หัวข้อ: แนวทางการใช้ เครื่องมือวัด fluke แบบทั่วไป สำหรับผู้เริ่มต้น เริ่มหัวข้อโดย: lnwneverdie2015 ที่ ธันวาคม 11, 2015, 01:33:16 am (http://thaiphatanasin.com/backoffice/product/pro_pic_B/1874_131430_.jpg)
Credit : http://thaiphatanasin.com/products_brand_list_model.php?sb_id=1874 เครื่องมือช่างไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มือใหม่ หรือช่างอาชีพ จำเป็นต้องฝึกซ้อมใช้งานให้ช่ำชอง มากกว่าคอนเซ็ปต์การใช้งานเท่านั้น และดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เป็นอีกเครื่องมือสำหรับช่างไฟอีกตัวที่ขาดไม่ได้อย่างมากช่างสมัครเล่น เพราะเป็นเครื่องมือชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้เราเข้าใจเรื่องพื้นฐานไฟฟ้า แต่ก่อนอื่นเพื่อนๆต้องเลือกซื้อหา ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ มาใช้งานก่อน ซึ่งมีอยู่มากมายหลายตราในตลาด ทั้งที่ราคาที่ไม่แพง และแพง บางรุ่นจะมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความจุไฟฟ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วดิจิตอลมัลติมิเตอร์ ราคาถูกจะอ่านค่าได้ไม่เที่ยงตรงนัก เราขอแนะมัลติมิเตอร์ยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาสูง แต่ใช้งานทนทาน ตามมาตรฐานสากล และอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวใช้คุ้ม โดยคุณสามารถสั่งออนไลน์ผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับงานไฟฟ้าทั่วไป แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีคุณสมบัติการวัดพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับมือใหม่มากครับ มัลติมิเตอร์ คืออะไร มัลติมิเตอร์ เป็นเครื่องมือไฟฟ้า ที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบปริมาณค่าต่างๆ เช่น แรงดันไฟฟ้า, แอมป์มิเตอร์, R และวัดค่าไดโอด เครื่องมือวัด fluke 117 มีฟังชันก์ เหล่านี้ทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 บอกผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับช่างไฟทั่วไป มัลติมิเตอร์จะมีช่วงพิสัยต่างๆ ให้เลือก โดยการปรับหน้าปัดไปที่โหมดย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้ V วัดแรงดันไฟฟ้า ทั้งแบบDC และAC mV วัดแรงดันไฟฟ้า แรงดันต่ำ แบบกระแสไฟตรง และAC Ω วัดค่าความต้านทาน A วัดกระแส แบบกระแสไฟตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ และโหมดตรวจสอบความต่อเนื่องสำหรับ ไว้สำหรับเช็คสายไฟ สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบโหมดพื้นฐานต่างๆ เราได้รวบรวมแนวทางไว้ดังต่อไปนี้ การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า การตรวจสอบโวลต์ หรือตรวจสอบแรงดันกระแสตรง และย่านกระแสสลับ ก่อนอื่นคุณต้องหาถ่าน AA ที่ที่ใช้แล้วมาทำการทดสอบต่อจากนั้น 1.เสียบขั้วลบสีดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke 2.เสียบขั้วบวกสีแดงเข้าช่อง V 3.บิดลูกบิดไปยังสัญลักษณ์ V แรงดันไฟฟ้า แรงดันกระแสไฟตรงสูง หรือกระแสตรงต่ำ mV หน้าจอจะขึ้นโหมด DC 4.นำสายสีแดงสัมผัสที่ขั้วบวก สายสีดำแตะขั้วลบ ของแบตเตอรี่ 5.ค่าของแรงดันไฟฟ้า ของถ่าน AAจะจะแสดงตัวเลขที่แม่นยำบนมัลติมิเตอร์ 6.ในกรณีวัดย่านกระแสสลับ ให้ปรับลูกบิดไปที่ย่าน V โวลต์ AC สูง Hz เท่านั้น ซึ่งหน้าจอจะเห็นสัญลักษณ์ AC 7.เสียบสายทั้งสองสีที่ปลั๊กไฟฟ้าในบ้าน แต่ต้องระวังอย่าให้ทั้งแท่งสายขั้วบวกลบสัมผัสกัน หรือนิ้วสัมผัสที่แท่งเหล็ก ซึ่งไฟบ้านจะแสดงค่าแรงดันประมาณ 220V Credit : http://www.thaiphatanasin.com/products_sub.php?brand_id=124&type_id=263&cat_id=3 1.