ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Puttichai9876 ที่ พฤศจิกายน 05, 2015, 07:55:57 am



หัวข้อ: แอร์บ้าน ร้านแอร์ จังหวัดเลย ขอแนะนำ บริการระดับมือการทำงาน ให้บริการติดตั้ง ล้าง ย้าย เคร
เริ่มหัวข้อโดย: Puttichai9876 ที่ พฤศจิกายน 05, 2015, 07:55:57 am
แอร์บ้าน ร้านแอร์ จังหวัดเลย ขอแนะนำ บริการระดับมือภารกิจ ให้บริการติดตั้ง ล้าง ย้าย เครื่องปรับอากาศ บริการทุกวันไมมีวันหยุด
แอร์บ้าน ร้านแอร์ จังหวัดเลย ขอแนะนำ บริการระดับมืออาชีพ ให้บริการติดถกล ล้าง ย้าย เครื่องปรับอากาศ บริการทุกวันไมมีวันหยุด
ขั้นตอนซ่อมรั่วแอร์บ้าน เครื่องปรับอากาศ ราคานี้โป๊ในกรณีที่จุดรั่ว สามรถซ่อมได้เชื่อมต่อได้ แตไม่รวม่อุปกรณ์อะไหล่แอร์รั่วที่ไม่สามารถเชื่อมได้ ต้องเปลี่ยนเช่น รังผึ้งคอยล์เย็นหรือคอยร้อนรั่ว เราจะไม่ซ่อมต้องเปลี่ยนลูกค้า ต้องบวกเพิ่มค่าอะไหล่แอร์เข้าไป รับประกันงานซ่อม 1 เดือน
แอร์บ้านที่ใช้น้ำยา R410 คือ
(http://www.108air.com/assets/img/central001.jpg)
นักค้นคว้านักวิจัยจึงได้จัดทำการค้นคว้าและศึกษาวิจัยทำการผสมน้ำยาขึ้นมาตัวหนึ่ง เป็นสารประกอบของน้ำยา 2 ชนิดคือ HFC32 และ HFC125 (R32 และ R125) อย่างละเท่า ๆ กันในเชิงปริมาตร ตั้งชื่อเรียกน้ำยาตัวใหม่ที่ผสมกันนี้ว่า R410A ซึ่งน้ำยาตัวนี้กลายเป็นพระเอกในปัจจุบันนี้ (ขอย้ำว่าในปัจจุบันนี้เท่านั้น อนาคตอาจจะมีตัวอื่นขึ้นมาแทนที่ก็ได้) เนื่องจากน้ำยาตัวนี้ไม่มีสารกลุ่มคอลไรน์ (Chlorine) แต่เป็นสารในกลุ่มฟลูออไรน์ (Fluorine) ซึ่งไม่ทำงายชั้นบรรยากาศ จึงสามารถนำมาใช้ในระบบปรับอากาศของเราได้อย่างสบายใจ ขอบคุณที่มา : น้ำยาแอร์ R410A คืออะไร มีใช้ในวงการเครื่องปรับอากาศได้อย่างไร เริ่มเลิกใช้น้ำยา R22 หันมาใช้น้ำยา R410 แทน
สนธิสัญาต่างๆ มีข้อตกลงดังนี้
สนธิสัญญาเกียวโต (Kyoto Protocol ประชุมภายใต้กรอบของอนุสัญญาสหประชารัฐ กำหนดให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ซึ่งสารทำความเย็นบางชนิด เช่น R11, R12, R22, 134A เป็นสารที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ) ปัจจุบันหลายประเทศในโลก ไม่อนุญาตให้ใช้ R11, R12, R22, 134A ขอบคุณที่มา : กำหนดการเลิกใช้ น้ำยาแอร์ R-22 ในประเทศไทยโดยมี R410a มาทดแทน
สนธิสัญญามอนทรีออล (Montreal Protocol มีข้อยุติให้เลิกใช้สาร CFC (R11, R12) และลด-เลิก ใช้สาร HCFC (R-22) ในยุโรป ตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 ห้ามนำเข้าเครื่องทำความเย็นที่ใช้สาร HCFC (R-22) ทางด้านรัฐบาลไทยให้ยกเลิกใช้สารทำลายบรรยากาศโอโซน คือสาร CFC (R11, R12) และเริ่มแผนลด-เลิก ใช้สาร HCFC (R-22) ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2553 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ขอบคุณที่มา : กำหนดการเลิกใช้ น้ำยาแอร์ R-22 ในประเทศไทยโดยมี R410a มาทดแทน
