ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Amonwan95892 ที่ มกราคม 17, 2020, 09:32:51 am



หัวข้อ: รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด
เริ่มหัวข้อโดย: Amonwan95892 ที่ มกราคม 17, 2020, 09:32:51 am
(https://1.bp.blogspot.com/-4TJk5TPSF7I/Xhn88qnGoEI/AAAAAAABdc4/ojUDhLiuF8Eo8RxOVtxRXhoUD9EYYhwwQCNcBGAsYHQ/s640/New%2BMG%2BHS03.jpg)
รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด
นอกจากเครื่องยนต์และชุดเกียร์ที่ยกมาจาก MG GS แล้วทุกสิ่งใน MG HS 1.5 Turbo นั้นยกเครื่องมาให้ทั้งผอง แล้วก็อย่าคิดว่าเครื่องเกียร์เดียวกันมันจะแบบเดียวกันนะ[/b]

พวกเราพึ่งก้าวลงจาก MG HS ที่ขับพาไปส่งจุดหมายในบริเวณคลองสานหลังใช้เวลาร่วมกันมาราววันครึ่งสองวัน สรุปสั้นๆมันอาจไม่ใช่รถยนต์ที่ดีที่สุด เยี่ยมที่สุด คุ้มคุ้มคุ้มราคาที่สุดในมุมมองของหลายท่าน แม้กระนั้นเชื่อเถอะว่ามันทำออกมาได้ดีมากยิ่งกว่าที่คิดมากมายอย่างยิ่งจริงๆ

คุณคิดว่าตัวเองคาดหมายอะไรกับการซื้อรถเอสยูวีหรือรถยนต์นั่งเอนกประสงค์หนึ่งคันในราคาล้านนิดๆความสามารถการขับขี่ ความนิ่มนวลของช่วงล่าง เทคโนโลยีนำสมัย นั่งสบาย กว้างใหญ่ ระบบการช่วยเหลือแน่นๆMG HS คือหนึ่งในรถที่มีฟังก์ชั่นกลุ่มนี้ครบทั้งหมด
วางแบบภายนอกของตัวรถยนต์คงจะเอกลักษณ์การออกแบบของ MG แต่ว่าที่พรีเมี่ยมขึ้นคือระบบไฟ LED เต็มแบบอย่างยังมากับไฟเลี้ยวแบบ Sequential กระเต็มที่เขาบอกว่าเป็นออกแบบที่เหมือนโลโก้อยู่ท่ามกลางดวงดาว ล้อมด้วยพรอบวัวรเมี่ยม

เสาอากาศแบบครีบฉลาม มีสปอยเลอร์ข้างหลังในตัวท็อป แม้กระนั้นถ้าเกิดจะให้เท่เปลี่ยนแปลงสปอยเลอร์หลังแม้กระนั้น หรือเปลี่ยนมันทั้งชุดเลยอีกทั้งกรอบวัวรเมี่ยม กันชนหน้าข้างหลังสีดำแบบคันที่พวกเราได้ขับในครั้งนี้บอกเลยว่างาม

ข้างในตัวท็อปจะเป็นเบาะแบบ Bucket Seat โดดเด่นไม่เหมือนใคร ส่วนตัวสำหรับเราที่เป็นเพศชายหุ่นมาตรฐานก็นั่งสบายดี รับแขน รับศีรษะ ขับก็สนุก ตอนนั่งหลับก็สบาย ส่วนเบาะหลังจากนั้นเท่าที่นั่งโดยประมาณหนึ่งนับว่าดีแล้วก็มีการปรับระยะเอนได้

ภายในห้องโดยสารจัดว่ากว้างและยิ่งดูกว้างเพิ่มมากขึ้นด้วยพาโนรามิคซันรูฟปรับกระแสไฟฟ้าพร้อมที่บังแดด ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆที่จำเป็นมีให้ใช้ครบถ้วน แต่ว่าหลายๆปุ่มแย่างการควบคุมระบบปรับอากาศก็ถูกย้ายไปอยู่ในจอกลางขนาด 10 นิ้วสถานที่สำหรับทำงานได้ยอดเยี่ยมราวกับแท็ปเล็ตแพงๆดีๆเครื่องหนึ่งเลย

