หัวข้อ: ความไม่เหมือนของการสอน seo และก็การสอน sem มีความแตกต่างกันอย่างไรในกระบวนการทำธ เริ่มหัวข้อโดย: anonchobpost ที่ เมษายน 02, 2017, 02:01:44 am ภายหลังที่มีผมได้อธิบายคำศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวกับ SocialMedia Marketing ไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนให้ความสนใจถามคำถามเกี่ยวกับวงการนี้เข้ามาพอสมควรขอรับ ซึ่งคงจะเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากกระแสของ e-commerce ที่กำลังคึกคักมากในปีนี้ ทั้งจากการบุกจากบริษัทสัญชาติไทยและก็กรุ๊ปบริษัทต่างประเทศ ทำให้คนกลับมาตื่นตัวประเด็นการประชาสัมพันธ์เว็บไซท์รวมทั้งหนทางวิธีขายทางไฟฟ้ากันอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ฉบับนี้ผมก็เลยอยากะขออนุญาติพูดถึงการตลาดออนไลน์ต่ออีกสักครั้ง โดยฉวยโอกาสชี้แจงลักษณะการตลาดใหญ่ๆที่ผมพบว่าคนชอบงวยงงกันบ่อยๆเวลาผมมีโอกาสได้สอนหรือเสนองานให้กับลูกค้านะครับ นั่นก็คือคำว่า “SEO” รวมทั้ง “SEM” สำหรับท่านที่เคยสนใจประเด็นการตลาดออนไลน์นั้น อาจจะเคยรับรู้คำว่า “SEO” อยู่บ้าง โดย “SEO” นั้นเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” นั่นเองซึ่งถ้าจะแปลตรงตัวแล้ว เพื่อบอกความหมายถูกนั้น จริงๆจำต้องจัดคำพูดใหม่เป็น “Optimization for Search Engines” ซึ่งจะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การปรับทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับ Search Engine” คำว่า “Search Engine” นี้เป็นเว็บไซท์ที่ใช้ในลัษณะของการหาเว็บไซท์อื่นๆหรือที่ที่ได้รับความนิยมสุดในขณะนี้นั่นก็คือGoogle นั่นเอง โดยมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมด้อยกว่าลงมาเป็น “Bing” ของ Microsoft หรือ “Baidu” ของจีน“Naver” ของประเทศเกาหลี “Yandex” ของรัสเซีย ในโลกที่มีเว็บไซท์มากมายก่ายกอง กรรมวิธีที่ Search Engine พวกนี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลว่ามีเว็บไซท์อะไรบ้างและก็แต่ละเว็บไซท์มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถแสดงผลการค้นหาให้กับผู้ใชได้นั้น เป็นการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า “Crawler” กระทำการ “ไต่” หาเว็บไซท์ต่างๆที่มีอยู่ทั้งโลกอัตโนมัติ เพื่อทำการอ่านเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเว็บไซท์ว่ามีเนื้อหาอะไร และแต่ละเว็บไซท์นั้นควรได้รับจุดสำคัญเท่าไร ผ่านระบบการประเมิณผลพิเศษของแต่ละบริษัท ดังนี้ ด้วยเหตุว่าในตอนนี้นั้น กรรมวิธีหาข้อมูลหรือเว็บไซท์ที่น่าสนใจที่ที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือการ “Search” หรือ “ค้นหา” ผ่าน “Search Engine”พวกนี้ ด้วยเหตุนั้น “SEO” นั้นจึงคือการปรับรายละเอียดรวมทั้งองค์ประกอบเว็บไซท์ให้ “Search Engine” สามารถอ่านเนื้อหาพวกเราได้ง่าย แล้วก็ทำให้เว็บไซท์พวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนทำการ “Search” เนื้อหาที่พวกเรามีความรู้สึกว่าตรงกับเนื้อหาเว็บไซท์พวกเรานั่นเอง แน่ๆว่าเว็บไซท์ที่ติดอันดับสูงๆใน Search Engine นั้นจะได้รับการเข้าชมจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ท (“traffic”) ในไม่น้อยเลยทีเดียวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรก็แล้วแต่ทำให้คนที่เป็นเจ้าของเว็บแต่ละที่นั้นอยากที่จะทำ SEO เว็บไซท์ตนเองให้ติดอันดับสูงๆจนกำเนิดเป็นวงการผู้ประกอบอาชีพ SEO รับจ้างทำSEO ให้เว็บไซท์ต่างๆมหาศาล เพื่อให้คนสามารถศึกษาและทำการค้นพบเว็บไซท์ตัวเองได้เมื่อเขาทำการ “Search”โดยใช้คำกล่าว (“keywords”) ที่เกี่ยวพัน ยกตัวอย่าดังเช่น ถ้าเกิดเราเป็นร้านค้าขายเฟอร์นิเจอร์ พวกเราก็คงอยากให้เว็บไซท์ของพวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนค้นหาด้วยคำว่า “เครื่องเรือน”หรือ “ร้านค้าขายเฟอร์นิเจอร์” ฯลฯ ทั้งนี้แนวทางการทำ SEO สำคัญๆมีสองแบบ แบบอันดับที่หนึ่งคือการมีองค์ประกอบเว็บไซท์ที่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบรายละเอียดเว็บไซท์ และการเขียนโปรแกรมที่ดี ทำให้ crawler ของ Search Engine สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ให้รอบคอบซึ่งก็เปรียบเสมือนการทำหนังสือหรือแมกกาซีนที่อ่านได้เข้าใจง่าย เป็นการคิดตั้งแต่ตอนทำรายละเอียด แล้วเมื่อเผยแพร่บนเว็บไซท์ก็สามารถปลดปล่อยให้ Search Engine ไตร่ตรองต่อเอง ส่วน SEO อีกแบบนึงนั้น เป็น SEO ที่ชอบทำกันเป็นรายเดือนหรือต่อเนื่อง โดยเรียกกันว่าเป็นการ “ปั่น” เว็บ โดยจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO เป็นคนทำ โดยผู้ชำนาญนั้น จะมีความสามารถว่า Search Engine แต่ละที่นั้น ใช้ระบบตรรกะอะไรที่อยู่ในการประมาณความสำคัญของเว็บไซท์แต่ละเว็บไซท์ และจะใช้มายากลยุทธวิธีต่างๆจากตรรกะนี้ เพื่อให้เว็บไซท์เรานั้นติดอันดับสูงมากขึ้นๆเร็วทันใจกว่าที่มันบางทีอาจจะต้องเป็นตามธรรมดา (แบบอย่างการ“ปั่น” ในอดีตกาลที่ระบบตรรกะของ Search Engine ยังไม่ค่อยบริบูรณ์เหมือนปัจจุบันนี้เป็น การที่คนต่างประเทศปั่นเว็บไซท์ของประธานธิปดี George W. Bush ให้ติดอันดับที่หนึ่งเมื่อมีคน Search คำว่า“Stupid” ใน Google) วิธีการทำ SEO แบบแรกนั้น เป็นการทำโดยอาจจะเสียเพียงแค่ค่าใช้จ่ายในตอนทำเว็บไซท์ แต่ไม่ต้องเสียต่อไปเมื่อทยอยทำเนื้อหาเว็บอย่างสม่ำเสมอ แต่การทำ SEO แบบที่สองนั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่จำต้องทำต่อเนื่องเนื่องจากว่าคล้ายกับเป็นการเกมระบบของ Search Engine ซึ่งตัว Search Engine นั้นก็จะกระทำการปรับตรรกะระบบเพื่อไม่ให้สามารถถูกเกมได้อยู๋ตลอดระยะเวลา แต่ โดยความเป็นจริงแล้ว SEO นั้นไม่ได้เป็นกระบวนการหาผู้เข้าชมจาก Search Engine เพียงแนวทางเดียว เหตุเพราะตัว Search Engine แต่ละที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Googleนั้น มีพื้นที่ให้คนลงโฆษณา โดยจะทำขึ้นโฆษณาเมื่อมีคนใส่คำค้นหาที่เราได้เจาะจงไว้ ซึ่งการลงประชาสัมพันธ์แบบงี้นั้น จะเรียกว่าเป็น “Search Engine Marketing” หรือ “SEM” นั่นเอง ค่าครองชีพในการลงโปรโมทนั้น จะขึ้นตามปริมาณการคลิกเข้ามาดูเว็บไซท์ของผู้เข้าชมเท่านั้น โดยราคาต่อคลิก (“Cost Per Click” หรือ “CPC”) นั้นจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับว่ามีคนอยากลงโปรโมทเมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาคำกล่าว (keywords) เดียวกันกับที่เราอยากได้เท่าไร แม้เป็นคำกล่าวที่กว้างๆอย่าง “เฟอร์นิเจอร์” แล้ว ค่าครองชีพก็ชอบแพง แต่แม้เป็นคำเฉพาะทางอย่าง “เครื่องเรือนไม้สัก” ราคาก็จะถูกลง และตรงต่อกลุ่มเป้าหมายมากเพิ่มขึ้นด้วย แม้กระนั้น หลายๆครั้ง ผู้ครอบครองเว็บไซท์จะทุ่มค่าครองชีพไปกับกระบวนการทำ SEO รายเดือนแทนที่จะทำ SEM เนื่องจากว่าเป็นความคิดส่วนตัวว่าการลงโปรโมทนั้นไม่น่าจะสำเร็จ อาจเนื่องจากตนเองมีนิสัยไม่ชอบคลิกคำโฆษณาชวนเชื่อ หรือจ่ายค่าSEO จนกระทั่งลืมตัวแล้วก็คิดไปว่า จริงๆแล้วแปลงงบประมาณมาจ่ายลงประชาสัมพันธ์แบบ SEM บางทีอาจทำให้สามารถคุมค่าครองชีพได้เยอะขึ้น รวมทั้งได้ keywords ที่หลายๆคำกว่าก็เป็นได้ เหตุเพราะค่าครองชีพในการจ้างผู้ที่มีความชำนาญทำ SEOนั้นก็ไม่ได้ถูกนัก จากประสบการณ์ของผมแล้ว SEO นั้น ก็เปรียบเราส่งคนเข้าไปในกองผู้คนเพื่อให้เอ่ยถึงและก็แนะนำผลิตภัณฑ์ของพวกเรา ซึ่งจะสร้างกระแสได้ แต่ว่าถ้าเกิดคำกล่าวที่พวกเราส่งไปนั้น ไม่เป็นไปตามที่คนทั่วไปเขาคิดจริงๆก็อาจก่อให้เกิดผลเสียกลับมา แล้วก็ยังจำต้องเสียค่าใช้จ่ายตลอดในการคอยส่งคนไปเพื่อไม่ให้กระแสตายลงอีกด้วย ต่างกับ SEM ที่เป็นเหมือนการใช้ Marketing Tools และ MarketingChannels ธรรมดา เพื่อคนสนใจ และก็กำเนิดกระแสตามธรรมชาติของมันเองมากยิ่งกว่า แม้กระนั้น ท้ายที่สุดแล้วกระบวนการทำ SEO รวมทั้ง SEMนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจะใช้เว็บไซท์เป็นช่องเชิงพาณิชย์หรือหนทางการโปรโมทอย่างจริงจังทั้งสอง ก็เลยเป็นเรื่องที่ควรศึกษารวมทั้งทำความเข้าใจเพิ่มเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเลือกทางการเดินที่เหมาะสมกับธุรกิจของพวกเราให้ได้นะครับ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : seo Tags : สอน seo,เรียน seo,seo
|