หัวข้อ: การเติมลมยางที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ สิงหาคม 19, 2011, 10:05:50 am การเติมลมยางถือว่าเป็นปัจจัยหลักในการดูแลรักษายางรถยนต์ ถ้าขาดการดูแลที่ดี จะเกิดผลเสียดังนี้
เติมลมน้อยเกินไป ยางจะบวมล่อนได้ง่ายอายุการใช้งานลดลง ดอกยางสึกผิดปกติอาจจะสึกที่ขอบยางข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างสึกที่ไหล่ยาง หรือสึกที่ปลายดอกมีความฝึดที่ผิวสัมผัสมากซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง กว่าปกติ เติมสูบลมมากเกินไป เมื่อได้รับแรงกระแทกจะระเบิดได้ง่าย อายุการใช้งานลดลง ดอกยางโดยเฉพาะกลางหน้ายางจะสึกมากถ่ายเทการสั่นสะเทือน หรือการ กระแทกขึ้นสู่ตัวรถได้มาก ขาดความนุ่มนวล การเติมลมของยางล้อคู่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเติมลมและรักษาระดับแรงดันลมในล้อคู่ให้เท่ากัน ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นยางเส้นที่มีแรงดันมากจะรับน้ำหนักมาก ชำรุดเสียหายง่ายสึกหรอผิดปกติเส้นที่เติมลมน้อยจะรับน้ำหนักน้อยการสึกของ ยางจะไม่เรียบเสมอกัน หรือสึกอย่างผิดปกติ - ไม่ควรปรับความดันลมยางในขณะยางร้อน เนื่องจากความร้อนทำให้อากาศขยายตัว - ยางเรเดียลเส้นลวดต้องเติมลมมากกว่ายางผ้าใบธรรมดา ความแตกต่างของแรงดันลมเพียง 1 ก.ก./ซ.ม.2 หรือ 14 ปอนด์/ตร.นิ้ว จะรับน้ำหนักต่างกันถึง 400 ก.ก. ถ้าแรงดันลมต่างกัน 2 ก.ก./ซ.ม.2 หรือ 28 ปอนด์/ตร.นิ้ว จะรับน้ำหนักต่างกันถึง 800 ก.ก. ในกรณีแรงดันลม ต่างกัน 2 ก.ก./ซ.ม.2 หรือ 28 ปอนด์/ตร.นิ้ว ยางเส้นที่เติมลมมาก จะมีอายุใช้งานเพียง 70% เส้นที่ลมยางอ่อนจะมีอายุการใช้งานเหลือเพียง 45% การเติมลมให้เท่ากันจึงมี ความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น จึงควรเติมลมให้พอดีตามเกณฑ์ที่โรงงานกำหนด หรือพิจารณาให้สอดคล้องกับสภาพการใช้งาน นอกจากต้องเติมลมให้ ถูกต้องแล้วจะต้องมีการตั้งศูนย์ล้อ ตั้งมุมของล้อหน้า ให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรฐานของรถยี่ห้อนั้นๆ อีกด้วย การตรวจเช็คลมยางควรตรวจเช็คในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ และเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องควรเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่บริษัท รถกำหนด นอกจากนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเก็บยางไว้นานๆ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ยางสัมผัสกับความร้อน แสงแดด ลม ฝน ความชื้นน้ำมัน และสารเคมีต่างๆ หากสามารถปฏิบัติได้ตามนี้ อายุการใช้งานของยางก็จะยาวนานขึ้น ตัวเลขและสัญลักษณ์บนแก้มยาง ตัวเลขและตัวอักษรต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนแก้มยางรถยนต์นั้น สามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติของยางได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นขนาดของ ยาง เช่น หน้ากว้าง ซีรี่ส์ ขนาดขอบกระทะล้อ และยังบ่งบอกถึงขีดจำกัด ความเร็วสูงสุด, ดัชนีในการรับน้ำหนักของยางเส้นนั้นๆ รวม ไปถึงคุณสมบัติอื่นๆ อีกด้วยซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวถือว่าเป็นข้อมูลทั่วๆไป ที่ท่านเจ้าของรถควรจะทราบเพื่อที่จะได้เลือกซื้อยางในครั้ง ต่อไปได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับรถยนต์ของท่าน 195/60R14 85H 195 คือ ความกว้างยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร 60 คือ ซีรีส์ยาง R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล 14 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว 85 คือ ดัชนีในการรับน้ำหนักของยางต่อเส้น H คือ ขีดจำกัดความเร็วสูงสุด สำหรับความหมายของตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยางรถกระบะ มีลักษณะดังนี้ 195R14C 8PR 195 คือ ความกว้างยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล 14 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว C คือ ยางที่ใช้เพื่อการขนส่ง (มาจากคำว่า commercial) 8PR คือ อัตราชั้นผ้าใบเทียบเท่า 8 ชั้น (ในส่วนของซีรีส์ ถ้าไม่ได้ระบุ คือ ซีรีส์ 80) ความหมายของตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยางรถขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีลักษณะดังนี้ 31x10.5R15 31 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางยาง มีหน่วยเป็นนิ้ว 10.5 คือ ความกว้างยาง มีหน่วยเป็นนิ้ว R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล 15 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว ที่มา : Bridgestone หัวข้อ: Re: การเติมลมยางที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: morphin1112 ที่ มีนาคม 26, 2012, 02:18:13 pm ขอบคุณคับ มีความรู้มาก
|