หัวข้อ: TOEIC TOEFL IELTS คืออะไร สำคัญต่อการทำงานอย่างไร? เริ่มหัวข้อโดย: Cindy700 ที่ มกราคม 30, 2022, 12:11:41 pm (https://www.img.in.th/images/d18150b2aa0a11af309670979ceff741.jpg)
เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหลายๆคนที่กำลังหางานทำ จะเห็นผ่านๆตาในการรับสมัครงานที่มีข้อกำหนดต้องมีผล TOEIC TOEFL IELTS ประกอบในการสมัครงานด้วย ทั้ง TOEIC, TOEFL และ IELTS ต่างก็เป็นการสอบวัดระดับคะแนนภาษาอังกฤษที่สำคัญ แต่จะมีการใช้และรายละเอียดการสอบที่ต่างกัน แล้ว TOEIC TOEFL IELTS คืออะไร สำคัญต่อการทำงานมากน้อยเท่าใด มาดูข้อมูลกันเลย TOEIC คืออะไร? TOEIC (โทอิค) คือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสมัครงาน ซึ่งนิยมใช้ในหลายประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ตัวอย่างเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงไทยเราด้วย ข้อสอบ TOEIC จะมีทั้งหมด 200 ข้อ แบ่งเป็นพาร์ทการฟัง 100 ข้อ (มีเทปเปิดให้ฟัง) และพาร์ทการอ่าน 100 ข้อ โดยที่ข้อสอบทุกข้อจะเป็นแบบปรนัย (ข้อสอบแบบมีตัวเลือก) ผลสอบ TOEIC ที่ได้จะอยู่ในช่วง 10-990 คะแนน ซึ่งจะประกอบไปด้วยพาร์ทการฟังและการอ่าน โดยแต่ละพาร์ทจะมีช่วงคะแนนอยู่ในช่วง 5-495 คะแนน การสอบ TOEIC ที่จริงมี 2 แบบ คือการฟังการอ่าน (TOEIC Listening and Reading Test) และการพูดการเขียน (TOEIC Speaking and Writing Test) แต่ที่นิยมสอบและใช้กันจะมีแค่แบบการฟังการอ่านเท่านั้น TOEFL คืออะไร? TOEFL (โทเฟิล) คือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในระบบสหรัฐอเมริกา ใครที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ควรจะเน้นสอบ TOEFL เป็นหลัก (ในช่วงหลังๆ มหาวิทยาลัยส่วนมากในระบบอังกฤษต่างก็ยอมรับผลสอบ TOEFL กันมากขึ้น แต่ถ้าจะให้ชัวร์ เราก็ควรเช็คก่อน ว่าหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้านั้นรับคะแนนสอบภาษาอังกฤษอะไรบ้าง) ข้อสอบ TOEFL จะวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ซึ่งก็คือการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยที่ตัวข้อสอบจะมีทั้งส่วนที่เป็นปรนัย (ข้อสอบแบบมีตัวเลือก) ส่วนที่ให้เขียน และส่วนที่ให้พูด ผลสอบ TOEFL ที่ได้จะอยู่ในช่วง 0-120 คะแนน โดยที่แต่ละพาร์ท (ฟัง พูด อ่าน เขียน) จะมีคะแนนอยู่ในช่วง 0-30 คะแนน การสอบ TOEFL จริงๆ แล้วมีหลายแบบ เช่น TOEFL PBT, TOEFL iBT, TOEFL ITP แต่ที่นิยมสอบกัน และใช้ในการเรียนต่อจะเป็น TOEFL iBT ซึ่งย่อมาจาก TOEFL Internet-Based Test IELTS คืออะไร? IELTS (ไอเอลส์) คือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในระบบอังกฤษ ใครที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย หรือประเทศอื่นๆ ในยุโรป ก็ควรจะเน้นสอบ IELTS เป็นหลัก (ในช่วงหลังๆ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในระบบประเทศสหรัฐอเมริกาต่างก็ยอมรับผลสอบIELTS กันมากขึ้น แต่ถ้าจะให้มั่นใจ เราก็ควรตรวจสอบก่อน ว่าหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้านั้นรับคะแนนสอบภาษาอังกฤษอะไรบ้าง) ข้อสอบ IELTS จะวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ซึ่งก็คือการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยที่ตัวข้อสอบจะมีทั้งส่วนที่เป็นปรนัย (ข้อสอบแบบมีตัวเลือก) ส่วนที่ให้เขียน และส่วนที่ให้พูด ผลสอบ IELTS ที่ได้จะอยู่ในช่วง 0-9 คะแนน ทั้งคะแนนแต่ละพาร์ท (ฟัง พูด อ่าน เขียน) และคะแนนเฉลี่ยรวม โดยที่ตัวคะแนนจะเป็นเลขกลม หรือเลข .5 เท่านั้น เช่น 5.5, 6.0, 6.5, 7.0 TOEIC TOEFL IELTS มีสำคัญต่อการทำงานอย่างไร แน่นอนว่าการทดสอบทั้ง 3 แบบนั้นเป็นการทดสอบทางด้านภาษา ฉะนั้นจึงมีความสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาไม่ว่าจะเป็นงานการบิน งานโรงแรม งานท่องเที่ยว การทำงานในบริษัทข้ามชาติ ที่ต้องสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ผลสอบเหล่านี้จะช่วยยืนยันว่าท่านมีความสามารถในการใช้ภาษา เมื่อท่านยื่นผลการสอบประกอบการสมัครงานก็จะช่วยให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผลการสอบวัดระดับภาษายังช่วยปรับเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือช่วยให้คุณมีโอกาสได้ไปสัมนาต่างประเทศในนามบริษัท (กรณีที่บริษัทสนับสนุน) อีกด้วย ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ หรือคะแนนที่ถือว่าผ่านนั่นเอง ส่วนมากทั้งในการศึกษาต่อและในการทำงานจะมีเกณฑ์ประมาณนี้ คะแนน TOEIC ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ = โดยปกติไม่ได้มีหลักเกณฑ์ตายตัวว่าจะต้องได้กี่คะแนนแต่งานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทเอกชนบางแห่งจะตั้งเกณฑ์ไว้ตั้งแต่ 450 / 550 / 650 ซึ่งต้องดูกฎเกณฑ์ของแต่ละที่ประกอบ คะแนน TOEFL ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ = ส่วนมากตามสถาบันการศึกษาหรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ จะกำหนดว่าต้องได้คะแนนประมาณ 79/120 (แบบใหม่) หรือ 550/677 (แบบเก่า) คะแนน IELTS ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ = ด้วยความที่IELTS แบ่งเป็น 9 ระดับซึ่งระดับที่ถือว่าใช้ได้ ผ่านเกณฑ์คือ 5.5 หรือ 6.5 ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับสถานศึกษาหรือแต่ละบริษัท) ดังนั้นถ้าหากท่านมีความสนใจในการทำงานร่วมกับบริษัทต่างชาติ ต้องการปรับเลื่อนเงินเดือน หรืออยากสร้างความน่าเชื่อถือทางภาษาก็สามารถไปสมัครทดสอบความสามารถทางภาษาได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วผลการสอบจะสามารถใช้ได้ภายใน 2 ปีเท่านั้นหากเกินกว่านั้นและคุณจำเป็นต้องสอบอีกครั้ง Gimme eng หลักสูตรติวภาษา เทคนิคพิเศษเข้าใจง่าย ทำไมต้องเรียน IELTS กับเรา? ✔️ สอนเทคนิคล้วนโดย ไม่เน้นการอ่าน, ไม่เน้นแกรมม่า, ไม่เน้นท่องจำคำศัพท์เพื่ออัพคะแนนข้อสอบภาษา ✔️ ช่วยนักเรียนเปิดมุมมองของคำตอบแบบใหม่โดยไม่ได้อิงแค่หาคีย์เวิร์ด ✔️ แก้ปัญหาเฉพาะจุดรายบุคคลโดยการนำแบบทดสอบก่อนเรียนมาประเมินพื้นฐานและแก้ปัญหารายบุคคลโดยเทคนิคเฉพาะ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : www.gimme-eng.com Facebook : https://www.facebook.com/gimme.eng Twitter : https://twitter.com/gimme_eng อินสตาแกรม : https://www.instagram.com/gimme_eng
|