หัวข้อ: รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด เริ่มหัวข้อโดย: rooneykung1 ที่ มกราคม 15, 2020, 08:41:50 am (https://1.bp.blogspot.com/-krk_7mMfkq4/Xhn89_SWzPI/AAAAAAABddE/vZh7H2eDBi81rMqUw5rzMzY58y3TSLDSgCNcBGAsYHQ/s640/New%2BMG%2BHS06.jpg)
รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด เว้นเสียแต่เครื่องจักรรวมทั้งชุดเกียร์ที่ยกมาจาก MG GS แล้วทุกสิ่งทุกอย่างใน MG HS 1.5 Turbo นั้นยกเครื่องมาให้ทั้งปวง แล้วก็อย่ามีความรู้สึกว่าเครื่องเกียร์เดียวกันมันจะเช่นกันนะ[/b] พวกเราเพิ่งก้าวลงจาก MG HS ที่ขับพาไปส่งจุดหมายในย่านลำคลองสานหลังจากที่มีการใช้เวลาร่วมกันมาราววันครึ่งสองวัน สรุปสั้นๆมันบางทีอาจไม่ใช่รถยนต์ที่เหมาะสมที่สุด เลิศที่สุด คุ้มค่าคุ้มคุ้มราคาที่สุดในมุมมองของผู้คนจำนวนมาก แต่ว่าเชื่อเถอะว่ามันทำออกมาได้ดีมากว่าที่คิดจำนวนมากเลยทีเดียว คุณมีความรู้สึกว่าตนเองคาดหมายอะไรกับการซื้อรถยนต์เอสยูวีหรือรถยนต์นั่งเอนกประสงค์หนึ่งคันในราคาล้านนิดๆความสามารถการขับขี่ ความนิ่มนวลของช่วงล่าง เทคโนโลยีนำสมัย นั่งสบาย กว้างขวาง ระบบการช่วยเหลือแน่นๆMG HS คือหนึ่งในรถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นพวกนี้ครบทั้งปวง ดีไซน์ข้างนอกของตัวรถอาจเอกลักษณ์การออกแบบของ MG แม้กระนั้นที่พรีเมี่ยมขึ้นเป็นระบบไฟ แอลอีดี เต็มรูปแบบยังมากับไฟเลี้ยวแบบ Sequential กระจังหน้าเขากล่าวว่าเป็นวางแบบที่เสมือนโลโก้อยู่ท่ามกลางดวงดาว ล้อมด้วยพรอบโครเมี่ยม เสาอากาศแบบครีบฉลาม มีสปอยเลอร์ข้างหลังในตัวท็อป แม้กระนั้นหากจะให้โก้เก๋แปลงสปอยเลอร์ข้างหลังแต่ว่า หรือเปลี่ยนแปลงมันอีกทั้งชุดเลยทั้งกรอบวัวรเมี่ยม กันชนหน้าข้างหลังสีดำแบบคันที่เราได้ขับในครั้งนี้บอกเลยว่าสวย ด้านในตัวท็อปจะเป็นเบาะแบบ Bucket Seat เด่นไม่เหมือนใคร สำหรับเราที่เป็นเพศชายหุ่นมาตรฐานก็นั่งสบายดี รับแขน รับศีรษะ ขับก็บันเทิงใจ ตอนนั่งหลับก็สบาย ส่วนเบาะต่อมาเท่าที่นั่งประมาณหนึ่งจัดว่าดีแล้วก็มีการปรับระยะเอนได้ ข้างในห้องโดยสารจัดว่ากว้างแล้วก็ยิ่งดูกว้างเยอะขึ้นด้วยพาโนรามิคซันรูฟปรับไฟฟ้าพร้อมม่านบังแดด ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆที่จำเป็นต้องมีให้ใช้พร้อม แต่ว่าหลายๆปุ่มแย่างการควบคุมระบบปรับอากาศก็ถูกย้ายไปอยู่ในจอกลางขนาด 10 นิ้วสถานที่ทำงานได้เยี่ยมเสมือนแท็ปเล็ตแพงๆดีๆเครื่องหนึ่งเลย เครื่องจักรแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับ E85 ขับกับชุดเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด หรือเราบางครั้งอาจจะคุ้นกว่าหากเรียกว่า Dual Clutch Transmission หรือ DCT ซึ่งทั้งคู่ชูมาจาก MG GS อย่าพึ่งตกใจที่เราพูดว่าชูมาจาก