|
หัวข้อ: รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด เริ่มหัวข้อโดย: rooneykung ที่ มกราคม 16, 2020, 03:13:59 pm (https://1.bp.blogspot.com/-6RcIfp9jD28/Xhn89TilxEI/AAAAAAABdc8/f8cWs729iug7kBf0PAeDOB5wGmVLAmgFgCNcBGAsYHQ/s640/New%2BMG%2BHS04.jpg)
รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด เว้นเสียแต่เครื่องยนต์กลไกแล้วก็ชุดเกียร์ที่ชูมาจาก MG GS แล้วทุกๆสิ่งทุกๆอย่างใน MG HS 1.5 Turbo นั้นยกเครื่องมาให้ทั้งปวง แล้วก็อย่ารู้สึกว่าเครื่องเกียร์เดียวกันมันจะเหมือนกันนะ[/b] พวกเราเพิ่งก้าวลงจาก MG HS ที่ขับพาไปส่งจุดมุ่งหมายในบริเวณคลองสานหลังใช้เวลาด้วยกันมาราววันครึ่งสองวัน สรุปสั้นๆมันบางทีอาจไม่ใช่รถยนต์ที่ดีที่สุด เยี่ยมที่สุด คุ้มคุ้มคุ้มราคาที่สุดในมุมมองของผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย แม้กระนั้นเชื่อเถอะว่ามันทำออกมาได้ดีมากยิ่งกว่าที่คิดมากมายอย่างยิ่งจริงๆ คุณมีความคิดว่าตนเองคาดหวังอะไรกับการซื้อรถยนต์เอสแสงอัลตราไวโอเลตหรือรถยนต์นั่งเอนกประสงค์หนึ่งคันในราคาล้านนิดๆความสามารถการขับขี่ ความนุ่มนวลของตอนล่าง เทคโนโลยีนำสมัย นั่งสบาย กว้างขวาง ระบบความช่วยเหลือแน่นๆMG HS คือหนึ่งในรถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นพวกนี้ครบทั้งสิ้น วางแบบด้านนอกของตัวรถยนต์คงจะเอกลักษณ์การออกแบบของ MG แต่ที่พรีเมี่ยมขึ้นคือระบบไฟ LED เต็มแบบอย่างยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบ Sequential กระเต็มหน้าเขากล่าวว่าเป็นดีไซน์ที่เสมือนโลโก้อยู่ท่ามกลางดวงดาว ล้อมด้วยพรอบวัวรเมี่ยม เสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม มีสปอยเลอร์ข้างหลังในตัวท็อป แต่ถ้าหากจะให้โก้เปลี่ยนแปลงสปอยเลอร์หลังแม้กระนั้น หรือเปลี่ยนแปลงมันอีกทั้งชุดเลยทั้งกรอบโครเมี่ยม กันชนหน้าข้างหลังสีดำแบบคันที่เราได้ขับในคราวนี้บอกเลยว่างาม ภายในตัวท็อปจะเป็นเบาะแบบ Bucket Seat เด่นไม่มีใครเหมือน ส่วนตัวสำหรับเราที่เป็นเพศชายหุ่นมาตรฐานก็นั่งสบายดี รับแขน รับหัว ขับก็สนุก ตอนนั่งหลับก็สบาย ส่วนเบาะหลังจากนั้นเท่าที่นั่งโดยประมาณหนึ่งจัดว่าดีและก็มีการปรับระยะเอนได้ ข้างในห้องโดยสารจัดว่ากว้างแล้วก็ยิ่งมองกว้างเพิ่มมากขึ้นด้วยพาโนรามิคซันรูฟปรับไฟฟ้าพร้อมที่บังแดด ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆที่จำเป็นจะต้องมีให้ใช้พร้อม แต่ว่าหลายๆปุ่มแย่างการควบคุมระบบปรับอากาศก็ถูกย้ายไปอยู่ในจอกลางขนาด 10 นิ้วที่ทำงานได้ดีเยี่ยมที่สุดราวกับแท็ปเล็ตแพงๆดีๆเครื่องหนึ่งเลย เครื่องจักรกลแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับ E85 เคลื่อนกับชุดเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด หรือพวกเราบางครั้งอาจจะคุ้นกว่าแม้เรียกว่า Dual Clutch Transmission หรือ DCT ซึ่งทั้งคู่ยกมาจาก MG GS อย่าพึ่งจะสะดุ้งที่พวกเราบอกว่ายกมาจาก MG GS เพราะว่าเครื่องจักรกลและก็เกียร์ชุดดีมีการปรับจูนใหม่ทั้งผอง ลืมภาพและความรู้สึกที่น่าอารมณ์เสีย ขัดใจใน MG GS ทิ้งไปได้เลย ด้วยเหตุว่าเมื่อเทียบกันแล้ว MG HS จัดว่าบรรเจิดมากมาย ตลอดการใช้งานไม่พบการเปลี่ยนเกียร์ ฟึดฟัด ฮึดฮัด ให้หงุดหงิด รำคาญ แม้จะเป็นตอนใช้งานในเมืองที่รถติด เครื่องจักรกลและก็เกียร์ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับในการเดินทางในทริปนี่เราออกมาจากกรุงเทวดามุ่งหน้าเขาใหญ่ จังหวะไหนที่อยากจะแซงก็เหลือๆสบายๆอาการเกียร์โง่จนกระทั่งน่าหงุดหงิดจิตใจไม่มีให้เห็น ถ้าหากเทียบกับ MG GS แล้ว MG HS จัดว่าฉลาดหลักแหลมมากยิ่งกว่าเดิม แนวทางการทำงานของเครื่องจักร เกียร์ คันเร่ง สนองตอบตามโหมดการขับขี่ทั้งสิ้น 4 โหมดอย่างเช่น Eco, Normal, Sport หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับการโต้ตอบต่างๆทั้งยังเครื่องจักร พวงดอกไม้และอื่นๆได้ตามใจ รวมทั้งยังมีปุ่มมหัศจรรย์อย่าง Super Sport ที่ให้การสนองตอบแบบตื่นเต้นที่สุด แม้เอาโหมดมาตรฐานหรือ Normal เป็นที่ตั้งแล้ว ทางวิศวกรพูดว่าโหมด Sport จะมีรอบที่ตึงกว่าราว 50 รอบต่อนาทีแม้กระนั้นจะมีผลให้ผู้ขับขี่ใช้ Paddle Shift ได้ ขณะที่โหมด Super Sport จะมีรอบที่สูงกว่าโหมดมาตรฐานราว 400 รอบต่อนาที มีการคารอบติดอยู่เกียร์เอาไว้ให้พร้อมใช้งานมากยิ่งกว่าในโหมด Sport ความรู้สึกที่แจ่มแจ้งเลยคือในโหมด Eco และ Normal นั้นจะให้การตอบสนองต่อคันเร่งที่นุ่มนวล บางทีอาจจะต้องรอนิดหน่อยแม้กระนั้นสักพักก็จะเร่งแซงด้วยแรงแบบเหลือเฟือ ส่วนในโหมด Sport รวมทั้ง Super Sport จะกดคันเร่งแล้วพุ่งทันใจ ในจังหวะที่การจราจรช้าๆแล้วแตะะๆปลดปล่อยๆก็จะรู้สึกถึงอาการตัวโยกตามก่อนสัมผัสปลดปล่อยคันเร่ง ฮึดฮัดๆพร้อมพุ่งตลอดเวลา ถ้ามีคนไหนกันบอกคุณว่า MG HS กับ Chevrolet Captiva บ้านเรานั้นเช่นเดียวกัน เครื่องเดียวกัน เกียร์เดียวกัน กลุ่ม MG ยืนยันว่าไม่ใช่ แล้วก็ผู้ที่ได้ขับทั้งสองคันและกล่าวว่าคนละเรื่อง ตกลงว่าเรื่องเครื่องยนต์กลไกแล้วก็เกียร์ พอใจ หายห่วง ทั้งยังความฉลาดของเกียร์รวมทั้งการโต้ตอบรวมถึงกำลังของเครื่องจักร ยิ่งถ้าคุณถูกใจฟีลลิ่งของรถมีเกียร์เจ้านี่คงจะตอบปัญหา ส่วนโหมดที่เราถูกใจเยอะที่สุดในการเดินทางแบบล่องไปเรื่อยๆเป็นโหมด Eco ที่ให้การตอบสนองที่นุ่มนวลของคันเร่ง ถ้าจะเเซงขาดๆก็กด Super Sport แปลงเรือนไมล์เป็นสีแดง เพื่อเร่งแซงและก็กดอีกรอบกลับมา Eco ที่สำคัญคือพวกเรามีความคิดว่าโหมด Eco นั้นดูเหมือนจะสอดรับกับการใช้แรงงานของระบบช่วยเหลือต่างๆได้เนียนที่สุดอีกด้วย ต่อมาที่อีกหนึ่งสาระสำคัญคือช่วงล่าง New MG HS นั้นตอนล่างจูนอัพตามแบบ Euro Tuning Suspension โดยใช้ระบบช่วงล่างข้างหน้าแบบ MacPherson Strut ข้างหลังแบบ Multi-Link ในเขตความเร็วต่ำตอนล่างจัดว่าเฟิร์ม นุ่มนวล ซับแรงชนเจริญ แม้จะมีกระแทกหลุมกระแทกเนินหนักๆบ้างก็ยังจัดว่าเข้าขั้นดีด้วยเหตุว่าอย่างต่ำพี่ที่นั่งมาด้วยก็ไม่พร่ำบ่น ว่ามันกระแทก โยกเยก โคลงอะไร แม้กระนั้นถ้าหากว่าขับด้วยความเร็วราวๆหนึ่งก็จะมีแรงสะท้อนจากถนนอยู่บ้าง อย่างเห็นบนถนนหลวงเลขลำดับ 2 ที่รถบรรทุกใช้งานกันหนาแน่น ถนนพังเละ ปะ พุ หลายจุดจะรู้สึกถึงแรงสะท้อนได้เยอะแยะ หรือในช่วงทำความเร็วอย่างบนทางด่วน ตอนรอยต่อระหว่างแผ่นถนนจะคนขับขี่รู้สึกได้ถึงการกระเด้งเล็กๆ ช่วงล่างที่เฟิร์มทำให้เข้าโค้งได้อย่างแน่ใจ แม้กระนั้นพวงมาลัยที่ค่อย ควบคุมง่าย หมุนสบาย คุณสุภาพสตรีก็ควงเพลิดเพลินในย่านความเร็วต่ำ-กลาง นั้น พอเพียงในเขตความเร็วสูงหรือในโหมดสปอร์ตที่มีการปรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นตามใจเราก็ยังมีความรู้สึกว่าเบาไป เว้นแต่เรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่พี่ๆสื่อมวลชนที่ร่วมทดลองต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดีกว่าที่คิดเอาไว้” แล้ว จอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้วยังเป็นอะไรที่เราประทับใจสุดๆในเรื่องคุณประโยชน์ใช้สอย นี่เป็นจอสัมผัสที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ MG เคยมีมาและดียอดระดับแถวหน้าของวงการหน้าจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสของรถยนต์ ระบบสัมผัสดีเยี่ยมระดับแท็ปเล็ตดีๆเครื่องหนึ่ง ก็แค่ถูกล็อคฟังก์ชั่นการใช้งานเอาไว้ด้วยระบบของ MG ระบบนำทางเป็นของ TomTom ที่บอกทางได้ดี ถูกต้องแม่นยำ ไม่มีเหวอ ไม่มีงวยงง แล้วก็บอกภาวะการจราจรแบบ Real Time พร้อมด้วย True Music คลังเพลงนับล้านเพียงแค่กดหน้าจอ การเปิดปิดระบบและก็การแจ้งเตือนต่างๆก็ การปรับแบบอย่างไฟในห้องโดยสาร อยู่ในจอนี้ทั้งหมดทั้งปวงรวมถึงระบบปรับอากาศ หน้าจอนี้ยังแสดงผลรอบตัวรถแบบ 360 องศา รวมถึงกล้องถ่ายรูปที่ด้านซ้ายและขวาในความเร็วต่ำ การแสดงภาพตัวรถแบบ 3 มิติเพื่อช่วยตรวจภาวะรอบๆของตัวรถ ทั้งสิ้นเลือกกดบนหน้าจอได้เลย ในรุ่นท็อปอย่าง MG HS X นั้นเว้นเสียแต่พาโนรามิคซันรูฟและก็เบาะนั่งแล้ว ยังมีระบบที่เพิ่มเข้ามาช่วยทั้งยัง Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist รวมทั้งอื่นๆอีกเยอะ นอกเหนือจากเรื่องความสามารถเรื่องของระบบช่วยเหลือนับว่าเป็นอีกเรื่องที่ดีมากกว่าที่เราคาดเอาไว้ การทดงานของ ACC เมื่ออยู่กับโหมดการขับขี่แบบ Eco จะนุ่มนวลลื่นไหลสุดๆดำเนินการได้ตั้งแต่ความเร็วเริ่มต้น ออกสตาร์ท จนถึงหยุดสนิทรวมทั้งเมื่อรถคันหน้าหยุดเราก็หยุด