ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Amonwan95892 ที่ มกราคม 27, 2020, 03:08:21 am



หัวข้อ: รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด
เริ่มหัวข้อโดย: Amonwan95892 ที่ มกราคม 27, 2020, 03:08:21 am
(https://1.bp.blogspot.com/-l95KUSszF80/Xhn89lf1_gI/AAAAAAABddA/zrXHYQVeFKgIlNzM68dt4rb9G_qJeDS4ACNcBGAsYHQ/s640/New%2BMG%2BHS05.jpg)
รีวิว MG HS 1.5 Turbo เกียร์ DCT อัดฟังก์ชั่นเกินคาด สมรรถนะดีกว่าที่คิด
เว้นเสียแต่เครื่องจักรและชุดเกียร์ที่ยกมาจาก MG GS แล้วทั้งหมดทุกอย่างใน MG HS 1.5 Turbo นั้นยกเครื่องมาให้ทั้งสิ้น แล้วก็อย่ามีความคิดว่าเครื่องเกียร์เดียวกันมันจะเช่นกันนะ[/b]

พวกเราพึ่งก้าวลงจาก MG HS ที่ขับพาไปส่งจุดหมายปลายทางในบริเวณลำคลองสานหลังจากที่ได้มีการใช้เวลาด้วยกันมาราววันครึ่งสองวัน สรุปสั้นๆมันบางทีอาจไม่ใช่รถยนต์ที่เหมาะสมที่สุด เลิศที่สุด คุ้มคุ้มคุ้มราคาที่สุดในมุมมองของคนจำนวนไม่น้อย แม้กระนั้นเชื่อเถอะว่ามันทำออกมาได้ดีมากยิ่งกว่าที่คิดเยอะแยะเลยทีเดียว

คุณรู้สึกว่าตัวเองมุ่งมาดอะไรกับการซื้อรถเอสยูวีหรือรถยนต์นั่งเอนกประสงค์หนึ่งคันในราคาล้านนิดๆความสามารถการขับขี่ ความละมุนละไมของตอนล่าง เทคโนโลยีทันสมัย นั่งสบาย กว้างขวาง ระบบความให้การช่วยเหลือแน่นๆMG HS เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นกลุ่มนี้ครบทั้งหมด
วางแบบด้านนอกของตัวรถยนต์อาจจะเอกลักษณ์การออกแบบของ MG แต่ว่าที่พรีเมี่ยมขึ้นคือระบบไฟ LED เต็มต้นแบบยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบ Sequential กระจังหน้าเขาบอกว่าเป็นดีไซน์ที่เสมือนโลโก้อยู่ท่ามกลางดวงดาว ล้อมด้วยพรอบวัวรเมี่ยม

เสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม มีสปอยเลอร์ข้างหลังในตัวท็อป แม้กระนั้นถ้าจะให้เท่แปลงสปอยเลอร์หลังแต่ว่า หรือแปลงมันทั้งยังชุดเลยทั้งยังกรอบวัวรเมี่ยม กันชนหน้าข้างหลังสีดำแบบคันที่เราได้ขับในครั้งนี้บอกเลยว่างาม

ภายในตัวท็อปจะเป็นเบาะแบบ Bucket Seat เด่นไม่เหมือนใคร ส่วนตัวเราที่เป็นผู้ชายหุ่นมาตรฐานก็นั่งสบายดี รับแขน รับศีรษะ ขับก็สนุก ตอนนั่งหลับก็สบาย ส่วนเบาะหลังจากนั้นเท่าที่นั่งราวๆหนึ่งนับว่าดีและก็มีการปรับระยะเอนได้

ข้างในห้องโดยสารจัดว่ากว้างแล้วก็ยิ่งดูกว้างมากขึ้นเรื่อยๆด้วยพาโนรามิคซันรูฟปรับไฟฟ้าพร้อมม่านบังแดด ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆที่จำเป็นต้องมีให้ใช้พร้อม แม้กระนั้นหลายๆปุ่มแย่างการควบคุมระบบปรับอากาศก็ถูกย้ายไปอยู่ในจอกลางขนาด 10 นิ้วสถานที่ทำงานได้ดีราวกับแท็ปเล็ตแพงๆดีๆเครื่องหนึ่งเลย

