon) ซึ่งมันคือกล้องถ่ายภาพ 35mm ที่ใช้ชัตเตอร์แบบ Focal Plan ตัวแรกของญี่ปุ่นในเวลานั้น

 สืบมาในปี ค.ศ. 1935 กล้องถ่ายรูปตัวแต่เดิมภายใต้ชื่อ Canonก็ออกทำตลาดในญี่ปุ่นในนาม “Hansa Canonในปี ค.ศ. 1947 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงนามหน่วยงานจากเริ่มแรกมาเป็น Canon Camera Co.. Ltd. อย่างเป็นทางการ ซึ่งผลงานที่ไล่ตามออกมาภายหลังเปลี่ยนชื่อแล้วก็คือการดีไซน์และพัฒนา “เลนส์ขยาย” เพื่อการบันทึกภาพวิดีโอ และในปีถัดมา Canon ก็เอา Reflex Zoom8 กล้องบันทึกภาพวีดีโอตัวแรกของโลกที่มีเลนส์ขยายให้ใช้งานออกแนะนำตัวสู่สาธารณะ

 ในศักราช 1950 มร. ทาเคชิ มิตะไร ประธานบริษัทคนแรกของ แคนอน ได้เดินทางไปเยือนอเมริกาเหตุด้วยเข้าร่วมงานจัดแสดงผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศเป็นครั้งแรก ครั้นเมื่อประธานได้เจอความเข้ายุคของโรงงานและคุณค่าชีวิตที่ดีของคนที่นั่นด้วยตัวเอง เขาจึงได้เล็งเห็นว่าการที่ Canon จะประสบผลสำเร็จในระดับโลกได้จะต้องมีโรงงานขั้นมาตรฐาน ครั้นกลับมาถึงญี่ปุ่นจึงได้ก่อสร้างโรงงานทนความร้อน ที่ใช้คอนกรีตผนวกเหล็กเป็นวัสดุในงานก่อสร้าง ณเขต Shimomarukoของเมืองหลวงเมืองโตเกียว
 
 ต่อจากนั้นเป็นต้นมา กล้องถ่ายรูปประเภทต่างๆ พร้อมทั้งเครื่องมือทางกิจการค้าในระบบอัตโนมัติ (อาทิเช่นเครื่องคิดเลขแบบสิบปุ่มตัวแรกของโลก) ภายใต้ชื่อ Canon ก็ถูกผลิตออกมาสู่สาธารณะชนเป็นระยะๆ รวมทั้งการรุกเข้าไปสู่ตลาดโลกโดยการเปิดสำนักงานสำนักงานสาขาขึ้นที่นิวยอร์คในศักราช ค.ศ. 1955 และตั้งตัวแทนค้าต่างขึ้นที่ยุโรปที่นครเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ ในศก1957

 กล้อง SLR ตัวแรกของ Canon เป็น “Canonflex” ที่ผลิตขึ้นในปี 1959 ซึ่งถือเป็นความเจริญรุ่งเรืองทางเทคโนโลยีการถ่ายรูป ในศก 1960 Canon ได้ตัดสินใจเริ่มต้นก้าวเข้าสู่การตลาดในการผลิตสินค้าอย่างอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เครื่องคิดเลข และเครื่องถ่ายเอกสาร ทำให้ต้องขยายตัวและกลายเป็น Canon Inc. ในเดือนมีนาคม 1969

                 ก่อนปี 1970 Canon มียอดจำหน่ายบรรลุ 44.8 พันล้านเยน มีพนักงานที่มีปัญญาสามารถถึง 5,000 คน แต่กระนั้นเพราะว่าสภาพการณ์ความแปรผันของเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมันและปัญหาเศรษฐกิจในศก 1974 เป็นเหตุให้ Canon ตกอยู่ในสภาพการณ์พบปัญหาขาดทุนอย่างรุนแรง และใน 6 เดือนแรกของศักราช 1975 ก็ไม่สามารถจ่ายปันผลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ทำให้ในศักราช 1976 Canon ได้ประกาศแนวทางปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นกลเม็ดอันสำคัญที่จะเปลี่ยนให้Cannon เป็นบริษัทดีเยี่ยมระดับโลก
 
 จากแผนดำเนินงาน Premium Company Plan Cannon จึงเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง จวบจนกระทั่งในปี 1996 แผนการดำเนินงาน Premium Company Plan นี้ก็ได้ริเริ่มเอากลับมาใช้ใหม่ในชื่อ Excellent Global Corporation Plan เป็นการปรับปรุงแนวความคิดในการตั้งความหวังเพิ่มความสามารถและการวางภาพลักษณ์ของ Canon ให้ตามสมัย
 
 ในช่วงปัจจุบัน แคนอน มีศูนย์วิจัยและพัฒนาถึง 9 แห่งในทวีปเอเชีย สำนักงานในฟิลิปปินส์มีความชำนาญพิเศษในด้านการปรับปรุงเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แอพพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์ ที่ว่าการที่อินเดียมีความชำนาญในด้านซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพและซอฟต์แวร์อื่นๆ ส่วนห้องปฏิบัติการวิจัยในประเทศจีนทำการพัฒนาเทคโนโลยีในการประมวลผลภาษาจีน เทคโนโลยีการประมวลผลภาพและแอพพลิเคชั่นที่สัมพันธ์กับอินเตอร์เน็ต

 เหนือจากนี้ แคนอน ได้สร้างฐานการผลิต 7 แห่งในทวีปเอเชีย ได้แก่ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศมาเลเซีย เมืองไทยและประเทศเวียดนาม โรงงานทุกที่ในทวีปเอเชียมีเทคโนโลยีระดับสูงในการผลิตเครื่องมือต่างๆ เช่น เลนส์ เครื่องถ่ายเอกสาร พริ้นเตอร์บับเบิ้ลเจ็ต กล้องถ่ายรูปทั้งแบบดิจิตอลและแบบฟิล์ม

 ในเมืองไทย Canon มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จัดตั้งในศก พ.ศ. 2537 เป็นบริษัทในเครือของบริษัท CanonInc. ประเทศญี่ปุ่น มีบุคลากรกว่า 500 คน ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา Canon มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) มีวงจรข่ายศูนย์บริการตัวแทนกว่า 160 สถานที่ทั่วประเทศ

 นี่คือประวัติประวัติย่อๆ ของบริษัท Canon ที่คุณคุ้นเคยชื่อกัน ซึ่งพูดได้ว่าผ่านอะไรมานานัปการเลยเทียวกว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ในกลุ่มกล้องและเทคโนโลยีได้ เรามาเฝ้าคอยติดตามเบื้องหน้าของ Canon กันต่อไป

Tags : Canon,กล้อง canon,แคนอน

                ในช่วงหลายปีมานี้จะเห็นได้ว่าลำโพง Bluetooth ขณะนี้กำลังชื่นชอบอย่างมากมาย เพราะผู้ใช้โดยมากหาลำโพงที่เหมาะสำหรับการใช้งานของตัวผู้ใช้ สะดวก รวมถึงใช้ได้เข้ากับหลากหลายอุปกรณ์ ทำให้เป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุไรหลายๆ ยี่ห้อเลยหันมาผลิตลำโพงบลูทูธออกวางตลาดทำให้ในเวลานี้มีลำโพงบลูทูธ ให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย
            เริ่มที่ก่อนซื้อลำโพงBluetooth ควรย้อนถามตัวเองก่อนว่ารูปแบบการใช้ของตนเองเป็นอย่างใด ใช้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน ต้องเจอลม แดด ฝนหรือว่าเปียกหรือเปล่า หรือว่าใช้งานต่อเข้ากับอุปกรณ์ชนิดไหน หากต้องใช้งานอย่างที่จำเป็นต้องติดตัวติดตัวเป็นประจำ หรือว่าจำเป็นจะต้องใช้งานที่แจ้งก็พึงจะเลือกใช้ลำโพงบลูทูธสัดส่วนเล็กจนถึงปานกลาง เพราะช่วยให้พกได้สบาย รวมทั้งบางอย่างยังป้องกันน้ำได้อีกด้วยทำให้เหมาะสมกับการใช้กับทุกแบบ ถัดไปที่ควรจะพิจารณาคือบริเวณที่จะนำไปใช้มีสถานที่กว้างมากหรือไม่ หรือเป็นแค่สถานที่ขนาดเล็ก แบบห้องนอน ถ้าเป็นบริเวณกว้างขวางก็น่าจะใช้ลำโพงบลูทูธ ขนาดกลางๆไปจนถึงใหญ่มาก ก็เพราะว่าช่วยให้การกระจายเสียงที่ดังกว่า พร้อมทั้งห่างไกลกว่า อย่างไรก็ตามถ้าเป็นสถานที่ไม่กว้างมากหรือมีขนาดเล็กควรใช้เพียงลำโพงไซต์เล็กจนกระทั่งสัดส่วนปานกลางก็พอแล้ว ก็เพราะว่าให้ประสิทธิภาพเสียงที่น่าพอใจเช่นกันและช่วยให้ย้ายได้สะดวกสบายมากกว่าด้วย ยิ่งไปกว่านั้นแล้วในเรื่องที่จำเป็นต้องคิดเพิ่มเป็น ส่วนความทนของแบตเตอรี่รวมถึงพื้นที่ที่กูเอาลำโพงบลูทูธไปใช้งาน ในส่วนของแบตเตอรี่จำเป็นต้องพิจารณาเกี่ยวกับการใช้งานในต่อครั้งของเรานานเพียงใดหากใช้นานก็ควรที่จะเลือกลำโพงบลูทูธที่มีความจุพลังงานเยอะเพราะว่าจะช่วยให้ใช้ได้ยาวนานกว่ารวมไปถึงไม่ส่งผลให้แบตเตอรี่พังเร็วด้วย ในส่วนที่ตั้งสมมติว่าเราจำเป็นจะต้องไปในบริเวณอย่างทะเล หรือสถานที่ที่จำเป็นต้องเปียกก็ควรจะเลือกใช้ลำโพงที่สามารถกันน้ำได้หรือว่าทนทานต่อการใช้ในสิ่งแวดล้อมนั้น อย่างนั้นแล้วการเลือกใช้ลำโพงBluetooth ให้คู่ควรกับการใช้งานเลยเป็นข้อสำคัญ
            โดยที่ลำโพง Bluetooth ที่เป็นที่นิยมในช่วงนี้ เริ่มต้นที่ ยี่ห้อ BOSE แบรนด์นี้มีชื่อเสียงในด้านลำโพงมาแบบยาวนานได้สร้างลำโพงบลูทูธมาเช่นเดียวกันรุ่นที่นิยม ก็เป็นอย่าง Soundlink Revolve+ โดยที่มีสเปคที่โดดเด่น ก็คือมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ฟังเพลงแบบรอบทิศทางมากถึง 360 องศาโดยที่ประสิทธิภาพเสียงยังน่าพอใจอย่างเดิม สามารถเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ver.4.0 ทำให้เชื่อมได้เร็ว รวมทั้ง แบตเตอรี่ทนเพิ่มมากขึ้น ป้องกันน้ำ กันฝน เกรด IPX4 ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 16 ชั่วโมง เชื่อมต่อกับ Smartphone ได้ในเวลาเดียวกันมากถึง 8 เครื่อง พร้อมกับมีเทคโนโลยี  Voice Prompts ที่เหมาะสำหรับแจ้งสถานะการเชื่อมรวมถึงจำนวนพลังงาน  ช่วยให้สะดวกแก่การใช้งานมากยิ่งขึ้น
ต่อมาเป็น แบรนด์ JBL เป็นอีกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงประเภทลำโพงเช่นกันสร้างลำโพงที่มีประสิทธิภาพดีในมูลค่าไม่สูงมากออกขายหลายแบบ หนึ่งในนั้น เป็น JBL แบบ FLIP3 โดยที่แบบนี้มีคุณลักษณะที่น่าจับตามอง คงจะเป็นกันน้ำได้ถึงระดับ IPX7 ช่วยให้หมดหนักใจเรื่องการโดนน้ำได้เลย รองรับการต่อไม่มีสายไฟทั้ง Bluetooth 4.2 ที่ให้คุณภาพเสียงอย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในการใช้ได้ด้วย มีระบบ Party Mode ที่ช่วยให้เชื่อมผ่านระบบ JBL Connect  มากถึง 100 รวมถึง เชื่อมต่อ Smartphone  ได้มากที่สุดครั้งละ 2 เครื่อง แบตเตอรี่สามารถใช้งานแบบติดต่อกันได้ยาวนานมากถึง 12 ชั่วโมง
ท้ายที่สุด ก็คือ ยี่ห้อ Sony แบรนด์นี้มีสินค้าได้รับความนิยมและคุณภาพดีมีอยู่หลายแบบลำโพงBluetooth เองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้นที่ Sony ทำออกขายได้คุณภาพดีอีกทั้งราคาถูก และอย่างที่เป็นที่นิยม คือ SRS - XB30 ประเภทนี้มีคุณลักษณะที่น่าสนใจหลายประเภทอย่างเช่น ช่วยให้กันน้ำได้ถึงเกรด IPX5  มีระบบ L dac เกี่ยวกับการ Streaming ช่วยให้ได้ฟังเพลงประสิทธิภาพดี Hi Res โดยที่ไม่ถูกลดประสิทธิภาพ พร้อมด้วยเทคโนโลยี Extra Bass ที่ช่วยให้เสียงเบสมีแรง เป็นไปได้ว่าใช้ติดต่อได้มากที่สุด 24 ชั่วโมง  รวมถึงที่เครื่องจะมีไฟหลายสีทำให้ปรับเปลี่ยนแสงสีผ่านทาง  Application Music Center
            ดังนั้นแล้ว ลำโพงBluetooth มีให้เลือกหลากหลายแบบ หลากหลายแบรนด์ รวมถึงมูลค่าก็ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลือก เพราะฉะนั้นแล้วก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินก็จำเป็นต้องดูก่อนว่าคุณอยากที่จะใช้รูปแบบไหน ต้องการลักษณะลำโพงรูปแบบไหน และลำโพงบลูทูธที่คุณอยากจะเลือกเหมาะสมกับการใช้งานของเราหรือไม่ก็ค่อยตัดสินใจเลือกซื้อ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ลำโพง bluetooth

