ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: moopinginter ที่ มกราคม 26, 2020, 10:20:35 pm



หัวข้อ: รีวิว All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร
เริ่มหัวข้อโดย: moopinginter ที่ มกราคม 26, 2020, 10:20:35 pm
(https://1.bp.blogspot.com/-j5DxyTNFQlk/XhnsUrWE4_I/AAAAAAABdcI/NXTTyvYw2QwOgdiT9MKG_lOlU6VE0jyhwCNcBGAsYHQ/s1600/Honda%2BCity%2B2020-02.jpg)
 
รีวิวฮอนด้า 2020 All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร
All New Honda City เทอร์โบ 1.0 ลิตร พลังหนุ่ม แต่ตอนล่างอ่อนโยนวัยกลางคน
ต้องเกริ่นก่อนว่า การมาทดสอบ Honda City ในครั้งนี้ เป็นการถูกเชื้อเชิญมาทดลองกันแบบพอหอมปากหอมคอ ก่อนที่จะ Full Test กันในช่วงเวลากลางเดือนมกราคมอีกที ทำให้การทดลอง ณ สนามทดลอง ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี เป็นการลองขับแบบ First Impression หรือ แรกสัมผัสขนาดแท้

ฮอนด้า สิตี้ แรกเริ่มเป็นรถขายดิบขายดีเบอร์ต้นของตลาดในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาด บีเซ็กเมนท์ ชิงชัยแทรกกันแบบล้อต่อล้อมาโดยตลอดในด้านยอดขายกับคู่ปรับสำคัญในกลุ่มเดียวกันจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า

การกลับมาพร้อมกับการเช็ดกนำเข้าไปอยู่ในชนชั้นของ Eco Car Phase 2 รวมทั้งเรียกแทนตัวเองว่าเป็น รถยนต์ซิตี้คาร์ ก็เลยเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดูมีความแปลกใหม่รวมทั้งน่าสนใจในหลายเรื่อง
All New Honda City มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่าง สำหรับการขับรถในกลางวันแบบ แอลอีดี และไฟท้ายแบบ แอลอีดี กระเต็มที่แบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม รวมทั้งล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ข้างในห้องโดยสารแลดูหรูหราด้วยโทนสีดำ เบาะหนัง คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูภายในตกแต่งโครเมียม แต่จะมีภายในสีทูโทน ไอเวอปรี่/ดำ เฉพาะรุ่น SV ให้เลือก

มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าพร้อมตาหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แล้วก็ระบบออกคำสั่งด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ฯ

Honda City ในรุ่น RS จะมองโดดเด่นขึ้น ด้วยชุดแต่งรอบคัน กระเต็มหน้าแบบ Gloss Black แล้วก็เครื่องหมาย RS กันชนหน้าและก็กระเต็มหน้าสไตล์สปอร์ต กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยว สปอยเลอร์หลัง Gloss Black เครื่องหมาย RS และล้ออัลลอยออกแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ห้องโดยสาร เบาะหนังกลับตกแต่งด้วยเส้นด้ายสีแดง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ มิเตอร์เรืองแสงสีแดง

เครื่องจักรกลเบนซิน 3 ดูด ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว มาพร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ฮอนด้าเคลมอัตราประหยัดน้ำมันที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร

ระบบเกียร์ออโตเมติกแบบ CVT มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงดอกไม้แบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโล รวมทั้งสามารถรองรับน้ำมัน E20

โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกคุ้มครองล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจัดกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) รวมทั้งกล้องถ่ายภาพส่องภาพข้างหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

ทรรศนคติต่อ ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชั่นที่ 5…
จำเป็นต้องพูดว่า ฮอนด้า ดูเหมือนถนัดมากมายในเรื่องการทำรถยนต์ให้เกิดความสวยงามประทับใจผู้ใช้ การเลือกใช้เส้นเพื่อให้กำเนิดอัตลักษณ์ที่สะดุดตามองพอดีในดูเหมือนจะทุกจุด
การจัดวางอุปกรณ์การดูแลด้านความสะดวกสบายข้างในอยู่เกณฑ์ดี นอกจากสวยยังเน้นรองรับการใช้แรงงานจริง ในทุกพื้นที่ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหัวข้อเด่นของฮอนด้า

