ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: lnwneverdie2015 ที่ มีนาคม 11, 2016, 07:48:43 pm



หัวข้อ: 4 วิธีการตรวจสอบค่าต่างๆด้วย เครื่องมือวัด fluke ในงานไฟฟ้า
เริ่มหัวข้อโดย: lnwneverdie2015 ที่ มีนาคม 11, 2016, 07:48:43 pm
(http://smi-i.com/Uploads/images/365-1.jpg)
Credit : http://smi-i.com/index.php?ge=product_view&gen_lang=161012011603&ptid=44
เครื่องมือไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มือใหม่ หรือช่างอาชีพ จำเป็นต้องฝึกซ้อมรู้จักการใช้งานให้ช่ำชอง มากกว่าคอนเซ็ปต์การใช้งานเท่านั้น และมัลติมิเตอร์ เป็นอีกเครื่องมือไฟฟ้าอีกตัวที่จำเป็นอย่างมากกับช่างมือใหม่ เพราะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องมูลฐานไฟฟ้า แต่ก่อนอื่นเราต้องเลือกซื้อหา มัลติมิเตอร์ มาใช้งานก่อน ซึ่งมีอยู่จำนวนมากหลายตราในตลาด ทั้งที่ราคาถูก และราคาสูงแตกต่างกัน บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษ เช่น วัดอุณหภูมิเซลเซียสได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วมัลติมิเตอร์ ราคาถูกจะจะแสดงค่าคลาดเคลื่อนมากนัก เราขอแนะนำเครื่องมือวัดไฟยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาค่างวดที่สูงสักนิด แต่ทนทาน มีมาตรฐาน และตรวจจับวัดค่าได้เที่ยงตรง ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวใช้คุ้ม โดยเพื่อนๆสามารถสั่งออนไลน์ผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับการใช้งานแบบบ้านๆ แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีรูปแบบการวัดพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับมือใหม่มากครับ
ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ คืออะไร
ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เป็นเครื่องมือไฟฟ้า ที่ช่วยให้เราสามารถวัดค่าไฟฟ้าต่างๆ เช่น ความดันไฟ, กระแส, โอห์มและความต่อเนื่อง เครื่องมือวัด fluke 117 สามารถทำได้ครอบคลุมทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 บอกผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้น ดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะมีช่วงพิสัยต่างๆ ให้เลือก โดยการบิดลูกบิดไปที่ค่าย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้
V วัดค่าโวลต์ ทั้งแบบกระแสไฟตรง และAC
mV สำหรับตรวจสอบแรงดันไฟ แรงดันต่ำ แบบDC และAC
Ω ตรวจสอบค่า R
A ตรวจสอบแอมแปร์ แบบไฟฟ้ากระแสตรง และAC
และโหมดตรวจสอบความต่อเนื่องสำหรับ ไว้สำหรับเช็คสายไฟ
สำหรับวิธีการการวัดไฟย่านพื้นฐานต่างๆ เราได้รวบรวมแนวทางไว้ดังต่อจากนี้ไป
การวัดแรงดันไฟฟ้า
การวัดค่าโวลต์ หรือการวัดแรงดันไฟฟ้า ก่อนอื่นคุณต้องหาแบตเตอรี่ 9v ที่ใช้งานมาทำการตรวจสอบต่อจากนั้น
1.เสียบขั้วลบสีดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2.เสียบสายแดงเข้าช่อง V
3.ปรับหน้าปัดไปยังย่านโหมด V โวลต์ แรงดันกระแสตรงสูง หรือไฟฟ้ากระแสตรงต่ำ mV หน้าจอจะขึ้นโหมด DC
4.นำสายสีแดงสัมผัสที่ขั้วบวก แท่งสายสีดำแตะขั้วลบ ของถ่าน AA
5.ค่าของแรงดันไฟฟ้า ของแบตเตอรี่จะขึ้นตัวเลขที่หน้าจอบนมัลติมิเตอร์
6.ในกรณีวัดไฟบ้าน ให้บิดหน้าปัดไปที่ย่าน V แรงดันกระแสสลับ สูง Hz เท่านั้น ซึ่งที่หน้าจอดิจิตอลจะแสดงสัญลักษณ์ AC
7.เสียบสายทั้งสองสีที่ปลั๊กไฟฟ้าในบ้าน แต่ต้องระวังอย่าให้ทั้งแท่งสายขั้วบวกลบสัมผัสกัน หรือนิ้วสัมผัสที่ปลายเหล็ก ซึ่งไฟบ้านจะขึ้นค่าประมาณ 220V
(http://www.measuretronix.com/files/u7/Fluke1623-1625-1.jpg)