Tags : ลำโพง bluetooth,ลำโพงบลูทูธ,ลำโพง bluetooth ยี่ห้อไหนดี

                จัดหมายความว่าการเปลี่ยนเมื่อยิ่งใหญ่จากกลุ่มเทคโนโลยีบัดนั้นตราบใด Apple  สามารถประเจิดประเจ้อiPhone ซีรีย์เริ่มแรกอย่าง สตีฟ จอบส์ แห่งวันที่ 9 มกราคม 2007 ก็เพราะว่าจากนั้นโลกซึ่งได้พบพร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ความรอบรู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย เครื่องมือสื่อสารเครื่องตรงนี้หามิได้เท่าผันแปรกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ถึงกระนั้นอีกทั้งรวมไปถึงงานดำรงชีวิตจากผู้คน, การรังสรรค์สิ่งใหม่ใหม่ ๆ
                               ในที่ทุก ๆ ศักราช Apple ก็เหมือนเดิมเอื้อ iPhone รุ่นเรี่ยมออกไปเรื่อย ๆ เท่าที่ศักราช 2014 ที่มีอยู่การแปรมื้อเด่นปรากฏ พร้อมกับความจุหน้าจอที่หมายถึงคุณสมบัติเฉพาะให้มหากว่าเดิม กับต้องรับบริเวณ ๆ ว่าปัจจุบันคนแต่งก็ยังกุม iPhone ณยุคข้างหลังศักราช 2014 ตรงนี้อยู่บรรลุ 2 รุ่น นั่นคือ iPhone 6s plus พร้อมด้วย iPhone X จากซาบซึ้งใจด้วยกันการทำงานเยอะ เพราะฉะนั้นจึงใส่ใจกำลังพาทุกท่านสวนตอบไปทอดพระเนตรวิวัฒนาการในที่ระยะหลังจาก iPhone เริ่มปี 2014 ว่าแต่ละซีรีย์กอบด้วยความน่าสนใจอะไรบ้าง
                       แห่งวันที่ 19 กันยายน ปี 2014 หลังจากการลาลับของ สตีฟ จอบส์ iPhone 6 ร่วมด้วย iPhone 6 Plus ได้แตะต้องเริ่มตรงกลางการปฏิรูปฝ่ายสาวก้าวพุ่งของมือถือ Android จากก่อนหน้า iPhone เจียนทั่วรุ่นอุปโภคหน้าจอแสดงผลสัดส่วน 3.5 นิ้วซึ่งกอบด้วยไซส์กะทัดรัดกว่าจอที่อุปโภคโดยเครื่องมือสื่อสารที่หมายถึงนำจากคู่ปรับ เท่าที่เสียจำนวนการตลาดสมาร์ทโฟนไป iPhone 6 กับ ไอโฟน 6s plus จึ่งมากับจอความจุเขื่องขึ้นไปลุ 4.7 นิ้ว พร้อมทั้ง 5.5 นิ้ว ออกแบบเอี่ยมอ่องตัวเครื่องกอบด้วยเนื้อความดุ้งกลมพร้อมกับแค่กว่า iPhone ทุกซีรีย์ กินความอัพเกรดสเปคเอี่ยมพละกำลังเหนือ iPhone ทุกแบบตลอด 50 เท่าเทียม
                      คุณสมบัติตระหง่าน ๆ จาก iPhone 6 พร้อมด้วย iPhone 6 Plus กอบด้วยอย่างนี้

• การทำงานลงมือ iOS 8
• ซีพียู Apple A8 อย่างไร 64-Bit ตัวฐานจากแหล่งหล้า
• จอ Retina HD display ประกอบด้วยส่งเสียเลือก 2 ไซส์ 4.7 นิ้ว กับ 5.5 นิ้ว
• กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชรูปแบบทูโทน
• iPhone 6 Plus มีอยู่การทำงานคุ้มกันทัศนียภาพสั่นไหว (OIS) แขวง iPhone 6 ใช้ระเบียบด้วยกันสั่นสร้างผ่านซอฟต์แวร์
• การทำงานสแกนรอยเขียนนิ้วมือ (Touch ID)
• รอง NFC แยกออกทรัพย์สมบัติลอดมือถือเนื่องด้วยบริการ Apple Pay
• ใช้การทำงานแนวยาวเหล่า iPad สามารถ
•   แบตเตอรี่ทรหดกว่าเดิมสแตนด์บาย 16 วัน ด้วยว่า ไอโฟน 6s plus พร้อมทั้ง 10 วัน เพราะด้วย iPhone 6
  
                  ภายหลังได้รับรับงานขานตอบจำพวกกระหน่ำทลาย Apple จึงวางกิจขยายความข่าวคราวเปิดตัว iPhone 6s ร่วมด้วย iPhone 6s Plus โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดรายปี จนกระทั่งวันที่ 9 กันยายน 2015
                            iPhone 6s กับ iPhone 6s Plus มาพร้อมดีไซน์ดังเดิม อย่างไรก็ตามแบบสเปคไม่ผิดอัพเกรดเอี่ยมให้มีเสน่ห์เยอะขึ้น โดยเฉพาะจอแบบใหม่ที่ Apple พร้องเพรียกว่า "3D Touch" ทำได้กระจัดกระจายความหนักเบาการสัมผัสได้ ทำเอาสั่งการเข้าทำงานสำหรับเจียรสู่ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้นานัปการขึ้น พร้อมอัพเกรดกล้องข้างหลังหมายถึง 12 ล้านพิกเซล ร่วมด้วยกล้องถ่ายรูปข้างหน้า 5 ล้านพิกเซล สารภาพทางงานถ่ายรูป Selfie
                  วันที่ 21 มีนาคม 2016 iPhone SE คว้าถูกเริ่มของจอ 4 นิ้ว พูดได้ว่าหมายถึงแบบที่อัพเกรดมาจาก iPhone 5s เหตุเพราะมีอยู่ออกแบบเหมือนกัน ถึงกระนั้นข้างในเปรี้ยงเทียมพร้อมด้วย iPhone 6s ถึงกระนั้นใสฟีเจอร์ดุจ 3D Touch โดนเอาออกเจียร ข้างคุณสมบัติขึ้นหน้าขึ้นตาๆ ได้แก่ ซีพียู Apple A9/M9, มี Touch ID, รองรับ Apple Pay, สี Rose Gold, กล้องถ่ายรูปข้างหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยรองงานถ่ายวิดีโอ 4K เป็นอาทิ
                                 เหตุด้วย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เปิดตัว 16 กันยายน 2016 มากับออกแบบเครื่องนวชาตที่ปฏิสังขรณ์มาหาละซีรีย์ก่อน ร่วมด้วยได้มุดหัวถิ่นเสาอากาศด้านท้ายกระจายไป เป็นเหตุให้มุ่งดูเพราพริ้งเติบโตกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านี้ยังเติมต่อสีตัวเครื่องเอี่ยมต่อ 2 สี เป็นต้นว่า สีดำเงา (Jet Black) กำลังมีเฉพาะซีรีย์ความจุ 128GB พร้อมทั้ง 256GB ด้านต่อสีลงความว่า สีดำด้าน (Black) รวมถึงสีสันเดิมทีต่อ 3 สีสัน ตกว่า สีสันเทา สีทอง พร้อมทั้งสีทองชมพู (Rose Gold)
                  วันที่ 12 กันยายน 2017  Apple เปิดตัว iPhone 8 พร้อมกับ iPhone 8 Plus โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ปัจจุบัน ด้วยงานอัปเกรดคุณสมบัติเอี่ยมอ่องพลัด iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ปฏิสังขรณ์กล้องถ่ายรูป กำแพงส่วนหลังกระจกส่อง เบ้าอะลูมิเนียม สีสันเครื่องอีกครั้ง Gold Finish พร้อมด้วยรองรับการชาร์จไร้สาย เป็นอาทิ
                               นอกจากกำลังเปิดฉาก iPhone 8 ร่วมด้วย iPhone 8 Plus แล้วไป  Apple ยังคงจัดทำน่าแปลกใจสละพร้อมด้วยแฟนคลับ ๆ เหมือนกันงานโหมโรง iPhone X ข้างในวันเดียวกัน
                  iPhone X หาได้รองงานวางยศวิธีการการวางแผนค้าขายส่งมอบคือโทรศัพท์มือถือชั้นสูงที่มีอยู่เทคโนโลยีอันร่วมสมัย ซึ่งดีไซน์หน้าจอให้มีชายเบาบาง ไม่มีปุ่มหน้าจากเครื่อง หน้าจอแสดงผลพรรค์ Super Retina HD: OLED กล้องถ่ายรูปข้างหลังอุปโภคการทำงานสอง สร้างจากกล้องถ่ายภาพเลนส์ภาพกว้าง ความคมชัด 12 เมกะพิกเซล f/1.8 ตอนเลนส์หกชิ้นส่วน พร้อมกับกล้อง
                               เลนส์เทเล f/2.4 กล้องถ่ายภาพหลังทั้งสองมีอยู่ระบบกระจายความแน่วแน่จากภาพประเภทออปติคอล หรือ OIS พร้อมด้วยการปรับปรุงรูปสำนึกชี้กระแสความเขินลึก กับมีแฟลชจำพวกทรูโทน กล้องข้างหน้าประกอบด้วยความละเอียด 7 เมกะพิกเซล f/2.2 มีอยู่เทคโนโลยีทบทวนหน้าตา ซึ่งใช้ผสานพร้อมด้วย Animoji และ Face ID อันคือฟังก์ชันปลดปล่อยล็อกเครื่องมือ
                  กับนี่หมายถึงข้อความจาก iPhone ตั้งแต่ ปี 2014 ตราบเท่า 2017 อเนกเอ็งอาจจะทัศน์ถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งแม้น iPhone จะหมายถึงโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ค่าโดยมากโด่ง แม้กระนั้นประสิทธิภาพด้วยกันงานก้าวหน้านั้นก็ไม่เคยหยุดกึกพ้น
  
