ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: penpaka2tory ที่ พฤศจิกายน 01, 2019, 12:45:28 pm



หัวข้อ: เข้าเล่มหลังการพิมพ์งาน ปั๊มจม สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า สติ๊กเกอร์ เข้าหัวป
เริ่มหัวข้อโดย: penpaka2tory ที่ พฤศจิกายน 01, 2019, 12:45:28 pm
สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า จดหมาย กำมะหยี่ ด้วย  ปั๊มไดคัท , ปั๊มเคทอง ปั๊มไดคัท
การขอเลข ISBN การขอ CIP แล้วก็การทำบาร์โค้ด (Barcode)

ISBN เป็นยังไง จำเป็นต้องมีหรือเปล่า
เลข ISBN (International Standard Book Number) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ คือรหัสที่กำหนดให้ใช้กับงานเอกสารชนิดหนังสือ เพื่อใช้เพื่อการแบ่งแยกหนังสือแต่ละเรื่องออกมาจากกันครับผม แล้วยังเอาไปใช้อำนวนความสบายในแนวทางการทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เริ่มตั้งแต่นำเข้าคลังสินค้าตามร้านจำหน่ายหนังสือ ไปจนถึงวิธีขายที่หน้าร้านค้าเลยครับผม โดยรหัสที่ใช้ในประเทศไทยจะเป็น Code EAN 13 หลัก โดย 3 หลักแรกจะแบบเดียวกันทั้งผองทั่วประเทศเนื่องจากว่าเป็นรหัสระบุว่าเป็นหนังสือจากเมืองไทย นั่นก็คือ 978 ส่วนรหัสหลักสุดท้ายจะเป็นรหัส checksum เอาไว้ตรวจทานรหัสในชุดอีกครั้งหนึ่ง


หากสงสัยว่าแล้วหนังสือที่พวกเรากำลังจะพิมพ์ต้องมีเลข ISBN ไหมยังไง กล้วยๆเลยก็คือถ้าหากเรามีแผนการที่จะขายในร้านจำหน่ายหนังสือ หรือต้องการให้หนังสือเข้าระบบวิธีขายที่ใช้ barcode สำหรับเพื่อการตรวจนับผลิตภัณฑ์ ก็จำเป็นต้องมีเลข ISBN ขอรับ แต่ว่าแม้เป็นหนังสือที่ไม่ได้เข้าระบบการขายตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใช้งานในหน่วยงานหรือคิดแผนจะทำขายด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องมีก็ได้ครับผม

CIP คืออะไร จำต้องมีหรือเปล่า
CIP (Cataloging in Publication) หรือภาษาไทยคือ ข้อมูลทางบรรณานุกรมหนังสือ CIP คือการกำหนดข้อมูลรายละเอียดทางบรรณานุกรมตามหลักกฏเกณฑ์สำหรับในการทำบัตรรายการ เลขกลุ่มหนังสือ หัวเรื่อง เพื่อกำเนิดความสบายในการศึกษาหรือค้นหาในห้องสมุดโดยปกติบรรณารักษ์ตามหอสมุดต่างๆจะใช้เลขหมวดกลุ่มนี้จัดหนังสือขึ้นชั้นในห้องหนังสือครับ ถ้าถามว่าแล้วหนังสือที่จะพิมพ์ ต้องมีเลข CIP รึเปล่า หากพวกเรามีแผนสำหรับการที่จะนำหนังสือเข้าไปใช้งานในหอสมุด ก็ควรมีไว้ครับผม เพื่ออำนวยความสะดวกให้บรรณารักษ์ แต่ถ้าหากดูแล้ว หนังสือของเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ใส่เข้าไปอยู่ในห้องสมุดแน่นอนก็ไม่จำเป็นที่ต้องมีก็ได้ครับ

บริการขอเลข ISBN และ CIP
ทางสำนักพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสำหรับเพื่อการขอเลข ISBN และข้อมูล CIP ได้ แต่ว่าลูกค้าจึงควรจัดเตรียมข้อมูลพื้นฐานสำหรับในการเขียนเลข ISBN ให้ทางสำนักพิมพ์ด้วย โดยกรอกแบบฟอร์มจากไฟล์นี้แล้วส่งให้สถานที่พิมพ์ทางอีเมล์ wacharinpp@gmail.com และก็duudesign@gmail.com ครับผม

