|
หัวข้อ: ร้านอุปกรณ์ อุปกรณ์สำรวจ กล้องสำรวจ กล้องtotal station งานตรวจสอบเส้นชั้นความสูง เริ่มหัวข้อโดย: Posthizzt555 ที่ พฤศจิกายน 06, 2019, 12:19:20 am ร้านอุปกรณ์ อุปกรณ์สำรวจ กล้องสำรวจมือสอง กล้องtotal station งานสำรวจเส้นชั้นความสูง รังวัดที่ดิน พร้อมส่งทั่วไทย กล้องสำรวจมือสอง ราคาถูก ทุกชนิด, จัดส่งพัสดุสินค้า นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการซ่อม-สอบเทียบกล้องระดับ
การสำรวจเพื่อการก่อสร้างอาคาร สามารถที่จะแบ่งได้ 2 ขั้นตอนร่วมกัน คือ 1. การสำรวจเพื่อการออกแบบ เพื่อฝ่ายออกแบบนำไปออกแบบ ซึ่งข้อมูลที่อยากรู้ มีดังนี้ 1.1) ขอบเขตของพื้นที่และก็ระดับความสูงของพื้นที่ 1.2) ถนน ขอบถนนหนทางและก็ผิวจราจรเป็นการสำรวจภาวะทางเข้าออกแผนการ มีผลเมื่อจำเป็นต้องนำวัสดุอุปกรณ์เข้าโครงงานแม้เข้าออกไม่สะดวกอาจจะเป็นผลให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา 1.3) สิ่งสาธารณูปโภค ยกตัวอย่างเช่น ท่อน้ำประปา , สายไฟฟ้า , ท่อที่มีไว้ระบายน้ำทิ้ง , เพื่อสำหรับใช้งานในระหว่างการก่อสร้าง 1.4) อาคารที่อยู่ใกล้กับสถานที่จะก่อสร้างเพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงแนวรวมทั้งระดับในการก่อสร้าง 1.5) สภาพการรับน้ำหนักของพื้นดิน หรือ รูปแบบของผิวดินภายหลังจากวางแบบตึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เลยนำมาซึ่ง การสำรวจในแบบที่ 2 2. การสำรวจเพื่อการก่อสร้าง การสำรวจขั้นนี้ถ้าหากเป็นการสร้างตึกขนาดใหญ่ จะต้องตรวจ ดังนี้ 2.1) ตรวจสอบสภาพของตึกที่อยู่ใกล้ ตัวอย่างเช่น ลักษณะ ของโครงสร้าง ซึ่งบางครั้งอาจจะได้รับผลเสียในเวลาที่ทำก่อสร้าง ดังเช่นว่า การตอกเข็ม ซึ่งจะก่อให้กำเนิดคลื่นของความสะเทือน ทำให้อาคารบ้านเรือนรอบตัวเกิดการทรุดรวมทั้งพังทลายได้ 2.2) ค่าระดับของสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่แล้วนั้น รวมถึงสิ่งสาธารณูปโภค และรูปแบบของผิวจราจร 2.3) การกำหนดระยะและก็หมุด ควบคุม ต่างๆดังเช่นว่า Base lines , Offset รวมทั้งหมุด BM โดยอ้างอิงจากแบบก่อสร้างที่ได้กระทำการออกแบบ 2.4) หลังจากกระทำการระบุระยะแล้วก็หมุด ควบคุมต่างๆเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็เลยเริ่มดำเนินงานก่อสร้างอาคารถัดไป กล้องระดับ CST/Berger SAL-24 (http://www.p1instrument.com/UploadImage/b35a3911-b34c-4e6c-914f-17c4087e1208.jpg) กล้องระดับอัตโนมัติ AUTO LEVEL CST/Berger SAL-24 ระบบกล้องเล็ง ระบบเห็นภาพตั้งตรงตามธรรมชาติ กำลังขยายของเลนส์ 24 เท่า ขนาดความกว้างของภาพ 100 เมตร 2.6 เมตร1 องศา 20 ลิปดา