  Tags : iPhone 6s plus,iPhone 6 plus ราคา,ไอโฟน 6s plus

                แม้จะเอ่ยถึงสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ หรือว่ามือถือที่ยังมีอยู่ปุ่มกด เที่ยงแท้ว่าจะจำเป็นจะต้องมีสัตว์สองเท้านึกถึงแบรนด์ Samsung หรือ “ซัมซุง”  ขึ้นมาหมายถึงประเภทเดิมๆ อย่างแน่นอน เพราะว่าหมายถึงแบรนด์ที่ปรากฏอยู่ในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด อีกเต็มเปี่ยมมาอย่างช้านานเลยเชียว เฉพาะปัจจุบันนี้พวกเราจะมากล่าวขวัญผลิตภัณฑ์ที่หมายถึงเครื่องมือสื่อสารซัมซุงดีกว่า ว่ามีภูมิหลังประการใดกันบ้าง อย่างแรกเรามาตระหนักถึงพระราชประวัติความเป็นมาจาก “ซัมซุง”  กันก่อนเลยละกัน
                “ซัมซุง” หรือ Samsung หมายถึงชื่อเสียงเรียงนามก๊วนกองกลางผละประเทศเกาหลีใต้ โดยสร้างอีกด้วยหุ้นส่วนแบ่งส่วนใหญ่ พร้อมกับธุรกิจการค้าที่ผูกพันจำนวนมากพำนักในตราสินค้า “ซัมซุง” และเป็นปึกกิจการที่ใหญ่มัสดกในประเทศเกาหลีใต้ จัดตั้งขึ้นเพราะว่า ลี เบียงชอล แห่งชันษา พุทธศก 2493 ภายในช่วงแรกของการทำการทำงานนั้นได้ย้ำไปที่การขายของไปยังต่างประเทศผลิตภัณฑ์, แปรรูปเหยื่อ กับสิ่งทอ แล้ว “ซัมซุง” เริ่มทำเข้ามาในที่กิจกรรมที่ใช้ทุนและแรงงานอิเล็กทรอนิกส์แห่งตอนหลังศักราช พ.ศ. 2503 โดยกองกลางจัดแบ่งแผนกไว้กว้างขวาง 4 ฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น คณะสิ่งของอิเลคทรอนิคส์, ส่วนกลศาสตร์กระแสไฟ, หมู่ซัมซุงคอร์นนิ่ง ด้วยกันอย่างซัมซุงเซมิคอนดักเตอร์พร้อมด้วยการสื่อสาร ร่วมด้วยถัดจากนั้นทางกองกลาง Samsung จึงได้เริ่มต้นการกำเนิดวิทยุโทรทัศน์ขาวดำเริ่มนั้นเป็นต้นมา
                ต่อจากนั้นของศักราช พุทธศก 2523 บริษัท “ซัมซุง”  ได้ก้าวก้าวเข้าสู่กิจกรรมที่ใช้ทุนและแรงงานฮาร์ดแวร์สำหรับการสื่อสารโทรคมนาคม ด้วยการเข้าจ่ายกิจการค้าของบริษัท Hanguk Jenja Tongsin ถัดจากนั้นทางหุ้นส่วน “ซัมซุง” ก็ได้เริ่มการกำเนิดเครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์มือถือ ยังกงสีได้ให้ทุนด้วยเม็ดเงินมากมายไปกับการค้นคว้าวิจัยด้วยนำพามาความเจริญรุ่งเรืองโทรศัพท์มือถือจากตนเองทั้งปี พุทธศักราช 2523 ด้วยกันในที่ขณะหนึ่งเดียวนี้เองทาง บริษัท �ซัมซุง[/url]” จึงได้แพร่กงสีไปยังวิเทศ เยี่ยง ประเทศโปรตุเกส, นครนิวยอร์ก, มหานครโตเกียว, ประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งรัฐเท็กซัส
                และหลังจากการลาลับของประธานผู้บุกเบิก ลี เบียงชอลภายในศก พุทธศักราช 2530 ทำให้ “ซัมซุง” ได้จำแนกแยกแยะแนวร่วมกิจการค้าออกเป็น สี่ กระจุก คือ Samsung Group, Shinsegae Group, CJ Group ร่วมด้วย Hansol Group และตั้งแต่พรรษา พ.ศ. 2533 มา “ซัมซุง” ได้คุ้นเคยหมายความว่ายอมรับในวงกว้างทวีคูณจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะมือถือที่หมายถึงถิ่นรายได้เอ้จากกงสีข้างในทุกวันนี้
                ตอนนี้ธุรกิจจาก “ซัมซุง” กั้นแบ่งออกเป็น 4 หน่วยมหึมาๆ ตกว่า เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ที่ว่าการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมทั้งส่วนประกอบหลักการๆ ที่ใช้ในการสร้างเครื่องใช้ไม้สอยดิจิตอลที่เป็นนวัตกรรมปัจจุบันของโลกในศตพรรษ 21 มีไพรทีการกำเนิด 25 ในที่, หุ้นส่วนสาขาสำนักงานท้องตลาด 36 แห่งหน, ที่อยู่อาศัยงานแบ่ง 23 ในที่ ที่ประจำข้างใน 46 มณฑลทั่วกันภพ ร่วมด้วยขจายอยู่ทั่ว 7 ทวีป คือ อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง จีน CIS ร่วมด้วยละตินอเมริกา  โดยจะเห็นได้เลยว่า “ซัมซุง” นั้นก้าวหน้าขึ้นมามหาศาลความจุไหน
                เอาละ พูดเพ้อเจ้อมาอนันต์แล้ว เข้าไปแง่มุมเลยละกัน ก็คือจะมารับสั่งถึงวิวัฒนาการจากเครื่องมือสื่อสารซัมซุง ว่ากว่าจะมีใบหน้าที่โปร่งเบาบาง หน้าจอมหึมา วิธที่เราๆ คว้าถือใช้กันพำนักเวลานี้ ก่อนหน้านี้เค้ามีร่างอะไร พร้อมทั้งกอบด้วยสมัญญาซีรีย์ว่าที่ใด มาดูกัน
                ย้อนจนกระทั่งปีพ.ศ. 2528 “ซัมซุง”  ได้ผลิตเครื่องมือสื่อสารสิ่งของปฐมภูมิที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานแห่งรถยนต์ อย่างกอบด้วยชื่อว่า Samsung SC-1000 แต่ทว่ากลับมามิประสบผลกี่มากน้อยนัก เพราะว่าเจอตัวปัญหาแบบคุณลักษณะมุมการประดิษฐ อย่างเดียวความผิดพลาดครั้งนั้นแต่หมายความว่าแรงบันดาลใจให้”ซัมซุง” ทุ่มเทลงเงินไปกับงานค้นคว้าวิจัย กับคืบหน้าเป็นเวลาเหนือ สอง ปี จึ่งได้มีอยู่โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นแรกจาก Samsung แน่แท้ ที่ได้เปิดฉากออกมา โดยมีสมญาว่า Samsung SH-100 ซึ่งหมายถึงมือถือพกพาเครื่องปฐมของ “ซัมซุง” อย่างทีเดียว และยังคงหาได้สมญานามว่าเป็นเครื่องมือสื่อสารซัมซุง ซีรีย์แต่ก่อนที่ได้รับการวางรากฐาน และเกิดในแดนเกาหลีใต้ด้วย
                เฉพาะถึงแม้นว่า Samsung SH-100 จะโหมโรงออกมา ร่วมด้วยน้อยเสร็จสุดนัก ด้วยว่าจัดจำหน่ายออกไปได้เกือบ 1000-2000 เครื่องเฉพาะเอง เฉพาะการเริ่มการผลิตเครื่องมือสื่อสาร”ซัมซุง” ขึ้นมานั้น ก็ทำให้ทางกงสีมองเห็นว่าการทำงานมือถือยังทำได้ขยายมากขึ้นได้ต่อ จึงเป็นเหตุให้ทั่วปัจจุบันนี้ “ซัมซุง” หมายถึงตราสินค้าระดับโลกได้ และจะยังคงประดิษฐมือถือซีรีย์สดๆ ออกมาหาเรื่องให้พวกเราได้เป้ฉีกขาดอยู่เป็นน้ำ เลยเชียว
                จะทัศนาได้ว่า กว่าจะมายืนขึ้นเข้าอยู่แห่งตลาดพื้นแผ่นดินได้ “ซัมซุง” ได้เปลี่ยนอะไรต่างๆ มายิ่ง อย่างไรก็ตามเหตุด้วยความที่ไม่เว้นได้คิด ไม่หยุดความเจริญรุ่งเรือง พร้อมกับยังคงก่อกำเนิดของใหม่หยกๆ อย่างมิสกัดนั่นเอง จึงมีการกำเนิดโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกมาแผนกนานาประการแบบ  พร้อมกับทำเอาเครื่องมือสื่อสารซัมซุงหมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มคนทั่วถึงโลกาไว้ใจจวบจนบรรลุทุกวันนี้

Tags : ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุง,ซัมซุง ราคา

            จากปรากฏการณ์ต่างๆ จากโทรศัพท์มือถือของ OPPO F1 series ที่เวลานี้ยังคงความแรง อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะถือครองอันดับ 2 ส่วนแบ่งการตลาดที่จีนแล้ว ในไทยก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เป็นแบรนด์ที่สร้างความแข็งแกร่งในเรื่องกล้องถ่ายรูปพร้อมกับกล้องถ่ายภาพด้านหน้าเซลฟี่มาอย่างต่อเนื่อง จาก F1 มา F1 Plus และล่าสุดกับ OPPO F1s ที่นำความหมดจดกระจ่างของกล้องถ่ายภาพด้านหน้า 16 ล้านพิกเซลจาก F1 Plus มาปรับออกแบบเล็ก ปรับเปลี่ยนเครื่องมือหน่อย แต่ที่ได้มาเพิ่มคือความคุ้มราคาด้วย oppo f1s ราคา 9,990 บาท

             oppo f1s มาพร้อมสโลแกนว่า “Selfie Expert” ที่นฤมิตให้หน้าเธอแพง ในราคาที่ไม่แพงเลย ในส่วนแรกเป็นออกแบบและรูปแบบของตัวเครื่องออกแบบตัวเครื่องแบบโลหะ ด้านมุมตัวเครื่องทั้งสี่ด้านมีความโค้งกลมนิดหน่อย เพื่อที่จะการจับถือได้เหมาะกับมือ เพราะว่ามีขนาดตัวเครื่องกว้าง 76 มิลลิเมตร สูง 154.5 มิลลิเมตร หนา 7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 160 กรัม ข้างหน้าตัวเครื่อง มีจอโชว์ผล AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D Gorilla Glass 4 รวมถึง oppo f1s เป็นเครื่องสองซิมการ์ดที่แยกส่วนเอาสล็อต Micro SD card ออกมาต่างหาก รวมกันเป็นสามสล็อต ทำให้มันสามารถใช้งานทั้งสองซิมการ์ดในขณะใส่หน่วยความจำเพิ่มเข้าไปได้ด้วยในเวลาเดียวกัน ไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆ ที่เวลานี้ นิยมใช้ถาดบรรจุซิมแบบไฮปริด ที่สล้อตซิมที่สองต้องเลือกใช้ระหว่างจะต้องการบรรจุซิมหรือจะใส่ Micro SD card ได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่าเป็นจุดดีอีกอย่างนึงของ oppo f1s เลยเทียว
 
 oppo ปัจจุบันนี้ ดูท่าเป็นที่นิยมสำหรับคนที่มีงบระดับกลางๆ และ OPPO F1s ก็มาด้วยราคาจำหน่ายที่ไม่ถึงหนึ่งหมื่น คือจับจ่ายใช้สอยเงินหนึ่งหมื่นหลังจากนั้นได้เงินทอน ทำให้มันเป็นสมาร์ทโฟนที่จับต้องได้ง่ายๆในเกือบทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลวัยทำงาน วัยรุ่น นิสิต เป็นต้น โดยในเรื่องของการใช้งานทั่วๆ ไปถือได้ว่าตัวนี้ค่อนข้างจะพอต่อการใช้งานในทุกๆ ด้าน การใช้งาน ไม่ว่าจะเล่นเกมไหลลื่นดี ยังไม่มีการกระตุก ติดค้างหรือสะดุดใดๆ สามารถเล่นไฟล์ภาพยนตร์ FullHD หรือเปิดเข้าไปหน้าเว็บไซด์ต่างๆ มิมีอุปสรรค ในส่วนของผู้เริ่มต้นที่อยากมีโทรศัพท์มือถือ การใช้งานของ oppo f1s ก็ดีไซน์มาให้ใช้ไม่ซับซ้อน ไม่ลึกลับวุ่นวาย แต่ก็มีธีมและการปรับแต่งเพื่อให้มาเป็นลูกเล่นอีกพอเหมาะพอดี รวมทั้งการป้องกันกับปุ่มสแกนลายพิมพ์นิ้วมือด้านล่าง ทำหน้าที่เปรียบเสมือนปุ่มโฮม การสแกนเพื่อปลดล็อกหน้าจอจำต้องกดปุ่มลงไป ตัวเครื่องก็จะทำการปลุกหน้าจอขึ้นมาทำงานปลดล็อกพร้อมเข้าใช้ทันทีทันใด โดยเราสามารถเจาะจงลายนิ้วมือเพื่อให้การทำงานที่ต่างกันได้ อย่างเช่น ใช้นิ้วที่หนึ่งเพื่อสแกนเพื่อจะปลดหน้าล็อกสกรีนและใช้ลายพิมพ์นิ้วมืออีกนิ้วสำหรับสแกนเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นที่คุณกำหนดไว้ ซึ่งตัวเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ สามารถสแกนได้เร็ว ไม่กุกๆ กักๆแน่นอน ทันทีที่กดลงไปก็ขึ้นหน้าการใช้มาให้โดยทันที นอกจากนี้ ยังมีโหมดการทำงานต่างๆ ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณของตัวเครื่องเช่นกัน อาทิเช่น การวาดเครื่องหมายบนหน้าจอเพื่อเข้าใช้การทำงานบางอย่างได้ในทันที เช่น วาดตัว O เพื่อเข้าโหมดกล้องหรือวาดตัว V เพื่อจะเปิดไฟฉาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราคือคนลิขิตได้ เป็นฟังชั่นที่มีให้มาในเกือบทุกรุ่นของทาง OPPO และยังคงจะมีให้ใช้ใน oppo f1s ด้วยเช่นกัน