MG GS เพราะเครื่องจักรแล้วก็เกียร์ชุดดีมีการปรับจูนใหม่ทั้งผอง ลืมภาพรวมทั้งความรู้สึกที่น่าอารมณ์เสีย ขัดใจใน MG GS ทิ้งไปได้เลย เนื่องจากว่าเมื่อเทียบกันแล้ว MG HS ถือว่าดีเยี่ยมมาก ตลอดการใช้งานไม่พบการเปลี่ยนเกียร์ ฟึดฟัด ฮึดฮัด ให้อารมณ์เสีย รำคาญ แม้จะเป็นตอนใช้งานในเมืองที่รถติด เครื่องจักรรวมทั้งเกียร์สนองตอบได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับเพื่อการเดินทางในทริปนี่เราออกจากกรุงเทพมุ่งหน้าเขาใหญ่ จังหวะไหนที่อยากจะแซงก็เหลือๆสบายๆอาการเกียร์ทึ่มจนถึงน่าหงุดหงิดดวงใจไม่มีให้มองเห็น ถ้าหากเทียบกับ MG GS แล้ว MG HS นับว่าฉลาดหลักแหลมขึ้นมาก แนวทางการทำงานของเครื่องยนต์กลไก เกียร์ คันเร่ง ตอบสนองตามโหมดการขับขี่ทั้งผอง 4 โหมดอย่างเช่น Eco, Normal, Sport หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับการตอบสนองต่างๆอีกทั้งเครื่องยนต์ พวงดอกไม้และก็อื่นๆได้ตามใจ รวมทั้งยังมีปุ่มอัศจรรย์อย่าง Super Sport ที่ให้การตอบสนองแบบตื่นเต้นที่สุด หากเอาโหมดมาตรฐานหรือ Normal เป็นที่ตั้งแล้ว ทางวิศวกรกล่าวว่าโหมด Sport จะมีรอบที่ตึงกว่าราว 50 รอบต่อนาทีแม้กระนั้นจะมีผลให้คนขับขี่ใช้ Paddle Shift ได้ ในช่วงเวลาที่โหมด Super Sport จะมีรอบที่สูงกว่าโหมดมาตรฐานราว 400 รอบต่อนาที มีการค้างรอบคาเกียร์เอาไว้ให้พร้อมใช้งานมากยิ่งกว่าในโหมด Sport ความรู้สึกที่กระจ่างเลยคือในโหมด Eco และก็ Normal นั้นจะให้การตอบสนองต่อคันเร่งที่นุ่มนวล อาจจะต้องรอนิดหน่อยแม้กระนั้นครู่หนึ่งก็จะเร่งแซงด้วยแรงแบบเหลือเฟือ ส่วนในโหมด Sport และ Super Sport จะกดคันเร่งแล้วพุ่งทันใจ ในจังหวะที่การจราจรช้าๆแล้วแตะะๆปลดปล่อยๆก็จะรู้สึกถึงอาการตัวโยกตามก่อนสัมผัสปล่อยคันเร่ง ฮึดฮัดๆพร้อมพุ่งตลอดระยะเวลา ถ้าหากมีผู้ใดบอกคุณว่า MG HS กับ Chevrolet Captiva บ้านเรานั้นแบบเดียวกัน เครื่องเดียวกัน เกียร์เดียวกัน ทีม MG ยืนยันว่าไม่ใช่ แล้วก็คนที่ได้ขับทั้งคู่คันแล้วก็บอกว่าคนละเรื่อง สรุปว่าเรื่องเครื่องยนต์กลไกแล้วก็เกียร์ พอใจ หายห่วง อีกทั้งความฉลาดของเกียร์รวมทั้งการตอบสนองรวมถึงพละกำลังของเครื่องจักรกล ยิ่งหากคุณชอบฟีลลิ่งของรถยนต์มีเกียร์เจ้านี่น่าจะตอบโจทย์ ส่วนโหมดที่เราชอบเยอะที่สุดสำหรับการเดินทางแบบล่องไปเรื่อยคือโหมด Eco ที่ให้การสนองตอบที่นุ่มนวลของคันเร่ง ถ้าหากจะเเซงขาดๆก็กด Super Sport เปลี่ยนเรือนไมล์เป็นสีแดง เพื่อรีบแซงและกดอีกครั้งกลับมา Eco ที่สำคัญคือเราคิดว่าโหมด Eco นั้นดูเหมือนจะสอดรับกับการใช้แรงงานของระบบช่วยเหลือต่างๆได้เนียนที่สุดอีกด้วย ต่อมาที่อีกหนึ่งข้อสำคัญเป็นช่วงล่าง New MG HS นั้นตอนล่างจูนอัพตามแบบ Euro Tuning Suspension