ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Bigbombboomz ที่ มิถุนายน 05, 2016, 01:08:02 pm



หัวข้อ: ที่มาของเครื่องรางมงคลและการจัดเก็บการนำไปใส่ในกล่องใส่พระเป็นการจัดเก็บที่ถูกวิธี
เริ่มหัวข้อโดย: Bigbombboomz ที่ มิถุนายน 05, 2016, 01:08:02 pm
ขอขึ้นต้นเกริ่นนำผู้เขียน ข้อให้เครดิตกับ เขียนโดย Siammongkol thai amulet ที่ 23:39
ผู้เรียบเรียงของประวัติประวัติความเป็นมาวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังซึ่งก่อนที่เราจะมารู้จักกับการจัดเก็บ[url=http://www.vawwai.com/category/89/กล่องใส่พระ" target="_blank]กล่องใส่พระ[/url]ในกล่องใส่พระนั้นสิ่งที่ต้องมารู้กจักกับประวัติความเป็นมาวัตถุมงคล

"วัตถุมงคล" และ  "เครื่องรางของขลัง" คงเป็นคำที่คุ้นหูสำหรับและเป็นที่รู้จักสำหรับหลายคน คนที่ชื่นชอบ และมีวัตถุมงคล รวมถึงผู้มีกล่องใส่พระเครื่องรางของขลังอยู่แล้วก็คงไม่สงสัยมาก
เพราะรู้จักความหมายดี ในแง่ของความเข้าใจภายในจิตใจ และความเชื่อความศรัทธา แต่ประวัติความเป็นมาและความหมายที่แท้จริงของ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
เป็นอย่างไร มีที่มาที่ไปและมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรอะไรจะได้นำมาเล่าสู่กันฟัง

วัตถุมงคล เป็นสิ่งที่เกิดจากความเชื่อความศรัทธา และค่านิยมในวัตถุ สิ่งของ ที่กลุ่มคน หรือคนบางคนเชื่อว่า วัตถุหรือสิ่งของนั้นให้ผลอย่างใดอย่างหนึ่งในทางที่เป็นประโยชน์หรือเป็นคุณต่อผู้ที่ครอบครอง
ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นเชื่อว่าทำให้เกิดผลทางด้านการคุ้มครองป้องกัน ขับไล่ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย หรือดลบันดาลให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ที่มีไว้ครอบครอง
 ซึ่งวัตถุมงคลนั้นเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเหนือธรรมชาติ ซึ่งหรือมีผลทางด้านจิตใจต่อผู้ที่ครอบครอง การบูชาวัตถุมงคล มีมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล
มีความเชื่อมาในสมัยแรกที่กำเนิดสังคมมนุษย์ด้วยซ้ำ เพราะมีหลักฐานการขุดค้นพบซากวัตถุสิ่งของต่างๆ ในโบราณสถานต่างๆ ทุกๆอารยธรรม
และทุกชนเผ่า ทั่วโลก เป็นสิ่งที่คู่กับอารยธรรมความเชื่อ ตามลัทธิ หรือศาสนา

"วัตถุมงคล หรือ เครื่องรางของขลัง" นั้นเป็นที่มากับอารยธรรม ความเชื่อ ตามลัทธิ หรือศาสนา ดังนั้น
 เครื่องรางจึงถูกสร้างขึ้นโดยอิทธิพลของลัทธิความเชื่อ กว่าจะมาบรรจุอยู่ในกล่องใส่พระทุกวันนี้ ศาสนานั้นๆ และมีรูปแบบเป็นลักษณะต่างๆ แตกต่างกันไปตามความเชื่อนั้นๆ ซึ่งอาจจะสร้างขึ้นให้มีรูป
หรือเป็นความหมายแทนสิ่งๆนั้นๆเช่นในยุคสมัยที่มีการบูชา พระอาทิตย์ หรือเช่นพระจันทร์ ก็อาจจะมีการแกะสลักหิน ให้เป็นรูปของพระอาทิตย์ หรือพระจันทร์ เป็นต้น
หรือ ในลัทธิที่มีการบูชาเทพเจ้าองค์ใด ก็จะมีการแกะเป็นรูปเทพเจ้าองค์นั้น หรือกำหนดลักษณะของวัตถุสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ แทนการบูชาสิ่งนั้นเป็นต้น

