ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Onkanya5892 ที่ มกราคม 18, 2020, 10:43:05 am



หัวข้อ: รีวิว All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร
เริ่มหัวข้อโดย: Onkanya5892 ที่ มกราคม 18, 2020, 10:43:05 am
(https://1.bp.blogspot.com/-ntiB4pL1R04/XhnsViS3FGI/AAAAAAABdcU/35DeVSz8v-UkTcUBkzOpOoh7ZgLbwQukQCNcBGAsYHQ/s1600/Honda%2BCity%2B2020-03.jpg)
 
รีวิวฮอนด้า 2020 All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร
All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร พลังหนุ่ม แต่ว่าตอนล่างอ่อนโยนวัยกลางคน
จำเป็นต้องเกริ่นก่อนว่า การมาทดลอง Honda City ในครั้งนี้ เป็นการถูกเชื้อเชิญมาทดสอบกันแบบนิดๆหน่อยๆ ก่อนจะ Full Test กันในกลางเดือนเดือนมกราคมอีกครั้ง ทำให้การทดสอบ ณ สนามทดลอง ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการทดลองขับแบบ First Impression หรือ แรกสัมผัสขนาดแท้

ฮอนด้า ซิตี้ แรกเริ่มเป็นรถยนต์ขายดีเบอร์ต้นของตลาดในกรุ๊ปรถยนต์นั่งขนาด บีเซ็กเมนท์ แข่งขันแทรกกันแบบล้อต่อล้อมาโดยตลอดในด้านยอดขายกับคู่ปรับสำคัญในกลุ่มเดียวกันจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า

การกลับมากับการเช็ดกนำเข้าไปอยู่ในชนชั้นของ Eco Car Phase 2 แล้วก็เรียกแทนตนเองว่าเป็น รถสิตี้คาร์ ก็เลยเป็นการปรับเปลี่ยนที่มองมีความแปลกใหม่และก็น่าดึงดูดในหลายเรื่อง
All New Honda City มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่าง สำหรับการขับขี่ในตอนกลางวันแบบ LED รวมทั้งไฟท้ายแบบ LED กระเต็มที่แบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม และก็ล้ออัลลอยวางแบบใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารมองดูหรูหราด้วยโทนสีดำ เบาะหนัง คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูข้างในตกแต่งโครเมียม แม้กระนั้นจะมีด้านในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ เฉพาะรุ่น SV ให้เลือก

มิเตอร์เรืองแสงพร้อมหน้าพร้อมตาหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และก็ระบบออกคำสั่งด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ฯ

Honda City ในรุ่น RS จะดูเด่นขึ้น ด้วยชุดแต่งรอบคัน กระเต็มหน้าแบบ Gloss Black แล้วก็เครื่องหมาย RS กันชนหน้าและก็กระเต็มที่สไตล์สปอร์ต กระจกดูข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยว สปอยเลอร์ข้างหลัง Gloss Black สัญลักษณ์ RS แล้วก็ล้ออัลลอยวางแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ห้องโดยสาร เบาะหนังกลับตกแต่งด้วยด้ายสีแดง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ มิเตอร์เรืองแสงสีแดง

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว มาพร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ฮอนด้าเคลมอัตราประหยัดน้ำมันที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร

ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงดอกไม้แบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กม. และสามารถรองรับน้ำมัน E20

องค์ประกอบตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกปกป้องล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจัดกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการเลี้ยงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะที่อยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องถ่ายภาพส่องภาพข้างหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

ทรรศนคติต่อ ฮอนด้า สิตี้ เจเนอเรชั่นที่ 5…
จะต้องบอกว่า ฮอนด้า ดูจะถนัดมากในเรื่องการทำรถยนต์ให้มีความสวยสดงดงามชอบใจผู้ใช้ การเลือกใช้เส้นเพื่อเกิดอัตลักษณ์ที่โดดเด่นดูพอดีในเกือบทุกจุด
การจัดวางเครื่องไม้เครื่องมือการอำนวยความสะดวกข้างในอยู่เกณฑ์ดี เว้นแต่สวยยังย้ำรองรับการใช้แรงงานจริง ในทุกพื้นที่ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกประเด็นเด่นของฮอนด้า

แต่ว่าการเลือกย้ำไปที่ความงาม ทั้งยังภายนอกข้างใน ไปจนกระทั่งการเลือก Downsizing เครื่องจักรกลจากเดิมเบนซิน 1.5 ลิตร 4 ดูด เป็น 1.0 ลิตร 3 ดูดแทน ดูเหมือนกระทบกระเทือนไปถึงการคุมต้นทุนการสร้างอยู่บ้าง แม้จะลดเงินลงทุนไปบ้างจากการเลือกใช้แชสซีย์เดิมแต่ปรับแก้ใหม่ แม้กระนั้นก็ยังมีผลไปถึงการขาดหายไปของออปชั่นบางอย่าง

