การลดความอ้วน โดยการอดอาหารเพียงอย่างดียวนั้น 25-30% ของน้ำหนักที่ลดลงจะเกิดจากการสูญเสียน้ำ สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูกมากกว่าที่ไขมันจะลดลง การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูก จะทำให้สุขภาพอ่อนแอและความแข็งแรงของร่างกายต่ำลง หลักฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ชี้ให้เห็นว่า การเสริม “แอลคาร์นิทีน[/b]” จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานและช่วยการสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทำให้น้ำหนักลด กล้ามเนื้อฟิตกระชับ รูปร่างได้สัดส่วนสวยงาม และยังช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่นกระฉับกระเฉง
แอล-คาร์นิทีนช่วยลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนโดยมีกลไกการออกฤทธิ์ 7 ขั้นตอนดังนี้[img width=221,height=200]http://www.natureexpert.co.th/wp-content/uploads/2011/04/lcar-wm.png[/img][list=1]
- เร่งพาไขมัน เข้าสู่ไมโตคอนเดรีย เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงาน[/*]
- ลดขบวนการสลายตัวของกลูโคสเป็นพลังงาน สร้างพลังงาน[/*]
- กระตุ้นการสร้างมวลกล้ามเนื้อ[/*]
- ลดการสลายตัวของมวลกล้ามเนื้อ[/*]
- เพิ่มปริมาณของ Mitochondrial free CoA ทำให้วงจรการผลิตหลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น[/*]
- ช่วยเพิ่มการขนถ่ายอีเลคตรอนเพื่อให้เกิดพลังงาน[/*]
- เพิ่มการนำกลูโคสไปเลี้ยงเซลล์สมอง ทำให้เกิดปฏิกิริยาอัตโนมัติหยุดความรู้สึกหิวและอยากอาหาร และเพิ่มอัตราการเผาผลาญขณะยามพักของร่างกาย จึงช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉง[/*]
[img width=300,height=226]http://www.natureexpert.co.th/wp-content/uploads/2011/04/iStock_000011376818Medium-resized.jpg[/img]
งานวิจัย ผลของแอล-คาร์นิทีน ในการลดน้ำหนัก ดูเพิ่มเติม >>
ผลลัพท์ในการลดน้ำหนักและสัดส่วนของ แอล-คาร์นิทีน[list=1]
- เพิ่มการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน สลายไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง รอบเอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน ฯ[/*]
- ลดการสะสมของไขมันใหม่ ช่วยลดน้ำหนัก ให้หุ่นผอมเพรียว[/*]
- ลดน้ำหนัก ลดดัชนีมวลกาย (BMI)[/*]
- เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รูปร่างจึงฟิตเฟิร์ม กระชับ[/*]
- ป้องกันการสลายของมวลกล้ามเนื้อ ทำให้สามารถรักษารูปร่างที่ดีไว้ได้โดยไม่กลับมาอ้วนใหม่ได้ง่าย[/*]
- ช่วยลดความหิวและความอยากอาหารหวาน[/*]
- ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉง[/*]
การใช้แอล-คาร์นิทีนในการลดน้ำหนัก จะเห็นผลลัพท์ที่ชัดเจนรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับโปรแกรมการลดน้ำหนักที่ลดหรือจำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาลที่รับเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากร่างกายจะได้รับพลังงานจากแป้งและน้ำตาลลดน้อยลง และจะเปลี่ยนมาใช้การเผาผลาญพลังงานจากไขมันเพิ่มขึ้น การลดน้ำหนักจึงได้ผลมากขึ้น
ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานคือ วันละ 500 ถึง 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน แบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง และควรเลือกแอล-คาร์นิทีนที่มีความบริสุทธิ์ 100% เพื่อความปลอดภัยและได้รับประโยชน์มากที่สุด
แอล-คาร์นิทีนนั้นมีข้อควรรู้ดังนี้ คือ[list=1]
- ทำให้แก่ช้าลง โดยช่วยเพิ่มพลังงานให้ให้เพียงพอและเหมาะสมแก่ทุกเซลล์ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเซลล์สมอง เซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์หัวใจหรือเซลล์จากที่อื่นๆของร่างกาย เซลล์จึงทำงานได้ได้ดี มีอายุยืนนาน ส่งผลให้ร่างกายแก่ช้าลง[/*]
- ช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรด์และโคเลสเตอรอลชนิดร้าย(LDL)ให้อยู่ในระดับต่ำ และช่วยเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดีที่มีประโยชน์ (HDL)ในเลือด[/*]
- ลดภาวะเสี่ยงโรคหัวใจ โดยส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของหัวใจ และลดความเสี่ยงภาวะหัวใจล้มเหลว (1/3ของสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโรคหัวใจเสียชีวิต)[/*]
- ช่วยการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับวิธีลดอาหารจำพวกแป้ง[/*]
- ช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไป[/*]
- ช่วยเพิ่มความสามารถและความทนนานในการออกกำลังกายและป้องกันเนื้อเยื่อบาดเจ็บเสียหายจากปริมาณออกซิเจนในเซลล์ไม่เพียงพอ[/*]
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้น[/*]
- ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ประสาทอันเนื่องมาจากความเครียดมีผลต่อสุขภาพจิตในทางบวกและลดภาวะความเครียด[/*]
- เพิ่มโอกาสการมีบุตรในเพศชายที่มีภาวะมีบุตรยาก โดยช่วยเพิ่มจำนวนเสปิร์มและทำให้มีการเคลื่อนที่มากขึ้นด้วย[/*]
- ช่วยในการทำงานของตับ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคนเรา[/*]
สาระสุขภาพโดย
www.rxvitamin.net[/size]