หัวข้อ: แชร์ด่วน!! การขออโหสิกรรมจากการทำแท้ง แชร์ได้บุญ ( แชร์ 1 เท่ากับ ธรรมทาน 1 ) เริ่มหัวข้อโดย: ittipan1989 ที่ มีนาคม 04, 2016, 02:24:36 am (https://4.bp.blogspot.com/-uz_wPQf1UfI/VrRI0b8ahNI/AAAAAAAADls/EuMr3_k2aKM/s1600/page.jpg)
ไม่ได้ขอกันง่ายๆ เด็กมันไม่ไปเกิด มันก็ไม่หยุดอาฆาต สร้างโบสถ์สร้างวัดให้มัน มันก็ไม่เอา จะไปตัดกรรมที่ไหนก็ไม่ได้ผล มีวิธีเดียวที่ทำได้คือวิธีนี้ จบหมด ตัดขาดจากกันนับบัดนี้ เด็กมันจะได้ไปเกิด(รอสิ้นอายุขัย) แล้วทุกอย่างจะเบาบาง คนที่เคยทำกรรมดังกล่าวมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ กรรมนั้นย่อมติดตัวเสมอ. ที่ช่วยคือช่วยเด็กให้จิตวิญญาณนั้นได้มีโอกาสได้อโหสิกรรมให้เรา คนที่ทำกรรมนี้ ชีวิตจะเป็นดังนี้
วิธีเป็นหนทางเดียวที่ตัดมันได้ กรรมอันสูงสุดไม่ได้ขออโหสิกันง่ายๆ. เป็น0ไปได้อย่าทำ อย่าฆ่าเขา ชีวิต 1 ชีวิต มีค่าเท่าชีวิตตัวคุณเอง การทำแท้งเป็นกรรมหนักฆ่ามนุษย์ เป็นการตัดสิทธิ์ ตัดโอกาส ของวิญญาณที่จะมาเกิดแต่กลับไม่ได้เกิด แล้วเค้าไม่มีความผิดใดๆ โดยเกิดจาการกระทำของพ่อและแม่ วิญญาณเด็กที่ทำแท้งจึงอาฆาต เนื่องจากยังไม่ได้จุติมาเป็นคน พวกนี้จะยังไม่เรียกผีแต่เรียกว่า พรายจะคอยกัดกินตามร่างกายของผู้ที่เป็นพ่อ เป็นแม่ทำให้ปวดหลังไหล่ท้องหรือแขนขาโดยไม่ทราพสาเหตุ เค้าจะรอจังหวะที่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ดวงขึ้นถึงขีดสุด แล้วกระชากลงมาทีเดียว เพื่อให้สาสมกับสิ่งที่คุณทำกับเขาตอนที่เค้ากำลังได้เกิด กลับไปกระชากชีวิตเค้าก่อนที่เค้าจะมีตัวมีตน เป็นกรรมที่ทำกับเขาตอนที่เค้ายังไม่มีตัวตน ที่สมบูรณ์ในพระไตรปิฏก แม้แต่ปฏิสนธิได้หนึ่งวันก็ถือว่าเป็นสัตว์มนุษย์ คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการขออโหสิกรรมทำแท้ง คือมักจะทำบุญให้สร้างพระให้ แต่ถามว่าให้ใคร ศพเขาอยู่ใหน ทิ้งใหนแล้ว ยด้ประกอบพิธีทางศาสนาให้เขาบ้างใหม๋ เขามีชื่อหรือยัง จะอุทิศให้ได้ยังไงท่าไม่รู้จักชื่อ ฉนั้น การทำตามธรรมเนียมประเพณีนิยมจึง เหมาะสมที่สุด คือการทำสังฆทานอุทิศ หรือบางที่เรียกว่าแจกข้าวหาญาติผู้ตาย และผู้ที่จะกระทำให้ได้ต้องเป็นพระเท่านั้น เรียกว่าปฏิฆาหก คือผู้อยู่ท่ามกลางระหว่างความเป็นความตาย จึงจะเหมาะสมที่สุด วิธีขออโหสิกรรม/ขอขมากรรม
หรือเราเตรียมอีกทำเป็นกระธง และใส่ลงไป เสมือนการอุทิศ เป็นสังฆแทน ให้เอาไปวางใต้ต้นไม้และเรียกเค้ามากิน มารับรู้ว่าเราอุทิศให้ ก่อน จะยกไปวางใต้ต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่งให้ไปหาพระนั้น ให้ยกยปกาพระองค์ที่เป็นหัวหน้หวือ อาวุโสสุด ในที่นั้น หยาดน้ำ กรือกรวดร้ำใส่ใน สำรับ ภาเวร ให้ถ้าเราไม่รู้พรรษาพระ หรือ พระอายุไม่ถึง พรรษา 5 ให้ใช้พระทั้งหมด 4 รูปขึ้นไป เพราะพระที่ทำควรมีพรรษามากกว่า 5 พรรษา เพราะมีนัยยะว่า พระทีมีพรรษา 5 พรรษา สามารถปกครองตัวเองได้ และเค้าจะรู้วินัย รู้สิขาบท คือสามารถตัดสินใจทำพิธี