ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Saichonka ที่ พฤศจิกายน 17, 2019, 03:16:44 am



หัวข้อ: เข้าเล่มหลังการพิมพ์งาน ปั๊มนูน สร้างมูลค่าให้สินค้า ฟองน้ำ เข้าหัวปฏิทินด้วยหัว
เริ่มหัวข้อโดย: Saichonka ที่ พฤศจิกายน 17, 2019, 03:16:44 am
สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า จดหมาย กำมะหยี่ ด้วย  ปั๊มไดคัท , ปั๊มเคทอง ปั๊มไดคัท
การขอเลข ISBN การขอ CIP รวมทั้งวิธีการทำบาร์โค้ด (Barcode)

ISBN เป็นยังไง ควรต้องมีหรือไม่
เลข ISBN (International Standard Book Number) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ คือรหัสที่กำหนดให้ใช้กับงานเอกสารชนิดหนังสือ เพื่อใช้ในการแยกแยะหนังสือแต่ละเรื่องออกจากกันครับผม แล้วยังใช้ประโยชน์อำนวนความสะดวกในขั้นตอนทั้งหมดทั้งปวงที่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เริ่มตั้งแต่นำเข้าคลังที่มีไว้เก็บสินค้าตามร้านจำหน่ายหนังสือ ไปจนกระทั่งวิธีขายที่หน้าร้านเลยครับ โดยรหัสที่ใช้ในประเทศไทยจะเป็น Code EAN 13 หลัก โดย 3 หลักแรกจะเช่นเดียวกันทั้งสิ้นทั้งประเทศเพราะเหตุว่าเป็นรหัสกล่าวว่าเป็นหนังสือจากประเทศไทย ซึ่งก็คือ 978 ส่วนรหัสหลักในที่สุดจะเป็นรหัส checksum เอาไว้ตรวจสอบรหัสในชุดอีกครั้งหนึ่ง


หากสงสัยว่าแล้วหนังสือที่เรากำลังจะพิมพ์จำต้องมีเลข ISBN ไหมยังไง ง่ายๆเลยก็คือถ้าเกิดเรามีแผนการที่จะขายในร้านจำหน่ายหนังสือ หรือปรารถนาให้หนังสือเข้าระบบแนวทางการขายที่ใช้ barcode สำหรับการตรวจนับสินค้า ก็จำเป็นที่จะต้องมีเลข ISBN ครับผม แม้กระนั้นแม้เป็นหนังสือที่มิได้เข้าระบบแนวทางการขายตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใช้งานในองค์กรหรือวางแผนจะกระทำขายด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องมีก็ได้นะครับ

CIP เป็นยังไง จำเป็นที่จะต้องมีหรือเปล่า
CIP (Cataloging in Publication) หรือภาษาไทยเป็น ข้อมูลทางบรรณานุกรมหนังสือ CIP คือการกำหนดข้อมูลเนื้อหาทางบรรณานุกรมตามหลักกฏเกณฑ์สำหรับการทำบัตรรายการ เลขกลุ่มหนังสือ หัวเรื่อง เพื่อกำเนิดความสบายในการค้นคว้าหรือค้นหาในหอสมุดโดยธรรมดาบรรณารักษ์ตามห้องหนังสือต่างๆจะใช้เลขหมวดพวกนี้จัดหนังสือขึ้นชั้นในหอสมุดขอรับ ถ้าหากถามคำถามว่าแล้วหนังสือที่จะพิมพ์ ต้องมีเลข CIP รึเปล่า ถ้าเกิดพวกเรามีแผนการที่จะนำหนังสือเข้าไปใช้งานในห้องสมุด ก็ควรมีไว้ครับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้บรรณารักษ์ แม้กระนั้นถ้าหากดูแล้ว หนังสือของพวกเราไม่ได้ตั้งใจจะให้บรรจุเข้าไปอยู่ภายในห้องสมุดแน่นอนก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีก็ได้ขอรับ

บริการขอเลข ISBN และ CIP
ทางสำนักพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสำหรับเพื่อการขอเลข ISBN แล้วก็ข้อมูล CIP ได้ แต่ว่าลูกค้าต้องเตรียมข้อมูลพื้นฐานสำหรับการเขียนเลข ISBN ให้ทางสำนักพิมพ์ด้วย โดยกรอกแบบฟอร์มจากไฟล์นี้แล้วส่งให้สถานที่พิมพ์ทางอีเมล์ wacharinpp@gmail.com และก็duudesign@gmail.com นะครับ