ระยะมองเห็นภาพใกล้สุดไม่เกิน 0.4 เมตร ค่าตัวคูณคงที่ 100 ระบบอัตโนมัติ ( Compensator ) +/- 15 ลิปดา ความละเอียดในการทำระดับในระยะ 1 กม. +/- 3 มม. ระดับน้ำฟองกลมมีความไว 8 ลิปดา ต่อ 2 มิลลิเมตร มีจานองศาอ่านมุมราบ 360 องศา มีขีดกำกับทุกๆ 1 องศา มีโครงสร้างกันน้ำ(Water Proof) - อ่านค่ามุมโดยตรง 1 องศา ระยะการตรวจเช็ค ทุก 6เดือน การรับประกัน 1 ปี พร้อมบริการพิเศษจากทางร้าน นิยามการสำรวจ การสำรวจ เป็นศาสตร์ของใส่ความชมรม อยู่บนดิน รวมทั้งใต้ดิน โดยวิธีวัดทั้งยังทางตรงและทางอ้อม การประมาณทิศทาง การหาค่าระดับซึ่งก็จะ เป็นการรังวัดมุม รวมทั้งการรังวัดระยะพื้นฐาน ของการสำรวจ โดยเหตุนี้การที่จะศึกษาเล่าเรียนวิชาตรวจสอบจะต้อง มีความเข้าใจทาง คณิตแล้วก็ ฟิสิกส์อย่างดีเยี่ยม
1.การสำรวจบทบังคับแผ่นที่ เป็นการสำรวจทางราบ และก็ทางตรงและการสมมุติเป็นการตรวจสอบทิศทางต่างๆ 2.การสำรวจบาปสิทธ์ที่ดิน 3.การสำรวจพื้นที่ เป็นการสำรวจเพื่อหา ลักษณะ ผิวพบเราจะได้แผนที่ภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมาของการสำรวจอย่างย่อๆ - ยุคโบราน (Ancient Times) ประวัติศาสตร์การสำรวจในยุคเริ่มต้นได้ก้าวหน้าขึ้นควบคู่มาพร้อมกับวิชาคณิต ตามความเป็นจริงแล้ววิชาเลข ได้รุ่งโรจน์ขึ้นเพราะเหตุว่าการใช้การคำนวณในงานธุรกิจการค้า ซึ่งติดต่อซื่อขายกันในอดีตกาล ดังเช่นว่าการกำหนดเขตที่ดิน แล้วก็การวัดที่ดินเพื่อทราบพื้นที่ ความเกี่ยวเนื่องระหว่างคณิตรวมทั้งการสำรวจนั้นได้ปรากฏอยู่ในคณิตสาขาที่เก่าแก่ที่สุด คือ เรขาคณิต (Geometry) ซึ่งมาจากภาษากรีก แสดงว่า การประเมินที่ดิน (Earth Measurement) - สมัยอียิปต์ (Egyptians) เป็นชาติที่รุ่งเรืองมานานแล้ว ในยุคนั้นอียิปต์ดูแลโดยมีฟาโรห์เป็นประมุข นับว่าที่ดินทั้งหมดทั้งปวงเป็นของฟาโรห์ (Faroh) แต่ว่าได้แบ่งที่ดินเหล่านั้นให้แก่ขุนนาง ขุนนางก็ได้แบ่งต่อๆลงไปจนกระทั่งประชาชน โดยขุนนางเก็บภาษีจากราษฎรตามจำนวนพื้นที่ดินที่ยึดมั่น การนี้ช่างสำรวจ(surveyor) เป็นผู้วัดที่ดินและพื้นที่การวัดชาวอียิปต์ได้ใช้เชือกวัด เรียกว่า Harpedonaptae or Rope Stretchers เชือกนี้ยาวเป็นมาตรฐาน มีอยู่ 12 ตอน แต่ละช่วงทำเป็มปุ่มไว้ แล้วแบ่ง 12 ช่วงออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ ให้ขั้นแรกยาว 3 ปุ่ม ตอนลำดับที่สองยาว 4 ปุ่ม ช่วงที่สามยาว 5 ปุ่ม เมื่อจะวัดเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก วัดแล้วก็ใช้ไม้ปักไว้เป็นเขต ถัดมาได้ใช้แก่นไม้ปักเพราะว่าแข็งแรงทนทานดี น้ำในแม่น้ำไนล์ท่วมไม่พัดพาไป ไม่ต้องรังวัดกันเสมอๆ ยิ่งกว่านั้น