ซึ่งมองคล้ายว่าคือปัญหาของฮอนด้า มานาน เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งหมดในตลาด
แม้จะทำราคาวิธีขายถูกลงกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ยังมีการถูกติดป้ายจากลูกค้าว่า ฮอนด้าเป็นสายกั๊กออปชั่น ยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับคู่แข่งขันโดยตรงณ เวลานี้อย่าง นิสสัน อัลเมร่า ใหม่
แต่ว่าการทราบว่าจะขายอะไรให้กับลูกค้าตนเองของฮอนด้า…ดูจะน่าขนลุกกว่าอื่นใดทั้งผอง

ข้างในคืออีกหนึ่งจุดเด่น การจัดวางช่องวางของ ขวดน้ำ ถ้วยน้ำ หรืออีกสารพัดสารพันมีพื้นที่อย่างเหลือเฟือ วัสดุภายในแบบบุนุ่มให้รู้สึกสัมผัสที่ดี

เบาะนั่งข้างหน้าวางแบบทรงมาคล้ายกับฮอนด้า ซีวิค นั่งโอบกระชับแผ่นหลังดี ส่วนเบาะแถวหลังช่วงวางขากว้างขวาง แต่ว่าในส่วนของหลังคาดูจะลาดลงมากว่ารุ่นเดิมจนถึงแบบรู้สึกพื้นที่บนหัวน้อยไปนิด
ด้านสมรรถนะ…
คุณต้องลืมภาพรถยนต์แม่บ้าน ขับง่าย พวงมาลัยเบาเหวง ตอนล่างหวั่นไหวง่าย ไปได้เลย

แม้จะเป็นการทดสอบอันแสนสั้นกับระยะทาง 2.18 กม.ในรอบใหญ่ แล้วก็ 1.3 กิโลที่เอาอย่างสภาพถนนหนทางจริงในรอบเล็ก ก็เพียงพอจะเก็บความรู้สึกมาฝากแล้วก็เล่าสู่กันฟังได้โดยย่อ
การกลับมากำเนิดใหม่ของ ฮอนด้า สิตี้ ยึดดีเอ็นเอความรูปหล่อไว้เหมือนเดิม แต่เพิ่มด้วยการอัพเกรดความสามารถใหม่ทั้งปวง

เครื่องยนต์ คือ สิ่งที่ฮอนด้าภูมิใจจะพรีเซนเทชั่น เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว เทอร์โบชาร์จ ตัวนี้ เป็น เครื่องจักรที่ใส่อยู่ในซีวิครุ่นที่ขายอยู๋ในประเทศจีน และอเมริกา การนำมายัดใส่รถยนต์ที่มีขนาดเล็กลงและจำต้องปรับจูนให้ผ่านมาตรฐานอีวัวคาร์เฟส 2 เกิดเรื่องที่น่าค้นหา

จุดแข็ง คือ เครื่องยนต์ VTEC เต็มระบบอันเลื่องชื่อของฮอนด้า ระบบแคมชาฟท์ Dual VTC เพิ่มลดรองศาของแคมชาฟท์สำหรับเพื่อการเปิดปิดวาลว์ไอดี ไอเสีย ให้สนองตอบต่อการทำงานได้ดีขึ้น
อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ ซึ่งพิเศษด้วยการตำหนิดตั้งไว้ 2 ตัว ตัวแรกไว้ในการระบายความร้อนปกติ แต่ว่าอีกหนึ่งตัวไว้สำหรับการช่วยระบายความร้อนของเทอร์โบโดยตรง จึงช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นการทำงานได้เต็มกำลัง

สนามทดลองที่เป็นลักษณะของไฮสปีด จึงช่วยขับให้พวกเราเห็นความสามารถของเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ตัวนี้ได้ชัดและง่ายดายมากยิ่งขึ้น จังหวะผู้กระทำดคันเร่งเพื่อไล่ความเร็ว พบว่าพละกำลังมาไวกว่าที่คาด ช่วงทางตรงเผลอเล็กน้อยวิ่งทะลุไปถึง 140-150 กิโลเมตรต่อช่วโมง แต่ตามมาด้วยรอบเครื่องจักรกลที่พุ่งสูงไปถึง 4000 รอบต่อนาที