องค์การสืบสวนสภาพแวดล้อม (EIA : Environmental Investigation Agency พบว่าสาร HFC (R134A) ถึงแม้ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ (ชั้นโอโซน) แต่ยังเป็นตัวการในการเพิ่มปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่สูงมาก ซึ่งทาง EIA ได้แจ้งว่าสารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน คือ Ammonia, Hydrocarbon และ CO2 ปัจจุบัน ประเทศเยอรมันและออสเตรเลีย เลิกใช้สาร HFC (R134A) แล้ว และในยุโรปจะให้เลิกใช้สาร HFC (R134A) ตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 ขอบคุณที่มา : กำหนดการเลิกใช้ น้ำยาแอร์ R-22 ในประเทศไทยโดยมี R410a มาทดแทน
ประเทศไทยเลิกใช้น้ำน้ำยา R22 เมื่อไหร่
ประเทศที่พัฒนาแล้ว ตั้งเป้าหมาย
ปี 2004 ลดการใช้น้ำยาแอร์ R-22 ได้ 35%
ปี 2010 ลดการใช้น้ำยาแอร์ R-22 ได้ 65%
ปี 2015 ลดการใช้น้ำยาแอร์ R-22 ได้ 95%
ประเทศที่กำลังพัฒนา ตั้งเป้าหมาย
ในปี 2016 จะลดได้ 35% ตามลำดับ ซึ่งจะต้องหมดสิ้นในปี 2040
กำหนดการเลิกใช้ น้ำยาแอร์ R-22 ในประเทศไทยโดยมี R410a มาทดแทน
จังหวัดเลย
เลย เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันให้กำเนิดเฉียงเหนือตอนบน ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 520 กิโลเมตร มีสภาพภูมิประเทศที่งดงาม อากาศหนาวเย็น เป็นแหล่งเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็นเมือง ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วยมีหลักฐานจับกับประวัติความเป็นมาว่า ก่อตั้งโดยชนเผ่าไทยที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่ก่อตั้งอาณาจักรโยนกเชียงแสน โดยพ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง (เชื่อถือกันว่าเป็นเชื้อสายราชวงศ์สิงหนวัติ) ได้มีผู้คนอพยพจากอาณาจักรโยนกเชียงแสนที่ล่มสลายแล้ว ผ่านดินแดนล้านสาง ข้ามลำน้ำเหืองขึ้นไปทางฝั่งขวาของลำน้ำหมันถึงบริเวณที่ราบ พ่อขุนผาเมืองได้ตั้งบ้านด่านขวา (ปัจจุบันอยู่ในบริเวณชายเนินนาด่านขวา ซึ่งมีซากวัดเก่า อยู่ในแปลงนาของเอกชน ระหว่างหมู่บ้านหัวแหลมกับหมู่บ้านนาเบี้ย อำเภอด่านซ้าย) ส่วนพ่อขุนบางกลางหาวได้แบ่งไพร่พลข้ามลำน้ำหมันไปทางฝั่งซ้าย สร้างบ้านด่านซ้าย (สันนิษฐานว่าอยู่ในบริเวณหมู่บ้านเก่า อำเภอด่านซ้ายในปัจจุบัน) ต่อมาจึงได้อพยพเลื่อนขึ้นไปตามลำน้ำไปสร้างบ้านหนองคู และได้นำนามหมู่บ้านด่านซ้าย มาขนานนามหมู่บ้านหนองคูใหม่ เป็น "เมืองด่านซ้าย" อพยพไปอยู่ที่เมืองบางยางในที่สุด โดยมีพ่อขุนผาเมืองอพยพผู้คนติดตามไปตั้งเมืองราด (เชื่อว่าเป็นเมืองศรีเทพดา อยู่ในท้องที่อำเภอศรีเทพและอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์) และตั้งเมืองด่านซ้าย เป็นเมืองหน้าด่านทางตะวันออกของเมืองบางยาง นอกจากนี้แล้ว ยังมีชาวโยนกอีกกลุ่มหนึ่งได้อพยพมาตั้งบ้านเรือนระหว่างชายแดน ตอนใต้ของอาณาเขต ล้านนา ต่อแดนล้านช้างอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะอพยพหนีภัยการรบพุ่งข้ามลำน้ำเหืองมาตั้งเมืองเซไลขึ้น (สันนิษฐานว่าอยู่ในท้องที่หมู่บ้านทรายขาว ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง) จากหลักฐานในสมุดข่อย ที่มีการ ค้นพบ เมืองเซไลอยู่ด้วยความสงบร่มเย็นมาจนกระทั่งถึงสมัยเจ้าเมืองคนที่ 5 เกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง ฝนฟ้าไม่ตก จึงได้พาผู้คนอพยพไปตามลำแม่น้ำเซไลถึงบริเวณที่แบนเรียบระหว่างปากลำห้วยไหลตกแม่เซไล จึงได้ตั้งบ้านเรือนขึ้น ขนาน นามว่า "บ้านแห่" (บ้านแฮ่) ส่วนลำห้วยให้ชื่อว่า "ห้วยหมาน" ในปี พ.