ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านอาหารที่ต้องการมีเมนูกาแฟสดเพื่อเพิ่มความหลากหลายของเครื่องดื่มในการบริการลูกค้า จะเป็นโชว์รูมที่อยากจะมีเมนูกาแฟสดไว้ให้บริการลูกค้าเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ ก่อนการเจรจาธุรกิจ หรือเป็นสำนักงานออฟฟิศที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้แก่คนในองค์กรด้วยมุมกาแฟสด สิ่งแรกที่จำเป็นต้องมีเลยคือเครื่องชงกาแฟนะครับ ซึ่งเครื่องกาแฟก็มีหลายประเภทเหลือเกิน แล้วเราจะเลือกเครื่องกาแฟอย่างไรให้ตรงใจดี บทความนี้มีคำตอบครับ
1. ต้นทุนกาแฟต่อแก้ว
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในร้านอาหาร, สำนักงาน, หรือโชว์รูม วัตถุดิบร้านกาแฟ
ต่อแก้วถือว่ามีปัจจัยอย่างมาก การมีเครื่องกาแฟในสำนักงานจะช่วยให้ประหยัดกว่าการที่พนักงานไปซื้อกาแฟตามร้านในแต่ละวันอย่างมหาศาล และสำหรับร้านอาหารต้นทุนกาแฟต่อแก้วถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการคืนทุนเลยทีเดียวครับ ด้านล่างเป็นราคาของกาแฟแต่ละประเภทโดยเฉลี่ยครับ
•   กาแฟสำเร็จรูปแบบซองทรีอินวัน เฉลี่ย 10-12 บาทต่อแก้ว (ราคาต่อซอง)
•   เมล็ดกาแฟสด เฉลี่ย 7-10 บาท ต่อแก้ว (ใช้กาแฟเฉลี่ย 8 กรัมต่อแก้ว)
•   แคปซูลกาแฟ เฉลี่ย 18-40 บาท ต่อแก้ว (ขึ้นกับเมนูกาแฟ)
วิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟ
ให้คุ้มค่า
2. ราคาและความสามารถของเครื่องชงกาแฟ
เครื่องชงกาแฟ
เครื่องชงกาแฟมีหลายเกรดและหลายประเภท ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหลายแสน (ฟังไม่ผิดหรอกครับ เครื่องบางรุ่นสามารถซื้อรถป้ายแดงได้สบายๆ ครับ) ซึ่งเครื่องกาแฟยิ่งราคาสูงก็จะมีความสามารถสูงขึ้นไป ถ้าให้เปรียบเทียบก็คือเหมือนรถทั่วไปกับรถซุปเปอร์คาร์ ซึ่งผู้ใช้งานต้องมีความรู้และความสามารถพอในการดึงศักยภาพให้ออกมาอย่างเต็มที่ครับ ทำให้เครื่องประเภทนี้เหมาะกับร้านที่ขายกาแฟหลักหลายร้อยแก้วต่อวัน แต่สิ่งที่ตามมาคือเครื่องกาแฟราคายิ่งสูงก็ยิ่งทำให้ความคุ้มค่าลดลงไปเรื่อย เช่นร้านค้าหรือร้านอาหาร ยิ่งถ้าลงทุนเครื่องสูงเกินไป ก็จะทำให้ระยะเวลาในการคืนทุนยิ่งช้าออกไป จึงขอสรุปในหัวข้อนี้ว่าควรเลือกเครื่องกาแฟที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงๆ ดีกว่าครับบ

ฐานข้อมูลผิดพลาด

ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย