หัวข้อ: ปัญญา เรณู 2 เริ่มหัวข้อโดย: Navaphon11991 ที่ มกราคม 22, 2017, 02:46:18 pm ปัญญา เรณู 2 เข้าฉายเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2555 และไม่ทำให้ใครผิดหวัง เพราะกลับมาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอีกครั้งกับตัวละครอย่าง “บักปัญญา” หนุ่มน้อยคนซื่อ กับ “อีเรณู” สาวน้อยสุดก๋ากั่น โดยยังคงสอดแทรกกลิ่นอาย ชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมอีสานในชนบท ไม่ว่าจะเป็นตลาดค้าควาย การเลี้ยงควาย การมุงหลังคา หนังกลางแปลง ร้องเพลง-ซ้อมเต้นกลางทุ่งนา แข่งจับปลาไหล การทำศพ การลงแขกเกี่ยวข้าว ทั้งยังมีเพลงประกอบไพเราะทำนองสนุกสนานหลายเพลง เช่น เครียดเด๊ะ เด้งดึ๋ง กะละมัง What is Call คักแทแด และปัญญาเรณู
ปัญญาเรณู 2 เป็นเรื่องราวต่อจากภาคแรก หลังจากเหตุการณ์ทั้งดีและร้ายได้ผ่านพ้นไป แม้ว่าวง “โปงลางหนหวย” ที่ ปัญญา (โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี) และ เรณู (สุธิดา หงษา) เป็นสมาชิกอยู่จะไม่ได้เข้าแข่งขันในระดับจังหวัดก็ตาม แต่ทั้งคู่กับเพื่อนๆ ก็กลับมาใช้ชีวิตในหมู่บ้านโคกสะอาดอย่างสนุกสนานเช่นเคย เรณูได้เพื่อนคู่หูคนใหม่เป็นรุ่นพี่ชื่อ อภัสรา (ตุ๊กกี้ สามช่า) ที่เจอกันในตลาดค้าควาย เรณูไปเจออภัสราร้องไห้คร่ำครวญไม่ยอมให้ป้าของเธอขาย “อีสีนวล” ควายที่เป็นเหมือนเพื่อนโตด้วยกันมา เรณูเห็นเข้าก็สงสารจึงซื้อควายโดยได้อภัสราแถมมาด้วย ขณะที่ปัญญาก็พาเพื่อนๆ ไปช่วยกันทำคอกควายให้เรณู เพื่อนๆ จึงแซวว่าปัญญากับเรณูเป็นแฟนกัน แต่ปัญญาปฏิเสธว่าเห็นเรณูเป็นเพื่อนเท่านั้น ในวันนั้นจะมีการฉายหนังกลางแปลงโดยผู้ขายยาถ่ายพยาธิยี่ห้อหนึ่ง เด็กๆ ตื่นเต้นกันมาก เรณูไปชวนปัญญาถึงบ้านแต่ไม่เจอจึงฝากพ่อแม่ของปัญญาให้บอกเขาด้วย ขณะที่ปัญญาก็ชวนเพื่อนไปดูเช่นกัน เมื่อไปถึงปัญญากับเพื่อนสนิท บักจอบ (บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว) ได้ซื้อยาถ่ายพยาธิมาเพราะคำเชื้อชวนว่าจะรับซื้อพยาธิด้วย ต่อมาปัญญาเห็นเรณูก็รีบชวนเพื่อนหลบ เรณูกับอภัสราตามหาไม่เจอ เรณูจึงประกาศออกไมค์ ปัญญาต้องจำใจไปนั่งดูหนังข้างๆ เรณู วันต่อมา บักจอบกับปัญญานำพยาธิไปขาย แต่ก็ไม่เจอผู้ขายยาถ่ายพยาธิ เจอแต่ พี่กิ๋ง (หม่ำ จ๊กม๊ก) ที่มาขายพยาธิเช่นกัน ทั้งสามพูดคุยกันก็รู้สึกถูกคอ จากนั้นปัญญากับบักจอบก็แวะเวียนไปหาพี่กิ๋งบ่อยๆ จนกลายเป็นเพื่อนซี้ต่างวัยกัน