ชาวอียิปต์ยังสามารถคำนวนพื้นที่วงกลมได้อีกด้วย คือ กำหนดให้ด้านยาวของเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 ส่วน แล้วลบออกเสีย 1 ส่วน ที่เหลือ 8 ส่วนยกกำลังสอง ก็จะเป็นหลักที่ของวงกลม แล้วก็กำหนด พอๆกับ 3 1605 ซึ่งใช้ถูกต้องกว่าพวก Babylonians และ Hebrews ซึ่งใช้ค่าของ = 3.0000 สำหรับการสร้าง Pyramids ก็ได้วางตำแหน่งให้ชี้ตรงไปทางทิศเหนือ ซึ่งหมายความว่าการคำนวนทิศททางในทางดาราศาสตร์ในสมัยนั้นเริ่มใช้กันแล้ว Pyramids และอาคารบ้านเรือนอย่างอื่นๆมักจะสร้างขึ้นเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก โดยอาศัยอัตส่วน 3:4:5 - ยุคชาติบาบิโลน (Babylonians) ได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาดาราศาสตร์ (Astronomy) ไว้มาก ได้ให้ชื่อกรุ๊ปดาวต่างๆไว้หลายชื่อ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการตรวจ เขามีความรู้ทางด้านนี้มากยิ่งกว่าทางคณิตศาสตร์ หรือการสำรวจ อย่างไรก็ดีในยุคเริ่มแรกนั้น เขารู้ว่ารัศมีของวงกลมนั้นสามารถที่ประยุกต์กับเส้นรอบวงได้ โดยกำหนดให้ ชยา (Chord) มีทั้งหมด 6 ชยา รวมทั้งแต่ละชยาแบ่งเป็น60 เขาแบ่ง 1 วัน ออกเป็น 24ชั่วโมง 1 ชั่วโมงแบ่งได้ 60 นาที 1 นาทีแบ่งได้ 60 วินาที นอกนั้นยังรู้จักแบ่ง 1 วงกลมออกเป็น 360 แต่ละองศาเทียบเคียงเป็นวันที่ล่วงไป 1 วันตามการเดินของดวงตะวัน ตามเส้นทางเดินระหว่างกลุ่มดาว เราทราบดีว่าวัฏจักรของวันใน 1 ปีมากกว่า 360 วัน - สมัยชาติกรีก (Greek) ได้ส่งผลให้เกิดวิชาการต่างๆขึ้นหลายสิ่งหลายอย่าง ในทางทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิต การแพทย์ ภูมิศาสตร์ อื่นๆอีกมากมาย ในด้านการสำรวจนั้นวิชาความรู้ทางเรขาคณิต และการประมาณหาพื้นที่ (Measuration) ของชาวอียิปต์ เมื่อตกมาถึงมือของนักปรัชญาชาวภาษากรีก ก็ได้มีการคิดค้นปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ผู้รู้ Plato ได้บอกว่า “ใดๆที่พวกเราชาวกรีกได้รับมา พวกเราก็จะปรับแก้จนสมบูรณ์แบบ” ดังนี้ หลักการ 3:4:5 ที่อียิปต์ใช้เชือกวัดที่ดิน Pythagoras ก็ได้สร้างงเป็นแนวความคิดที่โด่งดังขึ้นเรียกว่า “Pythagoras’ Theorem” แม้กระนั้นระบุชื่อของ Euclid และ Archimedes ความเจริญอย่างหนึ่งที่ชาวภาษากรีกได้ให้ไว้ ก็คือ ชาวภาษากรีกได้ให้ความรู้ความเข้าใจทางเลขไว้มาก แต่ว่าให้ความรู้ความเข้าใจใดการสำรวจไว้น้อย มีเครืองมือซึ่งชาวกรีกชื่อ Heron พักพิงอยู่ในเมือง Alexandria ระหว่าง 150-180 B.C. ได้ประดิษขึ้นชื่อว่า “Dioptra” รวมทั้งมีหนังสือชื่อ“Dioptra” ประกอบกิจการใช้เครื่องไม้เครื่องมือประเภทนี้ หนังสือเล่มนี้มีหลายเรื่องซึ่งน่าสนใจ ที่มีชื่อมากมายก็คือ ขั้นตอนการคำนวนพื้นที่ ของสามเหลี่ยมอะไรก็ตามเมื่อทราบด้าน3 ด้าน กล้องสำรวจรวมทั้งการใช้งาน(Introduction to Theodolite and usages) งานตรวจสอบภาคสนาม จำนวนที่ต้องการรังวัดเก็บเนื้อหา ประกอบดว้ยจำนวนต่างๆเป็นต้นว่า ระยะลาด(Slope Distance, OC) ระยะราบ (Horizontal Distance, OB) ระยะดิ่ง (Vertical Distance, CB) มุมราบ(Horizontal Angle) มุมดิ่ง (Vertical Angle) มุมดิ่งบน (Zenith Angle) โดย ค่าที่วัดไดใ้นสนามสามารถน ามาค านวณจำนวนอื่นได้โดยอาศัยความเชื่อมโยงทางเรขาคณิต ซึ่งในงานสำรวจรังวัดมุม ก็เป็นปริมาณหน่ึงที่มีความสำคัญ ในเชิงเรขาคณิต การวัดมุมก็เลยเป็นขั้นตอนที่ส าคัญ ในการตรวจสอบภาคสนาม แล้วก็อุปกรณ์ที่ใชใ้นการวัดมุมไม่ว่า จะเป็นมุมราบหรือมุมดิ่ง เรียกว่า “กล้องสำรวจ”(Theodolite) ภารกิจหลักของการสำรวจ Works design (การออกแบบ) เป็นขั้นตอนที่รับข้อมูลมาจากการสำรวจ มีการออกแบบโค้งในแต่ละลักษณะมีการกำหนดขนาดและวัสดุในการก่อสร้าง โดยทำการคำนวณจากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ อาชีพและสาขาวิชาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคลิกภาพ วิศวกรรมตรวจ (Survey Engineering) เป็นศาสตร์และก็เทคโนโลยีที่เกี่ยวพันกับการสำรวจ บันทึก ประเมินผล วิเคราะห์ เผยแพร่ และก็ การใช้งานสารสนเทศที่เกี่ยวพันกับตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นเชิงภูมิศาสตร์ (การเกิดที่เกิดขึ้นบนผิวโลก) อวกาศ และก็ใต้ดิน วิศวกรรมสำรวจมีสาขาวิชาต่างๆที่เกี่ยวข้องกันเพื่อให้เข้าใจลักษณะแบบจำลองของปรากฏการณ์ทางด้านกายภาพต่างๆรวมทั้งสามารถถ่ายทอดสิ่งพวกนั้นลงมาเป็นข้อมูลรูปแผนที่ที่มีความถูกต้องแน่ใจและก็ น่าไว้วางใจทางตำแหน่งและก็ข้อมูลชี้แจงการปรากฏนั้นๆสาขาวิชาวิศวกรรมสำรวจประกอบด้วย - การรังวัดระยะใกล้ด้วยภาพถ่ายทางอากาศ(Close range photogrametry) - การรังวัด - ระบบภูมิสารสนเทศ (Geo-Information System, GIS) - การรังวัดด้วยสัญญาณระบบดาวเทียมนำหน (Global Navigation Satellite System, GNSS) - การรังวัดแล้วก็ทำแผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศ (Digital Photogrammetry) - การรังวัดรวมทั้งทำแผนที่จากภาพดาวเทียมรายละเอียดสูง (High Resolution Satellite Imagery) - การสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) - การเขียนแผนที่ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-assisted Mapping) - งานรังวัดขั้นสูง (Geodetic Surveying) แล้วก็งานรังวัดความละเอียดสูง (High Precision