หัวข้อ: ให้เช่ารถตู้ราคาไม่แพงราคาไม่แพง ไม่มีอันตราย คุ้มครองปกป้องความสูญเสีย เริ่มหัวข้อโดย: raraymondas ที่ พฤศจิกายน 28, 2019, 03:19:22 am ให้เช่ารถตู้ราคาไม่แพงราคาไม่แพง, รถรถยนต์สาธารณะ ราคาไม่แพงราคาถูก,แบบใหม่แบบใหม่,อดออม ,ปลอดภัยไม่มีอันตรายปลอดภัย
วิศวกรวอลโว่ Nils Bohlin เริ่มนำเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดมาใช้เป็นครั้งแรกในปี1959 และราวๆกันว่าช่วยคุ้มครองปกป้องการสิ้นไปชีวิตของคนทั่วทั้งโลกไปกว่า 1 ล้านคน บ้านพวกเรา พรบ.จราจรทางบก 2522 ได้มีการประกาศแล้วก็บังคับใช้ให้จัดตั้งแล้วก็คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ขับรวมทั้งผู้โดยสารตอนต่อไปตั้งแต่ พุทธศักราช 2538 หรือกว่า 22 ปีก่อน แม้จะมีแรงต้านทานในระยะแรก แม้กระนั้นก็ได้รับความร่วมแรงร่วมมือจนถึงนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำนวนของผู้ใช้รถยนต์ ข้อมูลสำรวจปัจจุบัน(2557) โดยมูลนิธิไทยโรดส์ เจออัตราการคาดสายรัดเอวตอนต่อไป เฉลี่ย 2 ใน 3 หรือร้อยละ 60 กว่าๆแม้ว่าจะยังไม่ 100% แม้กระนั้นแม้กระนั้น ก็พบว่ามีผู้ขับรถยนต์และผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยมาย ที่รอดตายเนื่องจากคาดเข็มขัดนิรภัย(เข็มขัดนิรภัยสามารถลดความร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้ถึง 34-40 % เทียบกับการไม่คาดเข็มขัด) การเสี่ยงสำหรับการเดินทางของรถเมล์สาธารณะของประเทศไทย เกิดเรื่องน่าประหลาดที่ ผู้โดยสารรถเมล์สาธารณะไม่รู้จักถึงข้อมูลทั้งเรื่องความเสี่ยงอันตรายสำหรับเพื่อการเดินทาง สถิติอุบัติเหตุ หรือแม้แต่ ผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถึงหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงจะเร่งผลักดันและแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมาจากการเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะโดยตลอด เป็นต้นว่า การต่อว่าดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถเมล์สาธารณะทุกหมวดหมู่รวมทั้งบังคับให้ผู้โดยสารจำเป็นต้องคาดเข็มขัดตลอดการเดินทาง, การติดตั้งระบบ GPS ในรถเมล์สาธารณะทุกคัน เป็นต้น แต่เนื่องด้วยมีผู้ประกอบธุรกิจที่ด้อยคุณภาพเยอะมากเข้ามาอยู่ในระบบ ประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายรวมทั้งปริมาณบุคลากรเจ้าหน้าที่ไม่พอที่จะใช้ควบคุมส่งผลให้มีช่องว่างของปัญหาจนสร้างความเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดกับผู้โดยสาร ซึ่งมีอยู่ 4 ส่วนประกอบอย่างเช่น พนักงานขับรถ โดยมูลเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจากความอ่อนเพลีย และความประพฤติการขับที่เสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตราย ยกตัวอย่างเช่น การขับรถยนต์เร็ว การขาดประสบการณ์รวมทั้งทักษะสำหรับเพื่อการขับรถ รวมถึงระบบผลประโยชน์ต่างๆแก่พนักงานขับรถ ยานพาหนะ ที่ขาดการกำหนด “มาตรฐานตามแบบสากล”และก็ระบบการทดลองความแข็งแรงด้านส่วนประกอบและการยึดเกาะเก้าอี้ รวมทั้งระบบการควบคุมมาตรฐานรถที่เอามาให้บริการผู้โดยสาร ผู้ประกอบการ ไม่จัดการระบบความปลอดภัยและไม่มีแผนการรองรับความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุ ที่ขาดเงินทุน มีรถยนต์เฉลี่ย 1-2 คันและไม่มีอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเอง รวมทั้ง ไม่มีระบบตรววจสอบสำหรับในการซ่อมบำรุง สภาพทาง โดยในประเทศไทยมีเส้นทางเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายและไม่เหมาะสมกับรถโดยสารโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์สองชั้น มากถึง 85 เส้นทาง ทั้งยังขาดระบบกระบวนการทำ Road Safety Audit ถนนทุกเส้นในประเทศไทยนำมาซึ่งการทำให้ถนนหนทางมิได้มาตรฐานและไม่มีความปลอดภัยสำหรับในการใช้งาน ระบบสัญญาประกันภัยแล้วก็การทดแทนเยียวยาอุบัติเหตุจากรถประจำทางสาธารณะในประเทศไทย จากความเสี่ยงอีกทั้งสภาพคนขับรถที่ปราศจากความพร้อม ภาวะรถยนต์ที่ไม่ปลอดภัย การดูและเอาใจใส่ของผู้ประกอบการสภาพทาง ทำให้การเกิดอุบัติเหตุทางถนนหนทางของรถโดยสารสาธารณะซึ่งหลายๆสถานะการณ์สามารถคุ้มครองป้องกันได้ แม้กระนั้นอย่างไรก็ดี ในเมื่อเกิดอุบัติเหตุกระทั่งมีผู้โดยสารเจ็บรวมทั้งเสียชีวิตคำถามเป็น เมืองไทยมีระบบระเบียบในการให้ความช่วยเหลือเพื่อทดแทนแก้ไขมากมายน้อยเพียงใดและก็เหมาะสมกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่า จึงควรทำความเข้าใจระบบการชดเชยแก้ไขในปัจจุบันโดยสามารถที่จะทำการแบ่งออกได้เป็น 2 ต้นแบบ ยกตัวอย่างเช่น คาดเข็มขัดนิรภัย เฉพาะตอนหน้าก็น่าจะพอเพียงไหม ? ผู้โดยสารภายหลัง จะมีความเชื่ออยู่แล้วว่า .. นั่งข้างหลังมิได้ถูกแรงปะทะเมื่อมีการชนราวกับผู้ที่นั่งตอนหน้า แถมยังมีเบาะไว้รอกันอีกด้วย ถ้าเป็นแท๊กซี่ก็นั่งไม่นานสักครู่ก็ลงแล้ว ในส่วนรถยนต์ปิกอัพ ที่ธรรมดาจะจดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนตัวสองที่นั่ง ก็มีสายรัดเอวเฉพาะตอนหน้า (ไม่มีเข็มขัดนิรภัยสำหรับ space cap) แม้กระนั้นในชีวิตจริงจะมีผู้โดยสารนั่งใน space cap อยู่จนถึงเป็นปกติประกอบกับการเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะ ทั้งรถตู้โดยสารแล้วก็แท๊กซี่ สายรัดเอวผู้โดยสารหลังจากนั้น จะถูกพับเก็บไว้หรือไม่ก็ซุกอยู่ใต้เบาะ ทำให้ยุ่งยากสำหรับเพื่อการนำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นลงในระยะทางสั้นๆ ทั้งหมดนี้ ล้วนทำให้ ม.44 ป้ายประกาศบังคับใช้ในคราวนี้ก่อให้เกิดแรงต้านทานพอเหมาะพอควร โดยยิ่งไปกว่านั้นกรุ๊ปรถสาธารณะอย่างกรณีแท๊กซี่รวมทั้งปิกอัพ จากความเชื่อว่านั่งหลังปลอดภัยถึงแม้ไม่ต้องคาดเข็มขัด .. ตามความจริง รถที่วิ่งด้วยความเร็ว 60 กม/ชั่วโมง จะทำให้ทุกคนบนรถยนต์พุ่งไปด้านหน้าแล้วก็เมื่อมีการปะทะคนหรือวัตถุในตัวรถ แรงปะทะจะเทียบเท่ากับการ “ตกตึก 5 ชั้น” ทำให้คนที่ไม่คาดเข็มขัด ทะลุกระจกออกมาได้เลย หรือไม่ก็ชนเก้าอี้หรือคนตอนหน้าให้ได้รับบาดเจ็บไปด้วย เพื่อนบ้านอย่าง “มาเลเชีย” ก็มีการบังคับใช้เข็มขัดตอนหลังเมื่อ 2 ปีกลาย แต่ว่าที่น่าสนใจเป็น ผลประเมินจาก MIROS (Malaysia Institute of Road Safety) พบว่าสามารถช่วยลดการถึงแก่กรรมของผู้โดยสารภายหลังได้ถึง 