วิธีการทำบาร์โค้ด Barcode
เมื่อได้เลข ISBN มาแล้ว ก็จำเป็นต้องนำ ISBN ที่ได้มาทำเป็น Barcode เพื่อจะใช้ในลัษณะของการสแกนตามร้าน ซึ่งในขั้นตอนนี้ทางโรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. มีบริการทำ Barcode ให้ด้วยโดยไม่คิดค่าใช้สอยอะไรนะครับ โดยจะรับทำบาร์โค้ดให้เฉพาะเลข ISBN ในระบบEAN 13 หลักเพียงแค่นั้น barcode ที่เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆหรืออยู่ในรหัสชุดอื่น ทางโรงพิมพ์จะมีผลให้ไม่ได้ครับ

คำเสนอแนะสำหรับการทำบาร์โค้ด
สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำบาร์โค้ดใช้งานเองทางโรงพิมพ์มีข้อเสนอแนะน้อยดังนี้ขอรับ
1. บาร์โค้ดจำต้องทำเป็นดำโดดเดี่ยวมาเพียงแค่นั้น ห้ามทำเป็นดำ 4 เม็ดเด็ดขาด(ดำผู้เดียว ดำ 4 เม็ดคืออะไร อ่านได้จากที่นี่)
2. บาร์โค้ดจำต้องทำให้อยู่ในต้นแบบ Vector เท่านั้น เพื่อเอาไปใช้งานต่อในโปรแกรมดังเช่น Adobe Illustrator ได้ ห้ามทำเป็นไฟล์รูปภาพ JPG, PSD มาโดยเด็ดขาด
3. การสรุปหรือขยายบาร์โค้ดสามารถทำเป็น แต่จะต้องย่อ-ขยายตามรูปร่างเท่านั้น (Proportional Scaling) ห้ามย่อขยายบาร์โค้ดข้างในด้านหนึ่งแค่นั้น เพราะว่าจะก่อให้รูปร่างของแท่นบาร์โค้ดผิดเพี้ยนไป แล้วก็จะสแกนไม่ได้
 
 
ปั๊มไดคัท (Die-Cuting)
การกดกระดาษ หรือชิ้นงานต่างๆ ลงบนบล็อกปั๊ม เพื่อให้กระดาษหรือชิ้นงานมีขนาดหรือรูปร่างตามที่ต้องการ ได้แก่ ปกหนังสือ เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/embossing-2.jpg?w=220&h=126&crop=1)
ปั๊มนูน (Embossing)
การใช้บล็อกดันกระดาษให้นูนสูงขึ้น เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ กล่องกระดาษ เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/debossing.jpg?w=220&h=126&crop=1)
ปั๊มจม (Debossing)
การใช้บล็อกกดกระดาษให้จมต่ำลง เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ การ์ดแต่งงาน เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/stamping-foil.jpg?w=220&h=126&crop=1)
การพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) เป็นยังไง?
คือ การพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลภาพจากคอมพิวเตอร์มาพิมพ์ เครื่องปรินเตอร์ที่อยู่ตามบ้านของคนทั่วไป ก็เป็นการพิมพ์ดิจิตอล แต่ว่ายังไม่อาจจะสนองความจำเป็นต้องได้ครบบริบรูณ์ ทั้งยังด้านจำนวน ,ประสิทธิภาพ,เวลาหนใช้ในลัษณะของการพิมพ์ ตัวอย่างเช่น แนวทางการทำโปสเตอร์ขนาด A3 ราว 100 แผ่น เครื่องปรินท์ตามบ้านสามารถปรินท์ได้ แต่ คุณภาพ เวลา ที่ได้อาจก่อให้ผู้ครอบครองปรินท์เตอร์เกิดความรู้สึกไม่คุ้มค้ากับเวลาครั้งเสีย และก็ได้มาซึ่งประสิทธิภาพที่ไม่สามารถที่จะสนองตอบการใช้งานได้ จึงกำเนิดเครื่องปรินท์ ที่มาตอบสนองความต้องการในลักษณะนี้ เป็น เครื่อง Digital Press ที่ให้คุณภาพงานพิมพ์เนื้อหาใกล้เคียงกับระบบ offset มากมายจนกระทั่งแทบแยกไม่ออก รวมทั้งยังทำความเร็วได้ทันความอยาก รวมทั้งสามารถพิมพ์ได้นานัปการวัสดุได้แก่ กระดาษปอนด์,กระดาษอาร์ตมัน, กระดาษมีลวดลาย, กระดาษครึ้มไม่เกิน 300 แกรม, สติกเกอร์pvc ขุ่น-ใส, แผ่นใส, สติ๊กเกอร์วอยย์เปลือกไข่, ฉลากสินค้า, โฮโลเอ็งรม อื่นๆอีกมากมาย

