ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Onkanya5892 ที่ มกราคม 26, 2020, 12:59:24 am



หัวข้อ: รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด
เริ่มหัวข้อโดย: Onkanya5892 ที่ มกราคม 26, 2020, 12:59:24 am
(https://1.bp.blogspot.com/-4TJk5TPSF7I/Xhn88qnGoEI/AAAAAAABdc4/ojUDhLiuF8Eo8RxOVtxRXhoUD9EYYhwwQCNcBGAsYHQ/s640/New%2BMG%2BHS03.jpg)
รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด
นอกจากเครื่องจักรกลรวมทั้งชุดเกียร์ที่ยกมาจาก MG GS แล้วทุกอย่างใน MG HS 1.5 Turbo นั้นยกเครื่องมาให้ทั้งหมดทั้งปวง รวมทั้งอย่ามีความคิดว่าเครื่องเกียร์เดียวกันมันจะเช่นกันนะ[/b]

เราเพิ่งก้าวลงจาก MG HS ที่ขับพาไปส่งจุดมุ่งหมายในเขตลำคลองสานหลังจากใช้เวลาด้วยกันมาราววันครึ่งสองวัน สรุปสั้นๆมันบางทีอาจไม่ใช่รถยนต์ที่เหมาะสมที่สุด เลิศเลอที่สุด คุ้มค่าคุ้มคุ้มราคาที่สุดในมุมมองของหลายๆคน แต่เชื่อเถอะว่ามันทำออกมาได้ดีมากว่าที่คิดมากไม่น้อยเลยทีเดียวเลยทีเดียว

คุณรู้สึกว่าตนเองมุ่งมาดอะไรกับการซื้อรถเอสยูวีหรือรถยนต์นั่งเอนกประสงค์หนึ่งคันในราคาล้านนิดๆสมรรถนะการขับขี่ ความละมุนละไมของช่วงล่าง เทคโนโลยีล้ำยุค นั่งสบาย กว้างใหญ่ ระบบความให้การช่วยเหลือแน่นๆMG HS เป็นหนึ่งในรถที่มีฟังก์ชั่นพวกนี้ครบทั้งหมด
ออกแบบข้างนอกของตัวรถคงจะเอกลักษณ์การออกแบบของ MG แต่ว่าที่พรีเมี่ยมขึ้นคือระบบไฟ LED เต็มแบบอย่างยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบ Sequential กระเต็มที่เขากล่าวว่าเป็นดีไซน์ที่เสมือนโลโก้อยู่ท่ามกลางดวงดาว ล้อมด้วยพรอบวัวรเมี่ยม

เสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม มีสปอยเลอร์หลังในตัวท็อป แต่ว่าถ้าหากจะให้โก้เปลี่ยนสปอยเลอร์ข้างหลังแม้กระนั้น หรือเปลี่ยนแปลงมันทั้งชุดเลยอีกทั้งกรอบวัวรเมี่ยม กันชนหน้าข้างหลังสีดำแบบคันที่เราได้ขับในคราวนี้บอกเลยว่าสวย

ข้างในตัวท็อปจะเป็นเบาะแบบ Bucket Seat สะดุดตาไม่ซ้ำใคร ส่วนตัวเราที่เป็นเพศชายหุ่นมาตรฐานก็นั่งสบายดี รับแขน รับหัว ขับก็บันเทิงใจ ตอนนั่งหลับก็สบาย ส่วนเบาะหลังจากนั้นเท่าที่นั่งโดยประมาณหนึ่งจัดว่าดีและก็มีการปรับระยะเอนได้

ข้างในห้องโดยสารจัดว่ากว้างรวมทั้งยิ่งดูกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยพาโนรามิคซันรูฟปรับกระแสไฟฟ้าพร้อมที่บังแดด ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆที่ต้องมีให้ใช้ครบถ้วน แม้กระนั้นหลายๆปุ่มแย่างการควบคุมระบบปรับอากาศก็ถูกย้ายไปอยู่ในจอกลางขนาด 10 นิ้วสถานที่ทำงานได้ยอดเยี่ยมราวกับแท็ปเล็ตแพงๆดีๆเครื่องหนึ่งเลย

