ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: xcepter2016 ที่ ธันวาคม 15, 2016, 09:25:35 pm



หัวข้อ: หยุด #พรบคอม หยุดกฎหมายล้วงข้อมูลส่วนบุคคล
เริ่มหัวข้อโดย: xcepter2016 ที่ ธันวาคม 15, 2016, 09:25:35 pm
(https://assets.change.org/photos/4/wc/pk/MCWCpKbjKsBcWiC-800x450-noPad.jpg?1467277114)[
ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... หรือร่างแก้ไขพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เป็นหนึ่งใน "ชุดกฎหมายความมั่นคงดิจิทัล" ที่องค์กรภาคประชาชน 6 องค์กรและประชาชนมากกว่า 22,000 คนเคยเข้าชื่อเรียกร้องให้ชะลอการพิจารณาเมื่อต้นปี 2558 และรัฐบาลรับปากจะแก้ไขให้ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพผ่านไปหนึ่งปี พร้อมกับข่าวที่กระทรวงไอซีทีเสนอแนวคิด "ซิงเกิลเกตเวย์" (Single Gateway) เพื่อให้ควบคุมข้อมูลได้สะดวกขึ้น ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ดังกล่าวถูกปรับปรุงและส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 21 เมษายน 2559 โดยคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบในวันเดียวกัน พร้อมทั้งส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาประกาศใช้เป็นกฎหมายวันที่ 28 เมษายน 2559 ที่ประชุมสนช.ได้พิจารณาร่างแก้ไขพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ วาระที่ 1 โดยสมาชิกสนช.จำนวนหนึ่งอภิปรายว่า เนื้อหาของกฎหมายมีข้อห้ามเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลที่ "ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน" ถือเป็นความหมายที่กว้างและมีความเปราะบางมาก อาจถูกตีความไปในลักษณะละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ แต่สนช.ก็ยังมีมติเอกฉันท์รับหลักการด้วยคะแนน 160 ต่อ 0 และส่งต่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างดังกล่าว โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (เดิมคือกระทรวงไอซีที) วางเป้าหมายประกาศใช้ร่างดังกล่าวภายในปี 2559 นี้

ปัจจุบันคณะกรรมาธิการฯได้พิจารณาแล้วเสร็จ ส่งให้สนช. โดยสนช.มีมติเห็นชอบให้ผ่านวาระที่ 2 ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา และสนช.จะประชุมวาระที่ 3 ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย ในวันที่ 15 และ 16 ธ.ค. 2559 นี้ อย่างไรก็ตามข้อเป็นห่วงต่างๆ ก็ยังไม่ได้รับการปรับปรุงแต่อย่างใด อีกทั้งมีแนวโน้มแย่ลงกว่าฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน (2550) อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร อีกทั้งจะรบกวนการทำงานของระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่มีความเป็นส่วนตัวและไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น

1. ปิดปากการตรวจสอบ -- ความผิดฐานเผยแพร่ "ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ" ในมาตรา 14 (1) ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ความผิดดังกล่าวที่ผ่านมาถูกตีความใช้เพื่อจำกัดการตรวจสอบผู้มีอำนาจทั้งในภาครัฐและเอกชน ทั้งที่เจตนารมณ์แท้จริงของกฎหมายมุ่งที่จะแก้ปัญหาการปลอมแปลงตัวตนเพื่อหลอกลวงออนไลน์เท่านั้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มฐานความผิด "ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน" ขึ้นใหม่ และ มาตรา 14 (2) ที่กำหนดความผิดฐานโพสต์ข้อมูลเท็จที่กระทบต่อ "การบริการสาธารณะ" ก็มีความคลุมเคลือ ไม่มีนิยามชัดเจนในกฎหมาย อาจทำให้การบังคับใช้มีปัญหา เกิดการตีความโดยเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจในเวลานั้น

2. เปิดช่องไม่ต้องใช้คำสั่งศาล -- ในข้อ 5 (2) ของร่างประกาศกระทรวงดิจิทัลตามอำนาจมาตรา 15 ของร่างใหม่ ระบุให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ท่าและโซเชียลมีเดียจะต้องระงับหรือลบข้อมูลภายใน 3 วัน หลังได้รับแจ้ง ไม่เช่นนั้นจะต้องรับโทษเท่ากับผู้โพสต์ ซึ่งขั้นตอนการแจ้งตามมาตรา 15 ดังกล่าว ไม่มีการตรวจสอบโดยศาล และผู้แจ้งจะเป็นใครก็ได้ ทำให้ในทางปฏิบัติ การปิดเว็บด้วยมาตรา 15 จะทำได้สะดวกกว่าการใช้มาตรา 20 (ซึ่งต้องใช้คำสั่งศาล)