จุดเด่น ระบบการพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing)
1. ทุ่นเวลาสำหรับเพื่อการดำเนินการ ความสะดวกเร็ว ลดขั้นตอนกระบวนการทำฟิล์มถ่ายรูปแล้วก็แม่พิมพ์ แม้งานที่ปรารถนานั้นเร่งด่วนก็เลือก ชี้แนะพิมพ์ระบบดิจิตอล

2. ปรับแก้งานได้ง่าย ในเรื่องที่ปรารถนาปรับแต่งรายละเอียดข้อมูล ก็แค่ส่งไฟล์ใหม่มาแทนไฟล์เดิมข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลใหม่ ปรับแต่งได้โดยทันที

3. ใช้งบประมาณน้อยกว่า (ในกรณีที่พิมพ์จำนวนน้อย) เนื่องจากไม่ต้องทำเพลทพิมพ์ ซึ่งราคาโดยรวมเวลาจัดพิมพ์จะถูกกว่า

4. อดออมทรัพยากร เหมาะกับงานพิมพ์ปริมาณน้อย ลดของเสียในขั้นตอนการผลิต เวลา,กระดาษ,หมึก,แรงงาน

5. มาตรฐานงานพิมพ์ มีระบบการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เท่ากันในทุกๆหน้า เนื่องจากว่าไม่ต้องควบคุมหมึกรวมทั้งน้ำ ดังเช่นการ พิมพ์ออฟเซ็ท (Offset Printing) ที่ต้องใช้ผู้ควบคุมที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

6. ผลิตตามปริมาณที่อยากได้ เหมาะสำหรับงานพิมพ์น้อยกว่า 3000 ชุด หากปรารถนา 100 เล่ม ก็พิมพ์แค่ 100 เล่ม ไม่ต้องพิมพ์มากยิ่งกว่าปริมาณที่อยากได้ มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
 
เทคโนโลยีการพิมพ์ Industrial Technology
การแข่งขันด้านอุตสาหกรรมต่างๆในปัจจุบัน มีการเติบโตที่สูงมากเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและก็ต่างประเทศ ด้วยเหตุนั้นเทคโนโลยีก็เลยมีบทบาทสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการคิดค้นหรือดีไซน์สร้างสรรค์ของใหม่ๆการสร้างสิ่งใหม่ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อจะเพิ่มสมรรถนะสำหรับการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดผู้ผลิตจำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในงานที่เกี่ยวกับด้านอุตสาหกรรมเพื่อการสร้างนั้นมีคุณภาพแล้วก็ตรงตามปรารถนาของลูกค้าให้มากที่สุด

เนื้อหานี้จะขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมด้านการบรรจุภัณฑ์รวมทั้งเทคโนโลย ีที่ใช้วางแบบบรรจุภัณฑ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 จำพวกใหญ่ๆเป็น

1. บรรจุภัณฑ์ชนิดแข็งตัว (Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ดังเช่นว่า แก้ว กระป๋องโลหะ แล้วก็พลาสติกแข็ง บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มีความแข็งแรงรวมทั้งคงจะรูปได้ดิบได้ดี สามารถลำเลียงขนย้ายบนสายพานได้

2. บรรจุภัณฑ์จำพวกครึ่งแข็ง (Semi-Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้อาทิเช่นขวดพลาสติกแก้วพลาสติก ถ้วยใส่ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะมีความจำกัดในการรับแรงอัดและแรงดึง

3. บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนนุ่ม (Flexible Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ตัวอย่างเช่นซองใส่อาหารสำเร็จรูปต่างๆหรือสินค้าถุงก๊อบแก๊บ


เทคโนโลยีที่ใช้ในการวางแบบบรรจุภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆดังเช่นว่า...
1. เทคโนโลยีเพื่อช่วยสำหรับในการออกแบบจะใช้เครื่องใช้ไม้สอยสองส่วนร่วมกันนั้นก็ เป็น ด้าน Hardware แล้วก็ Software เพื่อช่วยในการสร้างสรรค์ออกแบบสินค้า วางแบบด้านกราฟฟิก อาจรวมถึงประเด็นการปรับปรุงสินค้าในรูปแบบต่างๆSoftware ที่ใช้วางแบบในตอนนี้ได้ปรับปรุงให้เป็นต้นแบบ 3D เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจตราความถูกต้องชัดเจนและการติดต่อสื่อสารที่เข้าใจได้ง่ายมากกว่าเก่าหรือสามารถผลิตผลงานตัวอย่างออกมาเพื่อมองเห็นรูปลักษณ์ของสินค้านั้นๆได้