กระบวนการทำบาร์โค้ด Barcode
เมื่อได้เลข ISBN มาแล้ว ก็จำต้องนำ ISBN ที่ได้มาทำเป็น Barcode เพื่อใช้ในการสแกนตามร้านขายของ ซึ่งในขั้นตอนนี้ทางโรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. มีบริการทำ Barcode ให้ด้วยโดยไม่คิดรายจ่ายแต่อย่างใดนะครับ โดยจะรับทำบาร์โค้ดให้เฉพาะเลข ISBN ในระบบEAN 13 หลักแค่นั้น barcode ที่เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆหรืออยู่ในรหัสชุดอื่น ทางสถานที่พิมพ์จะมีผลให้ไม่ได้ครับผม

ข้อเสนอแนะสำหรับการทำบาร์โค้ด
สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำบาร์โค้ดใช้งานเองทางโรงพิมพ์มีข้อเสนอนิดหน่อยดังต่อไปนี้ครับ
1. บาร์โค้ดจำเป็นต้องทำเป็นดำลำพังมาแค่นั้น ห้ามทำเป็นดำ 4 เม็ดเด็ดขาด(ดำคนเดียว ดำ 4 เม็ดคืออะไร อ่านได้จากที่นี่)
2. บาร์โค้ดจำต้องทำให้อยู่ในรูปแบบ Vector แค่นั้น เพื่อที่จะเอาไปใช้งานต่อในโปรแกรมเช่น Adobe Illustrator ได้ ห้ามทำเป็นไฟล์รูปภาพ JPG, PSD มาโดยเด็ดขาด
3. การย่อหรือขยายบาร์โค้ดสามารถทำได้ แต่จำต้องย่อ-ขยายตามรูปร่างเพียงแค่นั้น (Proportional Scaling) ห้ามย่อขยายบาร์โค้ดข้างในด้านหนึ่งแค่นั้น เพราะว่าจะมีผลให้สัดส่วนของแท่นบาร์โค้ดผิดเพี้ยนไป แล้วก็จะสแกนไม่ได้
 
 
ปั๊มไดคัท (Die-Cuting)
การกดกระดาษ หรือชิ้นงานต่างๆ ลงบนบล็อกปั๊ม เพื่อให้กระดาษหรือชิ้นงานมีขนาดหรือรูปร่างตามที่ต้องการ ได้แก่ แจ๊กเก็ตหุ้มหนังสือ เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/embossing-2.jpg?w=220&h=126&crop=1)
ปั๊มนูน (Embossing)
การใช้บล็อกดันกระดาษให้นูนสูงขึ้น เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่  ป้ายแขวนสินค้า เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/debossing.jpg?w=220&h=126&crop=1)
ปั๊มจม (Debossing)
การใช้บล็อกกดกระดาษให้จมต่ำลง เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ ป้ายแขวนสินค้า เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/stamping-foil.jpg?w=220&h=126&crop=1)
การพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) เป็นอย่างไร?
เป็น การพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลภาพจากคอมพิวเตอร์มาพิมพ์ เครื่องปรินเตอร์ที่อยู่ตามบ้านของคนธรรมดาทั่วไป ก็เป็นการพิมพ์ดิจิตอล แต่ว่ายังไม่อาจจะสนองความจำเป็นต้องได้ครบสมบูรณ์ ทั้งด้านจำนวน ,คุณภาพ,เวลาทีใช้สำหรับในการพิมพ์ ตัวอย่างเช่น แนวทางการทำโปสเตอร์ขนาด A3 โดยประมาณ 100 แผ่น เครื่องปรินท์ตามบ้านสามารถปรินท์ได้ แต่ คุณภาพ เวลา ที่ได้อาจจะส่งผลให้ผู้ครอบครองปรินท์เตอร์กำเนิดความรู้สึกไม่คุ้มค้ากับเวลาคราวเสีย รวมทั้งได้มาซึ่งคุณภาพที่ไม่สามารถที่จะตอบสนองการใช้แรงงานได้ ก็เลยกำเนิดเครื่องปรินท์ ที่มารองรับความต้องการในรูปแบบนี้ คือ เครื่อง Digital Press ที่ให้ท่านภาพงานพิมพ์รายละเอียดใกล้เคียงกับระบบ offset มากกระทั่งเกือบจะแยกไม่ออก และยังทำความเร็วได้ทันความอยากได้ รวมทั้งสามารถพิมพ์ได้นานาประการอุปกรณ์ดังเช่น กระดาษปอนด์,กระดาษอาร์ตมัน, กระดาษมีลวดลาย, กระดาษหนาไม่เกิน 300 เอ็งรม, สติกเกอร์pvc ขุ่น-ใส, แผ่นใส, สติ๊กเกอร์วอยย์เปลือกไข่, ฉลากผลิตภัณฑ์, โฮโลมึงรม ฯลฯ

