หัวข้อ: เย็นเล่มหลังการพิมพ์งาน ปั๊มจม สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า ผ้า เข้าหัวปฏิทินด้ เริ่มหัวข้อโดย: penpaka2tory ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2020, 08:34:34 am สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า จดหมาย สติ๊กเกอร์ ด้วย ปั๊มไดคัท , ปั๊มเคทอง ปั๊มจม
การขอเลข ISBN การขอ CIP และก็วิธีการทำบาร์โค้ด (Barcode) ISBN คืออะไร จำเป็นจะต้องมีหรือไม่ เลข ISBN (International Standard Book Number) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ เป็นรหัสที่กำหนดให้ใช้กับสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือ เพื่อใช้เพื่อสำหรับการแยกประเภทหนังสือแต่ละเรื่องออกมาจากกันครับผม แล้วยังนำไปใช้อำนวนความสบายในวิธีการทั้งหมดทั้งปวงที่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เริ่มตั้งแต่นำเข้าคลังที่เอาไว้เก็บสินค้าตามร้านจำหน่ายหนังสือ ไปจนกระทั่งการขายที่หน้าร้านเลยครับ โดยรหัสที่ใช้ในประเทศไทยจะเป็น Code EAN 13 หลัก โดย 3 หลักแรกจะเช่นกันทั้งสิ้นทั่วทั้งประเทศเนื่องจากเป็นรหัสระบุว่าเป็นหนังสือจากประเทศไทย ซึ่งก็คือ 978 ส่วนรหัสหลักในที่สุดจะเป็นรหัส checksum เอาไว้ตรวจทานรหัสในชุดอีกครั้งหนึ่ง ถ้าสงสัยว่าแล้วหนังสือที่พวกเรากำลังจะพิมพ์จำเป็นต้องมีเลข ISBN หรือไม่อย่างไร กล้วยๆเลยก็คือถ้าเกิดเรามีแผนในการที่จะวางขายในร้านหนังสือ หรืออยากให้หนังสือเข้าระบบการขายที่ใช้ barcode ในการตรวจนับผลิตภัณฑ์ ก็ต้องมีเลข ISBN ขอรับ แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็นหนังสือที่ไม่ได้เข้าระบบวิธีขายตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใช้งานในองค์กรหรือคิดแผนจะทำขายด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องมีก็ได้ครับผม CIP เป็นอย่างไร จำเป็นที่จะต้องมีหรือไม่ CIP (Cataloging in Publication) หรือภาษาไทยเป็น ข้อมูลทางบรรณานุกรมหนังสือ CIP คือการกำหนดข้อมูลเนื้อหาทางบรรณานุกรมตามหลักเกณฑ์สำหรับการทำบัตรรายการ เลขหมู่หนังสือ หัวเรื่อง เพื่อเกิดความสะดวกในการศึกษาเรียนรู้หรือค้นหาในห้องหนังสือโดยปกติบรรณารักษ์ตามหอสมุดต่างๆจะใช้เลขหมวดกลุ่มนี้จัดหนังสือขึ้นชั้นในห้องหนังสือขอรับ ถ้าหากถามคำถามว่าแล้วหนังสือที่จะพิมพ์ จะต้องมีเลข CIP รึเปล่า ถ้าหากเรามีแผนในการที่จะนำหนังสือเข้าไปใช้งานในห้องหนังสือ ก็ควรจะมีไว้ขอรับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้บรรณารักษ์ แต่ถ้าเกิดดูแล้ว หนังสือของเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ใส่เข้าไปอยู่ภายในห้องสมุดแน่นอนก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีก็ได้ครับ บริการขอเลข ISBN แล้วก็ CIP ทางสำนักพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสำหรับในการขอเลข ISBN แล้วก็ข้อมูล CIP ได้ แต่ลูกค้าจำเป็นที่จะต้องเตรียมข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเพื่อการเขียนเลข ISBN ให้ทางสำนักพิมพ์ด้วย โดยกรอกแบบฟอร์มจากไฟล์นี้แล้วส่งให้สำนักพิมพ์ทางอีเมล์ wacharinpp@gmail.com และduudesign@gmail.com ขอรับ แนวทางการทำบาร์โค้ด Barcode เมื่อได้เลข ISBN มาแล้ว ก็จำเป็นต้องนำ ISBN ที่ได้มาทำเป็น Barcode เพื่อใช้ในการสแกนตามร้านรวง