หัวข้อ: ให้บริการห่อปก ปั๊มไดคัท ปั๊มเคทอง หลังการพิมพ์เสร็จ ทำบล็อคหนังสือ จัดรูปเล่ม โ เริ่มหัวข้อโดย: pramotepra222 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 08:21:14 am ให้บริการงาน ปั๊มไดคัท เข้ารูปเล่ม งานตอกตาไก่ บริการปั๊มไดคัท
บริการทำสันปก ปั๊มไดคัท ปั๊มเคทอง หลังการพิมพ์เสร็จ ทำบล็อคหนังสือ จัดรูปเล่ม โดย รวีวิริยะ งานหลังพิมพ์กับการเพิ่มราคาให้กับงานพิมพ์ การเคลือบลามิเนตเงาหรือด้านนั้น เว้นแต่ฉาบเพื่อเพิ่มความงดงามให้กับกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ในงานชิ้นนั้นๆแล้ว ประโยชน์ที่ได้รับในขั้นถัดมาคือ เพิ่มคงทนถาวรให้กับชิ้นงานและสามารถกันความชุ่มชื้นได้ในระดับนึงอีกด้วย เมื่อเราฉาบงานพิมพ์นั้นแล้ว ยังมีเทคนิคงานหลังพิมพ์อีกเยอะมากต่างๆนาๆ อยู่ที่เราอยากได้งานในลักษณ์ใดและก็สื่ออารมณ์แบบไหน วันนี้จะมาชี้แนะหนทาง เพื่อใช้เป็นช่องทางหรือเป็นไอเดียสำหรับการดีไซน์บรรจุภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับสินค้าที่มีอยู่ การเคลือบลามิเนตเงา/ด้าน ประโยชนที่ได้รับคือเพิ่มความสวยความทนทานรวมทั้งกันความชื้น ลามิเนตเงา เพิ่มความแจ่มใสให้กับงานพิมพ์ งานที่ได้ให้ความรู้สึกถึงความใหม่รวมทั้งล้ำสมัย ลามิเนตด้าน ลักษณะงานที่ได้มองเรียบง่าย ให้ความรู้ความเข้าใจสึกสำหรับในการเข้าถึงได้ดี มองดูแล้วสบายตา ลามิเนตเงา+ปั๊มฟอยล์ ลักษณะงานที่ได้ก็จะดูมีความแจ่มใสส่วนการปั๊มฟอยล์ จะเน้นข้อดีที่อยากได้ อย่างเช่น โลโก้ ลามิเนตด้าน+ปั๊มฟอยล์ ลักษณะงานที่ได้จะมองเรียบหรู เนื่องจากว่าลามิเนตด้านให้ความรู้สึกเรียบง่าย เมื่อปั๊มฟอยล์ที่มีความเงาลงไป งานจะมองเด่นรวมทั้งสดุดตาขึ้นมาทันที ลามิเนตด้าน+spot uv spot uv จะให้ความเด่นของรูปภาพหรือเนื้อความที่อยากสื่อสารให้โดดเด่น ปั๊มนูนหรือปั๊มจม เพื่อเพิ่มความเด่นสำหรับเพื่อการสัมผัส ให้งานมีมิติมากเพิ่มขึ้น เพิ่มTEXTURE ให้กับผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งเป็นการกันปลอม ตัดตก (Bleed) หรือบางทีเรียกว่าระยะเผื่อเจียน คืออะไร และก็เพราะเหตุใดต้องมี มาว่ากันในบทความเดียว ขั้นตอนแรกต้องทำความเข้าใจในกรรมวิธีพิมพ์ก่อนบางส่วนครับผม ว่าอันที่จริงแล้วเวลาสถานที่พิมพ์ พิมพ์รายงานออกมาไม่ได้เป็นขนาดสำเร็จรูปเสมอครับผมแม้กระนั้นจะมีขอบกระดาษเพื่อเอาไว้ให้เครื่องพิมพ์จับกระดาษเวลาทำงาน รวมถึงไกด์สีแล้วก็ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับช่างพิมพ์ ด้วยเหตุดังกล่าวพิมพ์รายงานเสร็จแล้ว จะส่งให้ลูกค้า ก็ควรมีการตัดขอบกระดาษส่วนนี้ทิ้งไป เมื่อทำการตัดกระดาษแล้ว แน่นอนว่าเราไม่อาจจะตัดตรงขอบงาน (ในรูปภาพจะเป็นรอยต่อสีขาวรวมทั้งม่วง) แบบเป๊ะๆได้ แถมงานที่พิมพ์ออกมาทั้งหลายแหล่พันหลายหมื่นแผ่น ก็มิได้ตรงกันเป๊ะทุกแผ่นครับผม ไม่ว่าจะพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลหรือออฟเซ็ต