โดยใช้ระบบตอนล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลังแบบ Multi-Link ในเขตความเร็วต่ำตอนล่างจัดว่าเฟิร์ม นุ่มนวล ซับแรงกระแทกได้ดิบได้ดี แม้จะมีชนหลุมกระแทกเนินหนักๆบ้างก็ยังจัดว่าเข้าขั้นดีด้วยเหตุว่าอย่างต่ำพี่ที่นั่งมาด้วยก็ไม่พร่ำบ่น ว่ามันกระแทก โยกเยก โยกอะไร แต่ว่าหากว่าขับด้วยความเร็วราวๆหนึ่งก็จะมีแรงสะท้อนจากถนนอยู่บ้าง อย่างมองเห็นบนทางหลวงเลขลำดับ 2 ที่รถบรรทุกใช้งานกันหนาแน่น ถนนพังเหลว ปะ พุ หลายจุดจะรู้สึกถึงแรงสะท้อนได้เยอะ หรือในตอนทำความเร็วอย่างบนทางด่วน ตอนรอยต่อระหว่างแผ่นถนนหนทางจะคนขับขี่รู้สึกได้ถึงผู้กระทำระเด้งเล็กๆ ตอนล่างที่เฟิร์มทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ แต่พวงดอกไม้ที่ค่อย ควบคุมง่าย หมุนสบาย คุณผู้หญิงก็ควงเพลิดเพลินในเขตความเร็วต่ำ-กลาง นั้น พอเพียงในเขตความเร็วสูงหรือในโหมดสปอร์ตที่มีการปรับน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆตามใจเราก็ยังรู้สึกว่าค่อยไป เว้นแต่เรื่องความสามารถการขับขี่ที่พี่ๆสื่อมวลชนที่ร่วมทดลองต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดีมากยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้” แล้ว จำสำหรับแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้วยังเป็นอะไรที่เราประทับใจสุดๆในเรื่องประโยชน์ใช้สอย นี่เป็นหน้าจอสัมผัสที่สุดยอดที่สุดที่ MG เคยมีมารวมทั้งดียอดระดับแถวหน้าของวงการจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสของรถยนต์ ระบบสัมผัสดียอดระดับแท็ปเล็ตดีๆเครื่องหนึ่ง เพียงถูกล็อคฟังก์ชั่นการใช้งานเอาไว้ด้วยระบบของ MG ระบบนำทางเป็นของ TomTom ที่บอกเส้นทางเจริญ แม่น ไม่มีเหวอ ไม่มีงงงัน รวมทั้งบอกภาวะการจราจรแบบ Real Time และ True Music คลังเก็บของเพลงนับล้านแค่กดจอ การเปิดปิดระบบและก็การแจ้งเตือนต่างๆก็ การปรับแบบอย่างไฟในห้องโดยสาร อยู่ในจอนี้ทั้งผองรวมถึงระบบปรับอากาศ จอนี้ยังแสดงผลรอบข้างรถแบบ 360 องศา รวมถึงกล้องที่ทางด้านซ้ายแล้วก็ขวาในความเร็วต่ำ การแสดงภาพตัวรถแบบ 3 มิติเพื่อช่วยตรวจภาวะรอบๆของตัวรถ ทั้งหมดทั้งปวงเลือกกดบนหน้าจอได้เลย ในรุ่นท็อปอย่าง MG HS X นั้นนอกเหนือจากพาโนรามิคซันรูฟและก็เบาะนั่งแล้ว ยังมีระบบระเบียบที่เพิ่มเข้ามาช่วยทั้ง Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist รวมทั้งอื่นๆอีกเยอะ นอกเหนือจากเรื่องความสามารถเรื่องของระบบช่วยเหลือนับว่าเป็นอีกประเด็นที่ดียิ่งกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้ การทดงานของ ACC เมื่ออยู่กับโหมดการขับขี่แบบ Eco จะนุ่มนวลลื่นไหลสุดๆปฏิบัติงานได้ตั้งแต่ความเร็วเริ่มต้น ออกตัว จนกระทั่งหยุดสนิทแล้วก็เมื่อรถยนต์คันหน้าหยุดพวกเราก็หยุด