หัวข้อ: รีวิว All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร เริ่มหัวข้อโดย: moopinginter ที่ มกราคม 17, 2020, 01:05:58 pm (https://1.bp.blogspot.com/-j5DxyTNFQlk/XhnsUrWE4_I/AAAAAAABdcI/NXTTyvYw2QwOgdiT9MKG_lOlU6VE0jyhwCNcBGAsYHQ/s1600/Honda%2BCity%2B2020-02.jpg)
รีวิวฮอนด้า 2020[/u] All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร พลังหนุ่ม แม้กระนั้นตอนล่างอ่อนโยนวัยกลางคน จะต้องเกริ่นก่อนว่า การมาทดสอบ Honda City ในครั้งนี้ เป็นการถูกเชื้อเชิญมาทดลองกันแบบพอหอมปากหอมคอ ก่อนที่จะ Full Test กันในช่วงเวลากลางเดือนมกราคมอีกที ทำให้การทดสอบ ณ สนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี ทวีปเอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี เป็นการลองขับแบบ First Impression หรือ แรกสัมผัสขนาดแท้ ฮอนด้า สิตี้ แต่เดิมเป็นรถขายดีเบอร์ต้นของตลาดในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาด บีเซ็กเมนท์ ชิงชัยเบียดกันแบบล้อต่อล้อมาโดยตลอดในด้านยอดขายกับคู่ปรับสำคัญในกลุ่มเดียวกันจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า การกลับมาพร้อมกับการเช็ดกนำเข้าไปอยู่ในชนชั้นของ Eco Car Phase 2 รวมทั้งเรียกแทนตัวเองว่าเป็น รถยนต์สิตี้คาร์ ก็เลยเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มองมีความแปลกใหม่รวมทั้งน่าดึงดูดในหลายเรื่อง All New Honda City มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่าง สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และก็ไฟท้ายแบบ แอลอีดี กระเต็มที่แบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม รวมทั้งล้ออัลลอยวางแบบใหม่ขนาด 15 นิ้ว ข้างในห้องโดยสารดูหรูหราด้วยโทนสีดำ เบาะหนัง คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูภายในตกแต่งโครเมียม แม้กระนั้นจะมีข้างในสีทูโทน ไอเวอปรี่/ดำ เฉพาะรุ่น SV ให้เลือก มิเตอร์เรืองแสงพร้อมหน้าพร้อมตาจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay รวมทั้งระบบสั่งด้วยเสียง SIRI พวงดอกไม้แบบมัลติฟังก์ชัน ปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงรวมทั้งปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ฯ Honda City ในรุ่น RS จะดูโดดเด่นขึ้น ด้วยชุดแต่งรอบคัน กระเต็มหน้าแบบ Gloss Black และเครื่องหมาย RS กันชนหน้าและก็กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต กระจกมองดูข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยว สปอยเลอร์ข้างหลัง Gloss Black เครื่องหมาย RS รวมทั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ห้องโดยสาร เบาะหนังกลับตกแต่งด้วยด้ายสีแดง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ มิเตอร์เรืองแสงสีแดง เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว มาพร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ฮอนด้าเคลมอัตราประหยัดน้ำมันที่ 23.8 กิโล/ลิตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีระบบระเบียบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงดอกไม้แบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กม. รวมทั้งสามารถรองรับน้ำมัน E20 