วัตถุและรูปแบบที่นำมาสร้างเป็นวัตถุมงคล เครื่องราง นั้นมีหลากหลายอย่าง กล่อนที่จะเป็นวัตถุอันล้ำค้าอยู่ในกล่องใส่พระ ในยุคโบราณจะเป็นการสร้างจากวัตถุจากธรรมชาติ ที่มีความคงทน เช่นหิน ดิน ไม้ หรือ
วัสดุอื่นๆตามที่มีในภูมิประเทศนั้น ต่อมาในยุคที่โลกมีความรู้เรื่องการหล่อหลอมนำโลหะมาใช้ จึงได้สร้างขึ้นโดยใช้โลหะ โดยการหล่อเป็นรูปตามที่ต้องการ หรือสร้างเป็นลักษณะของเหรียญ เป็นต้น

เครื่องรางของขลัง ของแต่ชาติก็จะจำแนกลักษณะไปตาม ความเชื่อ ค่านิยม ตามลัทธิ หรือศาสนาของที่นั้นๆ

เรื่องราวเครื่องรางของขลังของไทย ที่บรรจุกล่องพระ
ตำนานการสร้างเครื่องรางของขลังของประเทศไทยนั้นแตกต่างไปจากที่อื่น เพราะมีประวัติความเป็นมา
และมีประวัติการสร้างที่ชัดเจน มีที่มาที่ไปมีหลักฐานบันทึกไว้เป็นตำราเป็นขั้นตอน ซึ่งถือได้ว่า เครื่องรางของขลังของไทย
เป็นมรดกทางด้านวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่อนุชนรุ่นหลังควรได้ศึกษาไว้ เพราะเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณบรรพบุรุษ ที่มีความเชี่ยวชาญในการนำศาสตร์ต่างๆ
มาสร้างเป็นวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังไว้ให้คนรุ่นหลังมีไว้บูชาให้เกิดผลต่างๆ หรือไว้เป็นที่ระลึก และเก็บไว้ในกล่องเครื่องดับกล่องใส่พระ

การสร้างวัตถุมงคล บรรจุกล่องใส่พระ ของไทยนั้น มีความเชื่อคติที่มาจากการรวบรวม เอาศาสตร์ต่างๆ หลายแขนงเข้าด้วยกัน ซึ่งเรียกศาสตร์นั้นว่า "วิชา"
 คำว่าวิชาในที่นี่หมายถึงวิชา ทางด้านไสยศาสตร์ คำว่าไสยศาสตร์นี้หมายถึงศาสตร์ที่ว่าด้วยการนำพลังอำนาจที่เหนือธรรมชาติ
ที่ไม่อาจจะพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์มาใช้ ซึ่งการจำนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ได้ก็ต้องมีความรู้เสียก่อนว่า พลังงานต่างๆที่มีอยู่ในโลกนี้ อยู่ในสิ่งใด ที่ไหนและนำมาใช้อย่างไรเป็นต้น
 และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือ พลังอำนาจที่เกิดจากจิต หรือที่เรียกว่าพลังจิต นั้นเป็นของควบคู่กันเสมอ ในการใช้ไสยศาสตร์ เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ฤทธิ์" หรือ "อิทธิฤทธิ์"
พลังอำนาจจิตนั้นเกิดขึ้นได้โดยการฝึกฝน ซึ่งในสมัยยุคที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนานั้น พวกที่ฝึกพลังจิตนั้นก็มีอยู่ อย่างเช่นในศาสนาพราห์มก็จะพวกพราห์ม หรือ พวกฤาษีที่บำเพ็ญตบะแก่กล้าอยู่ในป่า เป็นต้น ซึ่งการฝึกจิตเพื่อให้เกิดพลังนั้น ต้องบำเพ็ญฝึกให้จิตรวมเป็นสมาธิหนึ่งเดียว จึงจะทำให้จิตนั้นมีพลังอำนาจจึงจะใช้ในทางฤทธิ์ได้  เมื่อมีพระพุทธศาสนาอุบัติขึ้นภายในโลกนี้ เรื่องการฝึกให้จิตมีพลังนี้ เรียกว่า "สมถะกรรมฐาน"  ซึ่งเป็นกรรมฐานที่ว่าด้วยการฝึกจิตให้มีสมาธิ ให้ถึงในระดับฌาน ซึ่งกรรมฐานที่เป็นจัดเป็นประเภทที่ทำให้ฤทธิ์ได้แก่ หมวด กสิน หรือ กสิน 10 อันได้แก่