ต่างๆได้ โดยไม่ต้องปรึกษา กรรมวาจาจารย์ และ อนุสาวนาจารย์ หากมีพรรษาไม่ถึง 5 ควรใช้พระ 4 รูป เค้าจะสวดอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ ซึ่งเป็นธรรมหมวดที่พระพุทธเจ้า เลือกคัดสรรแล้วว่าเป็นธรรมที่ประประเสริฐที่สุด ควรคู่กับการโปรดพระมารดา เทวะบุตร บนสวรรค์ จะว่าด้วย บทที่ว่า กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมาฯลฯ และสุดท้ายให้จบท้ายด้วย เหตุปัจจะโย ซึ่งสำคัญ เนื่องจาก สิ่งทั้งหลายมีเหตุ มีปัจจัยมาปรุงแต่ง ให้เป็นไปตามปัจจัย จะทำให้จิตวิญญาณแรงอาฆาตของลูก จะอ่อนลง และพระจะชักชัก บังสุกุลตายก่อน จะขึ้นว่า ขั้นตอนการพิธีเราจัดเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ยป หาพระก็พร้อม เอาของตามข้อ 1 2 3 4 5 ใส่ภาชนะใหญ่พอควร หรือจะเป็น กาละมัง ให้มีดอกไม้ใบไม้อนู่ข้างบน เอาเชือก หรือสายสินธุ์ วางพาดตุุกตาและของทั้งหมด โดย โยงไปให้พระ ทุกรูป ชัก อนิจา โดยลำดับสวดดังนี้
พอจบก็ถวายสำรับอาการกับข้าวพร้อมทั้งเครื่องบริวารต่างๆ ซึ่งเป็นบทที่บังคับตามถูกต้องตามกฏของพุทธธรรมและวิญญาณจะยอมตาย เมื่อยอมตายแล้วก็จะเป็นไปตามวัฎจักร แล้ววิญญาณจะยอมไปแต่โดยดี ซึ่งเป็นการแก้เหตุให้ถูกจุด เมื่อถวายภัตตาหารแล้ว ก็จะให้พรดรวดน้ำ มี ยถาลัพพีไปจนจบและจะต่อด้วย “อะยัญจะ โข ทักขิณา ทินนา”และว่าเรื่อยๆถึง “เปตานะ ปูชา” ช่วงนี้ให้เรานึกถึงเขาถึงลูกที่เราไม่เคยนึกถึงเรียกชื่อตามที่เราตั่งให้ ซึ่งหมายถึงปูชาแด่ ชื่อลูกชื่อ น้อง1… น้อง2… และสวดต่อจนจบพิธี คืออุทิศส่วนเค้าไปภพหน้า เมื่อจบพิธีแล้วจะมีสำรับอีกชุดหนึ่งที่เราเตรียมไว้ เรายกขึ้นแล้วว่า “ อิมานิอิมัง โภชนะ ภาชะนัง อุทะกัง ถะเปคะวา น้องหนึ่ง น้องสอง โหมิ ทุติยัมปิ อิมานิอิมัง โภชนะ ภาชะนัง อุทะกังถะเปตะวา น้องหนึ่ง น้องสอง โหมิ ตะติยัมปิ อิมานิอิมัง โภชนะ ภาชะนัง อุทะกังถะเปตะวา น้องหนึ่ง น้องสอง โหมิ” และพระจะหยิบน้ำมากรวดใส่ในสำรับนั้น ว่า “อิทังเมญาตินังโหตุ สุขิตาโหตุ ญาตโย ” และสวดจบ เราก็ยกไปวางใต้ต้นไม้ให้เราทำธูปเทียนไปปักที่กับข้าว จุดและฝังที่ต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่ง เป็นการจุด เรียกจิตเค้ามา ให้รับรู้ เขาจะรับรู้หรือไม่รับรู้ก็ตาม เป็นการทำบุญอุทิศ แล้วเราจะพูดขอโทษขออภัยหรือจะบอกกล่าวสั่งเสียอะไรเราก็จะพูดอธิถานเอาตอนนี้ แล้วตุ๊กตา นั้นเอาไ่ปเผา เสร็จแล้วเราก็กรวดน้ำให้ เป็นการฌาปนกิจเป็นให้เขาตามสมมุติโลกนิยมเป็นเสร็จพิธี แล้วจะไปปล่อยปลา อีกต่อหนึ่งก็ ยิ่งดีเป็นเป็นการให้ชีวิต เพราะคนที่จะมาเกิดเป็นลูกจะต้องมีบุญวาสนาต่อกัน ในอดีตชาติ อย่างน้อยก็เป็นการกระทำที่ทำได้ให้เขาเป็นสุข ให้ใจเราเป็นสุข ตามแบบ ศาสนาพิธีนิยม “คนทุกคนมีการทำผิด คนทุกคนมีการทำพลาด แต่ในเมื่อทำผิดพลาดแล้ว ก็ควรแก้ให้ถูกจุด ปัญหาก็เบาบางลง” ที่มา bangkoklike เครดิต : http://www.metukyang.com/th/index.php?topic=186864.new#new Tags : หวย,เลขเด็ด,เลขดัง
|