แม้กระนั้นการเลือกเน้นย้ำไปที่ความงดงาม ทั้งด้านนอกข้างใน ไปจนกระทั่งการเลือก Downsizing เครื่องจักรจากเดิมเบนซิน 1.5 ลิตร 4 ดูด เป็น 1.0 ลิตร 3 ดูดแทน ดูจะกระทบไปถึงการคุมต้นทุนการสร้างอยู่บ้าง แม้จะลดเงินลงทุนไปบ้างจากการเลือกใช้แชสซีย์เดิมแต่ว่าปรับปรุงใหม่ แต่ว่าก็ยังส่งผลไปถึงการขาดหายไปของออปชั่นอะไรบางอย่าง

ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นปัญหาของฮอนด้า มานาน เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งหมดในตลาด
แม้จะทำราคาวิธีขายถูกลงกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ยังเกิดการถูกแปะป้ายจากผู้บริโภคว่า ฮอนด้าเป็นสายกั๊กออปชั่น ยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับคู่แข่งขันโดยตรงเดี๋ยวนี้อย่าง นิสสัน อัลเมร่า ใหม่
แต่การทราบว่าจะขายอะไรให้กับลูกค้าตนเองของฮอนด้า…ดูเหมือนน่าสะพรึงกลัวกว่าอื่นใดทั้งสิ้น

ภายในคืออีกหนึ่งคุณลักษณะเด่น การจัดวางช่องวางของ ขวดน้ำ ถ้วยน้ำ หรืออีกสารพัดสารพันมีพื้นที่อย่างมากเกิน อุปกรณ์ด้านในแบบบุนุ่มให้รู้สึกสัมผัสที่ดี

เบาะนั่งข้างหน้าวางแบบทรงมาคล้ายกับฮอนด้า ซีวิค นั่งโอบกระชับแผ่นหลังดี ส่วนเบาะแถวหลังช่วงวางขากว้างขวาง แต่ว่าในส่วนของหลังคาดูเหมือนจะลาดลงมากว่ารุ่นเดิมจนถึงแบบรู้สึกพื้นที่บนหัวน้อยไปนิด
ด้านความสามารถ…
คุณจงลืมภาพรถยนต์แม่บ้าน ขับง่าย พวงดอกไม้เบาโหวงเหวง ช่วงล่างอ่อนไหวง่าย ไปได้เลย

แม้ว่าจะเป็นการทดลองอันแสนสั้นกับระยะทาง 2.18 กม.ในรอบใหญ่ แล้วก็ 1.3 กิโลที่เลียนแบบสภาพถนนหนทางจริงในรอบเล็ก ก็พอเพียงจะเก็บความรู้สึกมาฝากและก็เล่าสู่กันฟังได้พอสังเขป
การกลับมาเกิดใหม่ของ ฮอนด้า สิตี้ ยึดดีเอ็นเอความรูปหล่อไว้เหมือนเดิม แต่เพิ่มด้วยการอัพเกรดความสามารถใหม่ทั้งสิ้น

เครื่องยนต์กลไก เป็น สิ่งที่ฮอนด้าภูมิใจจะนำเสนอ เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว เทอร์โบชาร์จ ตัวนี้ คือ เครื่องจักรที่ใส่อยู่ในซีวิครุ่นที่ขายอยู๋ในประเทศจีน และอเมริกา การนำมายัดใส่รถยนต์ที่มีขนาดเล็กลงและจำต้องปรับจูนให้ผ่านมาตรฐานอีวัวคาร์เฟส 2 เป็นเรื่องที่น่าค้นหา

คุณลักษณะเด่น เป็น เครื่องจักร VTEC เต็มระบบอันเลื่องชื่อของฮอนด้า ระบบแคมชาฟท์ Dual VTC เพิ่มลดรองศาของแคมชาฟท์ในการเปิดปิดวาลว์ไอดี ไอเสีย ให้สนองตอบต่อการทำงานได้ดิบได้ดีขึ้น
อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ ซึ่งพิเศษด้วยการติดตั้งไว้ 2 ตัว ตัวแรกไว้สำหรับการระบายความร้อนธรรมดา แต่ว่าอีกหนึ่งตัวไว้สำหรับในการช่วยระบายความร้อนของเทอร์โบโดยตรง จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เต็มที่

สนามทดลองที่เป็นลักษณะของไฮสปีด จึงช่วยขับให้พวกเราเห็นความสามารถของเครื่องจักรกล 1.0 ลิตร ตัวนี้ได้ชัดรวมทั้งง่ายดายมากยิ่งขึ้น จังหวะการกดคันเร่งเพื่อไล่ความเร็ว พบว่ากำลังมาไวกว่าที่คาด ตอนทางตรงเผลอนิดหน่อยวิ่งทะลุไปถึง 140-150 กม.ต่อช่วนาฬิกา แต่ตามมาด้วยรอบเครื่องยนต์ที่พุ่งสูงไปถึง 4000 รอบต่อนาที