1. ปฐวีกสิน คือเพ่งดิน
2. อาโปกสิน คือ การเพ่งน้ำ
3. เตโชกสิน คือการ การเพ่งไฟ
4. วาโยกสิน เป็นการ เพ่งลม
5. นีลกสิน คือการ การเพ่งสีเขียว
6. ปิตกสิน เป็นการ การเพ่งสีเหลือง
7. โลหิตกสิน คือ การเพ่งสีแดง
8. โอทาตกสิน คือการ การเพ่งสีขาว
9. อาโลกสิน เป็นการ การเพ่งแสงสว่าง
10. อากาสกสิน เป็นการ การเพ่งอากาศ

การเพ่งกสินคือการกำหนดนิมิตขึ้น(ให้เป็นภาพทางในหลับตาเห็น) เพื่อให้ภาพนั้นติดอยู่ในมโนภาพ และจิตจับอยู่ในอารมย์ของนิมิตนั้นจนเข้าถึงฌาน
 4 เมื่อจิตเข้าถึงฌาน 4 แล้วจิตจะมีพลังมากสามารถใช้ในทางฤทธิ์ได้

กสิณ ๑๐ ประการนี้ เป็นปัจจัยให้สำแดงฤทธิ์ต่าง ๆ ตามนัยที่กล่าวมาแล้วในฉฬภิญโญ เมื่อบำเพ็ญปฏิบัติในกสิณกองใดกองหนึ่งสำเร็จถึงจตตุถฌานแล้ว
ก็ควรฝึกตามอำนาจที่กสิณกองนั้นมีอยู่ให้ชำนาญถ้าท่านปฏิบัติถึงฌาน ๔ แล้ว แต่มิได้ฝึกอธิษฐานต่างๆ ตามแบบ ท่านว่าผู้นั้นยังไม่จัดว่าเป็นผู้เข้าฌานถึงกสิณ อำนาจฤทธิ์ในกสิณต่างๆ มีดังนี้

ปฐวีกสิณ มีฤทธิ์ดังนี้ อย่างเช่น นิรมิตคนๆ เดียวให้เป็นคนมากได้ ให้คนมากเป็นคนๆ เดียวได้ทำน้ำและอากาศให้แข็งได้
อาโปกสิณ สามารถนิรมิตของแข็งให้อ่อนได้ เข่นอธิษฐานสถานที่เป็นดินหรือหรือหินที่กันดารน้ำให้เกิดบ่อน้ำ อธิษฐานหินดินเหล็กให้อ่อน อธิษฐานในสถานที่ฝนแล้วให้เกิดฝนอย่างนี้เป็นต้น
เตโชกสิณ อธิษฐานให้เกิดเป็นเพลิงเผาผลาญหรือให้เกิดแสงสว่างได้ ทำแสงสว่างให้เกิดแก่จักษุญาณสามารถเห็นภาพต่าง ๆ ในที่ไกลได้คล้ายตาทิพย์ ทำให้เกิดความร้อนในที่ทุกสถานได้
วาโยกสิณ อธิษฐานจิตให้ตัวลอยตามลม หรืออธิษฐานให้ตัวเบา เหาะไปในอากาศก็ได้สถานที่ใดไม่มีลมอธิษฐานให้มีลมได้
นีลกสิณ สามารถทำให้เกิดสีเขียว หรือทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้มได้
ปีตกสิณ สามารถนิรมิตสีเหลืองหรือสีทองให้เกิดได้
โลหิตกสิณ สามารถนิรมิตสีแดงให้เกิดได้ตามความประสงค์
โอทากสิณ สามารถนิรมิตสีขาวให้ปรากฏ และทำให้เกิดแสงสว่างได้ เป็นกรรมฐานที่อำนวยประโยชน์ในทิพยจักขุญาณ อย่างเช่นเดียวกับเตโชกสิณ
อาโลกสิณ นิรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็นกรรมฐานสร้างทิพยจักขุญาณโดยตรง
อากาสกสิณ สามารถอธิษฐานจิตให้เห็นของที่ปกปิดไว้ได้ เหมือนของนั้นวางอยู่ในที่แจ้งสถานที่ใดเป็นอับด้วยอากาศ สามารถอธิษฐานให้เกิดความโปร่งมีอากาศสมบูรณ์เพียงพอแก่ความต้องการได้