ถ้าหากเกินตอนที่กำหนดระบบจะเตือนให้พวกเราเหยียบคันเร่งเล็กน้อยเมื่อรถคันหน้าออกสตาร์ทเพื่อ Activate ระบบอีกที แต่ว่าในจุดเด่นก็มีข้อเสียแม้ระบบควบคุมอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ จะใช้งานในเมือง ตอนรถติด จราจรไหลๆได้ แม้กระนั้นพอเพียงคันหน้าหยุด ตัวรถยนต์จะเบรกออกจะรุนแรงไปสักนิด ถ้าขับผู้เดียวบางทีอาจพอทนได้ แม้กระนั้นผู้โดยสารมาน่าจะหงุดหงิดรำคาญแล้วก็มึนหัวอยู่ ส่วนคนไหนกันที่ต้องการรู้เนื้อหาว่าระบบความปลอดภัยแล้วก็ช่วยเหลืออะไรเพิ่มเข้ามาบ้างเว้นเสียแต่ 14 ระบบความปลอดภัยเบื้องต้น ก็ราวๆนี้ครับผม • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) • ระบบช่วยเตือนเมื่ออยากเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับรถ FCW (Forward Collision Warning) • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบผัน ACC (Adaptive Cruise Control) • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถยนต์ออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) • ระบบช่วยควบคุมรถยนต์เมื่อรถยนต์จะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) • ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) สำหรับท่านที่เป็นห่วงเรื่องเสียงในห้องโดยสาร MG HS ถือเป็นรถอีกรุ่นที่เก็บเสียงในห้องโดยสารเจริญ ที่ความเร็วราว 120 กิโลเมตร/ชม. นั้นไม่มีลมตีโหวกเหวก คนไหนกันแน่ที่คุ้นชินกับปุ่ม Cruise Control บนพวงดอกไม้แบบรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น จำต้องใช้เวลาปรับนิสัยกับการใช้แรงงานที่ก้านแบบรถยุโรปบางส่วน แต่ว่าแป๊ปเดียวก็ชำนาญ รถคันที่เราได้ขับนั้นจะเป็นคันที่มาพร้อมชุดแต่งวัวรเมี่ยมสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำ รวมทั้งข้างนอกอีกหลายจุด ที่พวกเราเห็นว่าสวยกว่าของเดิมที่เป็นวัวรเมี่ยมเยอะ ราคาโดยประมาณของทั้งยังเซ็โคนยู่ที่ไม่เกิน 1.8 – 2 หมื่นบาท ส่วนผู้ที่ซื้อรุ่นรองท็อปและตัวล่างนั้น เพิ่มฟังก์ชั่นฝาท้ายไฟฟ้าและก็เซนเซอร์เพื่อเตะแล้วเปิดฝาท้ายอัตโนมัติได้ในราคาโดยประมาณ 1.8 หมื่นบาท ส่วนรุ่นท็อปที่เปิดประตูไฟฟ้าอยู่แล้วนั้น ซื้อฟังก์ชั่นเซนเซอร์เตะเพื่อเปิดมิได้ สำหรับโปรโมชั่น 1,000 คันแรก รับส่วนลด 34,000 บาท ในการซื้อชุดเครื่องใช้ไม้สอยตกแต่ง หรือนำไปเป็นส่วนลดของราคาขายรถได้โดยทันที พร้อมการยืนยันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ในเวลานี้ทะลุไปนานแล้ว แต่ยังไงใช้โปรฯ นี้ได้ในงาน Motor Expo 2019[/b] ราคา MG HS New MG HS รุ่น C ราคา 919,000 บาท New MG HS รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท New MG HS รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : mg hs 1.5 turbo Tags : New MG HS
|