เครื่องจักรกลแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับ E85 ขับเคลื่อนกับชุดเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด หรือเราบางทีอาจจะคุ้นกว่าถ้าเกิดเรียกว่า Dual Clutch Transmission หรือ DCT ซึ่งทั้งสองชูมาจาก MG GS

อย่าพึ่งตระหนกตกใจที่พวกเราบอกว่ายกมาจาก MG GS เนื่องจากเครื่องยนต์กลไกแล้วก็เกียร์ชุดดีมีการปรับจูนใหม่ทั้งผอง ลืมภาพและความรู้สึกที่น่าหงุดหงิด ขัดใจใน MG GS ทิ้งไปได้เลย เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว MG HS จัดว่าดีเยี่ยมมากมาย ตลอดการใช้งานไม่เจอการเปลี่ยนเกียร์ ฟึดฟัด ฮึดฮัด ให้รำคาญ รำคาญใจ แม้จะเป็นตอนใช้งานในเมืองที่รถติด

เครื่องยนต์รวมทั้งเกียร์ตอบสนองได้เป็นอย่างดี สำหรับในการเดินทางในทริปนี่เราออกมาจากกรุงเทพมุ่งหน้าเขาใหญ่ จังหวะไหนที่อยากจะแซงก็เหลือๆสบายๆอาการเกียร์โง่กระทั่งน่ารำคาญจิตใจไม่มีให้เห็น ถ้าเกิดเทียบกับ MG GS แล้ว MG HS ถือว่าฉลาดหลักแหลมมากยิ่งกว่าเดิม
หลักการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ คันเร่ง ตอบสนองตามโหมดการขับขี่ทั้งหมดทั้งปวง 4 โหมดเช่น Eco, Normal, Sport หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับการโต้ตอบต่างๆอีกทั้งเครื่องจักรกล พวงมาลัยรวมทั้งอื่นๆได้ตามใจ แล้วก็ยังมีปุ่มอัศจรรย์อย่าง Super Sport ที่ให้การตอบสนองแบบตื่นเต้นที่สุด

หากเอาโหมดมาตรฐานหรือ Normal เป็นที่ตั้งแล้ว ทางวิศวกรบอกว่าโหมด Sport จะมีรอบที่ตึงกว่าราว 50 รอบต่อนาทีแม้กระนั้นจะก่อให้ผู้ขับขี่ใช้ Paddle Shift ได้ ในขณะที่โหมด Super Sport จะมีรอบที่สูงกว่าโหมดมาตรฐานราว 400 รอบต่อนาที มีการติดอยู่รอบติดอยู่เกียร์เอาไว้ให้พร้อมใช้งานมากยิ่งกว่าในโหมด Sport

ความรู้สึกที่ชัดเจนเลยเป็นในโหมด Eco รวมทั้ง Normal นั้นจะให้การสนองตอบต่อคันเร่งที่นุ่มนวล บางทีอาจจะต้องรอนิดหน่อยแต่ครู่หนึ่งก็จะรีบแซงด้วยแรงแบบเหลือเฟือ ส่วนในโหมด Sport และก็ Super Sport จะกดคันเร่งแล้วพุ่งทันใจ ในจังหวะที่การจราจรช้าๆแล้วแตะะๆปลดปล่อยๆก็จะรู้สึกถึงอาการตัวโยกตามก่อนแตะปล่อยคันเร่ง ฮึดฮัดๆพร้อมพุ่งตลอดระยะเวลา

ถ้ามีคนใดกันแน่บอกคุณว่า MG HS กับ Chevrolet Captiva บ้านเรานั้นเช่นกัน เครื่องเดียวกัน เกียร์เดียวกัน ทีม MG รับรองว่าไม่ใช่ รวมทั้งคนที่ได้ขับทั้งสองคันแล้วหลังจากนั้นก็บอกว่าคนละเรื่อง

ตกลงว่าเรื่องเครื่องจักรกลแล้วก็เกียร์ สุขใจ หายห่วง ทั้งยังความฉลาดของเกียร์และก็การโต้ตอบรวมถึงกำลังของเครื่องยนต์กลไก ยิ่งถ้าเกิดคุณถูกใจฟีลลิ่งของรถยนต์มีเกียร์เจ้านี่คงจะตอบโจทย์