ต่อมาพายุโซนร้อนพัดเข้าหมู่บ้านโคกสะอาดจนบ้านเรือนชาวบ้านพังราบเสียหาย ชาวบ้านต่างไปรวมตัวกันที่วัดโดยไม่ได้คาดหมายเพื่อช่วยกันซ่อมแซมวัด แล้วจึงค่อยเวียนไปช่วยกันซ่อมแซมบ้านแต่ละคน เรณูอยากจะใกล้ชิดกับปัญญาให้มากขึ้น จึงพยายามตามติดปัญญาแจ ไม่ว่าปัญญาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เรณูกับอภัสราเพื่อนรุ่นพี่คู่หูจะต้องเข้าไปสร้างความปั่นป่วนกวนใจปัญญาทุกครั้งไป เช่น ชวนไปเลี้ยงควาย และก็พลอยทำให้อภัสราต้องเจอกับพี่กิ๋ง หนุ่มปากร้ายใจดีที่ปัญญากับบักจอบสนิทสนมด้วย ด้วยความไม่กินเส้นกันทำให้ทั้งคู่ต้องปะทะคารมต่อปากต่อคำกันทุกครั้งที่เจอ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอดเวลา อยู่มาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ให้เรณูต้องว้าวุ่นหัวใจเมื่อกลุ่มเพื่อนๆ ไปกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้าน ปัญญาเห็น มิว (ธฤศวรรณ กาหาวงษ์) กับ กี๋ (พงษ์สิทธิ์ นาเวียง) เพื่อนจากกรุงเทพฯ ที่เคยช่วยปัญญากับเรณูไว้ทางโทรทัศน์ในรายการประกวดวงดนตรี มิวกับเพื่อนๆ เข้ารอบชิงชนะเลิศ เรณูเห็นปัญญาเชียร์มิวออกหน้าออกตาก็แสดงอาการหึงหวงอย่างมากจนปัญญาอึดอัดออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวกลางคัน ปัญญาโทรหามิว เธออยากได้คนมาร่วมวงเพื่อประกวดรอบสุดท้ายจึงชักชวนกี๋ไปหาปัญญากับเรณู ปัญญายังคงอึดอัดเรื่องเรณูจึงบอกกับจอบว่า จะบอกเรณูว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอนอกจากเพื่อน บักจอบห้ามไว้ แต่ปัญญาก็ตั้งใจจะไปบอกให้ได้ ทว่า เมื่อปัญญาไปหาเรณู เรณูกลับคิดเองเออเองว่าปัญญาคงจะมาขอโทษที่ทำหงุดหงิดใส่และคงจะบอกรักเธอด้วย เรณูห้ามไว้และพูดพร่ำเพ้อไปคนเดียวจนปัญญาไม่ได้พูดอะไรและต้องหนีไปเพราะความรำคาญ วันหนึ่งพี่กิ๋งสอนปัญญากับบักจอบเผาถ่านและกินข้าวเย็นกันจนเด็กทั้งคู่ตื่นมามืดค่ำ พี่กิ๋งอาสาไปส่ง ระหว่างทางเจอคนเรียกให้ช่วยเพราะรถกระบะดับ ปัญญาเห็นหน้าชายคนหนึ่งก็จำได้ว่าเป็นโจรปล้นควายที่เคยปล้นบ้าน และยิงปัญญาจนได้รับบาดเจ็บ พี่กิ๋งส่งสัญญาณให้เด็กทั้งสองหนี ทั้งสองหนีเข้าป่า พี่กิ๋งตามมาแล้วแอบซุ่มช่วยจนจับโจรได้ทั้งหมดและจับส่งตำรวจ เมื่อเรื่องราวร้ายๆ ผ่านไปก็มีการแข่งขันจับปลาไหล ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่นั้น ปัญญาก็เห็นร่างครูใหญ่นอนคว่ำหน้าจมน้ำ เมื่อนำครูใหญ่ขึ้นมาก็พบว่าครูใหญ่ถูกงูกัดเสียชีวิตแล้ว