หัวข้อ: ปั๊มสูบลมไฟฟ้าแรงดันสูงแบบพกพา12v ขนาด 140PSI/965kPA เริ่มหัวข้อโดย: Chaiworn998 ที่ พฤศจิกายน 28, 2016, 01:20:35 pm (https://4.bp.blogspot.com/-3VKouUaZvw8/WDuuC3V3fCI/AAAAAAAAAO0/wG2OuiqnvLcMdY7zbNWnnyVvK8tlnwpJwCEw/s1600/1_2_18.jpg)
เครื่องสูบลมไฟฟ้า แบบพกพาใช้ไฟจากแบตเตอร์รี่รถยนต์ผ่านช่องจุดบุหรี่ตัวเครื่องผลิตจากโลหะและยางคุณภาพดี มาพร้อมกับสายลมยาว 1เมตรและหัวเติมลม มีเกจวัดแรงดันลมที่ใช้ง่าย อ่านค่าง่าย และมีความแม่นยำ เติมลมได้เร็ว ใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้นสำหรับล้อรถยนต์ขนาดเล็ก-กลางเหมาะอย่างยิ่งที่จะพกพาติดไว้ในรถยนต์หรือในบ้านยามกรณีฉุกเฉินควรตรวจเช็คลมยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและลดการสึกหรอของยางรถยนต์ ลดการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้แรงดันลมในล้อยางรถยนต์ที่พอดีจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น - เครื่องสูบลมไฟฟ้า แรงดันลมสูงสุดที่เติมได้: 140 psi (ล้อรถยนต์ปกติจะมีแรงดันลมอยู่ที่ประมาณ30-40 psi) - ปั๊มลมไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า: DC 12V - ที่สูบลมไฟฟ้ากระแสไฟฟ้าสูงสุด: 10A - ปั๊มสูบลมไฟฟ้า มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อลมยางเต็ม - สูบลมไฟฟ้า มีเกจวัดแรงลม, สายลมและหัวเติมลม - ความยาวสายไฟ: 3เมตร - ความยาวสายเติมลม: 1เมตร - ใช้เวลาเติมลมยางที่แบนประมาณ 3นาที เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง - วัสดุ: โลหะ, ยาง - ไม่แนะนำให้ใช้กับล้อยางรถกระบะหรือรถใหญ่อื่นๆ - ควรสตาร์ทรถก่อนใช้งานปั๊มลม - ควรพักการใช้งานปั๊มลมเมื่อใช้งานต่อเนื่องทุก 15นาที - ขนาด: 165x145x160มิลลิเมตร -น้ำหนัก: 1.5กิโลกรัม ลมยางนับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อการทำหน้าที่ของยางรถยนต์เพราะลม จะทำให้ยางสามารถคงรูปร่างและยึดติดกับกระทะล้อ และรับน้ำหนักบรรทุกได้ นอกจากนี้ลมยังช่วยให้หน้ายางสามารถคงรูปร่างและยึดติดกับกระทะล้อ และรับแรงสั่นสะเทือนจากการกระแทกของหน้ายางกับผิวถน นที่ไม่เรียบได้ ลมที่ใช้เติมเข้าไปในยางรถยนต์โดยทั่วไปจะใช้อากาศอั ดที่มาจากปั๊มลม ปัจจุบันได้นำแก๊สไนโตรเจนเข้ามาแทนการลมอัดแต่ยังไม่แพร่หลายนัก เพราะผู้ใช้รถยนต์ต้องจ่ายเงินค่าแก๊สซึ่งยังมีราคาแ พงมากเมื่อเทียบกับลม อัดที่เติมฟรี(ค่าแก๊สไนโตรเจนประมาณ 50 บาทต่อล้อ) ผลของความดันลมต่อการใช้งานยางรถยนต์ ความดันของลมภายในยางจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำหน้าที่ของยางตามปกติแล้วบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์จะกำหนดค่าความดันลมที่ เหมาะสมกับยางรุ่นนั้นๆมาให้ความดันลมที่เหมาะสมจะทำ ให้ยางมีรูปทรงที่เหมาะสมจะทำให้ยางทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ลมยาง หากความดันของลมภายในยางมีน้อยเกินไปจะทำให้ยางแบนหน้ายางสัมผัสกับถนนไม่เต็มหน้า ดัง รูป (ซ้าย)ซึ่งจะมีผลให้มีการสึกหรอมากบริเวณไหล่ยาง และทำให้การบังคับเลี้ยวรถทำได้ยากขึ้น (พวงมาลัยหนัก) ชั้นผ้าใบหรือเนื้อยางเกิดการหัก ชำรุดเสียหายเร็วกว่าปกติ ประสิทธิภาพในการรีดน้ำและเกาะถนนลดลง และมีการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ในทางตรงกันข้าม หากครวามดันยางภายในมากเกินไป จะทำให้แก้มยางสูงและหน้วยางโค้งขึ้น ดอกยางสัมผัสกับผิวของถนนเฉพาะตรงกลางหน้ายาง ซึ่งจะส่งผลให้ยางมีการสึกหรอมากตรงกลางหน้ายางประสิ ทธิภาพในการยึดเกาะถนน ลดลง(พื้นที่สัมผัสลดลง) รถเกิดการลื่นไถลได้ง่าย มีการสั่นสะเทือนมากขึ้น และอาจเกิดการระเบิดของยางได้ ความดันลมยางที่เหมาะสม ความดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับยางรถยนต์นั่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 28-36 ปอนด์/ตร.นิ้ว ส่วนรถกระบะจะอยู่ที่ประมาณ 30-45ปอนด์/ตร.นิ้ว (ไม่มีการบรรทุก) และประมาณ 35-65ปอนด์/ตร.นิ้ว (เมื่อมีการบรรทุก)แต่ละยี่ห้อ มีน้ำหนักต่างกัน หรือใช้ยางที่มีขนาดต่างกัน กรณีที่ขับรถด้วยความเร็วสูงหรือขับรถทางไกลให้เพิ่มความดันลมขึ้น 3-5 ปอนด์/ตร.นิ้ว จากความดันลมปกติทั้งนี้เพื่อเป็นลดการบิดตัวของโครงสร้างยาง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ยางเกิดความร้อน [/size]
|