 มาถึงในข้อสำคัญที่เรียกว่าเป็นจุดสำคัญของโทรศัพท์มือถือรุ่น oppo f1s คือ กล้อง โดย oppo f1s คือเครื่องที่ให้กล้องถ่ายรูปข้างหน้ามามีความละเอียดสูงกว่ากล้องถ่ายรูปข้างหลัง กล้องข้างหน้า 16 ล้านพิกเซล แต่กล้องถ่ายรูปหลังมี 13 ล้านพิกเซล ส่วนในเรื่องของคุณภาพก็สมราคาที่โปรโมทไว้ ไม่ทำให้ผิดหวัง กล้องถ่ายภาพข้างหน้าทำได้ดีเลิศอาทิเรื่องของคุณภาพพร้อมกับซอฟท์แวร์ปรับแต่ง Beautify 4,0 โดยทำให้ใบหน้าของผู้ถ่ายดูหมดจด ขาวใส และไม่ดูประหลาดผิดมนุษย์เกินไป โดยสามารถปรับความสะอาดได้ถึง 7 ระดับ ในความสามารถกล้องถ่ายภาพของ oppo f1s ไม่ได้มีแค่เพียงการถ่ายกล้องข้างหน้า เซลฟี่แค่เพียงอย่างเดียว ยังสามารถที่จะถ่ายภาพแบบมุมกว้างได้ด้วย เพิ่มองศารับภาพโดยการแพนกล้องไปมาจากข้างซ้ายไปขวา เป็นการบันทึกภาพแบบพาโนรามาแบบใช้กล้องถ่ายรูปด้านหน้าเพื่อถ่ายภาพกรุ๊ปหรือเก็บภาพขอบฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งทำให้เพิ่มพูนความน่าหลงใหลเข้าไปอีก ในส่วนของกล้องถ่ายรูปด้านหลัง ยังสามารถถ่ายรูปบุคคลด้วยโหมดบิวตี้ได้อีกด้วย รวมทั้งมีโหมดการถ่ายภาพ กลางคืนที่จะช่วยให้ถ่ายภาพเวลาแสงน้อยได้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของตัวภาพอาจได้ตามราคาของสมาร์ทโฟน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่ว่า ถ้าหากเป็นภาพในแสงเวลากลางวันพูดได้เลยว่า ภาพมีความสวยคม โฟกัสไม่ช้า สีสันไม่พิลึกกึกกือจนเกินควร

 กล่าวคือ ความครบเครื่องของ oppo f1s อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ถึงทุกอย่างจะไม่สะดุดตาจนเห็นได้ชัด แต่กระนั้นเมื่อเทียบกับราคาแล้ว ซึ่ง oppo f1s ราคาอยู่ที่ไม่เกินหมื่น สำหรับคนที่พึงพอใจกับยี่ห้อของ OPPO อยู่แล้ว oppo f1s ก็เป็นหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : oppo f1s ดีไหม

Tags : oppo f1s,oppo f1s ราคา,oppo f1s ดีไหม

ในทุกวันนี้ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะเข้ามาแทนที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC ในหลายๆ อย่าง แต่กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในการทำงานที่ค่อนข้างเฉพาะทางคุณ ยังคง อยากได้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ(Desktop Computer)และคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Laptop Computer, Notebook Computer) อยู่ ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการประมวลผลหนักๆ ที่แน่นอนที่สุดก็คือการเล่นเกมที่ต้องการความเร็วและการแสดงให้เห็นภาพกราฟฟิคที่น่าพึงพอใจ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่สามารถกำหนดสเปกได้เอง จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งาน ซึ่งอีฉันจะมาชี้แนะสิ่งที่จำต้องพินิจก่อนตัดสินใจในการจัดสเปกประกอบคอมพิวเตอร์สัก 1 เครื่องเพื่อเล่นเกมว่ามีสิ่งไรบ้าง

 สิ่งที่สมควรรู้ก่อน
ดูความประสงค์ของผู้บริโภคก่อนว่าอยากได้คอมพิวเตอร์ประเภทไหน ใช้เล่นเกมแบบปรกติ หรือเล่นเกมกราฟฟิกแล้วจึงมาดูเรื่องของงบโดยในปัจจุบัน งบประมาณ 10,000 บาท ก็สามารถประกอบคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมได้ แม้ว่าจะได้สเปกที่ไม่แรงมากนัก แต่ก็สามารถใช้เล่นเกมกราฟฟิกทั่วไป หรือใครปรารถนาที่จะเพิ่มเติมสเปกภายหลังก็ได้ จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

 การจัดสเปก

• ซีพียู (CPU)

                ซีพียู เปรียบเทียบได้กับสมอง ที่มีสาระสำคัญมากมายในการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ถ้าหากสมองดี คิดไว ประมวลผลไวก็ทำให้การเล่นเกมไหลลื่น อย่างไรก็ตามแม้สมองไม่ดีประมวลผลช้าก็คงไม่ได้เรื่องกับการเล่นเกม ปัจจุบัน ซีพียูมีอยู่สองค่ายที่แข่งกันนั่นคือ Intel และ AMD อีฉัน ขอแนะแนว รุ่นล่างสุด ถูกสุด สำหรับสายเกมทั้งสองรุ่นเลย ถ้าหากชอบ Intel ควรจะต้องเป็นรุ่น Intel Core i5 ขึ้นไป ด้านอีกฝั่งต้องเป็นรุ่น AMD Ryzen5 ก็ไล่เลี่ยกัน หากใครจะเอารุ่นสูงกว่านี้ก็ได้หากว่าเงินถึง
 
 2. แรม (RAM)
แรม มีความสำคัญค่อนข้างจะโขเทียว ด้วยเหตุที่แรมนี้จะทำงานเสมอเหมือนลูกมือ CPU ในการประมวลผล อย่างไรก็ดีหาก CPU ไม่แรง แต่ทว่าแรมแรงก็ช่วยอะไรมิได้มากเท่าใด ด้วยเหตุนั้นคอมพิวเตอร์จำพวกเกมมิ่ง ปริมาณแรมต้องซื้อมากหน่อย โดยเริ่มที่ 8GB เลยจะยอดเยี่ยม ยิ่งหากว่าเป็นสายแคสเกมที่สตรีมระหว่างเล่นแล้วด้วย ยิ่งต้องเป็น 8GB แม้กระนั้นถ้าเล่นแบบธรรมดา ซื้อ 4GB มาก่อนแล้วค่อยเพิ่มเติมทีหลังครั้นมีงบก็ได้
 

• ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk/HDD)

                เกมในสมัยปัจจุบันมีการใช้เนื้อที่ไม่เบา รวมถึงการเก็บข้อมูลจำพวกอื่น ๆ ของผู้บริโภค เช่นภาพนิ่ง เสียง คลิป เอกสาร โปรแกรม และต่างๆเพียบไปหมด ซึ่งในเวลานี้ ฮาร์ดดิสก์ พึงจะต้องเป็นขนาด 1TB เท่านั้น น้อยกว่านี้ถือได้ว่ามิคุ้มค่ากับอนาคตเป็นแน่ ปัจจุบันนี้แบรนด์ที่นิยมก็มีให้เลือกระหว่าง Seagate กับ WD

• 
   การ์ดจอ (GPU)

                ฮาร์ดแวร์ที่เด่นมากที่สุดของการเล่นเกม นั่นคือ การ์ดจอ ซึ่งรู้กันว่า Nvidia นั้นวางใจได้ในเรื่องนี้ สมมติมนุษย์เราเล่นเกมทั่วๆ ไปไม่ได้เน้นอะไรมาก หรือไม่ก็มิได้พึงปรารถนากราฟฟิกเต็มพิกัด การ์ดจอออนบอดก็รองรับแล้ว อย่างไรก็ตามถ้าหากจะเล่นแบบเป็นจริงเป็นจังก็ต้องเป็นการ์ดจอแยกเท่านั้น ในขั้นเริ่มต้นถ้าเล่นแบบไม่หนักมาก เกมธรรมดา + ตัดต่องานกราฟฟิค ก็ต้องเป็น GTX 1050 หรือไม่ก็ รุ่น GTX 1050Ti ก็พอรับมือไหว ด้านเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ คงจะต้องเลื่อนไปเล่นรุ่น GTX 1060 จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าว่าหากเบี้ยเหลือกะเล่นไปยาว ๆ ก็จัดรุ่นท็อปอย่าง GTX 1080 หรือไม่ก็ GTX1080Ti รับประกันว่ากราฟฟิคประณีตตรงความต้องการ

 นอกจากวัสดุอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว เกมเมอร์ทุกท่าน อย่าได้ไม่เอาใจใส่ ตัวสำรองไฟ, เคส และการถ่ายเทความร้อนด้วย ซึ่งถ้าหากเครื่องร้อนเกินไปครั้งไหนปัญหาต่างๆ จะตามมาอีกมาก
                ไหนๆ พูดคุยถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพื่อคอเกมกันไปแล้ว ดีฉันจะมาชี้ช่องทางจำพวกคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกันบ้าง โดยคัดมา 3 รุ่นดังนี้
 
 1. Acer Nitro 5
                Acer Nitro 5 จะมีจำหน่ายพร้อมๆ กัน 6 รุ่นย่อย ซึ่งที่แนะนำเลยจะเป็นตัวรุ่น 57CE สนนราคา 23,900 บาท โดยใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-7300HQ พร้อมด้วยกราฟฟิการ์ดตัวแรงดีกรี Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR) 5 ฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมกับรองรับติดตั้ง SSD แบบ M.2 อีกด้วย แรมเองมีมาให้ 8 GB พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 จอแบบ IPS ให้สีสันที่สวยงาม พร้อมกับประกัน On-site Sevice 3 ปีเต็ม สนนราคา 33,900 บาท
 

• Dell Inspiron 7567

                Dell เป็นอีกแบรนด์หนึ่ง ที่โดดข้ามเข้ามาในท้องตลาด เกมมิ่งโน้ตบุ๊คด้วย โดย Dell Inspiron 7567 รุ่นนี้ออกแบบเรียบหรูหรา สเปคด้านในใช้ ซีพียู Intel Core i7 พร้อมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce 1050Ti เก็บข้อมูลได้ 1 TB แรมติดตั้งมาให้ 8GB หน้าจอเบิ้ม 15.6 นิ้ว มูลค่า 37,900 การันตี 3 ปีแบบ On-site Service

• 
   ASUS ROG Strix GL553VD

                สเปค ASUS ROG Strix GL553VD ใช้ชิป CPU ตัวแกร่งเช่น Intel Core i7-7700HQ พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5)Harddisk มีขนาด 1 TB 5400 RPM ซึ่งสามารถใส่ SSD แบบ M.2 ได้อีก 1 ตัว แรม 4 GB DDR4 (สามารถใส่ได้สองแถว) จอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD Panel Matte(IPS)ให้สีสวยสดงดงาม มุมมอง 178 องศา จุดดีของรุ่นนี้คือยังคงมี Drive DVD และคีย์บอร์ดที่ประกอบด้วยไฟ RGB ราคาอยู่ที่ 29,900 บาท พร้อมประกัน 2 ปีเต็ม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : คอมพิวเตอร์ ราคา

Tags : คอมพิวเตอร์,คอมพิวเตอร์ ตั้งโต๊ะ,คอมพิวเตอร์ ราคา

หากว่าพูดคุย ถึง สินค้ายี่ห้อเลื่องลืออันดับ โลก ดัง Apple ก็ อาจจะมิ มีใครมิรู้จักมักคุ้น ทั้งนี้เพราะ เป็น ยี่ห้อ ที่ทำให้ พวกผมรู้จัก กับ iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook, Apple Watch พร้อมทั้ง Apple TV ซึ่งใครหลายๆ คน ที่ได้อ่าน บทความ นี้อยู่ ก็ต้องเป็น เจ้าของ อะไรสักอย่างหนึ่งจาก ยี่ห้อ  Apple เป็นแน่ นี่ อาจจัก ทำให้ Apple มองเห็น ว่า ถึง ยุค แล้วที่ จักเข้าบุกตลาดสยาม ได้แล้ว พร้อมด้วยล่าสุด นี้ ทาง Apple ได้ยืนยัน มาแล้วว่าจะมา เปิดที่ สยามจริงๆ พร้อมทั้งกับพูด ว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มรับสมัครทีมงานเพื่อเปิดให้บริการ Apple Store แห่งแรกในประเทศไทย กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียด้วยงานออกแบบและสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวา เราตั้งตารอที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในสถานที่อันน่าทึ่ง ให้ทุกคนได้สัมผัสกับสุดยอดผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรแกรมด้านการศึกษาที่ให้แรงบันดาลใจของเรา ที่ลูกค้า Apple ทั่วโลกต่างหลงรัก” เชื่อ ได้เลยว่า เหล่า สาวก Apple ภายในเมืองไทยทั้งหมด คงตื่นเต้นมิ น้อยเลย เชียว ที่ Apple จัก มาเปิด Apple Store ที่ ไทย ซัก ครา