จุดเด่น ระบบการพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing)
1. ประหยัดเวลาสำหรับในการทำงาน ความสะดวกเร็ว ลดขั้นตอนกระบวนการทำฟิล์มแล้วก็แม่พิมพ์ หากงานที่ต้องการนั้นเร่งด่วนก็เลือก แนะนำพิมพ์ระบบดิจิตอล

2. ปรับปรุงแก้ไขงานได้ง่าย ในกรณีที่ปรารถนาแก้ไขเนื้อหาข้อมูล ก็แค่ส่งไฟล์ใหม่มาแทนไฟล์เดิมข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลใหม่ ปรับแก้ได้โดยทันที

3. ใช้งบประมาณน้อยกว่า (ในกรณีที่พิมพ์ปริมาณน้อย) เพราะไม่ต้องทำเพลทพิมพ์ ซึ่งราคาโดยรวมเวลาพิมพ์จะถูกกว่า

4. มัธยัสถ์ทรัพยากร เหมาะกับงานพิมพ์ปริมาณน้อย ลดของเสียในกรรมวิธีการผลิต เวลา,กระดาษ,น้ำหมึก,แรงงาน

5. มาตรฐานงานพิมพ์ มีระบบระเบียบการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เสมอกันในทุกๆหน้า เนื่องด้วยไม่ต้องควบคุมหมึกและน้ำ เป็นต้นว่าการ พิมพ์ออฟเซ็ท (Offset Printing) ที่จะต้องใช้ผู้ควบคุมที่มีความชำนิชำนาญเป็นพิเศษ

6. ผลิตตามปริมาณที่ปรารถนา เหมาะสำหรับงานพิมพ์น้อยกว่า 3000 ชุด หากอยากได้ 100 เล่ม ก็พิมพ์เพียงแค่ 100 เล่ม ไม่ต้องพิมพ์มากกว่าปริมาณที่ปรารถนา มีความยืดหยุ่นสำหรับการทำงาน
 
เทคโนโลยีการพิมพ์ Industrial Technology
การแข่งขันชิงชัยด้านอุตสาหกรรมต่างๆในขณะนี้ มีการเติบโตที่สูงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งยังในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนั้นเทคโนโลยีก็เลยมีหน้าที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการคิดค้นหรือวางแบบประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆการสร้างนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของตลาดผู้สร้างควรต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในงานอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตนั้นมีคุณภาพและก็ตรงตามต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด

เนื้อหานี้จะขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมด้านการบรรจุภัณฑ์และเทคโนโลย ีที่ใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆคือ

1. บรรจุภัณฑ์จำพวกแข็งตัว (Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ได้แก่ แก้ว กระป๋องโลหะ และพลาสติกแข็ง บรรจุภัณฑ์จำพวกนี้มีความแข็งแรงรวมทั้งอาจจะรูปเจริญ สามารถลำเลียงถ่ายบนสายพานได้

2. บรรจุภัณฑ์ประเภทครึ่งหนึ่งแข็งตัว (Semi-Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้อย่างเช่นขวดพลาสติกแก้วพลาสติก ถ้วยใส่ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะมีความจำกัดสำหรับการรับแรงอัดและแรงดึง

3. บรรจุภัณฑ์ชนิดนุ่ม (Flexible Packaging) บรรจุภัณฑ์จำพวกนี้อย่างเช่นซองใส่อาหารสำเร็จรูปต่างๆหรือสินค้าถุงก๊อบแก๊บ


เทคโนโลยีที่ใช้เพื่อการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบ่งได้ 3 ส่วนหลักๆดังเช่น...
1. เทคโนโลยีเพื่อช่วยสำหรับในการดีไซน์จะใช้วัสดุอุปกรณ์สองส่วนด้วยกันนั้นก็ คือ ด้าน Hardware แล้วก็ Software เพื่อช่วยสำหรับในการสร้างสรรค์ดีไซน์สินค้า วางแบบด้านกราฟฟิก บางทีอาจรวมไปถึงหัวข้อการพัฒนาสินค้าในลักษณะต่างๆSoftware ที่ใช้ออกแบบในตอนนี้ได้พัฒนาให้เป็นแบบ 3D เพื่อให้ไม่ยุ่งยากต่อการตรวจดูความถูกต้องชัดเจนรวมทั้งการติดต่อสื่อสารที่เข้าใจได้ง่ายเข้าไปใหญ่หรือสามารถผลิตผลงานตัวอย่างออกมาเพื่อให้มองเห็นรูปลักษณ์ของสินค้านั้นๆได้