ส่วนโหมดที่เราชอบเยอะที่สุดสำหรับเพื่อการเดินทางแบบล่องไปเรื่อยๆคือโหมด Eco ที่ให้การสนองตอบที่นุ่มนวลของคันเร่ง ถ้าหากจะเเซงขาดๆก็กด Super Sport แปลงเรือนไมล์เป็นสีแดง เพื่อเร่งแซงและกดอีกครั้งกลับมา Eco ที่สำคัญเป็นเรามีความคิดว่าโหมด Eco นั้นดูจะสอดรับกับการใช้แรงงานของระบบช่วยเหลือต่างๆได้เนียนที่สุดอีกด้วย

ถัดมาที่อีกหนึ่งส่วนสำคัญเป็นตอนล่าง New MG HS นั้นช่วงล่างจูนอัพตามแบบ Euro Tuning Suspension โดยใช้ระบบช่วงล่างข้างหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลังแบบ Multi-Link

ในบริเวณความเร็วต่ำช่วงล่างจัดว่าเฟิร์ม นุ่มนวล ซึมซับแรงกระแทกเจริญ แม้ว่าจะมีกระแทกหลุมกระแทกเนินหนักๆบ้างก็ยังจัดว่าเข้าขั้นดีเพราะขั้นต่ำพี่ที่นั่งมาด้วยก็ไม่พร่ำบ่น ว่ามันชน โยกเยก โยกแต่อย่างใด

แม้กระนั้นถ้าหากขับด้วยความเร็วประมาณหนึ่งก็จะมีแรงสะท้อนจากถนนอยู่บ้าง อย่างมองเห็นบนถนนหลวงหมายเลข 2 ที่รถบรรทุกใช้งานกันหนาแน่น ถนนพังเหลว ปะ พุ หลายจุดจะรู้สึกถึงแรงสะท้อนได้เยอะแยะ หรือในช่วงทำความเร็วอย่างบนทางด่วน ตอนรอยต่อระหว่างแผ่นถนนจะผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงผู้กระทำระเด้งเล็กๆ

ช่วงล่างที่เฟิร์มทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นอกมั่นใจ แต่ว่าพวงดอกไม้ที่เบา ควบคุมง่าย หมุนสบาย คุณผู้หญิงก็ควงเพลินในบริเวณความเร็วต่ำ-กลาง นั้น พอเพียงในบริเวณความเร็วสูงหรือในโหมดสปอร์ตที่มีการปรับน้ำหนักมากยิ่งขึ้นแล้วแต่เราก็ยังคิดว่าเบาไป

เว้นแต่เรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่พี่ๆสื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดียิ่งกว่าที่คิดเอาไว้” แล้ว จำสำหรับแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้วยังเป็นอะไรที่เราติดใจสุดๆในเรื่องผลดีใช้สอย

นี่เป็นหน้าจอสัมผัสที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ MG เคยมีมาและก็ดีเยี่ยมระดับแถวหน้าของแวดวงจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสของรถยนต์ ระบบสัมผัสดีเยี่ยมระดับแท็ปเล็ตดีๆเครื่องหนึ่ง เพียงแต่ถูกล็อคฟังก์ชั่นการใช้งานเอาไว้ด้วยระบบของ MG

ระบบนำทางเป็นของ TomTom ที่บอกเส้นทางก้าวหน้า แม่น ไม่มีเหวอ ไม่มีสับสน และก็บอกภาวะการจราจรแบบ Real Time พร้อมด้วย True Music คลังเก็บของเพลงนับล้านเพียงแค่กดจอ การเปิดปิดระบบและการแจ้งเตือนต่างๆก็ การปรับรูปแบบไฟในห้องโดยสาร อยู่ในจอนี้ทั้งหมดรวมทั้งระบบปรับอากาศ

หน้าจอนี้ยังแสดงผลลัพธ์รอบข้างรถยนต์แบบ 360 องศา รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่ทางด้านซ้ายและก็ขวาในความเร็วต่ำ การแสดงภาพตัวรถยนต์แบบ 3 มิติเพื่อช่วยตรวจสภาพรอบๆของตัวรถยนต์ ทั้งหมดทั้งปวงเลือกกดบนหน้าจอได้เลย