หรือพิมพ์ด้วยเครื่องจักรทันสมัยขั้นเทวดาแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้ตรงกันได้ทุกแผ่นนะครับ สิ่งนี้จำเป็นอย่างมากๆครับผม และนักออกแบบจำนวนมากที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานกับสำนักพิมพ์มาก่อนจะไม่ทราบ งานที่ไม่ได้เผื่อตัดตก บางครั้งบางคราวจะทำให้มีขอบขาวๆเกิดขึ้นเวลาพิมพ์งานจริงกระดาษบางแผ่นอาจจะมีเนื้องานขอบขาวยื่นล้ำเข้าไปได้ด้วยเหตุนี้เวลาดีไซน์กราฟฟิคอาร์ตเวิร์ค ดีไซน์เนอร์ต้องเผื่อระยะตัดตกมาไว้เสมอ โดยธรรมดาแล้วทางสถานที่พิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. ชัดเจนลูกค้าก่อนว่างานที่ทำมาไม่ได้เผื่อตัดตกไว้ ถ้าลูกค้ามิได้เผื่อตัดตกมาให้ทางโรงพิมพ์ ในกรณีนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีขอบงานสีขาวแลบเข้าไปในเนื้อโปสเตอร์ได้นะครับ ระยะตัดตกกับงานหนังสือเล่ม ถ้าเกิดถามว่าระยะตัดตกนี้ ใช้กับงานอะไรบ้างก็ต้องตอบว่าใช้กับงานทุกหมวดหมู่ที่พิมพ์โดยเครื่องพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบออฟเซ็ทหรือระบบดิจิตอลก็ตาม ลองศึกษางานหนังสือกันบ้างนะครับว่าระยะตัดตกนี้ มีผลอย่างไรบ้างกับงานที่เป็นหนังสือรูปเล่ม เวลาสถานที่พิมพ์พิมพ์งานหนังสือจะไม่ได้พิมพ์ทีละหน้า แต่ว่าจะพิมพ์เป็นชูแล้วนำแต่ละชูมาพับเพื่อคอยทำเข้ารูปเล่มอีกทีนึง รูปตัวอย่างที่เอามาแสดงนี้ เป็นการเย็บเล่มแบบเย็บมุงหลังคา ฉะนั้นเมื่อพับงานแต่ละยกมาเสร็จแล้ว ก็จะนำมาซ้อนกันเพื่อรอคอยเข้าสู่แนวทางการเย็บเล่มอีกครั้ง เมื่อกระทำการเย็บเล่มแล้ว ก็ควรมีการตัดเจียนรูปเล่มรอบด้านให้เป็นงานสำเร็จ งานหนังสือที่พับมาถ้าหากไม่ตัดขอบ 3 ด้าน ก็จะเปิดอ่านเป็นหน้ามิได้น่ะขอรับ (แน่ล่ะ เพราะเหตุว่ามีอย่างต่ำ 1-2 ด้านที่ถูกพับมา) ระยะตัดตกที่ลูกค้าเผื่อมานั้นจะมีผลให้งานที่ออกมามีความสมบูรณ์100% ไม่มีขอบขาวแลบเข้าไปในเนื้องาน เนื้องานรวมทั้งรูปภาพถูกพิมพ์เต็มพื้นที่ของกระดาษ ที่ตรงนี้มีสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับลูกค้าและดีไซน์เนอร์ทุกคนนิดหน่อยครับผม ก็คือเราไม่สมควรที่จะวางเนื้อหาสำคัญของหนังสือไว้ติดขอบกระดาษมากจนเกินความจำเป็น ด้วยเหตุว่ามีโอกาสที่ตัวหนังสือรูปภาพ ข้อความสำคัญที่วางไว้ติดขอบกระดาษจะถูกตัดทิ้งระหว่างการเจียนรูปเล่ม คำว่ามีโอกาสในที่นี้เป็น อาจจะมีบางเล่มโดนตัด บางเล่มไม่โดน โดนตัดทุกเล่ม หรือเปล่าโดนตัดซักเล่มเลยก็ได้ครับ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัย วางรายละเอียดสำคัญห่างจากขอบงานไว้ซักหน่อยนะครับ กล่าวถึงเรื่องการวางงานนี้ ชี้แนะให้ลูกค้าและนักออกแบบทุกคนอ่านบทความ เกี่ยวกับการวางงานบนหน้ากระดาษของทางโรงพิมพ์มี ระยะตัดตกควรจะเผื่อให้เท่าไรดี โดยทั่วไปทั่วๆไปแล้ว ถ้าเป็นหนังสือไสกาว / เย็บกี่ไสกาว