3. ข้อมูลส่วนบุคคลตกอยู่ในอันตราย -- มาตรา 20 ของร่างใหม่ ให้อำนาจรัฐมนตรีออกประกาศเพิ่มเติมเรื่องวิธีการปิดกั้นเว็บไซต์ได้ ซึ่งปรากฏเอกสารของกระทรวงไอซีทีว่ามีการเตรียมออกประกาศให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส-ทั้งนี้เพื่อให้สามารถปิดกั้นเว็บไซต์ที่เข้ารหัส HTTPS ได้ โดยในข้อ 8 ของร่างประกาศกระทรวงดิจิทัลตามอำนาจมาตรา 20 ได้เขียนให้อำนาจผู้ให้บริการ (เช่นผู้ให้บริการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์) "ดําเนินการด้วยมาตรการทางเทคนิคใดๆ (Technical Measures) ที่ได้มาตรฐานเพื่อให้บังเกิดผลตามคําสั่งศาล" ภายใน 15 วัน การกระทำดังกล่าวจะรบกวนระบบรักษาความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ต และทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดตกอยู่ในความไม่ปลอดภัย แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดใดเลยก็ตาม

4. ขยายอำนาจปิดเว็บ-ตั้งศูนย์บล็อคเว็บเบ็ดเสร็จ -- อำนาจของมาตรา 20 ในร่างใหม่ ยังขยายไปถึงการปิดเว็บไซต์ที่อาจผิดกฎหมายอาญาอื่น รวมถึงเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่า "ละเมิดลิขสิทธิ์" ซึ่งปรากฏว่าที่ผ่านมาในต่างประเทศมีการใช้ข้ออ้างดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้บริโภควิพากษ์วิจารณ์สินค้าหรือบริการของบริษัทเอกชน นอกจากนี้ในข้อ 4 ของร่างประกาศกระทรวงดิจิทัลตามอำนาจมาตรา 20 ยังจะให้มีการจัดตั้งศูนย์กลาง "เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทําการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเอง โดยอาจเชื่อมโยงระบบดังกล่าวเข้ากับระบบการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการในแต่ละรายโดยความยินยอมของผู้ให้บริการก็ได้" ระบบดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการระงับและลบข้อมูลของฝั่งผู้ให้บริการได้ทันที ทำให้การตรวจสอบโดยศาล (ก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจ) อาจถูกข้ามไปก่อนได้ในทางปฏิบัติ5. "กบว.ออนไลน์" ปิดเว็บ "ผิดศีลธรรม" แม้ไม่ผิดกฎหมาย -- มาตรา 20/1 ซึ่งเพิ่มขึ้นมาใหม่ เรื่องการปิดกั้นเว็บไซต์ จะส่งผลให้เว็บไซต์ถูก "บล็อค" ได้ แม้ว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์จะไม่ผิดกฎหมายใดๆ เลยก็ตาม หากคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์เห็นว่าเนื้อหาเหล่านั้น "ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี" ทั้งนี้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ หรือ "กบว.ออนไลน์" นี้สามารถมีได้หลายคณะ แต่ละคณะจะมีกรรมการ 5 คนมาจากการแต่งตั้งของรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล และร่างกฎหมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติที่ชัดเจนของกรรมการ (มาตรา 20/1 ตามร่างฉบับ 18 พ.ย. 2559 คือมาตรา 20 (4) ในร่างฉบับ 26 พ.ย. 2559)นอกจากนี้ยังมีข้อเป็นห่วงถึงการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายในทางปฏิบัติในมาตราอื่นๆ อีก เช่น มาตรา 16/2 (ภาระในการรู้ว่ามีข้อมูลที่มีความผิดอยู่ในระบบของตัวเองหรือไม่) มาตรา 18 (การยึดค้นระบบและได้ไปซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 18 (2) และ 18 (3) โดยไม่ต้องใช้คำสั่งศาล) และมาตรา 26 (เพิ่มระยะเวลาเก็บข้อมูลการจราจร โดยไม่ได้ระบุถึงสิทธิในการอุทธรณ์ของผู้ได้รับผลกระทบ)ด้วยเหตุนี้ พวกเราประชาชนดังที่ลงชื่อ จึงเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้ทบทวนและแก้ไขร่างกฎหมายในมาตราที่จะกระทบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยพิจาณาแก้ไขร่างมาตรา 14 ให้มีความรัดกุมชัดเจน แก้ไขร่างมาตรา 15, 18 ประกอบ 19, 20, และ 26 ให้คำนึงถึงสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวและสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน และให้การออกมาตรการเพิ่มเติมใดๆ ที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพโดยทั่วไปของประชาชนจะต้องผ่านกระบวนการการพิจารณาของรัฐสภาเท่านั้น และพิจารณาตัดมาตรา 16/2 และ 20/1 ออกจากร่าง

ร่วมลงชื่อคัดค้าน  https://www.change.org

(https://www.img.in.th/images/3abdbadb7724058d498735c9209c445c.jpg)


[/color]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