เครื่องยนต์แบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับ E85 ขับกับชุดเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด หรือพวกเราบางทีอาจจะคุ้นกว่าถ้าเรียกว่า Dual Clutch Transmission หรือ DCT ซึ่งทั้งคู่ชูมาจาก MG GS

อย่าเพิ่งจะตกอกตกใจที่พวกเราบอกว่าชูมาจาก MG GS เพราะว่าเครื่องจักรกลและเกียร์ชุดดีมีการปรับจูนใหม่ทั้งหมดทั้งปวง ลืมภาพแล้วก็ความรู้สึกที่น่ารำคาญ ขัดใจใน MG GS ทิ้งไปได้เลย เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว MG HS นับว่าบรรเจิดมาก ตลอดการใช้งานไม่เจอการเปลี่ยนเกียร์ ฟึดฟัด ฮึดฮัด ให้รำคาญ รำคาญ แม้ว่าจะเป็นตอนใช้งานในเมืองที่รถติด

เครื่องจักรกลรวมทั้งเกียร์ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ในการเดินทางในทริปนี่เราออกจากกรุงเทวดามุ่งหน้าเขาใหญ่ จังหวะไหนที่อยากจะแซงก็เหลือๆสบายๆอาการเกียร์โง่กระทั่งน่าอารมณ์เสียใจไม่มีให้มองเห็น ถ้าหากเทียบกับ MG GS แล้ว MG HS จัดว่าเฉลี่ยวฉลาดมากยิ่งขึ้น
การทำงานของเครื่องยนต์กลไก เกียร์ คันเร่ง ตอบสนองตามโหมดการขับขี่ทั้งปวง 4 โหมดดังเช่นว่า Eco, Normal, Sport หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับการตอบสนองต่างๆทั้งยังเครื่องยนต์กลไก พวงดอกไม้แล้วก็อื่นๆได้ตามใจ และก็ยังมีปุ่มน่าพิศวงอย่าง Super Sport ที่ให้การตอบสนองแบบเร้าใจที่สุด

แม้เอาโหมดมาตรฐานหรือ Normal เป็นที่ตั้งแล้ว ทางวิศวกรบอกว่าโหมด Sport จะมีรอบที่ตึงกว่าราว 50 รอบต่อนาทีแต่ว่าจะมีผลให้คนขับขี่ใช้ Paddle Shift ได้ ขณะที่โหมด Super Sport จะมีรอบที่สูงกว่าโหมดมาตรฐานราว 400 รอบต่อนาที มีการคารอบติดอยู่เกียร์เอาไว้ให้พร้อมใช้งานมากกว่าในโหมด Sport

ความรู้สึกที่ชัดแจ้งเลยคือในโหมด Eco และ Normal นั้นจะให้การตอบสนองต่อคันเร่งที่นุ่มนวล บางทีอาจจำเป็นต้องรอนิดหน่อยแต่สักพักก็จะรีบแซงด้วยแรงแบบเกินพอ ส่วนในโหมด Sport และก็ Super Sport จะกดคันเร่งแล้วพุ่งทันใจ ในจังหวะที่การจราจรช้าๆแล้วแตะะๆปล่อยๆก็จะรู้สึกถึงอาการตัวโยกตามก่อนแตะต้องปลดปล่อยคันเร่ง ฮึดฮัดๆพร้อมพุ่งตลอดระยะเวลา

ถ้าหากมีคนไหนกันแน่บอกคุณว่า MG HS กับ Chevrolet Captiva บ้านพวกเรานั้นเช่นเดียวกัน เครื่องเดียวกัน เกียร์เดียวกัน ทีม MG รับรองว่าไม่ใช่ และผู้ที่ได้ขับทั้งคู่คันและก็พูดว่าคนละเรื่อง

เอาเป็นว่าเรื่องเครื่องจักรกลแล้วก็เกียร์ เพลิดเพลินใจ หายห่วง ทั้งความฉลาดของเกียร์และก็การโต้ตอบรวมถึงกำลังของเครื่องจักรกล ยิ่งถ้าเกิดคุณถูกใจฟีลลิ่งของรถมีเกียร์เจ้านี่น่าจะตอบโจทย์