ซึ่งในขั้นตอนนี้ทางสถานที่พิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. มีบริการทำ Barcode ให้ด้วยโดยไม่คิดค่าใช้สอยอะไรนะครับ โดยจะรับทำบาร์โค้ดให้เฉพาะเลข ISBN ในระบบEAN 13 หลักเท่านั้น barcode ที่เป็นผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์อื่นๆหรืออยู่ในรหัสชุดอื่น ทางสถานที่พิมพ์จะทำให้ไม่ได้นะครับ ข้อเสนอสำหรับในการทำบาร์โค้ด สำหรับลูกค้าที่ปรารถนาทำบาร์โค้ดใช้งานเองทางสถานที่พิมพ์มีข้อแนะนำน้อยดังนี้นะครับ 1. บาร์โค้ดต้องทำเป็นดำเดี่ยวมาเท่านั้น ห้ามทำเป็นดำ 4 เม็ดเด็ดขาด(ดำคนเดียว ดำ 4 เม็ดเป็นอย่างไร อ่านได้จากที่นี่) 2. บาร์โค้ดจำเป็นต้องทำให้อยู่ในแบบอย่าง Vector แค่นั้น เพื่อที่จะนำไปใช้งานต่อในโปรแกรมเป็นต้นว่า Adobe Illustrator ได้ ห้ามทำเป็นไฟล์ที่เป็นรูปภาพ JPG, PSD มาโดยเด็ดขาด 3. การสรุปหรือขยายบาร์โค้ดสามารถทำได้ แต่จะต้องย่อ-ขยายตามรูปร่างเท่านั้น (Proportional Scaling) ห้ามย่อขยายบาร์โค้ดภายในด้านหนึ่งแค่นั้น เนื่องจากจะทำให้สัดส่วนของแท่นบาร์โค้ดผิดเพี้ยนไป แล้วก็จะสแกนมิได้ ปั๊มไดคัท (Die-Cuting) การกดกระดาษ หรือชิ้นงานต่างๆ ลงบนบล็อกใบมีด เพื่อให้กระดาษหรือชิ้นงานมีขนาดหรือรูปร่างตามที่ต้องการ ได้แก่ ซองเอกสาร เป็นต้น (https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/embossing-2.jpg?w=220&h=126&crop=1) ปั๊มนูน (Embossing) การใช้บล็อกดันกระดาษให้นูนสูงขึ้น เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ กล่องกระดาษ เป็นต้น (https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/debossing.jpg?w=220&h=126&crop=1) ปั๊มจม (Debossing) การใช้บล็อกกดกระดาษให้จมต่ำลง เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ การ์ดแต่งงาน เป็นต้น (https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/stamping-foil.jpg?w=220&h=126&crop=1) การพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) เป็นอย่างไร? เป็น การพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลภาพจากคอมพิวเตอร์มาพิมพ์ เครื่องปรินเตอร์ที่อยู่ตามบ้านของคนทั่วไป ก็เป็นการพิมพ์ดิจิตอล แต่ยังไม่อาจจะตอบสนองความจำต้องได้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งยังด้านปริมาณ ,ประสิทธิภาพ,เวลาคราวใช้เพื่อสำหรับการพิมพ์ ได้แก่ การทำโปสเตอร์ขนาด A3 โดยประมาณ 100 แผ่น เครื่องปรินท์ตามบ้านสามารถปรินท์ได้ แต่ว่า คุณภาพ เวลา ที่ได้อาจจะเป็นผลให้ผู้ครอบครองปรินท์เตอร์เกิดความรู้สึกไม่คุ้มค้ากับเวลาคราวเสีย แล้วก็ได้มาซึ่งประสิทธิภาพที่ไม่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ จึงเกิดเครื่องปรินท์ ที่มารองรับในสิ่งที่ต้องการในลักษณะนี้ คือ เครื่อง Digital Press ที่ให้คุณภาพงานพิมพ์เนื้อหาใกล้เคียงกับระบบ offset มากจนแทบแยกไม่ออก และก็ยังทำความเร็วได้ทันสิ่งที่จำเป็น รวมถึงสามารถพิมพ์ได้นานาประการสิ่งของยกตัวอย่างเช่น กระดาษปอนด์,กระดาษอาร์ตมัน, กระดาษมีลวดลาย, กระดาษหนาไม่เกิน 300 เอ็งรม, สติกเกอร์pvc ขุ่น-ใส, แผ่นใส, สติ๊กเกอร์วอยย์เปลือกไข่, ฉลากสินค้า, โฮโลมึงรม อื่นๆอีกมากมาย จุดเด่น ระบบการพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) 1. ย่นระยะเวลาสำหรับการดำเนินงาน ความสบายเร็วทันใจ ลดขั้นตอนการทำฟิล์มรวมทั้งแม่พิมพ์ ถ้างานที่ปรารถนานั้นเร่งด่วนก็เลือก