หัวข้อ: แนวทางซื้อโปรแกรมบัญชีให้เข้ากับบริษัทของท่าน เริ่มหัวข้อโดย: lnwneverdie2015 ที่ มกราคม 29, 2016, 09:54:51 am สมัยปัจจุบัน SME หลายกิจการต่างคัดเลือกวิธีการที่จะสร้างศักยภาพในธุรกิจและประหยัดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สามารถขับเคี่ยวและอยู่รอดในยุคที่การค้าขายฝืดเคืองอย่างในตอนนี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้ ซอฟแวร์โปรแกรมบัญชีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยประหยัดต้นทุน แม้กระนั้นซอฟแวร์มีมากมายหลายตัวแทน จะซื้ออย่างไรจึงจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอแนะนำข้อควรตระหนักเพื่อเป็นแนวทางให้ท่านตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีที่ลงตัวกับธุรกิจของคุณ ดังนี้ครับ
(http://www.thai-account.com/images/sales.jpg) 1.อุตสาหกรรม ร้านค้าของท่านอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านค้าขายย่อย กลุ่มผู้ผลิต หรือกิจการให้บริการ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรม ก็มีรูปแบบการทำบัญชีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้โปรแกรมเมอร์ จะดีไซน์โปรแกรมบัญชีให้เหมาะสมกับแต่ละชนิดธุรกิจ แม้กระนั้น โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานกับอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทเหมือนกัน แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีที่มีฟังก์ชั่นเหมาะสมกับธุรกิจท่าน หรือมีส่วนปลีกย่อยพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น ธุรกิจปลูกสร้าง โรงงานผลิต และศูนย์กระจายสินค้า ควรจ้างโปรแกรมเมอร์มาดีไซน์โปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับกิจการคุณจะดีกว่า 2.ขนาด ธุรกิจ รายละเอียดของการบันทึกบัญชีจะมีมากหรือน้อยขึ้นตามขนาดของ บริษัท ท่านเลือกใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ ร้านค้าที่มียอดจำหน่าย 1 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้ากิจการของคุณมีขนาดใหญ่กว่านี้และมีความซับซ้อน โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถรองรับดาต้าขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นควร เลือกให้เข้ากับขนาด และสามารถที่จะอัพเกรดวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย 3.ฟังก์ชันอะไรบ้างที่ต้องการใช้งาน ก่อนการ เลือกซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรตั้งคำถามว่ามีฟังก์ชั่นหรือโมดูลอะไรที่ธุรกิจท่านต้องการ ควรเขียนความต้องการเหล่านี้ คุณลักษณะ หรือรูปแบบที่อยากได้เป็นหัวข้อเสียก่อน บางธุรกิจอาจจะอยากได้การเข้าถึงที่ง่ายๆ หน้าต่างโปรแกรมไม่ซับซ้อน ขณะที่ร้านค้าอื่นอาจจะต้องรูปแบบตอบสนองรองรับในการจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ หรือการใช้ credit card หรือมีฟังก์ชั่นบริหารสินค้าคงเหลือ หรือสร้างดัดแปลงใบอินวอยซ์ เองได้ ดั้งนั้นควร เลือกโปรแกรมบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้ และเข้ากับธุรกิจคุณ อย่าจ่ายเงินให้กับส่วนเสริมที่ไม่ได้ใช้งาน 4.การดูแลและให้คำปรึกษา ในเวลาที่ท่านมีปัญหาใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัท software สามารถให้บริการให้คำปรึกษา แก้ไขได้ได้ดีเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลาหรือไม่ น่าเชื่อถือหรือไม่ มีศูนย์ดูแลในพื้นที่หรือไม่ และที่สำคัญบริษัทเหล่านั้น มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที บัญชี คอยให้ข้อเสนอแนะคุณหรือไม่ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถ หาได้ จากอินเตอร์เน็ต หรือสืบถามบริษัทที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน 5.งบประมาณ งบในการซื้อจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่ค่อนข้างสำคัญต่อการ ตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีทั่วไปจะมีราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีเฉพาะที่ดีไซน์ฟังก์ชันการใช้พิเศษ ท่านคงต้องลงทุนสูงกว่าแน่นอน และก่อนจะตกลงใจซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำตารางวิเคราะห์ความคุ้มค่าขั้นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินจริง หรือไม่คุ้มค่ากับการใช้งาน 6.โปรแกรมบัญชีมีตัวทดลองใช้ฟรีหรือไม่ จะดีมากถ้าท่านสามารถทดลองโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะจะสามารถเห็นข้อดีข้อเสียต่างๆ ทั้งเรื่องความสะดวกในรูปแบบต่างๆ ปัญหาที่พบ การใช้งาน Function ระบบต่างๆ ลงตัวหรือไม่ เพราะฉะนั้น ก่อน ตัดสินใจเลือกซื้อไต่ถามกับผู้แทนว่ามีระยะเวลาทดลองฟรีหรือไม่ โดยปรกติจะจะเปิดให้ลูกค้าลองใช้ได้ 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว ในที่สุดแล้วควรสืบถามร้านค้าอื่นๆ ที่ท่านรู้จักเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่อยู่ในความสนใจ อย่างน้อย 3 ที่ ควรไถ่ถามข้อดีข้อเสีย ปัญหาที่พบจากการใช้งาน อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการดูแลและให้คำปรึกษาของตัวแทนขายน่าประทับใจหรือไม่ ทั้งนี้สิ่งสำคัญควรตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีที่เป็นที่นิยม มีผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นโปรแกรมที่ดี ไม่มีปัญหามาก เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://peakaccountonline.blogspot.com/2015/07/blog-post.html Tags : โปรแกรมบัญชี,โปรแกรมบัญชีออนไลน์
|