หัวข้อ: แนวทางการใช้ เครื่องมือวัด fluke แบบทั่วไป สำหรับช่างไฟฟ้าสมัครเล่น เริ่มหัวข้อโดย: lnwneverdie2015 ที่ มิถุนายน 04, 2016, 10:51:49 am (http://www.measuretronix.com/files/fluke-precision/Fluke-5522A.jpg)
Credit : http://www.measuretronix.com/products/fluke-5522a-เครื่องสอบเทียบเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าหลากชนิด เครื่องมือไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ช่างไฟสมัครเล่น หรือคนทำงานทั่วไป จำเป็นต้องฝึกหัดวิธีการใช้ให้คล่องแคล่ว มากกว่าการรู้แต่จากหนังสือเท่านั้น และเครื่องมือวัดไฟ เป็นอีกเครื่องมือไฟฟ้าอีกตัวที่จำเป็นอย่างมากกับช่างมือใหม่ เพราะเป็นอุปกรณ์ชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องทฤษฏีไฟฟ้า แต่ก่อนอื่นเพื่อนๆต้องเลือกซื้อหา เครื่องมือวัดไฟ มาใช้งานก่อน ซึ่งมีอยู่จำนวนมากหลายยี่ห้อในตลาด ทั้งที่ราคาที่ไม่แพง และแพง บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษ เช่น ความจุไฟฟ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วมัลติมิเตอร์ ของถูกจะอ่านค่าได้ไม่เที่ยงตรงนัก เราขอแนะนำมัลติมิเตอร์ยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาสูง แต่ทนทาน มีมาตรฐาน และอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวใช้คุ้ม โดยเพื่อนๆสามารถซื้อหาผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับงานไฟฟ้าเบื้องต้น แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีฟังก์ชั่นพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับมือสมัครเล่นมากครับ ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ คืออะไร มัลติมิเตอร์ เป็นเครื่องมือช่างไฟฟ้า ที่ช่วยให้ท่านสามารถวัดค่าไฟฟ้าต่างๆ เช่น โวลต์, ปริมาณไฟ, ตัวต้านทานและวัดค่าไดโอด เครื่องมือวัด fluke[/b] 117 สามารถทำได้ครอบคลุมทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 บอกผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเหมาะมากสำหรับช่างไฟทั่วไป ดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะมีโหมดย่านต่างๆ ให้เลือก โดยการบิดลูกบิดไปที่ค่าย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้ V วัดแรงดันไฟฟ้า ทั้งแบบกระแสตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ mV วัดแรงดันไฟฟ้า มิลลิแอมป์ แบบDC และกระแสสลับ Ω วัดค่าความต้านทาน A ตรวจสอบแอมแปร์ แบบกระแสไฟตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ และย่านวัดความต่อเนื่องสำหรับ ตรวจสอบสายไฟขาด สำหรับขั้นตอนการวัดไฟย่านทั่วไปต่างๆ เราได้รวบรวมแนวทางไว้ดังต่อจากนี้ไป การวัดแรงดัน การตรวจสอบโวลต์ หรือการวัดแรงดันไฟฟ้า ก่อนอื่นคุณต้องหาถ่าน AA ที่ที่ใช้แล้วมาทำการทดลองจากนั้น 1.เสียบขั้วลบสีดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke 2.ต่อสายแดงเข้าช่อง V 3.ปรับหน้าปัดไปยังย่านโหมด V โวลต์ แรงดันกระแสไฟตรงสูง หรือกระแสตรงต่ำ mV จอแสดงผลจะขึ้นสัญลักษณ์ DC 4.นำสายสีแดงสัมผัสที่ขั้วบวก แท่งสายสีดำแตะขั้วลบ ของถ่าน AA 5.ค่าของแรงดันไฟฟ้า ของถ่าน AAจะแสดงที่หน้าจอบนเครื่องมือวัดไฟ 6.สำหรับกรณีวัดไฟบ้าน ให้บิดหน้าปัดไปที่ย่าน V โวลต์ AC สูง Hz เท่านั้น ซึ่งหน้าจอจะเห็นเครื่องหมาย AC 7.