2. เทคโนโลยีการสร้างและก็การพิมพ์นำมาใช้สำหรับการพิมพ์ฉลาก เพื่อใช้สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ขวดเครื่องสำอางหรือถุงใส่เครื่องแต่งตัว ของกินเเละอุตสาหกรรมอื่นๆเยอะแยะซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์นั้นมีมากมายแบบ ดังเช่นการพิมพ์แบบออฟเซ็ต การพิมพ์แบบกราวเกรียวเวียร์ รวมทั้งการพิมพ์แบบเฟ็กโซ ปัจจุบันนี้เครื่องไม้เครื่องมือรวมทั้งอุปกรณ์เครื่องจักรในการพิมพ์มีความนำสมัยรวมทั้งมีเทคโนโลยีสูงเพื่อได้สีสันที่งามและก็ยั่วยวนใจความจำเป็นของผู้ซื้อ

3. เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ ปริมาณของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตหรือบรรจุได้ในขณะนี้ อาจยังไม่ใช้จำนวนความจำเป็นในตอนนี้แค่นั้น การเลือกเครื่องจักรก็เลยเป็นเรื่องจำเป็นที่จะจะต้องรองรับการสร้างในอนาคตและยังจะต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการลำเลียงถ่าย บรรจุ หรือหน้าที่อื่นๆได้อย่างแม่นยำรวมทั้งรวดเร็ว

การบรรจุภัณฑ์ หรือการบรรจุหีบห่อ เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกรรมวิธีทางการตลาดเพราะว่าในขณะนี้บริษัทต่างๆมากมายได้พัฒนาตัวสินค้าและบริการจนถึงมีคุณภาพทัดเทียมกันแทบทุกตรายี่ห้อ โดยเหตุนี้นักการตลาดก็เลยได้หันมาย้ำหัวข้อการบรรจุภัณฑ์ โดยการพัฒนารูปแบบของการบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยทั้งยังในด้านการเก็บรักษาวิธีขาย การตลาด การโฆษณา การบรรจุภัณฑ์จึงเข้ามามีหน้าที่ทางการตลาดมากเพิ่มขึ้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีและสมควร จะช่วยให้การทำงานขาย การขนส่งโยกย้ายและก็การกระจายผลิตภัณฑ์ดำเนินไปได้ด้วยดีสบายเร็วทันใจ ประหยัด

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมีให้ได้นั้นก็คือประเด็นการอนุรักษ์ธรรมชาติในสังคมตอนนี้ ผู้อุปโภคบริโภคสนใจต่อบรรจุภัณฑ์มากเป็นสองเท่า ลูกค้านอกจากจะมีความต้องการความงามข้างนอกของตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังอยากบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม

การออกแบบบรรจุภัณฑ์จำต้องพิจารณาถึงความรู้ความเข้าใจสำหรับในการลดจำนวนใส่ภัณฑ ์ที่ใช้แล้วความต้องการดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ได้ก่อกำเนิดกระแสทางด้านสังคมในประเทศที่ปรับปรุงแล้ว นำมาซึ่งการทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งไปจัดจำหน่ายประเทศเหล่านี้ จำเป็นต้องสอดคล้องกับกฎระเบียบทางด้านสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆด้วยเช่น ในประเทศเยอรมันการนำเอากล่องกระดาษแข็งกลับมาใช้ใหม่ในลูกค้าจะนำเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชั้นใน เป็นต้นว่า ขวดที่ใส่สินค้ากลับบ้าน ส่วนตัวกล่องชั้นนอกจะให้คนขายนำกลับไปใช้ใหม่ โครงการนำกลับมาใช้ ซึ่งออกจะใหม่นี้ย่อมช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้หมดไปในช่วงเวลาอันใกล้
 
รับเข้าหัวปฏิทินทุกชนิด  ‪#‎เคทอง ‪#‎เทคนิคหลังการพิมพ์  ‪#‎นามบัตร ต่อรองราคาได้
บริกาเข้ารูปเล่มหนังสือ ด่วนติดต่อ  Fax 02-235-9480

ที่มา : https://rvydiecut.com/

Tags : ปั๊มนูน
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