 อย่างไรก็ตาม วันนี้ กระผมจัก มา บอก ถึง เรื่องราว ของ Apple กันก่อนดีกว่า เผื่อใครยัง ไม่ รู้ ว่า แท้จริง Apple นั้น ก่อตั้ง มา ยาวนาน มาก ตั้งแต่ปี คริสต์ศักราช 1976 เลย เชียว ซึ่งเริ่ม จากการ ร่วมใจกัน ก่อตั้ง ของ Steven Wozniak, Steven Jobs และ Ronald Wayne ซึ่ง คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่วางขาย คือ Apple I แต่ผลประกอบการ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จนมาถึง Apple II กลับได้รับความชื่นชอบอย่างมาก พร้อมสร้างกำไรให้กับบริษัทได้โขเลยทีเดียว ซึ่งจากนั้นก็มีสินค้าออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่ได้รับความนิยมบ้าง หรือไม่ได้รับความนิยมบ้าง และมีปัญหามากมายในกลางทาง กว่าจะก้าวย่างสู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ได้ จนมาถึงสมัยเฟื่องฟูของ Apple คือช่วงปี 1996 เป็นต้นมา ซึ่ง Apple ได้มีการเปิดตัว Apple Store ร้านค้าออนไลน์สำหรับซื้อสินค้าของบริษัท และในปี 1998 เปิดตัว iMac คอมพิวเตอร์ที่เป็นที่รวมความบันเทิง ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ส่งผลให้ยอดจำหน่ายกระโดดสูงขึ้นอย่างเร็ว ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของโลกคอมพิวเตอร์เลยเชียว
 
และครั้นเมื่อก้าวเข้าสู่ยุคปี 2000 “Apple” ก็เริ่มแลเห็นความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ให้ความรื่นเริงใจ โดยได้มีการเปิดตัว iPod ซึ่งเป็นสินค้าที่ก่อดอกผลให้กับบริษัทได้อย่างดี ถัดจากนั้นก็มี iTunes หรือร้านค้าเพลงออนไลน์ขึ้นมา ที่ในปีแรกนั้นก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 100 ล้านเพลง จึงทำให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 70% เลยทีเดียว นับว่า Apple นั้นเดินมาถูกทางแล้วละ เพราะขณะนั้นเป็นระยะเวลาที่เศรษฐกิจโลกค่อนข้างเลวร้าย อาจจะทำให้เกิดภาวะเคร่งเครียดขึ้น ใครๆจึงหาทางความสนุกสนานเข้าใส่ตัว แล้ว Apple ก็สามารถเอาจุดอ่อนตรงส่วนนี้ มาทำให้เป็นจุดแข็งของตัวเองได้ ยอมรับว่าทำได้ดีมากๆ เลย
 
จากนั้นก็มาถึงสมัยที่ทำให้แวดวงโทรศัพท์สั่นสะเทือนก็คือ เมื่อปี 2007 Apple ได้เปิดตัว iPhone อย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ เป็นเหตุให้กระแสสมาร์ทโฟนรุ่นหลังๆ เริ่มตีตื้นขึ้นมา ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการเปิดตัว App Store ที่เป็นแหล่งรวมแอพพลิชั่นเสริมต่างๆ ที่ให้สามารถโหลดใช้งานได้เพิ่มเติม และตอนหลังในปี 2010 iPad ก็ได้เกิดตามมา และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย
 
ย้อนกลับมาที่เรื่อง Apple Store กันบ้างดีกว่า Apple Store เป็นร้านค้าปลีกของบริษัท Apple สำหรับวางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook และยังมีบริการซ่อมแซม จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เสริมหลากหลาย พร้อมทั้งบริการ จีเนียสบาร์ ให้คำปรึกษาการใช้งานและบริการของบริษัท ซึ่งปัจจุบันนี้ ในทวีปเอเชียมีกันทั่วหน้า ทั้งฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น รวมทั้งที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานเช่น Apple Store สาขา Orchard Road ดินแดนสิงคโปร์ และสาขาที่ตึก Taipei 101 ที่ไต้หวัน
 
หลายคนคงแปลกใจว่าด้วยเหตุใดจำเป็นจะต้องตื่นเต้นกับการมาของ  Apple Store ที่ไทย  เนื่องจากว่า Apple Store มีดีมากกว่าแค่การเลือกซื้อสินค้าของ Apple แค่นั้น ก็เพราะว่ามิมีบริการไหน จะดีงามเท่ากับการซื้อผลิตภัณฑ์จากร้านของผู้สร้างเอง ไม่ว่าจะเรื่องประกัน การส่งเครื่องเครมที่ร้าน Apple Store เอง ค่อนข้างง่าย ไม่ต้องส่งเครื่องไปเครมที่ประเทศสิงคโปร์ แล้วก็ต้องเฝ้าคอยไปอีกนานสองนาน และข้อดีของ Apple Store อีกอย่างหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่เวลามีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สดๆ ร้อนๆ ของ Apple ก็มักวางขายในกลุ่มแดนแรกก่อนที่มี Apple Store อยู่แล้ว นั้นหมายความว่า เราอาจจะอยู่ในกลุ่มเมืองแรกๆ ที่วางขายสินค้า ของ Apple เมื่อมีการเปิดตัวก็เป็นไปได้

 แต่ขณะนี้ยังไม่มี Apple Store ที่เมืองไทย แต่เรายังมีแอพพลิเคชั่น Apple Store ที่จะช่วยให้ท่านเลือกจับจ่ายสินค้า Apple เสมือนว่าท่านกำลังเดินดูผลิตภัณฑ์ที่ Apple Store อยู่ ต่อมาก็จ่ายเงินค่าสินค้าโดยผ่าน Apple Pay จาก iPhone ของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามคำสั่งซื้อได้ ว่าสินค้าถึงที่ใดแล้ว ถัดจากนั้นก็รอผลิตภัณฑ์อยู่ที่ที่อยู่ได้เลย นอกจากนี้ท่านยังสามารถรับข่าวสารสินค้า ข้อแนะนำที่คัดสรรตามอุปกรณ์ Apple ที่คุณเป็นเจ้าของอยู่แล้ว รู้จักกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของคุณได้ เสมือนว่าท่านมีผู้ชำนาญพิเศษคอยเสนอแนะทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ

 ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื่อมั่นได้เลยว่า Apple Store จะมาไทยอย่างแน่แท้ เพียงแต่แค่ยังไม่รู้วันเวลา และสถานที่ที่ชัดเจนเท่านั้นเอง ยังไงก็รอฟังข่าวกันอย่างใกล้ชิดกันด้วยนะจ๊ะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : apple

Tags : แอปเปิ้ล

ถ้าสนทนา ถึง ผลิตภัณฑ์แบรนด์มีชื่อเสียงเกรด โลก อย่าง Apple ก็ คงไม่ มีใครมิรู้จักมักคุ้น เพราะ เป็น ยี่ห้อ ที่ทำให้ ชาวเรารู้จัก กับ iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook, Apple Watch และ Apple TV ซึ่งใครหลายๆ คน ที่ได้อ่าน เรียงความ นี้อยู่ ก็ต้องเป็น เจ้าของ อะไรสักอย่างหนึ่งจาก ยี่ห้อ  Apple เป็นแน่ นี่ คงจะจะ ทำให้ Apple พบ ว่า ถึง เวลา แล้วที่ จะเข้ามาลุยท้องตลาดสยาม ได้แล้ว พร้อมทั้งปัจจุบัน นี้ ทาง Apple ได้ยืนยัน มาแล้วว่าจะมาหา เปิดที่ เมืองไทยจริงๆ พร้อมกับกล่าว ว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มรับสมัครทีมงานเพื่อเปิดให้บริการ Apple Store แห่งแรกในประเทศไทย กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียด้วยงานออกแบบและสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวา เราตั้งตารอที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในสถานที่อันน่าทึ่ง ให้ทุกคนได้สัมผัสกับสุดยอดผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรแกรมด้านการศึกษาที่ให้แรงบันดาลใจของเรา ที่ลูกค้า Apple ทั่วโลกต่างหลงรัก” มั่นใจ ได้เลยว่า แก๊ง สาวก Apple ภายในสยามทั้งปวง คงจะตื่นเต้นไม่ น้อยเลย เชียว ที่ Apple จัก มาเปิด Apple Store ที่ ไทย ซัก ครา

 ทว่า ตอนนี้ อิฉันจัก มา พูด ถึง ความเป็นมา ของ Apple กันก่อนดีกว่า เผื่อใครยัง มิ ทราบ ว่า จริงๆ Apple นั้น ก่อตั้ง มา ยาวนาน มาก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 เลย ทีเดียว ซึ่งเริ่ม จากการ ร่วมใจ ริเริ่มตั้งขึ้น ของ Steven Wozniak, Steven Jobs กับ Ronald Wayne โดย คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่วางจัดจำหน่าย คือ Apple I แต่ผลประกอบการ มิค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ จนมาถึง Apple II กลับได้รับความชื่นชมอย่างสุดๆ พร้อมกับก่อเงินกำไรให้กับบริษัทได้มากโขเลยทีเดียว ซึ่งจากนั้นก็มีสินค้าออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่ได้รับความนิยมบ้าง หรือไม่ได้รับความนิยมบ้าง และมีปัญหามากมายในระหว่างทาง กว่าจะก้าวสู่ผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ จนมาถึงสมัยรุ่งโรจน์ของ Apple คือช่วงปี 1996 เป็นต้นมา ซึ่ง Apple ได้มีการเปิดตัว Apple Store ร้านค้าออนไลน์สำหรับซื้อสินค้าของบริษัท และในปี 1998 เปิดตัว iMac คอมพิวเตอร์ที่เป็นที่รวมความบันเทิง ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค มีผลกระทบให้ยอดจำหน่ายกระโจนสูงขึ้นอย่างเร็ว ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของโลกคอมพิวเตอร์เลยเชียว
 
และครั้นเข้าสู่ยุคปี 2000 “Apple” ก็ชักจะมองเห็นความสำคัญกับเครื่องมือที่ให้ความรื่นเริง โดยได้มีการเปิดตัว iPod ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำผลประโยชน์ให้กับบริษัทได้อย่างยอดเยี่ยม ถัดจากนั้นก็มี iTunes หรือร้านค้าเพลงออนไลน์ขึ้นมา ที่ภายในปีแรกนั้นก็สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้มากกว่า 100 ล้านเพลง จึงทำให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 70% เลยทีเดียว ยอมรับว่า Apple นั้นเดินมาถูกทางแล้วละ เพราะตอนนั้นเป็นยุคสมัยที่เศรษฐกิจโลกค่อนข้างจะย่ำแย่ อาจทำให้เกิดสถานการณ์วิตกขึ้น ทุกท่านจึงค้นหาความสนุกสนานเข้าใส่ตัว แล้ว Apple ก็สามารถเอาจุดอ่อนตรงส่วนนี้ มาทำให้เป็นจุดแข็งของตัวเองได้ ถือว่าทำได้ดีมากๆ เลย
 
หลังจากนั้นก็เข้ายุคที่ทำให้วงการโทรศัพท์สั่นสะเทือนก็คือ เมื่อปี 2007 Apple ได้เปิดตัว iPhone อย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ เป็นเหตุให้กระแสสมาร์ทโฟนรุ่นหลังๆ เริ่มตีตื้นขึ้นมา ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการเปิดตัว App Store ที่เป็นแหล่งรวมแอพพลิชั่นเสริมต่างๆ ที่ให้สามารถโหลดใช้งานได้เพิ่มเติม และภายหลังในปี 2010 iPad ก็ได้เกิดตามมา และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากมายอีกด้วย
 
ย้อนกลับมาที่เรื่อง Apple Store กันบ้างดีกว่า Apple Store เป็นร้านค้าปลีกของบริษัท Apple สำหรับวางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook และยังมีบริการซ่อมแซม ทำการค้าอุปกรณ์เสริมหลายชนิด พร้อมทั้งบริการ จีเนียสบาร์ ให้ข้อคิดเห็นการใช้งานและบริการของบริษัท ซึ่งปัจจุบันนี้ ในทวีปเอเชียมีกันทั่วหน้า ทั้งฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น รวมทั้งที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานอย่าง Apple Store สาขา Orchard Road แดนสิงคโปร์ และสาขาที่ตึก Taipei 101 ณไต้หวัน
 
หลายคนคงงงว่าเพราะเหตุไรจำต้องตื่นเต้นกับการมาของ  Apple Store ณสยาม  เหตุเพราะ Apple Store มีดีมากกว่าแค่การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple เท่านั้น เพราะมิมีบริการไหน จักเยี่ยมยอดเท่ากับการซื้อสินค้าจากร้านของผู้ผลิตเอง ไม่ว่าจะเรื่องรับประกัน การส่งเครื่องเครมที่ร้าน Apple Store เอง ค่อนข้างสะดวก ไม่จำเป็นจะต้องส่งเครื่องไปเครมที่ประเทศสิงคโปร์ แล้วก็ต้องคอยไปอีกนาน และจุดเด่นของ Apple Store อีกอย่างหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่เวลามีการเปิดตัวสินค้าสดๆ ร้อนๆ ของ Apple ก็มักวางขายในกลุ่มเมืองแรกก่อนที่มี Apple Store อยู่แล้ว นั้นหมายถึง เราอาจจะอยู่ในกลุ่มประเทศชาติแรกๆ ที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของ Apple ทันทีที่มีการเปิดตัวก็เป็นได้

 แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มี Apple Store ที่ไทย แต่เรายังมีแอพพลิเคชั่น Apple Store ที่จักช่วยให้ท่านเลือกจับจ่ายใช้สอยสินค้า Apple เหมือนว่าคุณกำลังเดินชมสินค้าที่ Apple Store อยู่ แล้วก็ชำระล้างเงินค่าผลิตภัณฑ์โดยผ่าน Apple Pay จาก iPhone ของท่าน นอกจากนี้ยังสามารถติดตามคำสั่งซื้อได้ ว่าสินค้าถึงที่ใดแล้ว ต่อจากนั้นก็รอสินค้าอยู่ที่ที่อยู่ได้เลย นอกจากนี้ท่านยังสามารถรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อแนะที่คัดสรรตามอุปกรณ์ Apple ที่คุณเป็นเจ้าของอยู่แล้ว รู้จักกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของคุณได้ เหมือนว่าท่านมีมือเก่าคอยชี้แนะทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใคร่ได้

 แม้กระนั้น มั่นใจได้เลยว่า Apple Store จะมาบ้านเราอย่างแน่แท้ เพียงแต่แค่ยังไม่รู้วันเวลา และทำเลที่ชัดเจนเท่านั้นเอง ยังไงก็รอฟังประกาศกันอย่างใกล้ชิดกันด้วยนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : apple

Tags : แอปเปิ้ล

ในขณะที่ที่โทรศัพท์มือถือตราสินค้านานา ออกมาแย่งชิงกันอย่างบ้าดีเดือดแล้วนั้น แบบ Apple ก็ไม่ด้อย ล่าสุดได้ให้เสรีภาพสมาร์ทโฟนที่มีออกแบบไม่เหมือนใคร ประทานทั้งหมดได้ครองกันไปแล้ว นั่นก็คือ “iPhone X” หรือ “ไอโฟน X” โดยแบบนี้ ทาง Apple ได้ก่อกำเนิด iPhone X คือจอตลอด เหตุด้วยให้รู้สึกถึงความคือภายหน้า กับฉลาดในด้านการลูบคลำ เสียงจากเธอ หรือว่าแม้แต่การปรายตาได้ ด้วยกันทูเดย์ กระผมจะให้เธอจัดหามาประถึงความหลักแหลมจาก iPhone X กัน
          ปฐมฤกษ์นั้น ทุกคนจะหลงว่า “iPhone X” ไม่ก็ “ไอโฟน X” มันหมายถึง “ไอโฟน เอ็กซ์” แต่ว่าแน่แท้ แล้ว มันได้แก่ “ไอโฟน X“ หรือไม่ก็ “iPhone X” หรือ “ไอโฟน สิบ” ต่างหาก ซึ่งหลากหลายๆ สิ่งมีชีวิตก็คงคุ้นชินงุนงงว่าเพราะเหตุไรมี iPhone 8 แล้ว ก็จงเป็น iPhone 9 สิ แต่ทว่าเพราะอะไรสาวเท้าโลดมาหมายถึง iPhone X เลย นั่นก็คือเพื่อว่า เมื่อศักราช 2007 หมายความว่าปีที่ทาง Apple ได้ปลดปล่อยของซื้อของขายที่มีชื่อเรื่องเอ่ยว่า iPhone หมายความว่าหนแรก กับได้ครบรอบ 10 ปี ในปี 2017 ทาง Apple แล้วจึงได้โหมโรง iPhone X ออกมา เพราะว่าคือการสมโภชนั้นเอง
          ไอโฟน X หรือว่า iPhone X มาพร้อมกันพร้อมทั้งออกแบบที่งามยิ่งอย่างยิ่งกับจอไร้ชาย ปริมาตร 5.8 นิ้ว  คือจอแนว OLED Super Retina Display ความละเอียด 2436×1125 มีกฏเกณฑ์รุ่งเรือง สมรรถถ่ายทอดสีได้งามพร้อมด้วยตรง ชี้ให้เห็นสีดำได้สีดำมาก ประกอบด้วยเปลวไฟโด่ง พร้อมกับมีอยู่มาตราส่วนคอนทราสต์ที่ 1,000,000 ต่อ 1 จอความจุ 5.8 นิ้ว ให้แนวคิดที่กว้างไกลขึ้นไป มหึมาขึ้น อย่างไรก็ดีก็มิได้เท่ามหึมาเต็มมือ แม้กระนั้นอีกต่างหากไพจิตรสนิทด้วยเช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นยังมีจุดสำคัญในเหตุการณ์ของกลยุทธ์กับความล้ำหน้าเอี่ยมอ่องๆ ในการทำให้จอภาพโน้มรับพร้อมกับการออกแบบแบบโค้งอย่างเที่ยงตรง ไปจนจรดมุมกลมทั้งสี่ด้านอย่างเพาพะงาพอดี
          ส่วนการออกแบบข้างนอกทำออกมาได้สวยเยอะ กระจกส่องที่แข็งแรงสุดโต่งเท่าที่เคยมีมาในโทรศัพท์มือถือทั่วข้างหน้าพร้อมด้วยตอนท้าย เนื่องจากมีชั้นเสริมความเข้มแข็งที่หนาขึ้นไปอีก 50% ยิ่งกว่านั้นยังมีวิธีการลงหมึก 7 ชั้นที่ทำให้สมรรถกล่าวถึงเฉดสีพร้อมด้วยความทึบแสงได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงชั้นออปติคอลเด้งกลับแสงที่ผนวกความมีชีวิตชีวางามผุดผ่องให้กับสี ครั้นเมื่อที่การหุ้มสารกันรอยนิ้วมือก็ทำให้คุณมีศักยภาพถูรอยเปื้อนร่วมด้วยร่องรอยนิ้วมือออกได้หมูๆ อีกทั้งยังใช้สแตนเลสสตีลระดับอย่างเดียวพร้อมทั้งที่ใช้ทำเครื่องไม้เครื่องมือศัลยกรรม มาพร้อมกันการชาร์จแบบไร้สาย ด้วยกันอีกทั้งทนทานน้ำแข็งแรงสิ่งเล็กๆด้วย
          ส่วนกล้องถ่ายรูปนั้น iPhone X ก็ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยเหตุเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์สัดส่วนมหาขึ้นด้วยกันเร็วขึ้น มาพร้อมฟิลเตอร์ขัดรุ่นใหม่ พิกเซลที่กักตุนเรื่องเบ็ดเตล็ดได้เพิ่ม พร้อมด้วยกล้องเทเลโฟโต้ใหม่ที่มาพร้อมกันกระบิล OIS พร้อมทั้งทำได้จัดทำเอฟเฟ็กต์การจัดลำดับแสงแปลบปลาบคุณลักษณะสภาพสตูดิโอที่สวยหรูเตะตาได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังมีการทำงานคุ้มกันทิวทัศน์สั่นไหวส่วนออปติคอลและเลนส์ไวแสง จึงทำได้ฉายรูปร่วมด้วยภาพเคลื่อนไหวได้อย่างพริ้งเพรา อีกทั้งยังโดดเด่น ถ้าแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะแสงน้อย ฝ่ายการถ่ายวีดิทัศน์ก็มีศักยภาพคัดลอกได้ในลำดับชั้น 4K 60fps สโลว์โมชั่น 1080p 240fps เลยแท้จริง พร้อมกับกล้องถ่ายภาพด้านหน้าก็ทำได้เรียบร้อยเป็นกำลังเหมือนกัน เพื่อกล้องถ่ายรูป TrueDepth กล้องถ่ายรูปหน้าที่ให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้อย่างกระจ่าง ในเวลาที่ที่เบื้องหลังเบลอได้อย่างงดงาม ด้วยกันปัญญาสามารถที่จะพินิจพิเคราะห์การเคลื่อนไหวจากกล้ามเนื้อที่ต่างกันกระทั่ง 50 ระบอบ สำหรับลอกการแสดงออกทางใบหน้าของเธอบน Animoji ที่มีให้คัด 16 หมู่ คราวนี้จะต้องประสงค์เป็นแพนด้า หมู หรือหุ่นยนต์ก็เป็นได้เลย
                ครานี้มาถึงตอนความหลักแหลมของ ไอโฟน X หรือ iPhone X ที่เด่นๆเลยก็ ตกว่า กล้อง TrueDepth นี่ละ ที่จำข่าวสารหน้าของเธอได้อย่างชัด โดยการส่องแสงพร้อมด้วยพินิจจุดแสงที่ทัศนามองไม่เห็นด้วยตาเปล่ากระทั่ง 30,000 จุด เพื่อคิดค้นแปลนแบบแปลนเค้าหน้าของออเจ้าในแนวดึ่มและยังถ่ายภาพรังสีอินฟราเรดของโฉมหน้าของคุณด้วย และทั้งๆ ที่จะเป็นกล้องตัวนิดๆ แต่ก็เต็มที่ไปด้วยความทันสมัยที่สมัยใหม่หัวเมื่อ Apple เคยคิดค้นมาเลยทีเดียว เพราะด้านในกอปรไปด้วยกล้องถ่ายรูปกับเซ็นเซอร์ที่หมายความว่าหัวอกเอ้ในการทำงาน Face ID โดยได้ผลขับไล่ล็อคร่วมด้วยค้ำประกันตัวที่หนักแน่นและหมายถึงส่วนตัวตกขอบ ก็เพราะว่าข่าว Face ID ของออเจ้านั้นจะได้รับการเข้ารหัสและป้องกันด้วย Secure Enclave พร้อมด้วยข่าวของออเจ้าจะปราศจากทางแก้ไขไปจากวัสดุอุปกรณ์ กับจะไม่มีการเผื่อข่าวสารไว้ใน iCloud หรือที่อื่นใด
          ด้วยกันความหลักแหลมอีกเรื่องของ ไอโฟน X หรือไม่ก็ iPhone X  ลงความว่า Face ID จะรู้ว่าครั้งไหนที่ออเจ้ากำลังให้การฝักใฝ่เครื่องเคราอยู่ ร่วมด้วยจะเปลือยลั่นกลอน iPhone X ก็เมื่อท่านชายตาเครื่องครั้นที่ลืมดวงตาอยู่เพียงนั้น พร้อมทั้ง Face ID ยังมีศักยภาพแสดงการแจ้งเตือนด้วยกันกิจจา เปิดหน้าจอสว่างค้างไว้ระหว่างที่ที่ออเจ้ากำลังอ่าน หรือหดความดังของสำเนียงนาฬิกาดิจิตอลปลุกและความเห็นกู่เรียกเข้าได้ด้วย
 
 
                จะประสบได้ว่าความทันสมัย พร้อมกับความชาญฉลาดจากโทรศัพท์มือถือ iPhone X  มีคับคั่งเลยทีเดียว พร้อมด้วยนี่ยังเปรยไม่หมดเสียด้วยซ้ำ ตกลงว่า ถ้าผู้ใดต้องการจะทดสอบด้วยตนเอง ด้วยกันมีแรงทรัพย์สินสุดๆพอ ก็สามารถจองเป็นความเป็นเจ้าของกันได้เลย

Tags : iPhone X,ไอโฟน X,iPhone X ราคา

บริษัทจากแดนอาทิตย์อุทัยที่เคยได้ยินชาวไทยต้องมีชื่อ Mitsubishi(มิตซูบิชิ) อยู่ด้วยแน่ ๆ เนื่องด้วยมีสินค้าก่ายกองหลายอย่าง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนกระทั่งยานยนต์ ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์มากมายที่สุดบริษัทหนึ่งและอยู่คู่กับผู้ซื้อชาวไทยมานานนม พวกเราไปทำความรู้จักมักคุ้นแบรนด์ผลิตภัณฑ์นี้กันให้มากยิ่งขึ้นดีกว่า

 Mitsubishi เป็นเครือบริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 1870 โดย Yataro Iwasaki (ยะตะโร อิวะซะกิ) ในฐานะบริษัทขนส่งสินค้าYataro Iwasaki เป็นชาวเมืองโคจิ โดยตั้งอยู่บนเกาะชิโกกุ โดยเป็นฐานอิทธิพลของวงศ์ตระกูล Tosa ผู้ทรงอิทธิพล เขาเคยปฏิบัติงานให้กับตระกูลแห่งนี้ และสามารถคิดค้นผลงานได้อย่างเป็นหน้าเป็นตาในการบริหารสหพันธ์การค้าของตระกูล Tosa ในเมืองโอซาก้า ในปี 1870 เขาได้จัดตั้งบริษัทขนส่งสินค้า Tsukumo Shokai ของตัวเอง โดยขอเช่าเรือกลไฟสามลำจากวงศ์ Tosa และนั่นเป็นต้นกำเนิดของ Mitsubishi

 ชื่อ Mitsubishi เป็นภาษาญี่ปุ่น ถอดความว่า “ Three Diamonds” ในภาษาอังกฤษ หรือ “เพชรสามเม็ด” ในภาษาไทย เครื่องแสดงของมิตซูบิชิ จึงให้ความหมายตรงเผงกับชื่อทุกประการ ด้วยเหตุว่าเป็นรูปเพชรสีแดงสามเม็ดวางเรียงกันเป็นรูปใบไม้สามแฉก Mitsubishi ใช้สัญลักษณ์นี้มาตั้งแต่ปี 1908 โดยประยุกต์ใช้มาจากสัญลักษณ์ประจำวงศ์สกุลของYataro Iwasaki เอง
 
 จากนั้นธุรกิจของ Mitsubishi ขยายตัวอย่างเร็วแตกสาขาย่อยไปเป็นการผลิตและการซื้อขายในหลากหลายรูปแบบ มีการก่อตั้งบริษัทในเครือขึ้นหลายบริษัท และมีการผลิตรถ 4 ล้อออกค้าขายเป็นปฐมฤกษ์ในปี 1917 มีชื่อว่ารถมิซูบิชิโมเดล-เอ (Mitsubishi Model-A )
 
ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  Mitsubishi เป็นผู้ผลิตรถถัง เรือรบ และอาวุธสงครามประเภทต่าง ๆ ให้แก่กองทหารญี่ปุ่น เพราะเช่นนั้นเมื่อสงครามสงบเงียบและทัพสัมพันธมิตรเข้ายึดครองแดนซามูไร Mitsubishi จึงถูกบีบบังคับให้แยกย่อยกิจการออกเป็น 2 ส่วน คือ MitsubishiShipbuilding and Engineer CO;LTD.(มิตซูบิชิ ชิพบิลดิง แอนด์ เอนจิเนีย) และMitsubishi Heavy Industries LTD.(มิตซูบิชิ นิปปอน เฮฟวี่ อินดัสตรัส์)

 ถึงอย่างไร 12 ปีต่อมาคือในปี 1964 ทั้ง 2 บริษัทก็รวมตัวเป็นบริษัทเดียวกันอีกครั้งหนึ่งภายใต้ชื่อ Mitsubishi Heavy Industries LTD.โดยที่ผลิตภัณฑ์ที่ออกจัดจำหน่ายมีตั้งแต่ เบียร์ กล้องถ่ายรูป อากาศยาน คอมพิวเตอร์ ไปจนถึง รถขุดดิน เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ รถยนต์และเรือใบ มีสถานภาพเป็นบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในโลกรายหนึ่ง ในปี 1970 ธุรกิจผลิตรถยนต์ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก็ถูกแยกออกมาเป็นบริษัทต่างหากมีชื่อว่า Mitsubishi Motors Corporation (บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน) และหนึ่งปีต่อมา มิตซูบิชิก็ตัดสินใจร่วมกับ Chrysler Corporation(ไครสเลอร์ คอร์พอเรชัน) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอเมริกา

 บทสรุปจากความร่วมแรงร่วมใจดังที่กล่าวมาแล้วทำให้ธุรกิจผลิตรถยนต์ของ Mitsubishi เติบโตอย่างรวดเร็วสามารถขยายกำลังผลิตถึงระดับ 1 ล้านคันต่อปีได้เป็นครั้งแรกในปี 1979 ปัจจุบัน  Mitsubishi Motor Corporation เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 12 ของโลก รถยนต์ที่ผลิตออกจำหน่ายมีตั้งแต่รถนั่ง รถบรรทุก รถจีพขับ 4 ล้อ ไปจนถึง รถบัส รถเทรเลอร์ และรถที่ใช้ในการก่อสร้าง ในรอบปี 1990 ผลิตรถได้รวมยอดประมาณ 1,335,000 คัน และทำยอดจำหน่ายได้รวมทั้งสิ้นราวๆ 434,000 ล้าน
 
 ปัจจุบัน ธุรกิจการค้าของ Mitsubishi ได้กว้างขวางไปเยอะแยะอาทิเช่น ต่อเรือ, โทรคมนาคม, บริการทางการเงิน, ประกัน, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ยานยนต์, ก่อสร้าง, อากาศยาน, อวกาศยาน, อาวุธ, เครื่องดื่ม, เคมีภัณฑ์, น้ำมันรถ, เหล็ก, การบิน มีพนักงานทั่วโลกทั้งสิ้นประมาณ 350,000 คน

 Mitsubishi ในประเทศไทย ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่มบริษัทใหญ่ ๆ คือ Mitsubishi Motors Thailand(บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จํากัด) และ Mitsubishi ElectricThailand (บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ประเทศไทย)

 โดย Mitsubishi Motors Thailand ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยในปี1961 เป็นฐานการผลิตระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท Mitsubishi Motors Corporation แดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งมียอดรวมส่งออกในสัดส่วนกว่า 80% ของการผลิตทั้งหมดที่มี มีกำลังการผลิตรถยนต์ถึง 424,000 คันต่อปี โดยตลาดส่งออกที่สำคัญของ Mitsubishi Motors Thailand เช่น สหภาพยุโรป คิดเป็นสัดส่วน 28% กลุ่มบ้านเมืองอาเซียนและเอเชีย 25% สหรัฐฯ 21% โอเชียเนีย 12% และอื่นๆ 14%
 
 ส่วน Mitsubishi Electric Thailand ก่อตั้งขึ้นในเมืองไทยในปี 1964 ปัจจุบันนี้ผลิตและ จัดจำหน่ายสินค้ามากมายก่ายกองหลากหลายราคา }อาทิ ระบบปรับอากาศ, เครื่องมือยานยนต์, ระบบอาคาร (ลิฟต์/บันไดเลื่อน คอมเพรสเซอร์, ระบบพลังงาน, ระบบอัตโนมัติในโรงงาน และ เครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในบ้าน เป็นต้น

Tags : Mitsubishi,mitsubishi ราคา,mitsubishi ดีไหม

ไม่ยอมรับมิได้เลยว่าขณะนี้"โทรศัพท์มือถือ” หรือ ”สมาร์ทโฟน” เกือบจะคือเหมือนกับสิ่งของที่ ห้า ที่ทุกผู้ทุกนามแยกออกมิได้เลยทีเดียว เนื่องแต่ไม่ว่าจะมองดูไปทางไหน ก็มีมวลชนถมไปเคลื่อนที่ก้ม เล่นมือถือกันซะส่วนใหญ่ทั้งปวง และทุกวันนี้ สมาร์ทโฟนก็กอบด้วยนานาเนกสนนราคาเริ่มหลัก1000ไปจนถึงหลัก10000เลยเชียว นั่นก็ขึ้นอยู่พร้อมทั้งแบบ ยี่ห้อ พร้อมกับสเปคการทำงาน ตอนนี้เลยขอมาชักนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาย่อมเยาไม่เกิน 5,000บาท เพราะด้วยเป็นวิถีทางให้กับคนที่ดูแลในสมาร์โฟนที่สมรรถชี้แจงโจทย์กิจการงานได้ แต่มีงบประมาณคับแคบ โดยจะมีแบบไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ       
                Wiko View
ชักจะกันที่ชิ้นทีแรกพร้อมทั้ง Wiko View สมาร์ทโฟนชั้นใจกลางที่มีออกแบบหน้าจอกว้างขวาง 18:9 ทำให้มีอยู่พื้นที่การถ่ายทอดกว้างขวางพร้อมกับยาวเหยียดเหนือเหนือแรก ซึ่งกำลังได้มาความสนใจณช่วงปัจจุบันเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ Wiko View ผลิตด้วยตัวเครื่องเพราะด้วยเครื่องมือวรรณะหรูหราที่มีความสวยหรู พร้อมทั้งมีฟีเจอร์พร้อมมูลทุกการทำงานอีกด้วย กอบด้วยหน้าจอปรากฏผล IPS ปริมาตร 5.7 นิ้ว ความคมชัดตำแหน่ง HD+ (720x1440 พิกเซล) Ram 3GB พร้อมสรรพหน่วยความทรงจำด้านใน (ROM) ความจุ 16GB ด้วยกันยังรับการ์ดคณะความทรงจำนอกบ้านแบบอย่าง microSD สูงสุดๆที่ไซส์ 128GB ยังกล้องถ่ายภาพข้างหลังที่มีความคมชัด 13 ล้านพิกเซล พร้อมสรรพไฟแฟลช LED กล้องข้างความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมสรรพ Selfie Flash ทำงานพักพิงบนการทำงานดำเนินการ Android 7.1 Nougat พร้อมกับมีเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner)ซึ่งสเปคนี้ มีอยู่มูลค่าอยู่ที่ 4,990 บาท
                Huawei Y7
คืออีกตราสินค้านึงที่ได้รับการฝักใฝ่เป็นเหลือประมาณเลยเทียวกับยี่ห้อ Huawei โดยซีรีย์นี้กอบด้วยข้อดีตรงที่แบตเตอรี่ที่มีความจุมหาศาลถึง สี่พัน mAh ให้คุณใช้งานได้ยาวนานแยะเหนือ มาด้วยกันตัวเครื่องที่ริเริ่มทำจากวัสดุระดับเหล็ก พร้อมกับมีคุณค่าตัวเครื่องมือครบครันในทุกการใช้งาน ด้วยจอปรากฏผลสัดส่วน 5.5 นิ้ว ความคมชัดขั้น HD 720p (720x1280 พิกเซล) พร้อมมูลปกคลุมด้วยกระจกเงาขอบโปงวิธี 2.5D หน่วยประเมินผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 435 ที่มีความเร็ว 1.4 GHz บนการทำงานกระทำ Android 7.0 Nougat โดยถูกปกคลุมด้วย EMUI 5.1 มีกลุ่มความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB พร้อมทั้งหน่วยความทรงจำภายใน (ROM) สัดส่วน 16GB พร้อมทั้งรองรับการ์ดหน่วยความทรงจำข้างนอกเหล่า microSD สูงสุดที่ 128GB ปีกกล้องถ่ายภาพนั้น กล้องส่วนหลังมีความคมชัด 12 ล้านพิกเซล ครบถ้วนไฟแฟลช LED พร้อมทั้งหมู่การโฟกัสทิวภาพพวก PDAF (Phase Detection Autofocus) ส่วนกล้องถ่ายรูปด้านหน้ากล้องถ่ายภาพประกอบด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งสเปคกลุ่มตรงนี้ โครตจะคุ้มและสนนราคา 4,990 บาท
                Xiaomi Redmi Note 4X
Xiaomi กอบด้วยประเด็นสำคัญในบทของการวางจ่ายโทรศัพท์มือถือที่มีสมรรถนะพร้อมแห่งมูลค่าที่มักจะเข้าถึงได้สะดวก เป็นสาเหตุของทางความนิยมของประเทศสยามของ Xiaomi เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กับ Xiaomi Redmi Note 4X ก็เป็นโทรศัพท์มือถือสนนราคาถูกต้องอีกรุ่นหนึ่งที่มีอยู่ความน่าดึงดูดใจด้วยพร้อมด้วย จากตัวเครื่องที่ได้รับการวางรากฐาน All-Metal Body โปรดทำเอาตัวเครื่องประกอบด้วยความคงทน พร้อมด้วยใช้งานได้เป็นเวลายาวนานนานเหตุด้วยกอบด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหาอยู่ที่ 4,100 mAh พร้อมด้วยมากับด้วยกันหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดวรรณะ HD 720p (720x1280 พิกเซล) มีหน่วยนับ Octa-Core Qualcomm Snapdragon 435 ที่มีกำลังเร็ว 1.4 GHz กับคณะวัดผลกราฟิก (GPU) Adreno 505 รันคงอยู่เหนือระบบจัดการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกปกคลุมด้วย MIUI 8 ความจุแรม (RAM) 3GB ร่วมด้วยหน่วยความจำใน (ROM) ปริมาตร 32GB พร้อมทั้งรองรับการ์ดหน่วยความทรงจำภายนอกนิยม microSD ยังยังประกอบด้วยกล้องถ่ายภาพหลังความคมชัด 13 ล้านพิกเซล พร้อมมูลไฟแฟลช LED ประกอบด้วยปริมาตรรูรับแสงโถงสูงสุดที่ F/2.0 กับกบิลการโฟกัสทิวทัศน์ทาง PDAF (Phase Detection Autofocus)พร้อมทั้งกล้องถ่ายรูปด้านหน้าความคมชัด ห้า ล้านพิกเซล พร้อมด้วยมีสัดส่วนรูรับสารภาพประกายกว้างท้อปที่ F/2.2 สนนราคาอยู่ที่ 4,500-5,190 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละร้านรวง กวนตรวจสอบมูลค่าด้านหน้าร้านอีกรอบนะขอรับ)
                TECNO CAMON CM
หลายคนอาจยังไม่เคยกันซักเท่าไหร่พร้อมตราสินค้า TECNO Mobile โดยหมายความว่ายี่ห้อน้องใหม่ที่พึ่งจะจะขึ้นต้นเข้ากระทำการท้องตลาดแห่งประเทศสยามทันทีที่พลันๆ นี้ ด้วยกันจากเหตุที่ราคาไม่ได้โด่งเกินควร แม้กระนั้นมีอยู่ประสิทธิภาพในที่การใช้งานได้อย่างโดยตลอด จึงทำให้ TECNO Mobile ฮิตเหมือนฉุกละหุก ด้วยกัน TECNO CAMON CM ก็เป็นโทรศัพท์มือถือความถูกอีกหนึ่งรุ่น ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 4,990 บาท เท่านั้นเอง แต่ถ้าว่าสเปคถือว่าออกจะสัตเลยเทียว ไม่ว่าจะเป็น ความล้ำสมัยการผลิตร่างเครื่องการกำหนด Unibody (สันตัวเครื่องถูกสร้างเป็นชิ้นเดียวกัน), จอแสดงผลทำนองไร้ขอบ Full Display ความจุ 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9  ความคมชัดเกรด HD+ (720x1440 พิกเซล), ชิปเซ็ตประเมินผล Quad-Core MediaTek MT6737H ที่มีความไว 1.3 GHz, คณะประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T720, หน่วยความทรงจำแรม (RAM) ความจุ 3GB, คณะความทรงจำชั้นใน (ROM) ความจุ 32GB พร้อมมูลรองการ์ดหน่วยความจำข้างนอกส่วน microSD สูงสุดที่ขนาด 128GB, เซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner), รองการใช้งานเหนือข่ายงาน 4G LTE, รองรับการทำงานควบคู่ 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM), แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh และปฏิบัติการดำรงอยู่บนการทำงานปฏิบัติหน้าที่ Android 7.0 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย HiOS ส่วนกล้องถ่ายรูปก็จะมี กล้องถ่ายภาพส่วนหลังที่มีความคมชัด 13 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งไฟแฟลช 4 ดวง (Quad-LED) พร้อมด้วยกล้องถ่ายรูปหน้าก็มีความละเอียด  13 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกันพร้อมกล้องถ่ายรูปหลัง พร้อมสรรพไฟแฟลช LED แห่งหนด้านหน้า เกี่ยวกับการถ่ายอย่างเซลฟี่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
                นี่คือแบบแบรนด์พร้อมด้วยแบบของโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่าไม่แพง ที่มีคุณวุฒิแต่ละตัวเครื่องต่างกันออกไปตามการใช้งาน โดยที่ได้รายงานไปนั้น คือโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ทุกผู้ทุกนามสามารถหมายความว่ากรรมสิทธิ์ได้ สมมุติผู้ใดใจจดใจจ่อโทรศัพท์มือถือจำนวนเงินย่อมเยา พร้อมทั้งสนองไขโจทย์การทำงานของออเจ้าได้กลุ่มถ้วนทั่ว ตั้งใจว่าข้อเขียนนี้จะเป็นผลดี หรือว่าเป็นคนช่วยให้เธอได้เลือกสรรตัดสินใจได้บ้างนะฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มือถือ รุ่นไหนดี

