หัวข้อ: ตรวจตา ตรวจอะไรบ้าง รวมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตรวจสุขภาพตา เริ่มหัวข้อโดย: guupost ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2020, 04:56:24 pm (https://i.ibb.co/T1zXYKD/key8.jpg)
ในบรรดาการตรวจสุขภาพ การตรวจสุขภาพตามักเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามเพราะคิดว่าหากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ไม่เป็นไรแต่แท้จริงแล้วมีโรคทางตาหลายโรคที่จะไม่แสดงอาการจนกว่าจะเข้าสู่ระยะรุนแรงแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นก็อาจสายเกินกว่าจะรักษาให้เป็นปกติได้ ที่สำคัญการมองเห็นของคุณก็อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หรือหากเคราะห์ร้ายไปกว่านั้น คุณอาจสูญเสียการมองเห็นไปชั่วคราว หรือถาวรได้ นั่นคือเหตุผลสำคัญที่คุณไม่ควรละเลยการตรวจสุขภาพตา ใครบ้างที่ควรตรวจตา ผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติ คุณควรตรวจตาอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่มีอาการทางสายตายใดๆ เลยก็ตาม โดยแนะนำให้ตรวจตาตามช่วงอายุดังต่อไปนี้ 1. เด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักปกติจะได้รับการตรวจร่างกายทั่วไปคร่าวๆ รวมทั้งการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ 2. เด็กอายุ 3-5 ปี จะเป็นการตรวจวัดระดับการมองเห็นด้วยแผ่นภาพและตรวจภาวะตาเข หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ต้นอาจนำไปสู่ภาวะตาขี้เกียจ (Lazy eye) เป็นปัญหาสุขภาพตาที่พบได้ในเด็กเท่านั้น ปัญหานี้จะทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ในระยะยาวอาจส่งผลให้ตาบอดได้ 3. อายุ 6-20 ปี ตรวจวัดสายตาสั้น ยาว เอียง ซึ่งเป็นปัญหาที่อาจทำให้เด็กมีอาการตาล้า ปวดศีรษะ และไม่มีสมาธิในการเรียน หากพ่อแม่สังเกตเห็นอาการเหล่านี้ควรพาลูกไปตรวจสายตาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนของเด็ก 4. อายุ 21-40 ปี ควรได้รับการตรวจตาทุก 5-10 ปี 5. อายุ 40-64 ปี ควรได้รับการตรวจตาทุก 2 ปี เพราะเป็นวัยที่สายตาเริ่มเปลี่ยน อาจต้องใช้แว่นสายตายาว และเสี่ยงเกิดโรคตาต่างๆ ตามอายุที่มากขึ้น เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ และต้อหิน 6. อายุ 64 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจตาปีละ 1 ครั้ง ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อไปนี้ควรเข้ารับการตรวจตาทันที หรือตรวจเป็นประจำโดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีอายุ 40 ปี - เด็กที่คลอดก่อนกำหนดและมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1500 กรัม หรืออายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์ ควรรับการตรวจจากจักษุแพทย์ภายในช่วงที่ตรวจได้ หรืออายุ 4-6 สัปดาห์ - ผู้ที่มีอาการทางตาต่างๆ เช่น ปวดตา ตาแดง ตามัว เห็นภาพซ้อน น้ำตาไหล ปวดกระบอกตา หรือปวดศีรษะบ่อยๆ - หากคนในครอบครัวเคยเป็นโรคต้อหิน หรือตาบอดไปข้างหนึ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรตรวจความดันลูกตาและประสาทตาตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากต้อหินเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ - ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไทรอยด์ ควรรับการตรวจตาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด - ผู้ที่ทำงานใช้สายตามาก - ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ - ผู้มีปัจจัยเสี่ยงต่อจอตาฉีกขาด เช่น เคยได้รับอุบัติเหตุที่ดวงตา เคยได้รับการผ่าตัดตามาแล้ว มีสายตาสั้นบาง เป็นต้น - ผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องใช้ยาที่มีผลต่อดวงตาเป็นประจำ เช่น ยารักษาวัณโรคในกลุ่มอีแทมบูทอล (Ethambutol) ยารักษาโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอย่างคลอโรควิน (Chloroquine) ยาในกลุ่มสเตียรอยด์สำหรับรักษาโรคไต เป็นต้น - ผู้มีเชื้อชาติแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งอายุมากกว่า 20 ปี นอกจากนี้ผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองตาแม้จะไม่มีความเสี่ยงใดๆ เนื่องจากโรคตาที่พบบ่อย หรือการเปลี่ยนแปลงของสายตามักเกิดขึ้นในช่วงวัยดังกล่าว หรือหากป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง ก็ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตาด้วยเช่นกัน ติดตามอ่านบทความสุขภาพดี ๆ กันต่อได้ที่ Website : https://www.honestdocs.co/eye-exam
|