หัวข้อ: พิมพ์แคตตาล็อก เริ่มหัวข้อโดย: thawadol2006 ที่ สิงหาคม 10, 2016, 05:33:59 am (http://img.ihere.org/uploads/e94145ad8a.jpg) งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจการค้าเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการบรรยายให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชี้แจงได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้ ดีขึ้น แม้ปัจจุบันนี้จะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการอธิบายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสบายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังสามารถจดบันทึกลงรายละเอียด เพิ่มเติมได้อีกด้วย งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหารายละเอียดปลีกย่อยเหมือนกับ หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มประเภทอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ จุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสืบหาและมีการระบุหน้าลง ในสารบัญด้วย เนื่องด้วยงานชี้แจงสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและทำจะต้องคำนึงถึง คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนเพิ่มเติมส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นหมวดที่แสดงความสามารถและสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหาสาระ โดยอาจจะ ใช้กระดาษชนิดอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ มีการเติมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อป้องกันความเยินจากภายนอก เป็นต้น 2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นเหล่านี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่ ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถสังเกตผ่านเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดคำถามกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้ ความชำนิชำนาญพอสมควร ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล ระหว่างขนาดเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องนำเสนอมาก ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง สัดส่วนเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้ และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถสังเกตเห็นได้ถนัดตาโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล ระหว่างขนาดเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การจัดแจงทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางชนิดหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการยกตัวอย่างเนื้อหาเป็นจำนวนมาก การกำหนดสัดส่วนตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้สะดวก อาจจะต้องมีเคล็ดการจัดรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องตรวจร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้ บ่อยที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสะดวกในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดคุณค่าสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนออกจะสูง ซึ่งหากให้ตระเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้ ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะระบุเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงชื่อมีความต้องการข่าวสาร เป็นต้น โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการมอบให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดแจงทำเองต้องคาดหวังที่จะ ได้รับการตอบกลับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางประเภทอาจจะใช้การเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่ เล่มโดยจัดเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านขายของเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้ เครดิต : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/ Tags : เเคตตาล็อกด่วน
|