แนะนำพิมพ์ระบบดิจิตอล 2. ปรับปรุงงานได้ง่าย ในกรณีที่ปรารถนาปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดข้อมูล ก็แค่ส่งไฟล์ใหม่มาแทนไฟล์เดิมข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลใหม่ แก้ไขได้ในทันที 3. ใช้งบประมาณน้อยกว่า (ในกรณีที่พิมพ์ปริมาณน้อย) เพราะว่าไม่ต้องทำเพลทพิมพ์ ซึ่งราคาโดยรวมเวลาพิมพ์จะถูกกว่า 4. มัธยัสถ์ทรัพยากร เหมาะสมกับงานพิมพ์ปริมาณน้อย ลดของเสียในแนวทางการผลิต เวลา,กระดาษ,หมึก,แรงงาน 5. มาตรฐานงานพิมพ์ มีระบบการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เสมอกันในทุกๆหน้า เนื่องด้วยไม่ต้องควบคุมหมึกและก็น้ำ อาทิเช่นการ พิมพ์ออฟเซ็ท (Offset Printing) ที่จำเป็นต้องใช้ผู้ควบคุมที่มีความเก่งเป็นพิเศษ 6. ผลิตตามจำนวนที่อยากได้ เหมาะกับงานพิมพ์น้อยกว่า 3000 ชุด ถ้าเกิดอยาก 100 เล่ม ก็พิมพ์แค่ 100 เล่ม ไม่ต้องพิมพ์มากยิ่งกว่าจำนวนที่ต้องการ มีความยืดหยุ่นสำหรับการทำงาน เทคโนโลยีการพิมพ์ Industrial Technology การแข่งขันชิงชัยด้านอุตสาหกรรมต่างๆในปัจจุบัน มีการเติบโตที่สูงเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งยังในประเทศแล้วก็ต่างชาติ โดยเหตุนี้เทคโนโลยีก็เลยมีหน้าที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการคิดค้นหรือออกแบบประดิษฐ์ของใหม่ๆการผลิตของใหม่ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อเพิ่มความสามารถสำหรับการรองรับความต้องการของตลาดผู้สร้างจำต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในงานด้านอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตนั้นมีคุณภาพและตรงตามต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด บทความนี้จะขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมด้านการบรรจุภัณฑ์รวมทั้งเทคโนโลย ีที่ใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆเป็น 1. บรรจุภัณฑ์จำพวกแข็งตัว (Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์จำพวกนี้ดังเช่นว่า แก้ว กระป๋องโลหะ แล้วก็พลาสติกแข็ง บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มีความแข็งแรงและอาจจะรูปเจริญ สามารถลำเลียงขนถ่ายบนสายพานได้ 2. บรรจุภัณฑ์จำพวกครึ่งแข็ง (Semi-Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้เป็นต้นว่าขวดพลาสติกแก้วพลาสติก ถ้วยใส่ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์จำพวกนี้จะมีความจำกัดสำหรับการรับแรงอัดรวมทั้งแรงดึง 3. บรรจุภัณฑ์ประเภทนุ่ม (Flexible Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ดังเช่นว่าซองใส่อาหารสำเร็จรูปต่างๆหรือผลิตภัณฑ์ถุงก๊อบแก๊บ เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบ่งได้ 3 ส่วนหลักๆเป็นต้นว่า... 1. เทคโนโลยีเพื่อช่วยสำหรับในการออกแบบจะใช้อุปกรณ์สองส่วนร่วมกันนั้นก็ เป็น ด้าน Hardware และ Software เพื่อช่วยสำหรับการคิดค้นออกแบบสินค้า วางแบบด้านกราฟฟิค บางทีอาจรวมไปถึงประเด็นการพัฒนาสินค้าในลักษณะต่างๆSoftware ที่ใช้วางแบบในขณะนี้ได้ปรับปรุงให้เป็นรูปแบบ 3D เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการวิเคราะห์ความถูกต้องชัดเจนแล้วก็การติดต่อสื่อสารที่รู้เรื่องได้ง่ายมากกว่าเก่าหรือสามารถผลิตชิ้นงานแบบอย่างออกมาเพื่อเห็นรูปลักษณ์ของสินค้านั้นๆได้ 