หัวข้อ: โรคไวรัสค้างลิไซในแมว เริ่มหัวข้อโดย: kkthai20009 ที่ มกราคม 16, 2020, 05:49:55 pm โรคของทางเดินหายใจในแมวเป็นโรคที่มีความหมายมากมาย เนื่องจากว่ามีเชื้อไวรัสแล้วก็แบคทีเรียมากมายที่ด้วยกันก่อให้เกิดโรค จึงเรียกรวมกันว่าเป็น Feline respiratory disease complex (FRDC) หรือมักมีชื่อเสียงว่า โรคหวัดแมว เป็นโรคที่คนเลี้ยงแมวโดยเฉพาะการเลี้ยงไม่น้อยเลยทีเดียว มักจะพบการติดต่ออย่างรวดเร็ว และมักเป็นในลูกแมวเป็นส่วนมาก โรคไข้หวัดแมวมักเกิดจากเชื้อไวรัสหลักๆสองประเภทเป็น ไวรัสเฮอร์ปีส์ (Herpes virus) และเชื้อไวรัสติดอยู่ลิไซ (Calicivirus) โดยเชื้อตัวแรกเป็นเชื้อที่พบบ่อยที่สุดกว่า 95% ในแมวที่เป็นโรคหวัด ในขณะที่การรับเชื้อ calicivirus แม้กระทั่งพบได้ไม่มาก แต่ว่าเป็นเชื้อที่ส่งผลให้เกิดความทรุดโทรมมากที่สุด
ลักษณะโรค เชื้อไวรัสประเภทนี้เป็นเชื้อที่ ชอบติดเข้าสู่ทางเดินหายใจ อย่างเช่นโพรงจมูก หลอดลม หรือปอด นำมาซึ่งอาการน้ำมูกไหล อาจออกอาการไอและก็เจ็บคอได้ รวมถึงสภาวะหายใจลำบากหากเป็นหนักแล้วก็มีการติดเชื้อแทรกซ้อนในขณะที่จมูกและก็ปอด นอกจากนั้นยังสามารถติดเข้าทางช่องปากที่มักจะนำมาซึ่งแผลที่ลิ้น ซึ่งเป็นอาการที่สำคัญที่ทำให้แมวอดอาหาร แล้วก็มักจะเสียชีวิตจากสภาวะไม่ได้กินอาหารเป็นหลัก การวิเคราะห์ การได้รับเชื้อหวัดแมวไม่สามารถแยกเชื้อโรคจากกันได้อย่างแจ่มแจ้ง แนวโน้มมักจะเป็นร่วมกันระหว่างเชื้อไวรัส 2 ประเภทหรือติดเชื้อโรคร่วมกับแบคทีเรีย Chlamydophila felis ซึ่งทำให้ลักษณะของโรคแย่ลง การตรรวจร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้อาการเด่นๆของการรับเชื้อ calicivirus จะก่อให้กำเนิดแผลที่ลิ้น แต่ว่าโรคอื่นๆก็สามารถทำให้เกิดอาการดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น โรคไตวายเรื้อรัง หรือการรับเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่องแมว (feline immunodeficiency virus; FIV) หรือไวรัสลิวคีภรรยา (feline leukemia virus; FeLV) ซึ่งการจะสรุปว่าเป็นเชื้อนี้ได้นั้นบางทีอาจจำเป็นที่จะต้องตรวจระบบอื่นหรือการติดเชื้ออื่นๆร่วมด้วย อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีชุดตรวจใหม่ที่ใช้ตรวจค้นเชื้อโดยตรงได้ แต่ว่าก็ยังอยู่ขั้นตอนขั้นตอนทางการวิจัยอยู่ดี นอกเหนือจากนั้นอาจจึงควรตรวจอย่างอื่นเสริมเติม ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายรูปรังสีวิเคราะห์ (X-ray) เพื่อประเมินการรับเชื้อร่วมที่ปอด เป็นต้น การรักษา โรคหวัดแมวเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อรัสเป็นหลัก จึงไม่สามารถที่จะให้ยารักษาได้ ถึงแม้ว่าการติดเชื้อ herpes virus จะสามารถใช้ยาบางจำพวกในการรักษาได้ แม้กระนั้นก็พบว่าเชื้อมักจะไปหลบซ่อนอยู่ในระบบประสาท และจะกำเริบเสิบสานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีลักษณะอาการภูมิคุ้มกันตก หรือเกิดความตึงเครียด ราวกับเดียวกันกับการเกิดเริมในคน ในส่วนของการรับเชื้อcalicivirus อาจจำเป็นต้องใช้การรักษาแบบพยุงอาการเป็นหลัก อีกทั้งการให้น้ำเกลือแล้วก็สารอาหารเข้าเส้นโลหิต เนื่องจากว่าแมวจะไม่รับประทานอาหารหรือน้ำจากลักษณะของการเจ็บปาก การให้ยาลดอักเสบ หรือการให้ยาปฏิชีวินะ เพื่อจัดแจงเชื้อแบคทีเรียที่พร้อมจะติดเชื้อโรคสอดแทรกในทางเดินหายใจ ในบางครั้งถ้าหากเชื้อไวรัสทำให้เกิดอาการตาอักเสบ บางทีอาจจำต้องได้รับยาป้ายหรือยาหยอดตาร่วมด้วย การดูแลแล้วก็จัดการ เชื้อไวรัสจำพวกนี้สามารถติดต่อได้ทางสิ่งคัดหลั่ง ทั้งยังจากน้ำมูกแล้วก็จากน้ำลาย ซึ่งเนื่องจากว่าเชื้อไวรัสสามารถก่อกำเนิดอาการที่รุนแรง จำเป็นที่จะต้องแยกแมวที่ติดเชื้อออกไปพบกพบอาการทันที และก็ควรดูแลเอาใจใส่ด้วยความใกล้ชิด ให้แมวได้รับสารอาหารอย่างเหมาะควร ที่สำคัญเป็นวิธีการทำวัคซีน เนื่องจากว่าแมวที่ได้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันต่อต้านต่อเชื้อ และสามารถทำให้อาการของโรคไม่รุนแรงเหมือนแมวที่มิได้รับวัคซีน วัคซีนของหวัดแมวสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 8 อาทิตย์ และกระตุ้นซ้ำอีกรอบที่ 12 และ 16 อาทิตย์ แล้วต่อจากนั้นจึงกระตุ้นในปีต่อมา วัคซีนของหวัดแมวสามารถคุ้มครองปกป้องโรคได้ช้านานถึง 3 ปี แต่ในความเป็นจริง วัคซีนหวัดแมวชอบมาคู่กับโรคฝึกฝน (feline distemper) ซึ่งจะต้องฉีดทุกปี ก็เลยจำเป็นที่จะต้องพาแมวไปฉีดวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคทุกปีไปโดยปริยาย คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : infodominicana Tags : http://infodominicana.net
|