โดยธรรมดาระยะตัดตกน่าจะเว้นไว้ไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 3 มม. เป็นขั้นต่ำ แต่ก็มีหลายสาเหตุที่ควรจะเว้นระยะตัดตกมาให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหนังสือที่เข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคา เพราะเหตุใดถึงเป็นแบบนั้น ? เพราะหนังสือที่เข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคา ถ้าเกิดหนังสือมีความหนามาก เวลาพับเพื่อทำเย็บเล่มแล้ว หน้าที่อยู่คู่ในสุดกับหน้าที่อยู่คู่นอกสุด (ปกหนังสือ) จะอยู่ห่างกันถึง 5-6 มิลลิเมตร อย่างยิ่งจริงๆในกรณีนี้ ระยะตัดตกก็จะต้องมีราว 5-6 มิลลิเมตรด้วยเหมือนกัน อันเนื่องมาจากปริมาณหน้าที่มากมายของหนังสือนี่เอง ทำให้การเย็บเล่มแบบเย็บมุงหลังคาไม่ควรใช้กับหนังสือที่มีความดกเกิน 80 หน้าคร่าวๆ ถ้าหากหนังสือที่มีความหนาเกิน80 หน้า ทางสำนักพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. เสนอแนะให้ลูกค้าเข้าเล่มแบบไสกาวจะดีมากยิ่งกว่านะครับ เนื่องจากแม้ว่าพวกเราคิดว่าเราออกแบบ artwork มาดีแล้ว แม้กระนั้นด้วยความครึ้มของหนังสือ ไร้ยางอายในสุดก็ได้โอกาสที่รายละเอียดหรือข้อความจะโดนตัดออกไปอยู่สูงทีเดียวขอรับ #ปั๊มมกร์, #ปั๊มนูน, #ปั๊มจม #debossing, #foiling #รวีวิริยะ บริการราคาประหยัดถูก แนวทางเลือกสถานที่พิมพ์ เพื่อให้ตรงความปรารถนาของการใช้งาน โรงพิมพ์คือสถานที่รับพิมพ์รายงานสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสื่อพิมพ์แบบหนังสือ สิ่งพิมพ์ใบปลิวต่างๆไวนิล หรือ โรงพิมพ์มีจำนวนไม่น้อยและมีหลายขนาด การเลือกใช้โรงพิมพ์ก็ไม่ใช่มองที่เป็นสถานที่พิมพ์ขนาดใหญ่อย่างเดียว เราต้องคิดถึงหลักเกณฑ์ในการตรึกตรองเลือกใช้สถานที่พิมพ์ด้วยนะคะ บทความนี้ขอเสนอแนะมาตรฐานสำหรับในการเลือกสถานที่พิมพ์ เพื่อให้ตรงสิ่งที่ต้องการของการใช้งาน ซึ่งมีหลักเกณฑ์การไตร่ตรอง ดังนี้ สถานที่พิมพ์ ประสิทธิภาพของงาน คุณภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเลยล่ะจ้ะ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่กลับไม่ให้ความเอาใจใส่กับส่วนนี้เท่าไร โดยยิ่งไปกว่านั้นงานพิมพ์เพื่อการโฆษณา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อภาพพจน์และก็ยอดขายของสินค้าที่ประชาสัมพันธ์ จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่ดี มีแผนการตลาดที่ดี แต่สื่อสิ่งพิมพ์มิได้ประสิทธิภาพ ซึ่งอาจก่อให้การขายมิได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ งานเอกสารที่มีคุณภาพย่อมสะท้อนถึงภาพพจน์ที่ดีขององค์กร ความน่าวางใจ ตลอดจนความเป็นสากลขององค์กรสำหรับเพื่อการคัดสำนักพิมพ์จึงควรตรวจคุณภาพงานพิมพ์ของโรงพิมพ์โดยมองได้จากตัวอย่างงานที่เคยทำแล้วก็รายนามลูกค้าของสำนักพิมพ์ค่ะ โดยเหตุนั้นสิ่งที่ลูกค้าควรจะพิจรณาประกอบกับการตัดสินใจเป็นการเลือกสำนักพิมพ์ที่ดี มีคุณภาพ ใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและไม่น่าจะโฟกัสที่ราคาเพียงอย่างเดียวจ้ะ การบริการ การบริการเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเพราะเหตุว่า ใครๆก็อยากได้ที่กำลังจะได้รับการบริการที่ดี เนื่องจากว่าจะรู้สึกถึงความประทับใจสำหรับเพื่อการเป็นลูกค้า โรงพิมพ์ที่มีงานประจำอยู่เยอะๆ บางทีก็อาจจะให้ความสนใจในงานพิมพ์หลักก่อนงานพิมพ์อื่นๆสถานที่พิมพ์ที่รับแต่งานพิมพ์ที่มีปริมาณพิมพ์สูงบางครั้งอาจจะให้ความใส่ใจในงานพิมพ์เล็กไม่ดีซักเท่าไหร่ หรือพินิจง่ายๆว่าถ้าสถานที่พิมพ์แห่งไหนที่มีการบริการที่ดีนั้น จะเป็นข้างโทรหาลูกค้าเพื่อแจ้งถึงความก้าวหน้าในขั้นตอนงานพิมพ์ ว่าถึงกับขนาดตอนไหนแล้ว งานมีปัญหาหรือไหม่ พร้อมทั้งแนะแนววิธีแก้ไขในกรณีที่งานมีปัญหาอีกด้วย การส่งมอบงาน การมอบงานพิมพ์เป็นเรื่องจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้งานพิมพ์เมื่อถึงกำหนดเวลา เพราะว่าหากโรงพิมพ์กลับยังไม่อาจจะพิมพ์งานให้พวกเราเสร็จได้ จะมีผลให้กำเนิดความทรุดโทรมอย่างหนัก โดยเหตุนั้นโรงพิมพ์จำต้องเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าในประเด็นการส่งให้ตรงตามที่ได้มีการกำหนดเวลา นอกจากเรื่องคุณภาพของงานพิมพ์ ราคา ลูกค้าโดยธรรมดาจะคิดถึงเรื่องราคาเป็นปัจจัยแรกซึ่งก็ไม่ผิดอะไร เพราะเหตุว่าใครๆก็ย่อมอยากได้สินค้าที่ราคาแพงถูกใช่ไหมล่ะคะ และก็แน่นอนคำว่าถูกแล้วก็ดี คงไม่ได้หากันง่ายๆนะคะ โรงพิมพ์ในปัจจุบัน มีการแข่งกันสูงมาก ทำให้บางแห่งอยากได้ที่กำลังจะได้งานพิมพ์ จะต้องทำการตัดราคาลงมาเพื่อให้ได้ตามสิ่งที่ต้องการของลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งนี้นั้นส่งผลเสียต่ออีกทั้งวงการพิมพ์อย่างแน่แท้ค่ะ เพราะต่างก็จะำากันลดราคาเพื่อให้ได้ลูกค้า แล้วก็เมื่อลดลงมาก็จำเป็นต้องจำเป็นต้องที่จะลดคุณภาพของกระดาษหรือสิ่งของตามมาด้วยเพื่อให้มีกำไร ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ท้ายที่สุดแล้วมีแต่ผลกระทบในด้านที่เสียหายต่อทั้งยังโรงพิมพ์และก็ลูกค้าจ้ะ เพราะดรงพิมพ์บางทีอาจจะแทบจะไม่เหลือกำไร และลูกค้าก็ได้งานที่ไม่ค่อยมีคุณภาพนั่นเอง งานพิมพ์เหมาะสมกับระบบการพิมพ์อะไร ก่อนจะเลือกโรงพิมพ์ พวกเราต้องดูกรว่างานพิมพ์นั้นเหมาะสมกับระบบการพิมพ์แบบไหน ซึ่งงานพิมพ์นั้นก็จะมีหลายชนิด เพื่อให้งานพิมพ์นั้นตรงกับความปรารถนาของเราที่สุดนั่นเองค่ะ ขนาดของสำนักพิมพ์ ซึ่งขนาดของสถานที่พิมพ์นั้นจะบ่งบอกถึงมาตรฐานสำหรับในการผลิต ยิ่งโรงพิมพ์ยิ่งใหญ่ โดยมากมาตรฐานสำหรับเพื่อการผลิตก็จะยิ่งสูงขึ้น แม้กระนั้นราคาก็จะสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเนื่องจากว่าต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่าสำนักพิมพ์ขนาดเล็ก ซึ่งสถานที่พิมพ์ขนาดเล็กมีข้อดีทางด้านราคา เนื่องจาก มีเครื่องจักร รวมทั้งปริมาณพนักงานน้อย