ส่วนโหมดที่เราชอบเยอะที่สุดสำหรับการเดินทางแบบล่องไปเรื่อยๆเป็นโหมด Eco ที่ให้การตอบสนองที่นุ่มนวลของคันเร่ง หากจะเเซงขาดๆก็กด Super Sport แปลงเรือนไมล์เป็นสีแดง เพื่อเร่งแซงและกดอีกรอบกลับมา Eco ที่สำคัญคือเรารู้สึกว่าโหมด Eco นั้นดูเหมือนสอดรับกับการใช้งานของระบบช่วยเหลือต่างๆได้เนียนที่สุดอีกด้วย

ต่อมาที่อีกหนึ่งหัวใจสำคัญเป็นช่วงล่าง New MG HS นั้นช่วงล่างจูนอัพตามแบบ Euro Tuning Suspension โดยใช้ระบบช่วงล่างข้างหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลังแบบ Multi-Link

ในเขตความเร็วต่ำตอนล่างจัดว่าเฟิร์ม นุ่มนวล ซึมซับแรงกระแทกได้ดี แม้ว่าจะมีกระแทกหลุมชนเนินหนักๆบ้างก็ยังจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเพราะเหตุว่าขั้นต่ำพี่ที่นั่งมาด้วยก็ไม่พร่ำบ่น ว่ามันกระแทก โยกเยก โยกอะไร

แต่ว่าถ้าหากขับด้วยความเร็วประมาณหนึ่งก็จะมีแรงสะท้อนจากถนนหนทางอยู่บ้าง อย่างมองเห็นบนถนนหลวงเลขลำดับ 2 ที่รถบรรทุกใช้งานกันหนาแน่น ถนนพังทลายเละ ปะ พุ หลายจุดจะรู้สึกถึงแรงสะท้อนได้เยอะแยะ หรือในช่วงทำความเร็วอย่างบนทางด่วน ช่วงรอยต่อระหว่างแผ่นถนนจะผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงการกระกระดอนเล็กๆ

ช่วงล่างที่เฟิร์มทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นอกมั่นใจ แม้กระนั้นพวงดอกไม้ที่ค่อย ควบคุมง่าย หมุนสบาย คุณสุภาพสตรีก็ควงเพลิดเพลินในบริเวณความเร็วต่ำ-กึ่งกลาง นั้น เพียงพอในย่านความเร็วสูงหรือในโหมดสปอร์ตที่มีการปรับน้ำหนักเยอะขึ้นเรื่อยๆตามใจเราก็ยังมีความรู้สึกว่าเบาไป

นอกเหนือจากเรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่พี่ๆสื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดีกว่าที่คิดเอาไว้” แล้ว จำสำหรับแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้วยังเป็นอะไรที่เราประทับใจสุดๆในเรื่องคุณประโยชน์ใช้สอย

นี่เป็นหน้าจอสัมผัสที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ MG เคยมีมาและบรรเจิดระดับแถวหน้าของแวดวงหน้าจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสของรถยนต์ ระบบสัมผัสดีเยี่ยมระดับแท็ปเล็ตดีๆเครื่องหนึ่ง ก็แค่ถูกล็อคฟังก์ชั่นการใช้แรงงานเอาไว้ด้วยระบบของ MG

ระบบนำทางเป็นของ TomTom ที่บอกทางได้ดี แม่น ไม่มีเหวอ ไม่มีมึน แล้วก็บอกภาวะการจราจรแบบ Real Time พร้อมด้วย True Music คลังเพลงนับล้านเพียงแค่กดหน้าจอ การเปิดปิดระบบและก็การแจ้งเตือนต่างๆก็ การปรับแบบอย่างไฟในห้องโดยสาร อยู่ในจอนี้ทั้งสิ้นรวมทั้งระบบปรับอากาศ

จอนี้ยังแสดงผลรอบข้างรถยนต์แบบ 360 องศา รวมถึงกล้องที่ทางซ้ายแล้วก็ขวาในความเร็วต่ำ การแสดงภาพตัวรถยนต์แบบ 3 มิติเพื่อช่วยตรวจภาวะโดยรอบของตัวรถยนต์ ทั้งผองเลือกกดบนหน้าจอได้เลย