2. เทคโนโลยีการสร้างรวมทั้งการพิมพ์ประยุกต์ใช้สำหรับการพิมพ์ฉลาก เพื่อใช้สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ขวดเครื่องแต่งตัวหรือถุงใส่เครื่องสำอาง อาหารเเละอุตสาหกรรมอื่นๆมากมายก่ายกองซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์นั้นมีนานาประการแบบอย่าง เป็นต้นว่าการพิมพ์แบบออฟเซ็ต การพิมพ์แบบกราวเวียร์ รวมทั้งการพิมพ์แบบเฟ็กโซ เดี๋ยวนี้อุปกรณ์รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักรสำหรับการพิมพ์มีความทันสมัยและก็มีเทคโนโลยีสูงเพื่อได้สีสันที่สวยงามรวมทั้งเย้ายวนใจความอยากได้ของผู้ใช้ 3. เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ จำนวนของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตหรือบรรจุได้ในปัจจุบันนี้ อาจยังไม่ใช้ปริมาณสิ่งที่มีความต้องการในตอนนี้เพียงแค่นั้น การเลือกเครื่องจักรจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องรองรับการผลิตในอนาคตรวมทั้งยังจำเป็นต้องดำเนินงานร่วมกับวัสดุบรรจุภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการขนส่งขน ใส่ หรือหน้าที่อื่นๆได้อย่างถูกต้องรวมทั้งรวดเร็วทันใจ การบรรจุภัณฑ์ หรือการจัดใส่หีบห่อ เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของแนวทางการทางการตลาดเนื่องจากในตอนนี้บริษัทมากหมายได้พัฒนาตัวผลิตภัณฑ์แล้วก็บริการจนถึงมีคุณภาพทัดเทียมกันดูเหมือนจะทุกตราแบรนด์ โดยเหตุนั้นนักการตลาดจึงได้หันมาเน้นย้ำประเด็นการบรรจุภัณฑ์ โดยการพัฒนารูปแบบของการบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยทั้งในด้านการเก็บรักษาการขาย การตลาด การโฆษณา การบรรจุภัณฑ์จึงเข้ามามีหน้าที่ทางการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีและก็เหมาะสม จะช่วยให้การดำเนินการขาย การขนส่งเคลื่อนย้ายแล้วก็ผู้กระทำระจายสินค้าดำเนินไปได้ด้วยดีสะดวกเร็ว ประหยัด อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดซึ่งก็คือประเด็นการอนุรักษ์ธรรมชาติในสังคมปัจจุบัน ผู้อุปโภคบริโภคให้ความสนใจต่อบรรจุภัณฑ์มากเป็นทวีคูณ ลูกค้านอกจากจะมีความต้องการความสวยสดงดงามข้างนอกของตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังปรารถนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม การออกแบบบรรจุภัณฑ์จำต้องพิจารณาถึงความรู้ความเข้าใจในการลดจำนวนใส่ภัณฑ ์ที่ใช้แล้วความต้องการดังที่กล่าวถึงแล้วนี้ได้ก่อกำเนิดกระแสด้านสังคมในประเทศที่พัฒนาแล้ว นำมาซึ่งการทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งไปจำหน่ายประเทศพวกนี้ จำต้องสอดคล้องกับระเบียบทางด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศนั้นๆด้วยได้แก่ ในประเทศเยอรมันการนำเอากล่องกระดาษแข็งกลับมาใช้ใหม่ในลูกค้าจะนำเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชั้นใน ดังเช่น ขวดที่บรรจุสินค้ากลับไปอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวกล่องชั้นนอกจะให้คนขายนำกลับไปใช้ใหม่ แผนการนำกลับมาใช้ ซึ่งค่อนข้างใหม่นี้ย่อมช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้หมดไปในระยะเวลาอันใกล้ รับเข้าหัวปฏิทินทุกชนิด #เข้าหัวปฏิทิน #งานหลังการพิมพ์ #กล่องไดคัท ต่อรองราคาได้ บริกาเข้ารูปเล่มหนังสือ ด่วนติดต่อ Fax 02-235-9480 ขอบคุณบทความจาก : https://rvydiecut.com/ Tags : เคทอง
|