หัวข้อ: DCC คาดยอดขายปี 65 ทรงตัวหลังกำลังซื้อ Q4/65 ยังไม่ฟื้นเร่ง เริ่มหัวข้อโดย: fairya ที่ พฤศจิกายน 09, 2022, 09:43:03 pm DCC คาดยอดขายปี 65 ทรงตัวหลังกำลังซื้อ Q4/65 ยังไม่ฟื้นเร่งปรับกลยุทธ์เจาะตลาดกลาง-บน
นายมารุต แสงศาสตรา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมในไตรมาส 4/65คาดยังคงทรงตัว จากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก โดยเฉพาะกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง เนื่องจากหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า 5 แสนบาทต่อครัวเรือน, รถที่โดนธนาคารพาณิชย์ยึด จากไม่สามารถผ่อนชำระได้ โดยทั้งประเทศโดนยึดไปกว่า 20,000 คัน สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อของคนระดับกลางถึงล่างน้อยลงไป รวมถึงน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ก็มีพื้นที่ทางการเกษตรทางภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก รวมราว 5 ล้านไร่ ซึ่งก็มีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ ให้ปรับตัวลง เช่น ในจ.อุบลราชธานี ยอดขายตกลงไปกว่า 20% ส่วนราคาพืชผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นราคาข้าวเปลือง ข้าวเจ้า ข้าวหอมมะลิ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ถ้ามีการเก็บเกี่ยวผลผลิตก็จะช่วยให้เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่ากำลังซื้อตลาดกลาง-ล่าง น่าจะกลับมาดีขึ้นได้ในไตรมาส 2/66 ขณะที่ไตรมาส 1/66 น่าจะกลับมาเฉพาะพื้นที่ตามหัวเมืองท่องเที่ยว ฉะนั้นบริษัทฯ จึงปรับกลยุทธ์การตลาด มาเจาะตลาดกลาง-บนมากขึ้น รวมถึงเข้าไปเจาะตลาดภาคกลางและใต้ ซึ่งเป็นภาคที่ยังไม่มีความชำนาญ ซึ่งเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ ก็พบว่ายอดขายภาคกลางและใต้ รวมถึงกรุงเทพฯ ยอดขายปรับตัวสูงขึ้นมาก และจากการที่เปลี่ยนวิธีการทำการตลาด มาออกงานสถาปนิก งานบ้านและสวน ทำให้มีคนรู้จัก DCC มากขึ้น โดยเฉพาะคนในเมือง "ตลาดกลางและล่างยังไม่กลับมา ตลาดกลางและบน ปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดว่ายอดขายทั้งปีน่าจะทรงตัวเท่ากับปีก่อนที่อยู่ 8,480.62 ล้านบาท ขณะที่ทิศทางในอนาคต บริษัทฯ มีแผนปรับปรุงพื้นที่เช่าที่ปัจจุบันอยู่นอกโชว์รูมให้เข้ามาอยู่ในโชว์รูม และขยายโชว์รูมให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้จากค่าเช่า และสร้างสีสันให้กับโชว์รูม เนื่องด้วยขณะนี้พบว่าพื้นที่เช่าของเรามีอัตราการเช่าที่ลดลง รวมถึงยังมีนโยบายด้านการสร้างความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง" นายมารุต กล่าว ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการควบคุมประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ และยังเดินหน้าลงทุนติดตั้งโซลาร์รูปท็อปบนหลังคาโรงงานอีก 2 แห่ง ขนาดกำลังผลิต 1 เมกกะวัต์ต่อแห่ง จากตอนนี้ที่มีอยุ่แล้ว 1 เมกะวัตต์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ยังคงมีแผนการพัฒนาและเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์กระเบื้องเกรดพรีเมี่ยม โดยเฉพาะในกลุ่ม Porcelain ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นที่สูงเพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มกลาง-บน ที่มีกำลังซื้อ ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 27% ส่วนที่เหลือ 73% เป็นกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง-ล่าง รวมถึงเดินหน้าทยอยปรับปรุงสาขาที่อยู่ในหัวเมืองหลักกว่า 50 แห่ง ให้มีรูปแบบที่ทันสมัยและสามารถรองรับการเช่าพื้นที่ในโชว์รูมได้มากขึ้น โดยการปรับปรุงสาขาอาจต้องใช้ระยะเวลากว่า 6 เดือนกว่าจะแล้วเสร็จ ทำให้อาจกระทบกับการจ่ายปันผลที่คาดจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จากการนำกำไรที่ได้มาไปใช้ปรับปรุงสาขาและเพิ่มยอดขายในอนาคต ด้านความคืบหน้าในการลงทุนขยายสาขาใหม่ในทำเลต่างๆ อาทิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปัจจุบันงานก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 70-80% แล้ว ในส่วนโครงการพัฒนาโชว์รูม ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีขนาดพื้นที่ราว 1,200 ตารางเมตร ปัจจุบันได้มีการเจรจากับทางสถาปนิกและวิศวกรแล้ว โดยจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินก่อสร้าง 6-9 เดือน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ในปี 66 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ณ สิ้นเดือนก.ย.65 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 200 แห่ง พร้อมกันนี้ บริษัทมองการขยายกองรถเพื่อใช้ในงานขนส่งเพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ลดต้นทุนค่าขนส่งลง ซึ่งจากการทดลองในช่วงที่ผ่านมารถกระบะบรรทุก 1 คัน สามารถลดต้นทุนค่าขนส่งลงได้ถึง 25% ต่อหนึ่งเที่ยว ในตอนนี้กองรถมีแล้วจำนวน 12 คัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายกองรถเพิ่ม โดยจะมีการลงทุนเช่ารถบรรทุกทั้งขนาด 6 ล้อ และ 12 ล้อ เข้ามาทดลองเพิ่มเติม หรืออาจให้พาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์เข้ามาเป็นกำลังเสริม
|