หัวข้อ: SEO รับโปรโมทเว็บไซต์ระบบ E-Commerce ลงทุนถูก 500-1000-1500 ต่อเดือนต่อkeyword เริ่มหัวข้อโดย: Chaiworn998 ที่ เมษายน 23, 2017, 08:11:56 pm SEO รับโปรโมทเว็บไซต์ระบบ E-Commerce ลงทุนถูก 500-1000-1500 ต่อเดือนต่อคำ ใครทำอันดับไม่ได้ ปรึกษาได้ทันทีเลย
– SEOKEYWORDTH จัดบริการ SEO ราคาถูก คุณภาพติด หน้าแรก keyword ละ 500-1,000-1,500-2,000-2,500 บาทต่อเดือน ราคาคิดเป็น keywords การันตี - ทำติดหน้าเว็บ Yahoo, BING ได้นะครับ วิธีเดียวกัน แต่จะไม่รับ BAIDU เพราะต้องใช้ภาษาจีนติดอันดับเฉพาะภาษาไทยและ Google ประเทศไทยเท่านั้น ไม่รับ Google ต่างประเทศนะครับ (แต่โทรมาปรึกษาขอคำแนะนำได้นะ) – รับทำ fanpages ด้วยนะครับ แต่เฉพาะคำไม่ยาก ราคาเริ่มต้น เริ่มต้นที่ราคา 1,000 บาท จ่ายเงินครั้งเดียว คิดราคาเหมาจ่ายไปเลย 2 เดือน ทำให้ 3 เดือน ลุ้นอันดับได้เลย – รับงานเอง ไม่ใช่นามบริษัทห้างหุ้นส่วน – หลายคำหลายคีย์เวิร์ดราคาต่อรองได้ กฎหมายอีคอมเมิร์ซ ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศทำให้การพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การเสนอขายสินค้าการตกลงทำสัญญาซื้อขายสินค้า และการชำระเงินสามารถทำได้อย่างง่ายดายทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในเมืองไทยก็มีปัจจัยสำคัญหลายอย่างเป็นอุปสรรคในการทำ Ecommerce โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกฎหมายพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ เราจะมาศึกษาถึงเนื้อหาของกฎหมายพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ว่ามีความสำคัญอย่างไร ปัญหาในทางการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมายที่จะเอื้ออำนวยให้การทำธุรกรรมทางการค้า สามารถดำเนินไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ปัญหาในการสร้างแรงจูงใจ การที่ประเทศมีกฎหมายที่ได้มาตรฐานในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น - กฎหมายแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange Law) ย่อมจะสามารถสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ปัญหาการเอื้อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม (Fair Competition) การเปิดให้มีการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมโดยเฉพาะในกิจการโทรคมนาคมจะส่งผลให้ มีการดึงดูดการลงทุน การเพิ่มการจ้างงานและนำเงินตราเข้าประเทศ หากทำอย่างมีระบบและหลักการ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ E-commerce กฎหมายนี้จะต้องสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และเหมาะสมกับสภาพของประเทศไทย ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวรวมถึงกฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transaction Law) กฎหมาย ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature Law) กฎหมาย ธุรกรรมทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Financial Transaction Law) กฎหมายอาญาอันเนื่องมาจากอาชญากรรม พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce Criminal Code) กฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับอินเตอร์เน็ต กฎหมายพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา วิธีโปรโมทเว็บให้ดัง ออกแบบบล็อกให้ดูดีสวยงาม ถ้าคุณออกแบบบล็อกให้สวย ๆ หรือมีดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา คุณก็มีโอกาสที่จะโปรโมทเว็บของคุณที่ Rookienet หรือเว็บที่พูดคุยถึงเรื่องการดีไซน์เว็บ เป็นต้น ทำ Tag ไปหา technorati บล็อกเสิร์ชเอนจิ้นชื่อดังอย่าง Technorati นั้นมี pagerank ที่สูงทีเดียว ยิ่งถ้าแต่ละบทความของคุณ มีการใส่ tag ไปแจ้ง technorati ไว้ เราจะได้ผลสองทางคือ ทางตรง ได้ไปอยู่ใน technorati directory และ ทางอ้อม คือ bot ของ search engine ต่าง ๆ จะวิ่งต่อจาก technorati มาเก็บข้อมูลในบล็อกของเราด้วย เทคนิคการตั้งชื่อโดเมนเนม |1. ชื่อแสดงความเป็นธุรกิจ และ keyword (คีย์เวิร์ดคือ สิ่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น ชื่อสินค้าบริการ) ตัวอย่างเช่น www.tourkrabi.com แสดงความเป็นธุรกิจทัวร์โดยเน้นไปที่จังหวัดกระบี่อย่างชัดเจน หรือ www.weddingthai.net แสดงให้เห็นธุรกิจเกี่ยวกับงานแต่งงาน แม้ว่าจะยังบอกไม่ได้ว่าเป็นการให้บริการด้านงานแต่งงาน หรืออาจจะเป็นให้บริการถ่ายรูปแต่งงาน หรือแม้แต่บริการหาคู่ แต่ก็อยู่ในธุรกิจนี้ การมีชื่อที่แสดงความเป็นธุรกิจช่วยให้ลูกค้าเว็บไซต์จดจำได้ง่าย และมีโอกาส click เลือกจากหน้า Search Engine ได้มากกว่าชื่อโดเมนเนมที่ไม่มีความเป็นธุรกิจ อย่างไรก็ตามการใช้ชื่อโดเมนเนมลักษณะนี้มีข้อเสียคือ ไม่มีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นจึงสามารถถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย เช่น อาจจะมีคุ่แข่งจดโดเมนเนม www.tourthaikrabi.com หรือ www.krabitour.com หรือ www.travelkrabi.com และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์กลุ่มหนึ่งจึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้ชื่อแสดงความเป็นธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียวในการจดโดเมนเนม |2. สร้าง Brand แสดงความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ เจ้าของเว็บไซต์ที่หลีกเลี่ยงการจดชื่อโดเมนเนมที่แสดงความเป็นธุรกิจเพียงอย่างเดียว จะเลือกใช้ชื่อที่สร้าง Brand และแสดงความเป็นเอกลักษณ์ เช่น www.krabicosmo.com , www.ghousehuahin.com เป็นต้น ในกรณีนี้ ถ้าลูกค้าเว็บไซต์จดจำเอกลักษณ์ของชื่อโดเมนเนมได้ เช่น จำได้ว่า มีคำว่า cosmo อยู่ในชื่อคู่กับ krabi ก็มีโอกาสที่จะกลับมาที่เว็บไซต์นั้น ๆ มากขึ้น เป็นต้น |3. จดจำง่าย ออกเสียงง่าย สะกดง่าย หากสามารถตั้งชื่อโดเมนเนมให้สั้นได้มากที่สุด จะทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์จดจำได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม ชื่อโดเมนเนมที่ประกอบด้วยพยัญชนะภาษาอังกฤษ 2 หรือ 3 หรือ 4 ตัว และนามสกุล dot com ได้ถูกจดไปหมดแล้ว เช่น aa.com , ab.com , abc.com , mno.com , abcd.com , wxyz.com, mink.com เป็นต้น จึงไม่จำเป็นต้องหาชื่อโดเมนเนมดังกล่าว ยกเว้นใช้นามสกุลอื่น ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์ควรพิจารณาโดเมนเนมที่มีชือ 5 ตัวขึ้นไป การสะกดชื่อควรเป็นมาตรฐานทั่วไป เช่น www.thaibusiness.com ถ้าชื่อโดนจดไปแล้วและเจ้าของเว็บไซต์ต้องการใช้ thaibuziness.com ก็ต้องพิจารณาว่าธุรกิจของตนตรงกับธุรกิจของ thaibusiness.com หรือไม่ หากตรงกัน มีโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าเข้าสู่เว็บของผู้อื่นได้อย่างน่าเสียดาย อนึ่ง ลูกค้าเว็บไซต์โดยทั่วไปอาจจะตั้งข้อสังเกตถึงความไม่น่าเชื่อถือของโดเมนเนมที่เขียนผิดจากปกติ สำหรับการตั้งชื่อโดเมนเนมออกเสียงทับศัพท์เป็นภาษาไทย ต้องระวังการเขียนให้ง่ายที่สุด เช่น www.sanook.com หรือ www.kapook.com หากไม่มั่นใจว่าลูกค้าจะสะกดถูกต้องจดโดเมนเนมไว้หลายแบบและนำเข้าสู่เว็บไซต์เดียวกัน เช่น www.baanbetalet.com , www.banbetalet.com (บ้านเบ็ดเตล็ด) เป็นต้น แม้แต่ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษแต่ออกเสียงคล้ายกัน ก็ควรระวังการสะกด และจดโดเมนเนมไว้หลายแบบเช่นกัน เช่น www.ReadyPlanet.com และ www.LadyPlanet.com ก็จะเข้าสู่เว็บไซต์เดียวกันคือผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป |4. ไม่ copy เลียนแบบเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง เช่น ไม่ตั้งชื่อโดเมนเนมว่า www.AmazonThaiBook.com เพราะมีโอกาสโดนฟ้องร้องสูงมากเนื่องจากทำธุรกิจเดียวกับเว็บไซต์หลักคือ Amazon.com นอกจากนั้น ภาพลักษณ์ของโดเมนเนมที่เลียนแบบยังขาดความน่าเชื่อถืออีกด้วย |5. ชื่อโดเมนเนมไม่ยาวเกินไป หากชื่อยาวต้องจดจำง่าย เช่น www.OpenWorldThailand.com, www.BeachHotelExpress.com , www.FlowerHandmade.com จะเห็นได้ว่า ชื่อเว็บไซต์แม้จะยาวแต่ประกอบด้วยคำภาษาอังกฤษที่จำง่ายเช่น Thailand , Handmade ซึ่งประกอบกันแล้วทำให้ชื่อยาว แต่เข้าใจง่าย อย่างไรก็ตามการประกอบกันยาวเกินไปก็ยังไม่นับว่าเป็นชื่อที่ดีนัก เช่น www.TheBestFlowerHandmadeInThailand.com ก็นับว่ายาวเกินไป |6. ระวังเรื่อง " - " (Hyphen) และการเติม S หากต้องการจดชื่อที่มี S หรือใช้สัญญลักษณ์ " - " ดังกล่าว ต้องพิจารณาว่า เว็บไซต์อื่นที่จดทะเบียนไปแล้วและไม่มีสัญญลักษณ์ทำธุรกิจเดียวกันกับเราหรือไม่ ถ้าใช่ มีโอกาสที่จะสร้างความสับสนแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ ทางออกที่ดีคือ จดโดเมนเนมทั้งที่มีและไม่มี s ไว้ด้วย เช่น www.ReadyPlanet.com และ www.ReadyPlanets.com ก็จะเข้าสู่เว็บไซต์เดียวกันคือผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป ส่วนชื่อที่มี " - " หากไม่จำเป็นไม่ควรใช้ และต้องพิจารณาว่าเว็บไซต์ที่ใช้ชื่อแบบไม่มี " - " ทำธุรกิจเดียวกับเราในประเทศของเราหรือไม่ ถ้าใช่ ยิ่งไม่ควรใช้ชือทีมี " - " อย่างยิ่ง |7. ชื่อแสดงความน่าเชื่อถือ ลูกค้าเว็บไซต์โดยเฉพาะด้านธุรกิจ ย่อมต้องการความน่าเชื่อถือก่อนจะตัดสินใจทำธุรกรรมต่าง ๆ ด้วย ดังนั้น ไม่ตั้งชื่อที่แสดงความเป็นเล่น ๆ ยกเว้นเป็นเว็บไซต์ content หรือ social ที่ต้องการภาพลักษณ์ที่สบาย ๆ เช่น ระวังถ้าต้องการตั้งชื่อว่า ConsultantKukKik.com (กุ๊กกิ๊ก) จะขัดกับภาพลักษณ์ที่ต้องการความจริงจังในการทำธุรกิจ |8. ตั้งชื่อที่ไม่มีความหมายก็ได้ หากชื่อนั้นจดจำง่าย และเจ้าของเว็บไซต์มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่องได้ ตัวอย่างเว็บไซต์ต่างประเทศที่ชื่อไม่มีความหมายแต่ประสบความสำเร็จมีมากมาย เช่น www.google.com , www.ebay.com , www.yahoo.com