Measurement) ช่างเทคนิคการสำรวจ (Survey Technician) สภาพการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานอาชีพนี้ ทำงานทั้งใน และนอกสถานที่ทำงานในการสำรวจสภาพพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย อาจต้องปีนป่ายในที่สูงหรือบุกป่าฝ่าดง ทำงานกลางแดดหรือฝน ต้องแบกอุปกรณ์ในการสำรวจ เช่น กล้องรังวัด เข็มทิศ ต้องคิดคำนวณ สภาพการทำงานหนักปานกลาง ต้องใช้ความอดทนต่อสภาพความร้อน และบางโอกาสทำงานตามลำพัง ต้องใช้ความระมัดระวัง และรอบคอบสูงพอสมควร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน บางครั้งต้องทำงานเกินเวลาต้องปฏิบัติงานทั้งในสำนักงาน และกลางแจ้ง อาจจะต้องประสานงานกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่องานการสำรวจคุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ อยากเป็นนักธรณีวิทยา? สภาพการทำงานของนักธรณีวิทยาล้วนแล้วแต่ต่างกันออกไปตามบทบาทข้างต้น มีทั้งยังการทำงานในห้องทำงาน และการออกตรวจภาคสนาม ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องออกตรวจสอบภาคสนามนานนับเดือน ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งยังในและก็เมืองนอก อีกทั้งบนบกแล้วก็กึ่งกลางทะเล ถ้าหากเป็นงานในเหมืองอาจจะจำต้องทำงานใต้ดินอีกด้วย ซึ่งแต่ละสถานที่มีการเสี่ยงอันตรายสูง รวมทั้งอาจก่อให้กำเนิดความเคร่งเครียดได้ โดยเหตุนี้คนที่พอใจในอาชีพนักธรณีวิทยาที่ดีจะต้องมีจิตใจมั่นคงไม่ท้อถอย ชอบท่องเที่ยว เสี่ยงภัย ขยันขันแข็ง ไม่คดโกง มีวินัย มีความคิดริเริ่ม มีความจำดี ช่างสังเกตสังกา สุขภาพดี ทรหดอดทน เรียบง่าย สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ดี ลักษณะการศึกษาธรณีวิทยาคืออะไร? การเล่าเรียนการสอนเป็นลักษณะการบรรยายในห้องเรียน รวมทั้งห้องปฏิบัติการ ร่วมกับการออกภาคสนามในสถานที่ต่างๆอีกทั้งในระหว่างภาคการศึกษา และก็ตอนปิดเทอม รายละเอียดมีการท่องจำค่อนข้างจะเยอะพอสมควร โดยเฉพาะการเล่าเรียนเกี่ยวกับแร่ หิน รวมทั้งซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐาน มีการคำนวณบ้างสุดแท้แต่รายวิชา ธรณีวิทยาเป็นวิชาความสามารถที่จำต้องได้รับการฝึกหัดอย่างสม่ำเสมอ บางทีอาจจะจำเป็นต้องทำงานในห้องปฏิบัติการนอกเวลาเรียนเสริมเติม มีการวัดผลการทำงานเป็นกรุ๊ปและคนเดียว ในลักษณะของรายงาน การบ้าน การทำแผนที่ รายงานการสำรวจ การเขียนแบบ วาดภาพระบายสี การนำเสนอหน้าชั้นเรียน งานค้นคว้าวิจัยค้นคว้าอิสระ การสอบที่มีอีกทั้งการสอบข้อเขียนอธิบาย สอบปากเปล่า รวมทั้งการสอบแบบจับเวลา การศึกษาต่อธรณีวิทยาในระดับที่ค่อนข้างสูง? บัณฑิตที่จบปริญญาตรี