Credit : http://www.smi-i.com/index.php?ge=product_view&gen_lang=171012110506
การปริมาณไฟฟ้า
1.ต่อขั้วสายสีดำเข้ากับช่อง COM (common)
2.เสียบสายแดงที่ช่อง A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถวัดกระแสได้ถึงเพียงแค่ 10A
3.บิดลูกบิดไปยังย่าน กระแส กระแสไฟ DC
4.นำสายทั้งสองสีต่อ เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ค่าปริมาณไฟฟ้าที่ผ่านเครื่องมือวัดไฟจะแสดงตัวเลขที่จอ
5.หากคุณต้องการตรวจวัดกระแสไฟ AC ให้บิดลูกบิดไปที่ โหมดวัดกระแสสูง หรือสัญลักษณ์ A Hz ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ตัวเลขปริมาณกระแสไฟ ACจะแสดงที่จอมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรระมัดระวังเสมอว่าสามารถวัดกระแสมีลิมิตไม่เกิน 10A เท่านั้น ถ้าวัดกระแสที่โอเวอร์โหลด ฟิวส์ภายในดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะพัง ทำให้เครื่องมือวัดไฟเสียหายได้
การวัดค่าโอห์ม
การตรวจสอบตัวต้านทาน หรือ R คือ ตัวต้านทาน กระแสไฟ เพื่อลดกระแสให้พอดีกับเครื่องมือหรือวงจรต่างๆ
1.ต่อสายแดงดำ เหมือนการวัดค่าแรงดันไฟฟ้า สายสีแดงแทงเข้ากับเครื่องหมาย Ω โอห์ม เครื่องหมายกรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2. ปรับหน้าปัดไปยังสัญลักษณ์ Ω วัดค่าโอห์ม และหากเอาขั้วสายทั้งสองเส้นมาสัมผัสกันจะไม่มีความต้านทาน เครื่องมือวัดไฟจะขึ้นค่า 0 โอห์ม คือความต้านทานไม่มี
3.นำขั้วสายทั้งสองเส้น ไปแตะยังด้านปลายของสายไฟที่จะตรวจสอบ R
4.จากนั้นจอดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะขึ้นค่าโอห์มของสายไฟนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีความต้านทานแล้ว หน้าจอจะเท่ากับ 0
การตรวจวัดความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย
ตรวจสอบความต่อเนื่อง เป็นวัดความสามารถในการนำไฟฟ้าของอุปกรณ์ หรือเช็คอุปกรณ์นำไฟฟ้าว่าต่อกัน ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสียหรือไม่ ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.แทงสายสีดำขั้วลบ เข้าช่อง COM (common)
2.แทงสายสีแดงขั้วลบเข้า Ω ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
3.ปรับหน้าปัดไปที่ช่วงพิสัยความต่อเนื่อง เครื่องหมาย wifi
4.ทดลองโดยการนำแท่งปลายสายดำแดงมาสัมผัสกัน ซึ่งจะมีเสียงดัง ปี๊บ นั่นหมายความว่าสายเชื่อมต่อกัน
5.จากนั้นเอานำขั้วสายทั้งสองเส้น แตะที่ปลายวัสดุที่เราจะทดลองทั้งสองด้าน ถ้าหากมีเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่าสัญญาณปรกติ นั่นเอง แต่ถ้าไม่ได้ยินเสียง แสดงว่าสายอาจจะขาดใน
ตรวจสอบวัดไฟไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้เพื่อนๆต้องทำการปฏิบัติฝึกฝนให้รู้เรื่อง ให้ถ่องแท้ และต้องระมัดระวังเสมอเวลาจะวัดไฟฟ้ากระแส AC  ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง มีความอันตรายมากทีเดียว และหากเพื่อนๆมีเงินไม่จำกัด การเลือกซื้อเครื่องดิจิตอลมัลติมิเตอร์ยี่ห้อ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke[/b] ใกล้บ้านท่าน จะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายทีเดียว เพราะยี่ห้ออื่นแล้วจะมีช่วงย่านที่สับสนกว่านี้ แต่กับของ fluke มีการออกแบบระบบทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญเรื่องความทนทาน fluke ถือเป็นหมายเลขหนึ่งอย่างแท้จริง

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.meterdd.com

Tags : fluke
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