จังหวะใช้ความเร็วปานกลาง แล้วชูคันเร่งก่อนจะกระแทกคันเร่งลงไปซ้ำอีกครั้ง ก็ยังสนองตอบก้าวหน้า เจออาการเหวอค่อนข้างจะน้อย ส่วนหนึ่งส่วนใดคงจะมาจากการเซ็ทเกียร์ CVT มาได้พอดีกว่าเดิม โดยในตัวชุดเกียร์ CVT ก็มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนขององศาของตัวสายพานกระดูกงูใหม่ให้ปฏิบัติงานได้เต็มคุณภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆ

แต่แต่ ฮอนด้า ยังเป็น ฮอนด้า ที่เจตนาเซ็ทเครื่องจักรกล ไม่ให้ปรู๊ดปร๊าด หรือฉุดกระชากใกล้ ยังคงเซ็ทให้รถยนต์เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบแบบผู้ดี ดำเนินชีวิตเรียบง่ายในยามปกติ แต่ว่ามีขุมสมบัติที่ซ่อนไว้ให้ใช้เหลือเฟือเมื่ออยาก
ตอนล่าง คือสิ่งที่อยากจะจ้องสูงที่สุด เนื่องจากว่าส่วนตัวไม่เคยเชื่อในสมรรถนะตอนล่างของฮอนด้า
การให้ความสำคัญ รวมทั้งไล่ปรับปรุงแก้ไข ตั้งแต่ตัวบอดี้ที่เสริมให้แข็งแรงขึ้น การปรับเซ็ทแชสซีส์ตัวเดิมให้ลงตัวกว่าเก่า ไปจนถึงการปรับจูนระบบช่วงล่างให้รองรับกับความล้นเหลือของเครื่องจักรทำให้ภาพลักษณ์ของ ฮอนด้า ซิตี้ แปรไป

ยกฐานะ… น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมและถูกยกมามอบให้กับความสามารถตอนล่างของ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ คันนี้
ช่วงล่างมองเป็นรถประเทศญี่ปุ่นผู้ดี มีความละมุนละไม แต่ว่าแน่นหนึบ รองรับการใช้แรงงานได้อย่างทั่วถึง ในตอนทางตรงใช้ความเร็วสูงมาก ตัวรถยั่งนิ่งทรงอาการได้ดี ตอนเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมากมายเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นในรุ่นเดิมน่าจะมีอาการด้านหลังออก โยกย้วย แต่ตัวนี้จับสัมผัสได้น้อยมาก
ช่วงถนนหนทางที่เลียนแบบเนินหลุมของถนนหนทางเมืองไทย ช่วยขับอาการความนุ่มนวลของช่วงล่างมาให้พวกเราสัมผัสได้ดิบได้ดี การให้ตัวในจังหวะยุบโยก ไม่ส่งให้ช่วยเวียนหัวไปยังผู้โดยสาร
คือ มิได้เซ็ทมาให้ แน่นแข็งเป็นรถยนต์วัยรุ่น แต่ว่า เซ็ทมาให้รองรับกับการใช้แรงงานได้อย่างมากมายพร้อม ทั้งยังครอบครัว ส่วนพวงดอกไม้ อวบอูมขึ้น จับกระชับมือ มอบสัมผัสที่ดี แต่เหนืออื่นใด พวงมาลัยไม่เบาโหวง น้ำหนักดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมมาก

ซึ่งสิตี้ เจเนอเรชั่น 5 นับเป็นการปรับจูนตอนล่างกับกำลังเครื่องยนต์กลไกมาได้เหมาะสมกันเป็นอย่างดี แอบหลับตาคิดมีบางอารมณ์แอบคิดว่านั่งอยู่บนรุ่นพี่ อย่างฮอนด้า ซีวิค
แม้กระนั้นอย่างไรก็ตาม จำต้องย้ำอีกครั้งว่าเป็นการทดสอบสั้นๆคงจะจำเป็นต้องรอการนำมาทดลองขับในทางที่ยาวกว่านี้ ดูถึงเรื่องของการแล็คของเกียร์ จะมีมากกว่านี้ไหม อัตราการประหยัดจะเป็นยังไง ไปจนถึงเรื่องของความเงียบภายในห้องโดยสาร แม้ว่าจะทำได้ดีขึ้น แต่จำเป็นต้องจับอาการบนถนนหนทางจริงอีกรอบ
 
ขอบคุณบทความจาก :
https://www.autostation.com/car/review-car/all-new-honda-city-2020
 

Tags : Honda City 2020,รีวิวฮอนด้า 2020
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