ต่อขั้วสายสีดำเข้ากับช่อง COM (common) 2.เสียบสายแดงที่ช่องเสียบ A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้ถึงเพียงแค่ 10A 3.ปรับหน้าปัดไปยังย่านโหมด A ไฟฟ้ากระแสตรง 4.นำสายทั้งสองสีต่อ เข้าโหลดแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอนุกรม ค่าปริมาณไฟฟ้าที่ผ่านดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะแสดงตัวเลขที่จอ 5.หากคุณต้องการวัดกระแสไฟ AC ให้บิดลูกบิดไปที่ สัญลักษณ์ตรวจสอบกระแสสูง หรือสัญลักษณ์ A Hz ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ค่ากระแสไฟฟ้าจะแสดงที่จอดิจิตอลมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรพึงระวังเสมอว่าเครื่องวัดสามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้มากสุดเพียง 10A เท่านั้น ถ้าวัดกระแสที่โอเวอร์โหลด ฟิวส์ภายในมัลติมิเตอร์จะพัง ทำให้มัลติมิเตอร์เสียหายได้ การตรวจสอบความต้านทาน การวัดค่าโอห์ม หรือ R คือ ตัวต้านทาน กระแสไฟฟ้า เพื่อลดกระแสให้สัมพันธ์กันกับอุปกรณ์หรือวงจรต่างๆ 1.เสียบสายขั้วบวกลบ เหมือนการตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า สายสีแดงเสียบเข้ากับเครื่องหมาย Ω โอห์ม สัญลักษณ์กรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke 2. ปรับหน้าปัดไปยังย่านโหมด Ω วัดค่าโอห์ม และหากเอาสายแดงดำมาแตะกันจะไม่มีค่าโอห์ม ดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะขึ้นค่า 0 โอห์ม คือความต้านทานไม่มี 3.นำเอาสายขั้วบวกลบ ไปแตะยังด้านปลายของอุปกรณ์ที่จะวัดค่าความต้านทาน 4.จากนั้นจอเครื่องมือวัดไฟจะขึ้นค่าRของวัสดุนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีโอห์มแล้ว ค่าโอห์มจะเท่ากับ 0 การตรวจสอบความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย ตรวจสอบความต่อเนื่อง เป็นการตรวจสอบตัวนำไฟฟ้าของอุปกรณ์ หรือเช็ควัสดุนำไฟว่าเชื่อมต่อกันหรือไม่ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสียหรือไม่ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1.ต่อสายสีดำ เข้าช่อง COM (common) 2.แทงสายสีแดงขั้วลบเข้า ช่องโอห์ม ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke 3.บิดลูกบิดไปที่ช่วงพิสัยความต่อเนื่อง ลักษณะคล้ายสัญญาณมือถือ 4.ทดสอบโดยการนำแท่งปลายสายดำแดงมาแตะกัน ซึ่งมีเสียงเดือน ปี๊บ นั่นหมายความว่าสัญญาณปรกติ 5.จากนั้นเอานำสายแดง-ดำ แตะที่ปลายอุปกรณ์ที่เราจะทดสอบทั้งสองด้าน ถ้าหากได้ยินเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่าสายไม่ขาด นั่นเอง แต่ถ้าไม่มีเสียงดัง แสดงว่าสายอาจจะพัง ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้คุณต้องทำการทดลองฝึกหัดให้รู้เรื่อง ให้แตกฉาน และต้องระมัดระวังเสมอเวลาจะตรวจสอบไฟกระแสสลับ ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีกระแสสูง อันตรายอย่างมาก และหากคุณมีงบประมาณเพียงพอ การซื้อเครื่องมัลติมิเตอร์ยี่ห้อ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke ตามห้างต่างๆ จะช่วยให้ท่านตรวจวัดไฟได้ไม่ยากเลย เพราะแบรนด์ทั่วไปแล้วจะมีย่านโหมดที่สับสนกว่านี้ แต่กับของ fluke มีดีไซน์ระบบทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญความทน fluke ถือเป็นอันดับหนึ่งทีเดียว ขอบคุณบทความจาก : http://www.meterdd.com Tags : fluke,เครื่องมือวัด fluke
|