ระหว่างงานศพมิวกับกี๋ก็มาจากกรุงเทพฯ เพื่อชักชวนปัญญากับเรณูและเพื่อนๆ ไปประกวดด้วยกัน ทุกคนตกลง จึงพากันไปซื้อของในเมือง บักจอบซื้อลอตเตอรี่เลขอายุครูใหญ่ เรณูเห็นจึงแอบจดเลขมาเพื่อแกล้งบักจอบที่เป็นเหมือนไม้กันหมาระหว่างเธอกับปัญญา ระหว่างนั้นเด็กๆ ก็ทำงานหาเงินด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้มีเงินติดตัวไปกรุงเทพฯ เช่น ปัญญาไปชกมวย เรณูกับอภัสราไปทำงานร้านอาหารตามสั่ง บักจอบไปร้องเพลงในตลาด จนวันที่ลอตเตอรี่ออก เรณูก็หลอกจดเลขของบักจอบมาให้แล้วบอกว่าเป็นรางวัลที่หนึ่ง บักจอบหลงเชื่อก็ดีใจมากจนทิ้งงานทิ้งการ แต่เมื่อรู้ว่าถูกหลอกก็เจ็บใจจนล้มป่วย ซ้ำยังอับอายไปทั้งหมู่บ้านเพราะถูกแซว หลวงพ่อจึงเทศน์ว่าควรตั้งใจทำมาหากินมากกว่าพึ่งหวย จนกระทั่งวันเดินทาง ทุกคนไปพักและซ้อมร้องเต้นที่บ้านของมิว โดยมีอภัสราเป็นครูฝึกซ้อม จนถึงวันประกวด ปัญญาไม่ค่อยสบายจึงนอนอยู่ด้านหลังรถ ระหว่างทางรถแวะพักจอดที่ปั๊มน้ำมัน เรณูไม่อยากปลุกปัญญาเพราะเห็นว่านอนอยู่ ปัญญาตื่นขึ้นมาไม่เห็นใครก็ลงจากรถ และเห็นเด็กชายสองคนกำลังยกของท่าทางหนักจึงเข้าไปช่วยถือของจนออกมาจากปั๊มน้ำมัน แต่กลับกลายเป็นว่าเด็กทั้งสองเป็นขโมย ปัญญาจึงถูกตำรวจจับ ขณะที่เด็กทั้งสองหนีไปได้ เพื่อนๆ ของปัญญาเพิ่งรู้ตัวตอนที่ถึงสถานที่ประกวดว่าปัญญาหายไป เรณูเสียใจมากแต่ก็มีสปิริตขึ้นแสดงอย่างสุดฝีมือ มิวให้คนขับรถไปตามหาปัญญา และให้บักจอบฝึกร้องเพลงแทนปัญญาที่ต้องขึ้นโชว์เพลงสุดท้าย ขณะที่ปัญญาร้องไห้ที่สถานีตำรวจจนตำรวจเห็นใจพามาประกวดทันเวลาพอดี แต่วงของเด็กๆ ก็ไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ตำรวจจะพาปัญญากลับไป เพื่อนๆ ไม่ยอม โดยเฉพาะเรณูที่ร้องไห้คร่ำครวญปกป้องปัญญา แต่เหตุการณ์ก็จบลงด้วยดีเมื่อมีตำรวจมาแจ้งว่าจับขโมยเด็กตัวจริงได้แล้ว เรณูบอกปัญญาว่าไม่ต้องคิดเรื่องรักใคร่อีกแล้วเพราะยังเป็นเด็ก แล้วจึงแอบยักคิ้วหลิ่วตาให้อภัสรารู้ว่าเป็นแผน แล้วเด็กๆ กับอภัสราก็กลับไปใช้ชีวิตในชนบทเช่นเดิม และช่วยเหลือเกื้อกูลกันลงแขกเกี่ยวข้าวอย่างสนุกสนาน เมื่อภาพยนตร์จบลงมีการเสวนา โดยมี คุณชาญชนะ หอมทรัพย์ หรือ พี่แป๊บ คอลัมนิสต์นิตยสาร Bioscope ซึ่งมาเป็นตัวแทนหอภาพยนตร์ให้เกียรติเป็นวิทยากรควบคู่กับดำเนินการเสวนา โดยพี่แป๊บกล่าวว่าภาพยนตร์เรื่อง ปัญญาเรณู ภาคแรกก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว ทำรายได้ไปประมาณ 17-18 ล้านบาท ส่วนภาคนี้ทำรายได้ไป 19 ล้านบาทซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี และเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่มีการสร้างเร็วมาก เข้าฉายปีต่อปี ต้องสร้างเร็วเพราะนักแสดงเด็กอยู่ในวัยที่โตเร็ว และจากความสำเร็จทั้งสองภาคของปัญญาเรณูจึงทำให้ผู้กำกับ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์วางแผนกำกับภาค 3 ต่อทันทีใน “ปัญญาเรณู 3 รูปู รูปี” โดยเรื่องราวในภาคนี้จะเกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย และจะถ่ายทำที่ประเทศอินเดียเกือบตลอดทั้งเรื่อง ถึงตรงนี้มีผู้ฟังเสวนาร่วมพูดคุยว่าจะไม่มีนักแสดงนำโชติทิวัตถ์ ผลรัศมีหรือน้องทิวซึ่งแสดงเป็นปัญญา เนื่องจากมีปัญหาที่แม่ของน้องทิวเรียกค่าตัวสูงมากเกินไป บิณฑ์ บันลือฤทธิ์จึงไม่ทำภาพยนตร์ปัญญาเรณูภาคต่อแม้ว่านักแสดงนำเด็กคนอื่นๆ จะอยู่ครบ แต่จะทำเป็นเรื่องใหม่คือ “รูปู รูปี” แทน นอกจากนี้ เสียงตอบรับจากผู้ชมในห้องก็ออกมาดี มีทั้งอารมณ์สนุกสนานและซาบซึ้ง พี่แป๊บกล่าวต่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีตลอดเรื่อง และภาคนี้มีข้อดีอยู่ที่การโตขึ้นทั้งการเติบโตทางความคิดของเด็ก หรือฉากการประกวดที่ไปใช้สถานที่ที่ศูนย์วัฒนธรรม ถึงตรงนี้มีผู้ชมกล่าวว่าน่าจะให้วงของปัญญาเรณูชนะ พี่แป๊บกล่าวว่าผู้กำกับคงอยากให้แพ้การแข่งขันแต่ชนะใจคนดู และด้านตัวละครก็ให้ความสำคัญไปที่เรณูเพราะโดดเด่นขึ้นมาก พี่แป๊บกล่าวต่อว่า เป็นภาพยนตร์เด็กที่ประสบความสำเร็จในยุคหลังต่อมาจากเรื่องแฟนฉัน อาจกล่าวได้ว่า ภาพยนตร์ปัญญาเรณูได้อวสานลงแล้วอย่างไม่มีภาคต่อ แต่เชื่อว่าภาพความใสซื่อมีน้ำใจของปัญญา ความแก่นแก้วเจ้าเล่ห์ของเรณู และผองเพื่อนชาวโคกสะอาดทั้งหลายคงจะอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คนตลอดไป Chestina Inkgirl แนะนำบทความดีๆโดย www.diva-group.org/ เพิ่มเติม http://diva-group.org/menu/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C/ http://diva-group.org/menu/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C/ http://diva-group.org/menu/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%97-line/ http://diva-group.org/menu/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B/ http://diva-group.org/menu/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81/
|