จากสาขาวิชาธรณีวิทยา จุฬาลงมือณ์มหาวิทยาลัย สามารถศึกษาต่อปริญญาโท และปริญญาเอก ได้ใน แล้วก็เมืองนอก โดยสามารถเล่าเรียนเฉพาะด้าน หรือร่วมกับสาขาอื่น อย่างเช่น วิทยาแร่ หินผาวิทยา พื้นดินเคมี ธรณีฟิสิกส์ ธรณีวิทยาบ่อแร่ อุทกธรณีวิทยา ธรณีวิทยาน้ำมันปิโตรเลียม วิทยาศาสตร์สภาพแวดล้อม วิศวกรรมเหมืองแร่ ปฐวีเทคนิค วิศวกรรมธรณี เรียนธรณีวิทยาแล้วได้ดำเนินงานบริษัทน้ำมัน? คนจำนวนไม่น้อยตั้งความหวังไว้ว่า หากเป็นนักธรณีวิทยาแล้วจะได้ทำงานในบริษัทตรวจสอบน้ำมันรวมทั้งปิโตรเลียม ที่ซึ่งให้เงินเดือนหรือค่าตอบแทนรายเดือนค่อนข้างสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วตำแหน่งงานที่เปิดรับในสายนี้มีจำนวนจำกัด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับปริมาณผู้เรียนจบธรณีวิทยาทั่วทั้งประเทศในแต่ละปี ด้วยเหตุนั้นก็เลยไม่ได้มีความหมายว่าทุกคนจะได้ทำงานในสายนี้ แนวโน้มตลาดงานธรณีวิทยาในอนาคต งานในประเทศไทยมีจำกัด นักธรณีวิทยาไทยจะมีการดำเนินงานในต่างถิ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสำรวจ การสมัครงานชิงชัยกับนักธรณีวิทยาฝรั่ง การเล่าเรียนในชั้นสูงกว่าปริญญาตรีจะมีความจำเป็น ปัจจุบันเมืองไทยอยากนักธรณีวิทยาด้านงานศึกษาวิจัยแล้วก็การสอนไม่น้อยเลยทีเดียว วิศวกรรมองค์ประกอบ (Structural Engineering) เรียนเกี่ยวกับการออกแบบรวมทั้งคำนวณ สิ่งก่อสร้าง การเรียนในสาขานี้จะเน้นย้ำในทางด้านงานคำนวณวิเคราะห์ ออกแบบองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้าง และความต้านทานของสิ่งของ เพื่อหาวัสดุรวมทั้งขนาดของอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับงานนั้นๆงานที่เกี่ยวเนื่องเช่น การก่อสร้างตึก เขื่อนหรือสะพาน เป็นต้น วิศวกรรมก่อสร้างแล้วก็การจัดการ (Construction Engineering and Management) ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารเป็นหลัก โดยย้ำศึกษาทางด้านระบบการสร้างตึก การวางแผนงาน การคาดคะเนราคาค่าก่อสร้าง นอกเหนือจากนี้ ในบางสถาบันจะมีการสอนเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และก็ระบบเขตสุขาภิบาลภายในอาคาร วิศวกรรมขนส่ง (Transportation Engineering) ศึกษาเล่าเรียนแยกเป็น 2 สาขาหลักเป็นระบบและก็สิ่งของ โดยงานทางด้านระบบจะเน้นย้ำทางด้านการวางแผนผัง การจราจร แล้วก็การจัดการทางด้านงานจราจร โดยทำการเล่าเรียนถึงผลดีรวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับการก่อสร้างระบบถนนหนทาง สำหรับงานทางด้านอุปกรณ์จะเน้นย้ำในการศึกษาเรียนรู้สิ่งของสำหรับการตัดถนน ยกตัวอย่างเช่น