ในรุ่นท็อปอย่าง MG HS X นั้นเว้นเสียแต่พาโนรามิคซันรูฟและเบาะนั่งแล้ว ยังมีระบบที่เพิ่มเข้ามาช่วยทั้งยัง Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist และก็อื่นๆอีกเพียบ

นอกจากเรื่องสมรรถนะเรื่องของระบบช่วยเหลือถือเป็นอีกหัวข้อที่ดียิ่งกว่าที่เราคาดเอาไว้ การทดงานของ ACC เมื่ออยู่กับโหมดการขับขี่แบบ Eco จะนุ่มนวลลื่นไหลสุดๆทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วเริ่ม ออกตัว กระทั่งหยุดสนิทรวมทั้งเมื่อรถยนต์คันหน้าหยุดพวกเราก็หยุด แม้เกินในช่วงเวลาที่กำหนดระบบจะเตือนให้เราเหยียบคันเร่งเล็กน้อยเมื่อรถยนต์คันหน้าออกตัวเพื่อ Activate ระบบอีกรอบ

แต่ว่าในข้อดีก็มีข้อเสียถึงแม้ระบบควบคุมอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ จะใช้งานในเมือง ตอนรถติด จราจรไหลๆได้ แต่ว่าเพียงพอคันหน้าหยุด ตัวรถจะเบรกค่อนข้างร้ายแรงไปสักหน่อย ถ้าขับคนเดียวบางทีอาจพอเพียงทนได้ แม้กระนั้นผู้โดยสารมาน่าจะรำคาญและวิงเวียนอยู่

ส่วนคนไหนกันแน่ที่ใคร่รู้เนื้อหาว่าระบบความปลอดภัยและก็ช่วยเหลืออะไรเพิ่มเข้ามาบ้างเว้นเสียแต่ 14 ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ก็ราวนี้ขอรับ
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

Advanced Driver Assistance Systems (ADAS)

• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีโอกาสเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับรถ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรเปลี่ยน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถยนต์จะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

สำหรับท่านที่หนักใจเรื่องเสียงในห้องโดยสาร MG HS ถือเป็นรถยนต์อีกรุ่นที่เก็บเสียงในห้องโดยสารได้ดี ที่ความเร็วราว 120 กิโลเมตร/ชม. นั้นไม่มีลมตีโหวกเหวกโวยวาย คนไหนกันที่เคยชินกับปุ่ม Cruise Control บนพวงมาลัยแบบรถประเทศญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้เวลาปรับนิสัยกับการใช้งานที่ก้านแบบรถยุโรปเล็กน้อย แต่แป๊ปเดียวก็คล่อง

รถคันที่พวกเราได้ขับนั้นจะเป็นคันที่มาพร้อมชุดแต่งโครเมี่ยมสีดำ สปอยเลอร์ข้างหลังสีดำ แล้วก็ด้านนอกอีกหลายจุด ที่พวกเรามองว่างามกว่าของเดิมที่เป็นวัวรเมี่ยมเยอะแยะ ราคาคร่าวๆของทั้งยังเซ็โคนยู่ที่ไม่เกิน 1.8 – 2 หมื่นบาท

ส่วนผู้ที่ซื้อรุ่นรองท็อปรวมทั้งตัวด้านล่างนั้น เพิ่มฟังก์ชั่นฝาท้ายกระแสไฟฟ้ารวมทั้งเซนเซอร์เพื่อเตะแล้วเปิดฝาด้านหลังอัตโนมัติได้ในราคาโดยประมาณ 1.8 หมื่นบาท ส่วนรุ่นท็อปที่เปิดประตูกระแสไฟฟ้าอยู่แล้วนั้น ซื้อฟังก์ชั่นเซนเซอร์เตะเพื่อเปิดมิได้

สำหรับโปรโมชั่น 1,000 คันแรก รับส่วนลด 34,000 บาท สำหรับการซื้อชุดวัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง หรือนำไปเป็นส่วนลดของราคาจัดจำหน่ายรถได้ทันที และการรับรองคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กม. ในช่วงเวลานี้ทะลุไปนานแล้ว แต่ยังไงใช้โปรฯ นี้ได้ในงาน Motor Expo 2019
[/b]


ราคา MG HS

New MG HS รุ่น C ราคา 919,000 บาท
New MG HS รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
New MG HS รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท


Tags : รีวิว mg hs
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