หัวข้อ: ไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์เป็นเหตุฟ้องหย่าได้หรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Prichas ที่ มิถุนายน 16, 2022, 09:37:31 am การที่โจทก์หายไปจากบ้านเรือนทิ้งจำเลยกับบุตรสองคนอยู่ตามลำพังนาน 3 เดือน มิสามารถติดต่อได้ จำเลยเป็นฝ่ายออกติดตามจนพบว่าโจทก์ไปทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล ส. จังหวัดภูเก็ต จำเลยเดินทางไปอยู่กับผู้ฟ้องคดี 3 เดือนต่อครั้ง โดยผู้ฟ้องคดีผู้ถูกฟ้องคดียังมีเพศสัมพันธ์กัน แม้ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าการมีเพศสัมพันธ์มิเป็นไปตามปกติในความเป็นสามีภริยา แต่การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงย่อมต้องมีความยินยอมพร้อมใจ โดยเฉพาะฝ่ายชายหากมิยินยอมพร้อมใจ ย่อมยากที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ จึงหาใช่ผู้ฟ้องคดีจำเลยไม่มีเพศสัมพันธ์กันจนทำให้โจทก์เดือดร้อนเกินควรและจนเป็นเหตุหย่าไม่ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีเดินทางไปตามหาผู้ฟ้องคดีที่จังหวัดภูเก็ต พบคลินิกแต่ไม่พบตัวผู้ฟ้องคดี พบแต่ ก. ทำงานในคลินิกและมีห้องนอนอยู่ติดกับห้องนอนโจทก์ในคลินิก แล้วจำเลยก็มิสามารถติดต่อโจทก์ได้อีก เมื่อทราบว่าผู้ฟ้องคดีมาเรียนต่อเฉพาะทางที่กรุงเทพ ผู้ถูกฟ้องคดีจึงไปดักพบ ผู้ฟ้องคดีไม่ยอมพูดด้วย จำเลยต้องเข้าไปนั่งข้างโจทก์ในห้องเรียน การที่ทันตแพทย์ที่ร่วมเรียนด้วยและอาจารย์ที่สอนพูดว่า ผู้ฟ้องคดีมีเมียมาคุม น่าจะเป็นคำพูดล้อเล่น ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีมีการกระทำใด ๆ ทำให้โจทก์ต้องอับอาย การที่สามีภริยาปรากฏตัวด้วยกันเป็นครั้งคราวย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทั้งผู้ถูกฟ้องคดีกลับถูก ก. ที่มานั่งเฝ้าโจทก์ใช้กำลังทำร้ายและตะโกนด่าต่อหน้าบุคคลอื่น เมื่อผู้ฟ้องคดีขอร้องจำเลยก็ใจอ่อนมิดำเนินคดี การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีจึงหาใช่จำเลยทำให้ผู้ฟ้องคดีเสียหายเดือดร้อนเกินควรและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงไม่ จึงไม่เป็นเหตุฟ้องหย่า (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2561)
โดย ทนายความเชียงใหม่ ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่
|