Tags : มือถือ,มือถือ ราคาถูก,มือถือ รุ่นไหนดี

            ที่ปัจจุบันนี้ ชิ้นที่ก่อสร้างความรื่นเริงให้กับเราประกอบด้วยนานาเนก ไม่ว่าเป็น เครื่องมือ mp3, Home Theater, เครื่องรณต่างๆ แต่ว่าอีกอย่างที่ปรากฏข้างด้วยกันคนไทยมานานๆ ก็คงจะวิ่งหนีไม่ผ่านพ้น วิทยุโทรภาพไม่ก็ทีวี และในช่วงปัจจุบันนี้ก็มีนานาเนกกลุ่มที่ให้ลูกค้าได้เลือกเฟ้นจับจ่ายจอแก้วกันนานาเนก วันนี้จะนำพาไปทำความรู้จักด้วยกันประเภทของโทรทัศน์กัน
                โทรทัศน์จอ Crt (Cathode Ray Tubes) จอแก้วไม่ก็หน้าจอสมองกลยุคเก่า หมายความว่าจอก้ม ข้างหลังตุ่ย ใช้ที่ตั้งเยอะ ให้กำลังแสงของจออักโขหากว่ามองนมนานๆ กล้าหาญเจ็บแสบนัยน์ตาได้ ประกอบด้วยมุมมองที่กว้างขวาง ใช้งานตั้งแต่ยุคทีวีขาวดำ กระทั่งถึงทีวีสี อย่างเดียวช่วงนี้ไม่ได้ฮิตแล้ว สำหรับใช้เขตแดนหลาย  ฉันไฟแยะ หลังๆ มาแล้วก็มีหน้าจอที่กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูดวงตากว่า โดยสมัยนี้มีตัวเลือกสรรบานตะไท พาง โทรทัศน์ LCD, จอแก้ว LED, Plasma TV ฯลฯ
                จอแก้วหน้าจอ Plasma TV หมายถึงหน้าจอโทรทัศน์ที่สมรรถอุบัติภาณุได้เอง กล่าวคือ เพียงแค่ให้เป็นอิสระแรงกดดันไฟเข้าปลุกเร้าเม็ดพิกเซล ก็จะเฉิดฉายได้เอง ทัศนียภาพที่ได้จะกระจ่างกว่า LCD พร้อมด้วยการแสดงผลทิวภาพจะเร็วได้ดีกว่า สมรรถจัดแสดงดีกรีผิวดินสีดำได้ดี การเห็นจอภาพที่กว้างกว่า LCD การโชว์สีสันที่มองเบิ่งเดิมๆ อย่างไรก็ดีก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่อย่างเดียวกัน หมายความว่า เสวยไฟ รวมไปถึงมีกิริยาท่าทาง Burn In ได้ในบางขณะ ด้วยกันไม่สมรรถเห็นจอแก้วถนัดชัดเจนๆ ได้ในช่วงระยะกลางวัน แตะต้องสังเกตจำพวกที่มืดค่ำๆ เวลากลางคืนแค่นั้น ถึงจะเห็นกระจ่าง
 
                โทรทัศน์จอ LCD  (Liquid Crystal Display)  ใช้อย่างแพร่ขยายเป็นกอง  โดยดั้งเดิม หน้าจอ LCD จักแบบเป็นจอคอมพิวเตอร์ มาก่อน ซึ่งริเริ่มทำเหล่าหน้าจอบาง ไร้ชนิดข้างหลังตุ่ย ลำดับขั้นการแสดงผลก็ให้ข้อสรุปที่ราบรื่นดวงเนตร ยิ่งกว่านั้นยังกระเบียดกระเสียรขอบเขต พร้อมด้วยเขมือบไฟย่อมด้วย แต่การชี้ให้เห็นทัศนียภาพเรียบร้อย ใช่ว่าจะแสดงให้เห็นผลทัศนียภาพได้อย่างคุ้น โดยเฉพาะจอดำๆ จะทัศนาสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่รัศมีสีขาววิโรจอยู่  เห็นได้องศากระจ้อยร่อยกว่า CRT  ระยะแลดูแคมๆ จะชะม้ายตาแปร่ง น้ำหน้าเราจำเป็นต้องเผงพร้อมทั้งหน้าจออย่างเดียว เสียแต่ว่าในเวลานี้ LCD คือเกณฑ์ที่สุดแบบของจอโทรทัศน์ กับจอคอมพิวเตอร์ไปแล้ว
 
                จอแก้ว LED (Light Emitting Diode) ออกมาชดเชยเทคโนโลยีจอ LCD ที่เป็นหลอดไฟขนาดจิ๋ว 3 สีสัน ได้แก่ แดง เขียวพร้อมกับน้ำเงิน ด้วยกันแค่ 1 หลอดก็สามารถเปล่งความสว่างได้ดารดาษตามการผสมสีสันของแม่สีทั้งสาม โดยเจ้าหลอด LED นี้มีคุณลักษณะเยี่ยมก็คือ เสพไฟอนุ แต่กลับให้สีสันที่ถ่องแท้มีรัศมีมาก ให้สีดำที่สีดำสนิท และมีอัตราการตอบสนองปุ๊บปั๊บ แต่ก็มีข้อตำหนิแทบหัวข้อเดี่ยว ได้แก่มีมูลค่ามีราคา ถ้าแม้จะมีมูลค่าแพงมาก แม้กระนั้นก็ได้ทิวภาพที่มีคุณภาพอุจเลยทีเดียว ทีวี LED จึงได้รับความชื่นชอบชุมแห่งยุคปัจจุบัน โดย ทีวี LED นั้นกั้นได้คือ สาม หมู่ย่อยออกมาอีกคือ
                - EDGE LED  เป็นแผนกที่มีการจัดวางหลอด LED ไว้ตามสันโทรทัศน์ทั่ว สี่ แถบ ประพฤติพันธกิจปล่อยแสงเข้ามาตรงกลางจอโทรทัศน์ ส่วนตัวเครื่องมีไซส์บางลง มากกว่าหน้าจอแก้วจอslimทั้งหมด ไป และยังเขมือบไฟนิดหน่อยกว่า LCD TVเช่นกัน แต่กระนั้นจะมีขีดจำกัดในกิจธุระของการโชว์สีที่จะต่ำกว่ากว่าหมู่ Full LED
                   - Full LED จะเป็นต่อ EDGE LED ในหลักใหญ่ของการถ่ายทอดสีสันของทัศนียภาพคมชัด สีสันชื่นมื่น Contrast โด่ง มีการจัดสรรหลอด LED เยอะแผงจอ มีผลให้ตัวเครื่องมีความหนาเหนือขี้ประติ๋ว และเสริมเติมด้วยเทคโนโลยี Local dimming ที่สามารถระบุการเริ่มพร้อมด้วยหยุดไฟตรงตัวทำเครื่องหมายโดยอัตโนมัติได้ เพื่อให้ส่งผลลัพธ์ต่อการจัดแสดงทิวทัศน์ที่มีความสมจริงถมถืดยิ่งขึ้น
                - RGB LED ขานได้ว่าคือตัวขายของ LED เลยก็พูดได้ ดังที่ใช้หลอด LED สาม เช็ด ได้แก่ RGB (แดง, เขียว, น้ำเงิน) เป็นตัวอุบัติแสงมายึดเป็นพันธุ์เรียงเต็มขอบแผงหน้าจอ พร้อมกันใช้ความทันสมัย Local dimming หมวดเดียวกับ Full LED ช่วยเหลือให้การถ่ายทอดผลรูปภาพ ด้วยกันสีสันมีความควร จะจะ กอบด้วยมิติมากกว่าทั้งปวงประเภทที่รับสั่งมา และคงที่ว่ามีราคาเหนือตลอดแบบด้วยเช่นกันด้วยเหตุว่าเงินลงทุนที่อุจกระทั่งนั่นเอง
                OLED TV (Organic Light Emitting Diodes) เป็นพวกของทีวีร่วมสมัย ที่เสมือนเป็นการนำจุดดีของโทรทัศน์แต่ละอันดับมาชุมนุมกันไว้ในที่เดียว เม็ดพิกเซลสามารถสร้างรัศมีได้เองคลับคล้ายกับ Plasma TV ไม่ต้องพึ่งหลอดไฟราว LCD หรือไม่ก็ LED ประเด็นสำคัญของจอ OLED เป็นความโปร่งและความอ่อนตัว สามารถเจริญจอให้มีความโค้งงอได้ รับประทานไฟเพ็จ เล่นหลากหลายของรูปภาพได้นิจไม่ว่าจะทัศน์จากองศาใดก็ตาม ซึ่งจริงๆว่าเทคโนโลยีที่ก๋ากั่นย่อมตามมาด้วยจำนวนเงินที่แพงมากกว่าไปอีก
                เว้นแต่ที่ได้ตรัสไปก่อนในตอนต้นนั้น ยังมีอีกอเนกปัจจัยให้ได้เลือกซื้อของทีวีอีกบริบูรณ์ อย่างกับ ความละเอียดของทัศนียภาพ (Resolution), การทำงานทำนองเสียงน่าพอใจหรือไม่ก็ไม่, รับจอแก้วดิจิตอลหรือปล่าว, บริการหลังจากการค้าเป็นกระไร ด้วยกันที่ยิ่งใหญ่เลยคือว่า “งบประมาณ” เพราะว่าสมมติคัดจับจ่ายจอแก้วที่คุณค่าไม่แพง แต่ทำงานไม่คุ้มค่า จำนวนเงินไม่แพง ก็เสียปล่าวอยู่ดี ด้วยเหตุนั้นน่าจะตัดสินเลือกคัดควักกระเป๋าทีวีที่ดีทั้งประสิทธิภาพ ร่วมด้วยงามทั้งสนนราคาที่พอจะสู้ไหว เธอก็จะได้ทีวีที่พอเหมาะสมน้ำหน้ากับการทำงานไว้ขนาบพระราชวังแล้ว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : tv led

Tags : ทีวี led,ซื้อทีวี,tv led