70% เมื่อปีกว่าๆเรื่องเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารภายหลังถูกเอ่ยถึงกันมากในอเมริกา จากการสูญเสียJohn Nash ผู้ครอบครองรางวัลโนเบิลไพรศรีส์ ที่สิ้นชีวิตบนรถยนต์แท๊กซี่เพราะว่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยสื่อมวลชนแล้วก็พลเมืองหันมารณรงค์ให้เพิ่มการเข้มงวดและใช้เข็มขัดนิรภัยกับผู้โดยสารตอนหลัง เนื่องจากมีข้อมูลที่บอกว่าผู้โดยสารที่เสียชีวิตมีถึง 55% ที่ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย ยิ่งกว่านั้นยังมีถึง 22 เมืองที่มิได้มีข้อบังคับบังคับใช้การคาดคะเนเข็มขัดนิรภัยในรถแท๊กซี่ บ้านพวกเราหากแม้ยังไม่มีข้อมูลที่แยกผู้ที่นั่งตอนต่อไปและส่วนท้าย แม้กระนั้นในช่วงเทศกาล (ปีใหม่-วันสงกรานต์) ที่ผ่านๆมาจะพบว่า คนที่เสียชีวิตจากรถส่วนบุคคล จะมีสัดส่วนที่ใช้เข็มขัดนิรภัยเพียงแค่1 ใน 4 หมายความว่าโดยมาก (3 ใน 4 หรือปริมาณร้อยละ 75) ของผู้เสียชีวิตมิได้คาดเข็มขัดนิรภัย วิธีโดยสารรถตู้ให้ปลอดภัย รถตู้รับจ้าง รถตู้รับจ้างเป็นรถประจำทางอย่างหนึ่งที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหยุดรถยนต์ทุกป้ายราวกับอย่างรถเมล์ และสามารถทำเวลาได้อย่างเร็ว แม้กระนั้นรถตู้ก็เป็นหนทางหนึ่งให้มิจฉาชีพดำเนินการได้สบาย เนื่องจากมีผ้าม่านบังสายตาคนข้างนอก ข้างในกว้างใหญ่เอื้อต่อการก่อเหตุ แล้วก็สามารถเปลี่ยนที่หลบหนีได้อย่างรวดเร็ว จะต้องเป็นรถตู้ถูกตามกฎหมายเพียงแค่นั้น คุณควรต้องเลือกรถตู้ที่อยู่ในทางประจำ และวิ่งบนทางที่ไม่เปลี่ยวจนเกินไป เนื่องจากรถตู้ที่วิ่งในทางประจำ จะมีผลให้คุณทายใจได้ว่าอีกนานเยอะแค่ไหนจะถึงจุดหมาย หรือรถยนต์วิ่งออกนอกทางหรือไม่ เป็นการสร้างความปลอดภัยในตนเองระดับหนึ่ง ต่างกับรถตู้ผีที่วิ่งรับผู้โดยสารพาเข้าเส้นทางลัดแปลกๆอยู่เป็นประจำ อย่าอยู่บนรถตู้คนเดียว จดจำไว้ว่าคุณอย่าขึ้นรถตู้เป็นคนแรกหรือลงเป็นคนท้ายที่สุด ทางที่ดีคุณควรรอคอยให้มีคนขึ้นรถตู้สัก 2-3 คนก่อนจะขึ้นไปนั่งรอคอยคนเดียว หรือเลือกลงจากรถตู้ในป้ายใหญ่ๆอย่ายินยอมคนขับตู้ที่อ้างถึงว่าจะไปส่งที่บ้านให้ เนื่องจากว่าจะไปทางนั้นเหมือนกันตอบไม่ยอมรับแม้ว่าเขาจะดูเป็นคนดีหรือสุภาพเรียบร้อยขนาดไหนก็ตาม แล่นนอกเส้นทางรีบถาม การนั่งรถยนต์สาธารณะไม่ใช่การนั่งรถกินลม คุณจำเป็นต้องสังเกตว่ารถยนต์ออกนอกทางตั้งแต่เวลาใด แต่ถามหรือทักท้วงผู้ขับว่าจะไปเส้นทางไหน หากให้คำตอบที่ทำให้ท่านยังไม่มั่นใจนักให้ผู้ขับจอดในที่ชุมชนแล้วคิดแผนหารถต่อ ไปเองดียิ่งกว่าที่จะนั่งเสี่ยงโดยให้รถตู้พาไปไหนก็ไม่รู้ คนขับกลายเป็นคนร้าย ถ้าเกิดเวลาผ่านไปผู้ขับฉีกหน้ากากออกกลายเป็ยคนร้ายที่มุ่งต่อชีวิตและสินทรัพย์คุณ ให้รีบเปิดหน้าต่างตะคอกวิงวอน และสร้างสถานการณ์ให้มีพิรุธเป็นจุดสนใจ ได้แก่ ทิ้งกระเป๋า หรือของใช้ส่วนตัวมาอย่างจงใจ ถ้าเกิดคนร้ายไม่หยุดรถยนต์ รอจังหวะตอนติดไฟแดงหรือยามรถแล่นด้วยความเร็วไม่สูงนัก กระโดดเข้ากดแตรรถให้ดัง ถ้าหากประตูเปิดได้ให้เกลือกตัวลงมาแบบเก็บคองอเข่า หรือป่ายปีนหน้าต่างออกมาให้เร็วที่สุด เครดิตบทความจาก : http://www.vancarforday.com/ Tags : รถตู้เช่า,รถตู้พร้อมคนขับ,ให้เช่ารถตู้ กรุงเทพ
|