เสียบสายดำแดงที่ปลั๊กไฟฟ้าในบ้าน แต่ควรระวังอย่าให้ทั้งแท่งสายขั้วบวกลบสัมผัสกัน หรือนิ้วไปถูกบริเวณปลายเหล็ก ซึ่งไฟบ้านจะแสดงค่าแรงดันประมาณ 220V Credit : http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=82&topic_no=409919&topic_id=416526 1.เสียบสายดำเข้ากับช่อง COM (common) 2.เสียบสายแดงที่รูสัญลักษณ์ A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถวัดกระแสได้สูงสุด 10A 3.ปรับหน้าปัดไปยังย่านโหมด A กระแสไฟ DC 4.ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดกับเครื่องใช้แบบอนุกรม ค่าปริมาณไฟฟ้าที่ผ่านตัวเครื่องจะแสดงขึ้นที่จอ 5.กรณีต้องการวัดไฟฟ้ากระแสสลับ ให้บิดลูกบิดไปที่ ย่านตรวจสอบกระแสสูง หรือสัญลักษณ์ A Hz ต่อสายแดงดำ เข้าโหลดกับเครื่องใช้แบบอนุกรม ตัวเลขปริมาณกระแสไฟ ACจะแสดงที่หน้าจอมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรพึงระวังเสมอว่าเครื่องวัดสามารถตรวจสอบปริมาณไฟมีลิมิตไม่เกิน 10A เท่านั้น ถ้านำไปตรวจสอบกระแสไฟที่มากกว่านั้น ฟิวส์ภายในมัลติมิเตอร์จะพัง ทำให้เครื่องมือวัดไฟเจ๊งได้ การตรวจสอบความต้านทาน การวัดความต้านทาน หรือ R คือ ตัวต้านทาน กระแสไฟ เพื่อปรับลดปริมาณไฟให้สัมพันธ์กันกับอุปกรณ์หรือวงจรต่างๆ 1.เสียบสายขั้วบวกลบ เหมือนการตรวจสอบโวลต์ เส้นสีแดงเสียบเข้ากับสัญลักษณ์ Ω Omega เครื่องหมายกรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke 2. ปรับหน้าปัดไปยังสัญลักษณ์ Ω ความต้านทาน และหากเอาขั้วสายทั้งสองเส้นมาแตะกันจะไม่มีค่า R เครื่องมือวัดไฟจะแสดงผลที่ 0 โอห์ม คือไม่มีความต้านทานในอุปกรณ์นั้นเลย 3.นำขั้วสายทั้งสองเส้น ไปสัมผัสยังด้านปลายของวัสดุที่จะวัดค่าความต้านทาน 4.จากนั้นจอมาตรวัดจะแสดงตัวเลขค่าโอห์มของวัสดุนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีRแล้ว ตรงหน้าจอมิเตอร์จะเท่ากับ 0 การตรวจวัดความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย การวัดความต่อเนื่อง เป็นการตรวจสอบความสามารถในการนำไฟฟ้าของเครื่องมือ หรือเช็คอุปกรณ์นำไฟฟ้าว่าต่อกัน ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสียหรือไม่ ซึ่งมีแนวทางดังนี้ 1.ต่อสายสีดำ เข้าช่อง COM (common) 2.เสียบสายแดงเข้า Ω ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke 3.บิดลูกบิดไปที่ช่วงพิสัยความต่อเนื่อง รูปสัญญาณโทรศัพท์ 4.ทดสอบโดยการนำปลายสายดำแดงมาแตะกัน ซึ่งเครื่องจะส่งเสียงเตือน ปี๊บ นั่นหมายความว่าสายเชื่อมต่อกัน 5.จากนั้นเอานำขั้วสายทั้งสองเส้น แตะที่ปลายของสายที่เราจะทดลองทั้งสองด้าน ถ้าหากมีเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่าสัญญาณปรกติ นั่นเอง แต่ถ้าไม่มีเสียง แสดงว่าสายอาจจะพัง ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้ท่านต้องทำการทดลองฝึกหัดให้รู้เรื่อง ให้ถ่องแท้ และต้องพึงระวังเสมอเวลาจะตรวจสอบไฟฟ้ากระแส AC ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง อันตรายอย่างมาก และหากท่านมีงบประมาณไม่จำกัด การเลือกซื้อเครื่องดิจิตอลมัลติมิเตอร์แบรนด์ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke ในเว็บออนไลน์ จะช่วยให้ท่านทำงานได้ง่ายทีเดียว เพราะยี่ห้ออื่นแล้วจะมีช่วงย่านที่ใช้งานยากกว่านี้ แต่กับของ fluke มีทำระบบทำให้มือใหม่ตรวจวัดไฟได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญความเนี๊ยบของงาน fluke ถือเป็นเบอร์หนึ่งทีเดียว ขอบคุณบทความจาก : http://www.meterdd.com Tags : fluke,เครื่องมือวัด fluke,ตัวแทนจำหน่าย fluke
|