แม้เกินขณะที่ระบุระบบจะเตือนให้พวกเราเหยียบคันเร่งนิดหน่อยเมื่อรถยนต์คันหน้าออกตัวเพื่อ Activate ระบบอีกครั้ง แต่ในจุดเด่นก็มีข้อเสียถึงแม้ระบบควบคุมอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ จะใช้งานในเมือง ตอนรถติด จราจรไหลๆได้ แต่ว่าพอคันหน้าหยุด ตัวรถจะเบรกค่อนข้างจะรุนแรงไปสักนิด หากขับคนเดียวบางทีอาจพอทนได้ แต่ว่าผู้โดยสารมาน่าจะอารมณ์เสียรวมทั้งวิงเวียนอยู่ ส่วนคนไหนกันที่อยากรู้รายละเอียดว่าระบบความปลอดภัยแล้วก็ช่วยเหลืออะไรเพิ่มเข้ามาบ้างนอกจาก 14 ระบบความปลอดภัยรากฐาน ก็ประมาณนี้นะครับ • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) • ระบบช่วยเตือนเมื่ออยากได้เปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีโอกาสเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบผันแปร ACC (Adaptive Cruise Control) • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถยนต์ออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) • ระบบช่วยควบคุมรถยนต์เมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) • ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) สำหรับท่านที่ไม่สบายใจเรื่องเสียงในห้องโดยสาร MG HS ถือเป็นรถอีกรุ่นที่เก็บเสียงในห้องโดยสารได้ดี ที่ความเร็วราว 120 กม./ชม. นั้นไม่มีลมตีโวยวาย คนใดกันที่ชินกับปุ่ม Cruise Control บนพวงมาลัยแบบรถประเทศญี่ปุ่น ต้องใช้เวลาปรับตัวกับการใช้แรงงานที่ก้านแบบรถยนต์ยุโรปนิดหน่อย แต่ว่าแป๊ปเดียวก็คล่องแคล่ว รถยนต์คันที่พวกเราได้ขับนั้นจะเป็นคันที่มาพร้อมชุดแต่งโครเมี่ยมสีดำ สปอยเลอร์ข้างหลังสีดำ และภายนอกอีกหลายจุด ที่เราคิดว่างามกว่าของเดิมที่เป็นโครเมี่ยมมากมาย ราคาโดยประมาณของอีกทั้งเซ็ตอยู่ที่ไม่เกิน 1.8 – 2 หมื่นบาท ส่วนคนที่ซื้อรุ่นรองท็อปรวมทั้งตัวล่างนั้น เพิ่มฟังก์ชั่นฝาด้านหลังไฟฟ้ารวมทั้งเซนเซอร์เพื่อเตะแล้วเปิดฝาท้ายอัตโนมัติได้ในราคาโดยประมาณ 1.8 หมื่นบาท ส่วนรุ่นท็อปที่เปิดประตูไฟฟ้าอยู่แล้วนั้น ซื้อฟังก์ชั่นเซนเซอร์เตะเพื่อเปิดมิได้ สำหรับโปรโมชั่น 1,000 คันแรก รับการลดราคา 34,000 บาท สำหรับในการซื้อชุดวัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง หรือนำไปเป็นส่วนลดของราคาขายรถยนต์ได้โดยทันที พร้อมทั้งการรับรองประสิทธิภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กม. ตอนนี้ทะลุไปนานแล้ว แต่ยังไงใช้โปรฯ นี้ได้ในงาน Motor Expo 2019[/b] ราคา MG HS New MG HS รุ่น C ราคา 919,000 บาท New MG HS รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท New MG HS รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : mg hs 1.5 turbo Tags : mg hs 1.5 turbo
|