วิธีอธิษฐานฤทธิ์
วิธีอธิษฐานจิตที่จะให้เกิดผลตามฤทธิ์ที่ต้องการท่านให้ทำดังต่อไปนี้ ท่านให้เข้าฌาน ๔ ก่อน แล้วออกจากฌาน ๔
แล้วอธิษฐานจิตในสิ่งที่ตนต้องการจะให้เป็นอย่างนั้น แล้วกลับเขาฌาน ๔ อีก ออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานจิตทับลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ต้องการจะปรากฏสมความปรารถนา

การสร้างวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
 ในสมัยโบราณจะเป็นการสร้างโดย พระเกจิอาจารย์ ฤาษี หรือผู้ที่ทรงฌานสมาบัติ มีพลังจิตแก่กล้า มีฤทธิ์ และเป็นผู้ที่ทรงภูมิปัญญา มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากทางด้านสรรพวิชาต่างๆ
 ทำการรวบรวมเอาสรรพวิชา ต่างๆมาสรรค์สร้างเป็น เครื่องรางของขลัง ทำการปลุกเสกด้วยอำนาจจิตให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง มีฤทธิ์บันดาลให้เกิดผลต่างๆ อาทิอธิเช่น

    คงกระพัน คือเป็นหนังเหนียวฟันแทง ยิง ไม่เข้า
    ชาตรีคือเป็น กระทบเบาอธิเช่นโดนต่อย โดนทุบแต่ไม่เจ็บ
    มหาอุตม์คือเช่นห้ามอาวุธ ห้ามปืนยิงไม่ออก
    แคล้วคลาดคือเช่น ปลอดภัยจากอันตาย ไม่ถูกตัวไม่โดนตัว
    มหาอำนาจ คือเป็น ผู้คนเกรงกลัว เกรงใจ ใครเห็นก็เคารพ
    เมตตา คือเป็น ใครเห็นรักเอ็นดู
    มหานิยม คือเป็น คนนิยมชมชอบ
    โชคลาภ คือเช่นให้ผลทางด้านลาภผล การค้าขาย หรือเงินทอง เป็นต้น