เครื่องจักรกลแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับ E85 ขับเคลื่อนกับชุดเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด หรือเราบางทีอาจจะคุ้นกว่าถ้าเกิดเรียกว่า Dual Clutch Transmission หรือ DCT ซึ่งทั้งสองยกมาจาก MG GS

อย่าพึ่งจะตกอกตกใจที่พวกเราบอกว่ายกมาจาก MG GS ด้วยเหตุว่าเครื่องยนต์และก็เกียร์ชุดดีมีการปรับจูนใหม่ทั้งปวง ลืมภาพและก็ความรู้สึกที่น่ารำคาญ ขัดใจใน MG GS ทิ้งไปได้เลย ด้วยเหตุว่าเมื่อเทียบเคียงกันแล้ว MG HS จัดว่าดียอดมาก ตลอดการใช้งานไม่พบการเปลี่ยนเกียร์ ฟึดฟัด ฮึดฮัด ให้หงุดหงิด รำคาญ แม้จะเป็นตอนใช้งานในเมืองที่รถติด

เครื่องยนต์รวมทั้งเกียร์ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม ในการเดินทางในทริปนี่พวกเราออกจากกรุงเทพมุ่งหน้าเขาใหญ่ จังหวะไหนที่อยากจะแซงก็เหลือๆสบายๆอาการเกียร์ทึ่มจนกระทั่งน่าอารมณ์เสียใจไม่มีให้เห็น หากเทียบกับ MG GS แล้ว MG HS นับว่าเฉลี่ยวฉลาดมากยิ่งกว่าเดิม
แนวทางการทำงานของเครื่องยนต์กลไก เกียร์ คันเร่ง ตอบสนองตามโหมดการขับขี่ทั้งหมด 4 โหมดดังเช่นว่า Eco, Normal, Sport หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับการโต้ตอบต่างๆทั้งยังเครื่องจักร พวงดอกไม้แล้วก็อื่นๆได้ตามใจ และก็ยังมีปุ่มอัศจรรย์อย่าง Super Sport ที่ให้การตอบสนองแบบเร้าใจที่สุด

ถ้าเอาโหมดมาตรฐานหรือ Normal เป็นที่ตั้งแล้ว ทางวิศวกรกล่าวว่าโหมด Sport จะมีรอบที่ตึงกว่าราว 50 รอบต่อนาทีแต่ว่าจะทำให้คนขับขี่ใช้ Paddle Shift ได้ ตอนที่โหมด Super Sport จะมีรอบที่สูงกว่าโหมดมาตรฐานราว 400 รอบต่อนาที มีการคารอบค้างเกียร์เอาไว้ให้พร้อมใช้งานมากกว่าในโหมด Sport

ความรู้สึกที่กระจ่างเลยคือในโหมด Eco และก็ Normal นั้นจะให้การสนองตอบต่อคันเร่งที่นุ่มนวล อาจจะต้องรอนิดหน่อยแต่ครู่หนึ่งก็จะรีบแซงด้วยแรงแบบเหลือเฟือ ส่วนในโหมด Sport และ Super Sport จะกดคันเร่งแล้วพุ่งทันใจ ในจังหวะที่การจราจรช้าๆแล้วแตะะๆปล่อยๆก็จะรู้สึกถึงอาการตัวโยกตามก่อนสัมผัสปลดปล่อยคันเร่ง ฮึดฮัดๆพร้อมพุ่งตลอดระยะเวลา

ถ้ามีคนใดกันบอกคุณว่า MG HS กับ Chevrolet Captiva บ้านเรานั้นเช่นเดียวกัน เครื่องเดียวกัน เกียร์เดียวกัน ทีม MG รับรองว่าไม่ใช่ และคนที่ได้ขับทั้งสองคันและก็กล่าวว่าคนละเรื่อง

สรุปว่าเรื่องเครื่องจักรกลและก็เกียร์ สบายใจ หายห่วง อีกทั้งความฉลาดของเกียร์และการตอบสนองรวมทั้งพลังของเครื่องยนต์ ยิ่งถ้าหากคุณถูกใจฟีลลิ่งของรถมีเกียร์เจ้านี่คงจะตอบปัญหา

ส่วนโหมดที่เราถูกใจมากที่สุดในการเดินทางแบบล่องไปเรื่อยๆเป็นโหมด Eco ที่ให้การตอบสนองที่นุ่มนวลของคันเร่ง หากจะเเซงขาดๆก็กด Super Sport แปลงเรือนไมล์เป็นสีแดง เพื่อรีบแซงรวมทั้งกดอีกรอบกลับมา Eco ที่สำคัญคือพวกเรามีความคิดว่าโหมด Eco นั้นดูเหมือนใส่รับกับการใช้งานของระบบช่วยเหลือต่างๆได้เนียนที่สุดอีกด้วย

ต่อมาที่อีกหนึ่งสาระสำคัญเป็นช่วงล่าง New MG HS นั้นช่วงล่างจูนอัพตามแบบ Euro Tuning Suspension โดยใช้ระบบช่วงล่างข้างหน้าแบบ MacPherson Strut ข้างหลังแบบ Multi-Link

ในบริเวณความเร็วต่ำช่วงล่างจัดว่าเฟิร์ม นุ่มนวล ดูดซับแรงกระแทกได้ดิบได้ดี แม้ว่าจะมีชนหลุมชนเนินหนักๆบ้างก็ยังจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีด้วยเหตุว่าขั้นต่ำพี่ที่นั่งมาด้วยก็ไม่บ่น ว่ามันชน โยกเยก โคลงเคลงแต่อย่างใด

แต่ว่าถ้าเกิดขับด้วยความเร็วประมาณหนึ่งก็จะมีแรงสะท้อนจากถนนหนทางอยู่บ้าง อย่างเห็นบนถนนหลวงเลขลำดับ 2 ที่รถบรรทุกใช้งานกันหนาแน่น ถนนพังทลายเละ ปะ พุ หลายจุดจะรู้สึกถึงแรงสะท้อนได้เยอะแยะ หรือในช่วงทำความเร็วอย่างบนทางด่วน ช่วงรอยต่อระหว่างแผ่นถนนจะคนขับขี่รู้สึกได้ถึงผู้กระทำระกระเด้งเล็กๆ

ช่วงล่างที่เฟิร์มทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ แม้กระนั้นพวงดอกไม้ที่เบา ควบคุมง่าย หมุนสบาย คุณผู้หญิงก็ควงเพลิดเพลินในเขตความเร็วต่ำ-กึ่งกลาง นั้น พอในเขตความเร็วสูงหรือในโหมดสปอร์ตที่มีการปรับน้ำหนักมากขึ้นตามใจเราก็ยังรู้สึกว่าค่อยไป

เว้นแต่เรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่พี่ๆสื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดีมากกว่าที่คิดเอาไว้” แล้ว จำสำหรับแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้วยังเป็นอะไรที่เราติดอกติดใจสุดๆในเรื่องผลดีใช้สอย

นี่เป็นหน้าจอสัมผัสที่สุดยอดที่สุดที่ MG เคยมีมาและบรรเจิดระดับแถวหน้าของวงการหน้าจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสของรถยนต์ ระบบสัมผัสดียอดระดับแท็ปเล็ตดีๆเครื่องหนึ่ง ก็แค่ถูกล็อคฟังก์ชั่นการใช้งานเอาไว้ด้วยระบบของ MG

ระบบนำทางเป็นของ TomTom ที่บอกทางได้ดี ถูกต้อง ไม่มีเหวอ ไม่มีสับสน แล้วก็บอกภาวะการจราจรแบบ Real Time พร้อมทั้ง True Music คลังเพลงนับล้านแค่กดหน้าจอ การเปิดปิดระบบรวมทั้งการแจ้งเตือนต่างๆก็ การปรับแบบไฟในห้องโดยสาร อยู่ในจอนี้ทั้งสิ้นรวมถึงระบบปรับอากาศ

จอนี้ยังแสดงผลรอบตัวรถยนต์แบบ 360 องศา รวมถึงกล้องที่ทางด้านซ้ายและก็ขวาในความเร็วต่ำ การแสดงภาพตัวรถแบบ 3 มิติเพื่อช่วยตรวจภาวะรอบๆของตัวรถยนต์ ทั้งสิ้นเลือกกดบนจอได้เลย

ในรุ่นท็อปอย่าง MG HS X นั้นเว้นเสียแต่พาโนรามิคซันรูฟแล้วก็เบาะนั่งแล้ว ยังมีระบบระเบียบที่เพิ่มเข้ามาช่วยทั้งยัง Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist แล้วก็อื่นๆอีกมาก