คอนกรีตและก็ยางมะตอย เป็นหลัก โดยศึกษาเล่าเรียนถึงวิธีสำหรับในการสร้างถนนรวมทั้งปรับปรุงแก้ไขถนนหนทาง วิศวกรรมเคล็ดลับธรณี (Geotechnical engineering) เล่าเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์แล้วก็วิศวกรรมของดิน เพื่อการวิเคราะห์ วางแบบ แล้วก็จัดการกับปัญหาด้านวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมปฐวี (Geological engineering) ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์ วิศวกรรมของหิน รวมทั้งธรณีวิทยาประยุกต์ เพื่อการวิเคราะห์ วางแบบ และก็แก้ไขปัญหาด้านวิศวกรรมโยธาและเหมือง วิศวกรรมสภาพแวดล้อม (Environmental Engineering) ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับการจัดการระบบสิ่งแวดล้อมในน้ำแล้วก็ในอากาศ การแก้ไขประสิทธิภาพของของเสีย วิศวกรรมทรัพยากรน้ำ (Water Resource engineering) ศึกษาเกี่ยวกับงานทางด้านแหล่งน้ำ ปริมาณน้ำฝน และระบบการระบายน้ำ และก็การก่อสร้างคู ลำคลอง และแม่น้ำ วิศวกรรมตรวจ (Survey Engineering) เรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการทำรังวัดแล้วก็งานทางด้านตรวจ สำหรับใช้ในทางด้านแผนที่ รวมทั้งการเล่าเรียนทางด้าน จีพีเอส (GPS) แล้วก็ ภูเขามิสารสนเทศ (Geoinformatics หรือ Geographic information system;GIS) กล้องระดับ BOSCH GOL32D (http://www.p1instrument.com/UploadImage/204d32dc-1c52-4f07-8217-52121bf132a3.png) กล้องระดับอัตโนมัติ AUTO LEVEL BOSCH GOL32D ระบบกล้องเล็ง ระบบเห็นภาพตั้งตรงตามธรรมชาติ กำลังขยายของเลนส์ 32 เท่า ขนาดความกว้างของภาพ 100 เมตร 2.6 เมตร1 องศา 20 ลิปดา ระยะมองเห็นภาพใกล้สุดไม่เกิน 0.3 เมตร ค่าตัวคูณคงที่ 100 ระบบอัตโนมัติ ( Compensator ) +/- 15 ลิปดา ความละเอียดในการทำระดับในระยะ 1 กม. +/- 3 มม. ระดับน้ำฟองกลมมีความไว 8 ลิปดา ต่อ 2 มิลลิเมตร มีจานองศาอ่านมุมราบ 360 องศา มีขีดกำกับทุกๆ 1 องศา มีโครงสร้างกันน้ำ(Water Proof) - อ่านค่ามุมโดยตรง 1 องศา ระยะการตรวจเช็ค ทุก 6เดือน การรับประกัน 1 ปี เครื่องมือที่มีประกอบด้วย : กล่องใส่กล้องถ่ายภาพกันสั่นสะเทือน -ขาตั้งกล้องที่เอาไว้สำรวจ-ขาตั้งอลูมินัม -เครื่องมือมาตรฐานสำหรับกล้องถ่ายภาพเซอร์เวย์ บริการให้พิเศษจากทางร้านค้า : -ค้ำประกันฟรีค่าตอบแทนซ่อมแซม 1ปี -ค้างลิเบสกล้องฟรี 1ปี หรือ 2ครั้ง -ทางร้านค้ำประกันประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ - หากผลิตภัณฑ์มิได้คุณภาพยินดีคืนเงินข้างใน 90 วัน ที่มา : http://www.p1instrument.com/ Tags : กล้องวัดมุม, Total Station,ขายกล้องระดับ
|