ในรุ่นท็อปอย่าง MG HS X นั้นนอกจากพาโนรามิคซันรูฟแล้วก็เบาะนั่งแล้ว ยังมีระบบระเบียบที่เพิ่มเข้ามาช่วยอีกทั้ง Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist รวมทั้งอื่นๆอีกมาก

เว้นเสียแต่เรื่องความสามารถเรื่องของระบบช่วยเหลือนับว่าเป็นอีกเรื่องที่ดีมากยิ่งกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้ การทดงานของ ACC เมื่ออยู่กับโหมดการขับขี่แบบ Eco จะนุ่มนวลลื่นไหลสุดๆปฏิบัติงานได้ตั้งแต่ความเร็วเริ่มต้น ออกตัว จนถึงหยุดสนิทและก็เมื่อรถยนต์คันหน้าหยุดเราก็หยุด ถ้าหากเกินในขณะที่กำหนดระบบจะเตือนให้เราเหยียบคันเร่งเล็กน้อยเมื่อรถคันหน้าออกตัวเพื่อ Activate ระบบอีกรอบ

แต่ในข้อดีก็มีข้อเสียถึงแม้ระบบควบคุมอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ จะใช้งานในเมือง ตอนรถติด จราจรไหลๆได้ แต่พอเพียงคันหน้าหยุด ตัวรถยนต์จะเบรกค่อนข้างร้ายแรงไปสักหน่อย ถ้าหากขับคนเดียวอาจเพียงพอทนได้ แต่ว่าผู้โดยสารมาน่าจะหงุดหงิดแล้วก็มึนหัวอยู่

ส่วนคนใดกันแน่ที่ต้องการรู้รายละเอียดว่าระบบความปลอดภัยแล้วก็ช่วยเหลืออะไรเพิ่มเข้ามาบ้างเว้นเสียแต่ 14 ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ก็ราวนี้ขอรับ
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

Advanced Driver Assistance Systems (ADAS)

• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีโอกาสเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถยนต์ออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยควบคุมรถยนต์เมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

สำหรับท่านที่กังวลใจเรื่องเสียงในห้องโดยสาร MG HS ถือเป็นรถอีกรุ่นที่เก็บเสียงในห้องโดยสารได้ดี ที่ความเร็วราว 120 กิโลเมตร/ชม. นั้นไม่มีลมตีโวยวาย ผู้ใดกันแน่ที่ชินกับปุ่ม Cruise Control บนพวงดอกไม้แบบรถญี่ปุ่น ต้องใช้เวลาปรับพฤติกรรมกับการใช้งานที่ก้านแบบรถยุโรปบางส่วน แต่แป๊ปเดียวก็คล่อง

รถยนต์คันที่เราได้ขับนั้นจะเป็นคันที่มาพร้อมชุดแต่งวัวรเมี่ยมสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำ และภายนอกอีกหลายจุด ที่เราเห็นว่างามกว่าของเดิมที่เป็นวัวรเมี่ยมมาก ราคาคร่าวๆของทั้งยังเซ็ตอยู่ที่ไม่เกิน 1.8 – 2 หมื่นบาท

ส่วนคนที่ซื้อรุ่นรองท็อปรวมทั้งตัวด้านล่างนั้น เพิ่มฟังก์ชั่นฝาท้ายไฟฟ้าและเซนเซอร์เพื่อเตะแล้วเปิดฝาด้านหลังอัตโนมัติได้ในราคาราวๆ 1.8 หมื่นบาท ส่วนรุ่นท็อปที่เปิดประตูกระแสไฟฟ้าอยู่แล้วนั้น ซื้อฟังก์ชั่นเซนเซอร์เตะเพื่อเปิดไม่ได้

สำหรับโปรโมชั่น 1,000 คันแรก รับส่วนลด 34,000 บาท สำหรับเพื่อการซื้อชุดเครื่องมือตกแต่ง หรือนำไปเป็นส่วนลดของราคาขายรถยนต์ได้ทันที และการยืนยันคุณภาพรถนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร เดี๋ยวนี้ทะลุไปนานแล้ว แต่ยังไงใช้โปรฯ นี้ได้ในงาน Motor Expo 2019
[/b]


ราคา MG HS

New MG HS รุ่น C ราคา 919,000 บาท
New MG HS รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
New MG HS รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว mg hs

Tags : mg hs 1.5 turbo,New MG HS
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