แม้กระนั้นมีข้อเสียที่ส่วนมากงานจะมิได้มาตรฐานและงานช้าเพราะว่าทรัพยากรมีจำกัด วางแบบบรรจุภัณฑ์ ให้เข้าตา! ด้วยองค์ประกอบการทำงานที่เป็นระบบ บรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ช่วยผลักดันให้ผู้คนทั่วไปจำตัวสินค้าได้ง่ายและเร็วมากเพิ่มขึ้น การออกแบบเพื่อนำมาใช้งานก็เลยจำต้องผ่านกรรมวิธีคิดและก็ประดิษฐ์มาแล้วเป็นอย่างดี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นจุดเด่นแล้วก็สร้างยอดจำหน่ายที่มากขึ้นได้ด้วยตัวเอง เพราะว่าบรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งที่โโดเด่น สะดุดตานั้นย่อมเป็นที่น่าสนใจสายตาต่อผู้ใช้ ตัวบรรจุภัณฑ์มีความสอดคล้องกับสินค้า เพิ่มความน่าดึงดูดใจและดึงดูดสายตาให้กับผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าเดิมซึ่งการคิดงานบรรจุภัณฑ์ในแต่ละครั้งจะเน้นไปที่การทำงานที่สอดคล้อง แล้วก็เป็นระบบWork Process ที่ถือได้ว่าส่วนประกอบการเตรียมงานก่อนลงมือทำที่นักออกแบบนำมาใช้กับการทำงานสูงที่สุดเพื่อให้วิธีการคิดเป็นระบบและจบงานได้เป็นอย่างดี ไม่เกิดปัญหา พร้อมทำให้ผลงานที่ออกมาเด่นรวมทั้งตรงหัวใจเจ้าของแบรนด์สูงที่สุด กรรมวิธีการสำหรับในการปฏิบัติงานหรือ Work Process ในงานบรรจุภัณฑ์คือการทำงานที่ช่วยสร้างคุณประโยชน์ให้กับตัวงาน ส่งเสริมให้แบรนด์เป็นที่นิยม จดจำง่าย ติดตา สร้างมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเป็นสาเหตุของการเกิดเป็นยอดขายที่สูงขึ้นได้ โดยเริ่มขั้นตอนการนี้ตั้งแต่การเริ่มพูดคุยกับลูกค้าดัง (Brief) เพื่อรับรู้สิ่งที่จำเป็นของผู้ครอบครองผลิตภัณท์ผู้ออกแบบต้องเก็บเกี่ยวความจำเป็นของลูกค้าให้ได้มากที่สุด แล้วเอามาตกผลึกเพื่อกลั่นออกมาเป็นรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่ตรงต่อความปรารถนาของลูกค้าและเป็นเอกลักษณ์ที่ติดตาลูกค้าสูงที่สุด เมื่อก่อนที่จะตกผลึกแล้วสร้างสรรค์ออกมาเป็นบรรจุภัณฑ์ตัวจริง ต้องมีการค้นคว้าความอยากได้ของกลุ่มเป้าหมาย กำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย (Research) เพื่อนำความอยากนี้มาประสานเข้ากับบรรจุภัณฑ์ โดยจะมีการนำต้นแบบออกเสนอ แล้วนำต้นแบบบรรจุภัณฑ์ยอดนิยมเยอะที่สุดมาปรับใช้กับตัวผลิตภัณฑ์ให้สมควร นอกเหนือจากนี้ยังต้องมี Customer Mind ที่ผู้ออกแบบต้องเลียนแบบความนึกคิดและความรู้สึกตัวเองให้ราวกลุ่มเป้าหมาย ถ้าเราอยากสินค้าชิ้นนี้แล้วเราอยากเห็นอะไร? และต้องการบรรจุภัณฑ์แบบใดที่ดูแล้วสะดุดตาพวกเรามากที่สุด ต่อจากนั้นก็ทำการสัมมนา (Brainstroming) กับทีมงานรวมทั้งเจ้าของแบรนด์ตราบจนกระทั่งจะได้รูปแบบที่น่าสนใจสูงที่สุดออกมา พร้อมนำสิ่งที่ระดมความคิดออกมาสร้างเป็น Concept ที่จะแปลงเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ในอนาคต เอามาผลิตสรรค์บรรจุภัณฑ์ให้เป็น Design Direction เพิ่มโอกาสที่นานัปการให้กับลูกค้า