นอกเหนือจากเรื่องสมรรถนะเรื่องของระบบช่วยเหลือถือเป็นอีกหัวข้อที่ดีมากกว่าที่เราคาดเอาไว้ การทดงานของ ACC เมื่ออยู่กับโหมดการขับขี่แบบ Eco จะนุ่มนวลลื่นไหลสุดๆทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วเริ่ม ออกสตาร์ท จนถึงหยุดสนิทแล้วก็เมื่อรถยนต์คันหน้าหยุดพวกเราก็หยุด แม้เกินในเวลาที่กำหนดระบบจะเตือนให้เราเหยียบคันเร่งนิดหน่อยเมื่อรถยนต์คันหน้าออกตัวเพื่อ Activate ระบบอีกที

แต่ในจุดเด่นก็มีข้อเสียหากแม้ระบบควบคุมอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ จะใช้งานในเมือง ตอนรถติด จราจรไหลๆได้ แต่ว่าพอเพียงคันหน้าหยุด ตัวรถจะเบรกออกจะรุนแรงไปสักหน่อย ถ้าหากขับคนเดียวอาจพอเพียงทนได้ แม้กระนั้นผู้โดยสารมาน่าจะรำคาญและวิงเวียนอยู่

ส่วนคนไหนกันแน่ที่อยากทราบเนื้อหาว่าระบบความปลอดภัยแล้วก็ช่วยเหลืออะไรเพิ่มเข้ามาบ้างนอกจาก 14 ระบบความปลอดภัยฐานราก ก็ราวๆนี้ขอรับ
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อปรารถนาเปลี่ยนแปลงเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

Advanced Driver Assistance Systems (ADAS)

• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับรถ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยควบคุมรถยนต์เมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

สำหรับท่านที่ตื่นตระหนกเรื่องเสียงในห้องโดยสาร MG HS นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่เก็บเสียงในห้องโดยสารก้าวหน้า ที่ความเร็วราว 120 กม./ชั่วโมง นั้นไม่มีลมตีเอะอะ ผู้ใดกันแน่ที่คุ้นชินกับปุ่ม Cruise Control บนพวงดอกไม้แบบรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น จะต้องใช้เวลาปรับนิสัยกับการใช้แรงงานที่ก้านแบบรถยนต์ยุโรปบางส่วน แต่แป๊ปเดียวก็คล่องแคล่ว

รถคันที่พวกเราได้ขับนั้นจะเป็นคันที่มาพร้อมชุดแต่งวัวรเมี่ยมสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำ รวมทั้งข้างนอกอีกหลายจุด ที่เรามองว่าสวยกว่าของเดิมที่เป็นวัวรเมี่ยมมาก ราคาอย่างคร่าวๆของทั้งยังเซ็โคนยู่ที่ไม่เกิน 1.8 – 2 หมื่นบาท

ส่วนคนที่ซื้อรุ่นรองท็อปและตัวข้างล่างนั้น เพิ่มฟังก์ชั่นฝาท้ายกระแสไฟฟ้ารวมทั้งเซนเซอร์เพื่อเตะแล้วเปิดฝาท้ายอัตโนมัติได้ในราคาราว 1.8 หมื่นบาท ส่วนรุ่นท็อปที่เปิดประตูกระแสไฟฟ้าอยู่แล้วนั้น ซื้อฟังก์ชั่นเซนเซอร์เตะเพื่อเปิดไม่ได้

สำหรับโปรโมชั่น 1,000 คันแรก รับการลดราคา 34,000 บาท สำหรับเพื่อการซื้อชุดเครื่องใช้ไม้สอยตกแต่ง หรือนำไปเป็นส่วนลดของราคาจัดจำหน่ายรถได้โดยทันที พร้อมกับการรับรองคุณภาพรถนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ในขณะนี้ทะลุไปนานแล้ว แต่ยังไงใช้โปรฯ นี้ได้ในงาน Motor Expo 2019
[/b]


ราคา MG HS

New MG HS รุ่น C ราคา 919,000 บาท
New MG HS รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
New MG HS รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว mg hs

Tags : รีวิว mg hs,mg hs 1.5 turbo,New MG HS
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