หัวข้อ: พิมพ์แคตตาล็อก เริ่มหัวข้อโดย: xcepter2016 ที่ มีนาคม 08, 2017, 09:52:16 pm พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขาย
งานทำการค้าเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำการทำงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่นำเสนอได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้ ดีขึ้น แม้ยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความง่ายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้อีกครั้ง สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังอาจจะจดบันทึกลงรายละเอียด เพิ่มเติมได้อีกด้วย งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปพรรณเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องประกอบเหมือนกับ หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มประเภทอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ วัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเค้าความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจหาและมีการระบุหน้าลง ในสารบัญด้วย เนื่องด้วยงานนำเสนอสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นหมวดที่แสดงความสามารถและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหา โดยอาจจะ ใช้กระดาษจำพวกอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ มีการตกแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV ในจุดที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อดูแลรักษาความยับเยินจากภายนอก เป็นต้น 2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นจำพวกนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่ ให้หมึกหรือสีเปรอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถดูผ่านเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดคำถามกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้ ความแม่นพอสมควร ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล ระหว่างขนาดเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องอธิบายมาก ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเซ็งและไม่อยากอ่าน เป็นต้น ประการที่สองความสมดุลระหว่าง สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้ และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการลงท้ายคือความสมดุล ระหว่างขนาดเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ ส่วนมากการเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางกลุ่มหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการอธิบายเนื้อหาเป็นจำนวนมาก การกำหนดสัดส่วนตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถสังเกตเห็นและอ่านได้ไม่ยาก อาจจะต้องมีเทคนิคการเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องสังเกตร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้ เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสะดวกในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ ส่วนนี้จะกล่าวถึงทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดคุณประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนโดยมากโด่ง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้ ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงทะเบียนมีความต้องการข่าวคราว เป็นต้น โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการแจกกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้เตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ ได้รับการขานรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางชนิดอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่ เล่มโดยจัดแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านขายของเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาไต่ถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้ ที่มา : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/ Tags : พิมพ์แคตตาล็อก
|