ดังเช่นว่า การออกแบบให้เลือกหลากสี, หลายตัวเขียน หรือหลายรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ เมื่อได้แบบที่ลูกค้าอยากได้แล้วก็เพิ่มการDevelopment เข้าไปด้วยการพัฒนาตัวบรรจุภัณฑ์ให้ออกมาเป็นรูปร่างที่สวยสดงดงาม โดดเด่นไม่ซ้ำแบบคนไหนกัน และสร้างจุดขายที่ดีให้กับแบรนด์ต่อไปในอนาคต สิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่ดีไซน์เนอร์ควรคำนึงถึงนอกจากความงามสะดุดตาเมื่อวางบนชั้นวางจำหน่ายแล้ว อาจจะต้องนึกถึงการขนส่งเพราะว่าแพคเกจจิ้งนั้นควรจะมีลักษณะอย่างไร แข็งแรงหรือเปล่า จัดวางยังไงให้การขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมัธยัสถ์ต้นทุนของลูกค้าอีกด้วย แบบอย่างของงานวางแบบบรรจุภัณฑ์หมอนหนุนเพื่อสุขภาพ ที่ผ่านแนวทางการคิดมาอย่างมีระบบตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย มีการวางแบบที่มากมายเพื่อลูกค้าได้เลือกตามความชอบ โลโก้แบรนด์เน้นย้ำให้เห็นถึงความยุติธรรมชาติ เพื่อสื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่อยากได้หมอนคุณภาพได้มองเห็นถึงความบริสุทธิ์ นำเอาลูกไม้จากธรรมชาติที่เกี่ยวโยงกับตัวสินค้ามาเป็นโลโก้ที่สร้างจุดเด่น เสริมความเรียบหรูดูเป็นผลิตภัณฑ์สไตล์ออแกนิกเข้าไป ตัวโลโก้มีทั้งยังรูปทรงเลขาคณิตแบบนามธรรมแล้วก็แบบภาพวาดลายเส้นสวยสดงดงามมาเป็นทางเลือก ทำให้ลูกค้าได้มองเห็นแบบที่กว้างเยอะขึ้น ผิดจำกัดความคิดมากกระทั่งเกินความจำเป็น ภายในกล่องมีคำอธิบายเล็กๆเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสกรีนหน้ากล่องที่นำเอาภาพที่เกี่ยวพันกับกระบวนการผลิตมาเป็นจุดเด่น ทำให้สินค้าดูมี Story telling ซึ่งสามารถพาให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงตัวผลิตภัณฑ์เยอะขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย จากตัวอย่างที่เอามาฝากกันจะเห็นได้ว่าการออกแบบบรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งนั้นเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นรวมทั้งส่งผลต่อยอดจำหน่ายของตัวผลิตภัณฑ์เป็นอย่างยิ่ง บรรจุภัณฑ์ที่ดีจำต้องสอดคล้องกับตัวสินค้าและสื่อให้คนซื้อเห็นประโยชน์หรือเห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ข้างในได้ เนื่องจากว่าลูกค้านั้นมิได้แกะกล่องสินค้าออกมาดู การเลือกซื้อสินค้าต้องใคร่ครวญจากด้านนอกหรือจากเพียงแต่บรรจุภัณฑ์ที่มองเห็นแค่นั้น เว้นแต่ความสวยของบรรจุภัณฑ์แล้วอย่าลืมใส่รายละเอียดที่ต้องเกี่ยวกับสินค้าลงไปด้วย ได้แก่วัตถุดิบที่ใช้สำหรับในการผลิต วิธีการใช้ วันผลิต รวมทั้งวันหมดอายุ รวมทั้งเครื่องหมายค้ำประกันต่างๆเช่น ฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นต้น เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เครดิตบทความจาก : https://rvydiecut.com/ Tags : ปั๊มนูน, ปั๊มมกร์, เย็บปฏิทิน
|