2. เทคโนโลยีการสร้างและการพิมพ์นำมาใช้สำหรับการพิมพ์ฉลาก เพื่อใช้สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ขวดเครื่องแต่งตัวหรือถุงใส่เครื่องแต่งตัว ของกินเเละอุตสาหกรรมอื่นๆจำนวนมากซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์นั้นมีมากมายแบบอย่าง อาทิเช่นการพิมพ์แบบออฟเซ็ต การพิมพ์แบบเกรียวกราวเวียร์ รวมทั้งการพิมพ์แบบเฟ็กโซ ตอนนี้วัสดุอุปกรณ์รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับในการพิมพ์มีความทันสมัยและก็มีเทคโนโลยีสูงเพื่อได้สีสันที่งามรวมทั้งดึงดูดความจำเป็นของผู้ใช้

3. เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ ปริมาณของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตหรือบรรจุได้ในขณะนี้ บางทีอาจยังไม่ใช้จำนวนสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบันเพียงแค่นั้น การเลือกเครื่องจักรจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรองรับการสร้างในอนาคตแล้วก็ยังจำเป็นต้องทำงานร่วมกับสิ่งของบรรจุภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการลำเลียงขน ใส่ หรือหน้าที่อื่นๆได้อย่างถูกต้องแล้วก็เร็ว

การบรรจุภัณฑ์ หรือการบรรจุจัดใส่หีบห่อ เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกรรมวิธีทางการตลาดเพราะในขณะนี้บริษัทต่างๆมากมายได้พัฒนาตัวสินค้าและก็บริการกระทั่งมีคุณภาพทัดเทียมกันแทบทุกตราแบรนด์ โดยเหตุนั้นนักการตลาดจึงได้หันมาเน้นหัวข้อการบรรจุภัณฑ์ โดยการพัฒนาลักษณะของการบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยอีกทั้งในด้านการเก็บรักษาวิธีขาย การตลาด การโฆษณา การบรรจุภัณฑ์ก็เลยเข้ามามีบทบาททางการตลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีแล้วก็เหมาะสม จะช่วยทำให้การปฏิบัติการขาย การขนส่งย้ายที่และก็ผู้กระทำระจายผลิตภัณฑ์ดำเนินไปได้ด้วยดีสบายรวดเร็ว อดออม

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือเรื่องการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน ผู้อุปโภคบริโภคมีความสนใจต่อบรรจุภัณฑ์มากเป็นสองเท่า ผู้บริโภคนอกจากจะมีความต้องการความสวยสดงดงามภายนอกของตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังอยากบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องพิจารณาถึงความสามารถสำหรับเพื่อการลดจำนวนบรรจุภัณฑ ์ที่ใช้แล้วสิ่งที่ต้องการดังกล่าวข้างต้นนี้ได้นำมาซึ่งกระแสทางด้านสังคมในประเทศที่ปรับปรุงแล้ว ส่งผลให้สินค้าที่ส่งไปขายประเทศพวกนี้ จะต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางด้านสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆด้วยเป็นต้นว่า ในประเทศเยอรมันการนำเอากล่องกระดาษแข็งกลับมาใช้ใหม่ในลูกค้าจะนำเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชั้นใน ดังเช่นว่า ขวดที่บรรจุผลิตภัณฑ์กลับบ้าน ส่วนตัวกล่องชั้นนอกจะให้ผู้ขายนำกลับไปใช้ใหม่ แผนการนำกลับมาใช้ ซึ่งออกจะใหม่นี้ย่อมช่วยเหลือกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้หมดไปในระยะเวลาอันใกล้
 
รับเข้าหัวปฏิทินทุกชนิด ‪#‎เย็บท้ายปฏิทิน ‪#‎embossing  ‪#‎ปั๊มนูน ต่อรองราคาได้
บริกาเข้ารูปเล่มหนังสือ ด่วนติดต่อ  คุณชนนิกานต์ มือถือ 087-550-8099

เครดิตบทความจาก : https://rvydiecut.com/

Tags : ปั๊มเคทอง,ปั๊มนูน, ปั๊มปรุฉีก
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