เครื่องรางของขลังของไทยนั้นมีหลากหลายประเภทได้แก่
    พระเครื่อง คือ รูปเคารพของพระพุทธเจ้า, พระสงฆ์ รูปของเทพเจ้า หรือรูปตัวแทนของบุคคลที่ต้องการสื่อถึง
 สร้างให้มีขนาดเล็กสามารถนำพกติดตัวได้ วิธีการสร้างจะทำโดยการทำแบบพิมพ์และนำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ที่รวบรวมมากดสร้างเป็นองค์พระ ซึ่งอาจจะสร้างจากวัตถุหรือที่เรียกว่ามวลสารที่เป็นผงดิน ผวว่าน หรือ ผงต่างๆ
 ที่รวมกันก็ได้  หรือการสร้างเป็นรูปแบบของเหรียญก็ได้ พระเครื่องเครื่องรางของขลังอย่างหนึ่ง
    ตะกรุด คือ การที่นำแผ่นโลหะมาเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ แล้วม้วนเข้าเป็นแท่งทรงกลม
    มีดหมอ คือ การนำโลหะธาตุต่างๆ มาหลอมรวมกันตีเป็นมีด แล้วลงอักขระคาถาต่างๆ
    ลูกอม คือ การนำมวลสารศักดิ์สิทธิ์มาปั้นเป็นก้อนกลม ในสมัยก่อนใช้อมไว้ในปากจริง เมื่อมีเหตุต้องใช้ตามตำรา มาสมัยปัจจุบันนิยมนำติดตัว
    เครื่องราง ที่มีลักษณะเป็นรูปเฉพาะ อย่างเช่น หนุมาน, เสือ, ว้ว, แพะ, นก ...ฯลฯ มักสร้างจากวัสดุ ที่มีคุณวิเศษในตัว หรือ
วัตถุอาถรรพณ์ แกะหรือทำรูปต่างๆ หรือทำเป็นโลหะหล่อขึ้นเป็นรูป
    เบี้ยแก้ คือ วัตถุมงคลที่สร้างจากเปลือกหอย อุดด้วยปรอท และชันโรง
    กุมารทอง สร้างเป็นหุ่นรูปเด็กในอิริยาบทต่างๆ มีวิธีการสร้าง และตำราบันทึกไว้
    ปลัดขิก คือเครื่องรางที่สร้างเป็นรูปอวัยวะเพศชาย มีตำนานและวิธีการสร้างเฉพาะ
พระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง สร้างในสมัยอยุธยา
พระปิดตา สร้างโดยหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
กุมารทองสมบัติ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
มีดหมอ
เบี้ยแก้
ปลัดขิก
ตะกรุด

การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง คือการที่ทำให้วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังนั้นเกิดความศักดิ์สิทธิ์
 เกิดฤทธิ์อำนาจ ให้เป็นไปตามที่ต้องการ การปลุกเสกนั้นมักทำโดยพระเกจิอาจารย์ หรือ ผู้ที่มีพลังจิตมากพอ
ที่จะทำให้เกิดผลดังว่านั้นได้ การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ถ้าเป็นพระเครื่อง เรียกว่าการทำพิธีพุทธาภิเษก
ซึ่งมักจะทำโดยพระเถราจารย์ หรือพระเกจิอาจารย์


หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองฤทธิ์

เครื่องรางของขลังของไทยและในประเทศใกล้เคียง มีประวัติความเป็นมา มาตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ มีบันทึกไว้อย่างละเอียดเป็นตำรา
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการขั้นตอนการสร้าง วัสดุที่จะนำมาใช้ในการสร้าง วิธีการสร้าง ตลอดจนวิธีการปลุกเสก ซึ่งมีบันทึกไว้โดยละเอียดซึ่งตำรานี้มักจะเป็นสมบัติอยู่กับผู้ที่ทรงคุณ
 ต่างหวงแหนรักษาไว้เป็นความลับจนกว่าจะมีผู้มีบุญวาสนาบารมีพอที่จะมอบให้และถ่ายทอดต่อไป

ดังนั้น เครื่องรางของขลังที่ถูกเกล็บใน[url=http://www.vawwai.com/category/89/กล่องใส่พระ" target="_blank]กล่องพระ [/url]หากสร้างโดยผู้ที่มีความรู้ มีภูมิปัญญา อย่างแท้จริง หาใช่สิ่งที่งมงาย
ไร้สาระอย่างที่คนไม่รู้แล้วพูดทั้งหลายเจ้าใจไม่ แต่หากเป็นสิ่งที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้นโบราณกาล
 ที่อนุชนรุ่นหลังควรอนุรักษ์และดำรงรักษาไว้ต่างหาก
ทีนี้กระจ่างแล้วใช่ไหมเพราะเหตุใดเราจึงต้องให้ความสำคัญกับการจัดเก็บหรือหากล่องใส่พระ


(http://upic.me/i/pv/0925490660.png)
 
 
เพราะอะไร}เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการจัดเก็บหรือหากล่องใส่พระ
เพราะกล่องใส่พระนั้นสามารถเก็บ สิ่งที่เป็นเครื่องรางของขลังให้อยู่กับลูกกับหลานได้นานแสนนาน


เครดิต : http://www.vawwai.com/category/89

Tags : กล่องใส่พระ,กล่องพระ,กล่องใส่พระราคาถูก
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