ศ. 2396 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพิจารณาเห็นว่า หมู่บ้านแฮ่ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งห้วยน้ำหมาน และอยู่ใกล้กับแม่น้ำเลย มีผู้คนเพิ่มมากขึ้น สมควรจะ ได้ตั้งเป็นเมือง เพื่อประโยชน์ในการปกครองอย่างใกล้ชิด จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นเมืองเรียกชื่อตามนามของแม่น้ำเลยว่า เมืองเลย ต่อมา พ.ศ. 2440 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองพื้นที่ ร.ศ.116 แบ่งการปกครองเมืองเลยออกเป็น 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุดป่อง อำเภอท่าลี่ (เดิมตำบลอาฮีเป็นอำเภอ แต่ถูกลดข้อความย่อยบาทลงเป็นตำบลเพราะอยู่ใกล้กับแม่น้ำเหื่องมีผลมาจากงานเสียดินแดนให้ลาวโดยประเทศฝรั่งเศส) อำเภอนากอก (ปัจจุบันอยู่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) อำเภอที่ตั้งเมืองคือ อำเภอกุดป่อง ต่อมา พ.ศ. 2442-2449 ได้เปลี่ยนชื่อเมืองเลยเป็น บริเวณลำน้ำเลย พ.ศ. 2449-2450 เปลี่ยนชื่อบริเวณลำน้ำเลยเป็นบริเวณลำน้ำเหือง และใน พ.ศ. 2450 ได้มีประกาศของกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2450 ยกเลิกบริเวณลำน้ำเหือง ให้คงเหลือไว้เฉพาะ "เมืองเลย" โดยให้เปลี่ยนชื่ออำเภอกุดป่อง เป็น "อำเภอเมืองเลย" สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดเลยเป็นที่ราบสูง มีภูเขาสูง กระจัดกระจาย โดยเฉพาะทางตะวันตกและทางหน้าใต้ของจังหวัด ทั้งนี้ยังมีแหล่งน้ำเอ้คือแม่น้ำโขง ในบริเวณตอนบนของจังหวัด ภาษาของคนเลยจะแตกต่างจากภาษาพูดของคนในจังหวัดภาคอีสานอื่นๆ เพราะกลุ่มคนที่อาศัยปัจจุบัน นี้มีประวัติการอพยพเคลื่อนย้ายจากเมืองหลวงพระบางแห่งอาณาจักรล้านช้าง ต่อมาต้นพุทธศตวรรษที่ 23 ชาวหลวงพระบางและชาวเมืองบริเวณใกล้เข้าชิดตัวที่อพยพมาเมืองเลยได้นำวัฒนธรรมด้านภาษาอีสานถิ่น อื่นเข้ามาด้วย โดยภาษาเลย นั้นจัดอยู่ในกลุ่มหลวงพระบางอันประกอบด้วยภาษาเมืองแก่นท้าว ภาษาอำเภอด่านซ้าย และภาษาอำเภอเมืองเลย ดังนั้นสำเนียงพูดของชาวไทเลยจึงมีลักษณะการพูดเหมือนชาวหลวงพระบาง แต่บางพยางค์ออกเป็นเสียงสูงคล้ายสำเนียงพูดของ ชาวปักษ์ใต้ ฟังดูไพเราะนุ่มนวลจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะคนเวียง ส่วนคนในวังสะพุงจะพูดเสียงห้วนกว่าชาวเลยถิ่นอื่น
คำขวัญประจำจังหวัด
เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม
การปกครองแบ่งออกเป็น 14 อำเภอ 89 ตำบล 840 หมู่บ้าน
1.อำเภอเมืองเลย
2.อำเภอนาด้วง
3.อำเภอเชียงคาน
4.อำเภอปากชม
5.อำเภอด่านซ้าย
6.อำเภอนาแห้ว
7.อำเภอภูเรือ
8.อำเภอท่าลี่
9.อำเภอวังสะพุง
10.อำเภอภูกระดึง
11.อำเภอภูหลวง
12.อำเภอผาขาว
13.อำเภอเอราวัณ
14.อำเภอหนองหิน
 
 
 
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องปรับอากาศเลย
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