ส่วนประกอบตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกคุ้มครองป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการเลี้ยงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะที่อยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องถ่ายภาพส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ทรรศนคติต่อ ฮอนด้า สิตี้ เจเนอเรชั่นที่ 5… จำเป็นต้องพูดว่า ฮอนด้า ดูเหมือนถนัดมากในประเด็นการทำรถยนต์ให้งดงามถูกใจผู้ใช้ การเลือกใช้เส้นสายเพื่อเกิดอัตลักษณ์ที่เด่นมองลงตัวในเกือบทุกจุด การจัดวางอุปกรณ์การดูแลความสะดวกภายในอยู่เกณฑ์ดี นอกเหนือจากสวยยังเน้นรองรับการใช้แรงงานจริง ในทุกพื้นที่ซึ่งก็ถือเป็นอีกเรื่องเด่นของฮอนด้า แต่ว่าการเลือกเน้นย้ำไปที่ความงาม ทั้งภายนอกข้างใน ไปจนกระทั่งการเลือก Downsizing เครื่องยนต์จากเดิมเบนซิน 1.5 ลิตร 4 ดูด เป็น 1.0 ลิตร 3 ดูดแทน ดูเหมือนกระทบกระเทือนไปถึงการคุมต้นทุนการผลิตอยู่บ้าง แม้จะลดเงินลงทุนไปบ้างจากการเลือกใช้แชสซีย์เดิมแม้กระนั้นปรับแต่งใหม่ แม้กระนั้นก็ยังมีผลไปถึงการขาดหายไปของออปชั่นบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งดูคล้ายว่าเป็นปัญหาของฮอนด้า มานาน เมื่อเทียบกับคู่ปรับทั้งผองในตลาด แม้จะทำราคาวิธีขายถูกลงกว่ารุ่นเดิม แม้กระนั้นก็ยังมีการถูกแปะป้ายจากผู้ซื้อว่า ฮอนด้าเป็นสายกั๊กออปชั่น ยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับคู่แข่งขันโดยตรงปัจจุบันนี้อย่าง นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ แม้กระนั้นการทราบว่าจะขายอะไรให้กับลูกค้าตนเองของฮอนด้า…ดูเหมือนน่าสะพรึงกลัวกว่าอื่นใดทั้งสิ้น ด้านในเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น การจัดวางช่องวางของ ขวดน้ำ ถ้วยน้ำ หรืออีกสารพัดมีพื้นที่อย่างเหลือเฟือ สิ่งของภายในแบบบุนุ่มให้รู้สึกสัมผัสที่ดี เบาะนั่งด้านหน้าวางแบบทรงมาคล้ายกับฮอนด้า ซีวิค นั่งโอบกระชับแผ่นหลังดี ส่วนเบาะแถวหลังช่วงวางขากว้างขวาง แต่ในส่วนของหลังคาดูจะลาดเทลงมากว่ารุ่นเดิมกระทั่งแบบรู้สึกพื้นที่บนหัวน้อยไปนิด ด้านความสามารถ… คุณจงลืมภาพรถแม่บ้าน ขับง่าย พวงมาลัยเบาเหวง ช่วงล่างหวั่นไหวง่าย ไปได้เลย แม้ว่าจะเป็นการทดสอบอันแสนสั้นกับระยะทาง 2.18 กม.ในรอบใหญ่ และ 1.3 กม.ที่เอาอย่างภาวะถนนหนทางจริงในรอบเล็ก ก็เพียงพอจะเก็บอาการมาฝากแล้วก็เล่าสู่กันฟังได้โดยย่อ การกลับมาเกิดใหม่ของ ฮอนด้า ซิตี้ ยึดดีเอ็นเอความหล่อเหลาไว้อย่างเดิม แต่เสริมเติมด้วยการอัพเกรดสมรรถนะใหม่ทั้งผอง เครื่องจักรกล เป็น สิ่งที่ฮอนด้าภาคภูมิใจจะเสนอ เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว เทอร์โบชาร์จ ตัวนี้ เป็น เครื่องจักรที่บรรจุอยู่ในซีวิครุ่นที่ขายอยู๋ในประเทศจีน แล้วก็อเมริกา การนำมายัดใส่รถยนต์ที่มีขนาดเล็กลงรวมทั้งจำเป็นต้องปรับจูนให้ผ่านมาตรฐานอีวัวคาร์เฟส 2 เป็นเรื่องที่น่าค้นหา จุดเด่น เป็น เครื่องจักรกล VTEC เต็มระบบอันเลื่องชื่อของฮอนด้า ระบบแคมชาฟท์ Dual VTC เพิ่มลดรองศาของแคมชาฟท์ในการเปิดปิดวาลว์ไอดี ไอเสีย ให้ตอบสนองต่อการทำงานเจริญขึ้น อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ ซึ่งพิเศษด้วยการติดตั้งไว้ 2 ตัว ตัวแรกไว้สำหรับเพื่อการระบายความร้อนปกติ แต่อีกหนึ่งตัวไว้ในการช่วยระบายความร้อนของเทอร์โบโดยตรง ก็เลยช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นการทำงานได้เต็มที่ สนามทดลองที่เป็นรูปแบบของไฮสปีด ก็เลยช่วยขับให้เรามองเห็นสมรรถนะของเครื่องจักร 1.0 ลิตร ตัวนี้ได้ชัดและง่ายขึ้น จังหวะการกดคันเร่งเพื่อไล่ความเร็ว พบว่าพลังมาไวกว่าที่คาด ช่วงทางตรงเผลอหน่อยเดียววิ่งทะลุไปถึง 140-150 กิโลเมตรต่อช่วนาฬิกา แต่ว่าตามมาด้วยรอบเครื่องจักรกลที่พุ่งสูงไปถึง 4000 รอบต่อนาที จังหวะใช้ความเร็วปานกลาง แล้วยกคันเร่งก่อนที่จะชนคันเร่งลงไปซ้ำอีกที ก็ยังตอบสนองได้ดิบได้ดี พบอาการเหวอค่อนข้างน้อย ส่วนใดส่วนหนึ่งคงจะมาจากการเซ็ทเกียร์ CVT มาได้พอดีกว่าเดิม โดยในตัวชุดเกียร์ CVT ก็มีการแก้ไขในส่วนขององศาของตัวสายพานกระดูกงูใหม่ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แม้กระนั้น ฮอนด้า ยังเป็น ฮอนด้า ที่เจตนาเซ็ทเครื่องจักรกล ไม่ให้ปรู๊ดปร๊าด หรือดึงใกล้ ยังคงเซ็ทให้รถยนต์เป็นเครื่องจักรเทอร์โบแบบผู้ดี ดำรงชีวิตเรียบง่ายในยามปกติ แต่ว่ามีขุมสมบัติที่ซ่อนไว้ให้ใช้เกินพอเมื่อปรารถนา ช่วงล่าง คือสิ่งที่อยากจะจับจ้องเยอะที่สุด เนื่องจากส่วนตัวไม่เคยเชื่อในความสามารถตอนล่างของฮอนด้า การให้ความเอาใจใส่ และไล่ปรับปรุง ตั้งแต่ตัวบอดี้ที่เสริมให้แข็งแรงขึ้น การปรับเซ็ทแชสซีส์ตัวเดิมให้พอดีกว่าเก่า ไปจนกระทั่งการปรับจูนระบบช่วงล่างให้รองรับกับความล้นเหลือของเครื่องยนต์กลไกทำให้ภาพลักษณ์ของ ฮอนด้า สิตี้ เปลี่ยนไป ยกฐานะ… น่าจะเป็นคำที่สมควรรวมทั้งถูกยกมามอบให้กับสมรรถนะช่วงล่างของ ฮอนด้า สิตี้ ใหม่ คันนี้ ตอนล่างมองเป็นรถประเทศญี่ปุ่นผู้ดี มีความนุ่มนวล แม้กระนั้นแน่นหนึบ รองรับการใช้แรงงานได้อย่างทั่วถึง ในตอนทางตรงใช้ความเร็วสูงมากมาย ตัวรถยนต์ยั่งนิ่งทรงอาการได้ดิบได้ดี ช่วงเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมากเหมือนกัน ถ้าหากเป็นในรุ่นเดิมน่าจะมีลักษณะด้านหลังออก โยกย้วย แม้กระนั้นตัวนี้จับสัมผัสได้น้อยมาก ตอนถนนที่เอาอย่างเนินหลุมของถนนหนทางประเทศไทย ช่วยขับอาการความนิ่มนวลของตอนล่างมาให้พวกเราสัมผัสได้ดี การให้ตัวในจังหวะยุบโยก ไม่ส่งให้ช่วยตาลายไปยังผู้โดยสาร เป็น ไม่ได้เซ็ทมาให้ แน่นแข็งเป็นรถยนต์วัยรุ่น แม้กระนั้น เซ็ทมาให้รองรับกับการใช้แรงงานได้อย่างมากมายครบถ้วน ทั้งยังครอบครัว ส่วนพวงดอกไม้ อวบอูมขึ้น จับกระชับมือ มอบสัมผัสที่ดี แม้กระนั้นเหนืออื่นใด พวงมาลัยไม่เบาโหวง น้ำหนักดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นเดิมมาก ซึ่งซิตี้ เจเนอเรชั่น 5 นับเป็นการปรับจูนตอนล่างกับกำลังเครื่องยนต์มาได้เหมาะสมกันอย่างดีเยี่ยม แอบหลับตาคิดมีบางอารมณ์แอบรู้สึกว่านั่งอยู่บนรุ่นพี่ อย่างฮอนด้า ซีวิค แต่ว่าอย่างไรก็ดี จำต้องย้ำอีกทีว่าเป็นการทดสอบสั้นๆคงจะจะต้องรอคอยการนำมาลองขับในทางที่ยาวกว่านี้ ดูถึงเรื่องเกี่ยวกับการแล็คของเกียร์ จะมีมากยิ่งกว่านี้ไหม อัตราการประหยัดจะคืออะไร ไปจนกระทั่งเรื่องของความเงียบภายในห้องโดยสาร แม้ว่าจะทำได้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าจำต้องจับอาการบนถนนหนทางจริงอีกรอบ ขอบคุณบทความจาก : https://www.autostation.com/car/review-car/all-new-honda-city-2020 Tags : Honda City 2020,All New Honda City
|