จังหวะใช้ความเร็วปานกลาง แล้วยกคันเร่งก่อนที่จะชนคันเร่งลงไปซ้ำอีกครั้ง ก็ยังตอบสนองได้ดิบได้ดี เจออาการเหวอค่อนข้างจะน้อย ส่วนหนึ่งส่วนใดน่าจะมาจากการเซ็ทเกียร์ CVT มาได้พอดีกว่าเดิม โดยในตัวชุดเกียร์ CVT ก็มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนขององศาของตัวสายพานกระดูกงูใหม่ให้ดำเนินงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้กระนั้นอย่างไรก็แล้วแต่ ฮอนด้า ยังเป็น ฮอนด้า ที่ตั้งใจเซ็ทเครื่องยนต์กลไก ไม่ให้ปรู๊ดปร๊าด หรือลากกระชั้น ยังคงเซ็ทให้รถยนต์เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบแบบผู้ดี ใช้ชีวิตเรียบง่ายในยามปกติ แต่มีกรุสมบัติที่หลบซ่อนไว้ให้ใช้เหลือเฟือเมื่อต้องการ
ตอนล่าง เป็นสิ่งที่อยากจะจับจ้องสูงที่สุด เพราะส่วนตัวไม่เคยเชื่อในความสามารถช่วงล่างของฮอนด้า
การให้ความใส่ใจ แล้วก็ไล่แก้ไข ตั้งแต่ตัวบอดี้ที่เสริมให้แข็งแรงขึ้น การปรับเซ็ทแชสซีส์ตัวเดิมให้ลงตัวกว่าเก่า ไปจนกระทั่งการปรับจูนระบบช่วงล่างให้รองรับกับความล้นเหลือของเครื่องจักรทำให้ภาพลักษณ์ของ ฮอนด้า สิตี้ เปลี่ยนไป

ยกระดับ… น่าจะเป็นคำที่สมควรและก็ถูกชูมามอบให้กับสมรรถนะช่วงล่างของ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ คันนี้
ตอนล่างมองเป็นรถยนต์ประเทศญี่ปุ่นผู้ดี มีความนุ่มนวล แต่แน่นหนึบ รองรับการใช้แรงงานได้อย่างทั่วถึง ในช่วงทางตรงใช้ความเร็วสูงมาก ตัวรถยั่งนิ่งทรงอาการเจริญ ตอนเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมากเช่นกัน ถ้าเกิดเป็นในรุ่นเดิมคงจะมีลักษณะท้ายออก โยกย้วย แต่ตัวนี้จับสัมผัสได้น้อยมาก
ช่วงถนนที่เอาอย่างเนินหลุมของถนนหนทางเมืองไทย ช่วยขับอาการความละมุนละไมของตอนล่างมาให้พวกเราสัมผัสเจริญ การให้ตัวในจังหวะยุบโยก ไม่ส่งให้ช่วยเวียนหัวไปยังผู้โดยสาร
คือ มิได้เซ็ทมาให้ แน่นแข็งเป็นรถวัยรุ่น แต่ เซ็ทมาให้รองรับกับการใช้แรงงานได้อย่างหลากหลายครบครัน อีกทั้งครอบครัว ส่วนพวงมาลัย อวบอูมขึ้น จับกระชับมือ มอบสัมผัสที่ดี แม้กระนั้นเหนืออื่นใด พวงดอกไม้พอได้เบามาก น้ำหนักดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากมาย

ซึ่งซิตี้ เจเนอเรชั่น 5 นับเป็นการปรับจูนตอนล่างกับกำลังเครื่องจักรมาได้เหมาะสมกันอย่างดีเยี่ยม แอบหลับตานึกมีบางอารมณ์แอบคิดว่านั่งอยู่บนรุ่นพี่ อย่างฮอนด้า ซีวิค
แต่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ จำเป็นต้องย้ำอีกรอบว่าเป็นการทดลองสั้นๆอาจจำเป็นต้องรอการนำมาทดลองขับในทางที่ยาวกว่านี้ ดูถึงเรื่องของการแล็คของเกียร์ จะมีมากกว่านี้ไหม อัตราการประหยัดจะเป็นอย่างไร ไปจนกระทั่งเรื่องของความเงียบด้านในห้องโดยสาร แม้ว่าจะทำเป็นดีขึ้น แม้กระนั้นจำต้องจับอาการบนถนนจริงอีกรอบ
 
ขอบคุณบทความจาก :
https://www.autostation.com/car/review-car/all-new-honda-city-2020
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Honda City 2020

Tags : Honda City 2020
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