เป็นต้น} ประเภทของสินค้าในธุรกิจออนไลน์ ปกติแล้วสินค้าจะมีอยู่ด้วยกันสองประเภทคือเป็นสินค้าแบบจับต้องได้ คือ สินค้าอุปโภคบริโภคและ สินค้าที่จับต้องไม่ได้ คือ การให้บริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจุดขายของสินค้าที่สามารถจับต้องได้ก็คือ การถ่ายรูปสินค้าให้ออกมาดูมีความสวยงามและน่าใช้ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่บอกได้เลยว่ามักจะเลือกที่จะซื้อสินค้าที่รูปร่างหน้าตาที่น่าใช้ เป็นการตัดสินใจซื้อโดยใช้หลักอารมณ์และความรู้สึกและยังรวมไปถึงประสบการณ์ในการใช้สินค้าอีกด้วย ซึ่งยังรวมไปถึงการบอกต่อกันแบบปากต่อปากโดย สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหตุผลในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการ ประเภทของอีคอมเมิร์ซ มีการแบ่งประเภทอีคอมเมิร์ซกันหลายแบบ เช่น แบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 5 ประเภท แบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 3 ประเภท แบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 6 ส่วน และแบ่ง อีคอมเมิร์ซตามประเภทสินค้าเป็น 2 ประเภท เป็นต้น อีคอมเมิร์ซ 5 ประเภท ถ้าจะแบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 5 ประเภทก็ได้ดังต่อไปนี้ - รัฐบาลกับรัฐบาลหรือจีทูจี (G-to-G = Government to Government) คือ ประเภทที่หน่วยงานรัฐบาลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาลอีกหน่วยงานหนึ่ง อีคอมเมิร์ซ 3 ประเภท ถ้าจะแบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 3 ประเภทก็อาจจะแบ่งได้ ดังต่อไปนี้ อีคอมเมิร์ซระหว่างผู้บริโภคกับธุรกิจ หรือ บีทูซี (B-to-C = Business-to-Consumer) ซึ่งอาจจะมีตัวอย่างดังต่อไปนี้ - ซื้อขายสินค้าและข้อมูล ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายสินค้าและข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตได้โดยสะดวก อีคอมเมิร์ซภายในองค์กรหรือแบบอินทราออร์ก (Intra-Org E-commerce) คือ การใช้อีคอมเมิร์ซในการช่วยให้บริษัทหรือองค์ใดองค์กรหนึ่งสามารถปรับปรุงการทำงานภายในและให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้ - การปรับปรุงประสิทธิภาพพนักงานขาย การใช้อีคอมเมิร์ซแบบนี้ช่วยปรับปรุงการสื่อสารระหว่างฝ่ายผลิตกับฝ่ายขาย และระหว่างฝ่ายขายกับลูกค้า ทำให้ได้ประสิทธิภาพดีขึ้น อีคอมเมิร์ซระหว่างองค์กรหรือแบบอินเตอร์ออร์ก (Inter-Org E-commerce) ซึ่งก็คือแบบเดียวกับแบบที่เรียกว่าบีทูบี (Business to Business) ทั้งนี้โดยมีตัวอย่างต่อไปนี้ - การจัดการสินค้าคงคลัง อีคอมเมิร์ซ 6 ส่วน ถ้าจะแบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 6 ส่วนก็แบ่งได้ดังต่อไปนี้ การขายปลีกทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเทลลิ่ง (E-tailing= Electronic Retailing) หรือร้านค้าเสมือนจริง (Virtual Storefront) ยอดขายปลีกอิเล็กทรอนิกส์ในอเมริกาใน ค.ศ. 1999 มีมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท การวิจัยตลาดทางอิเล็กทรอนิกส์หรือมาร์เก็ตอีรีเซิร์ช (Market E-research) คือการใช้อินเตอร์เนตในการวิจัยตลาดแบบเดียวกับที่สำนักวิจัยเอแบค-เคเอสซีอินเตอร์เน็ตทำอยู่ จากการใช้อินเตอร์เน็ตนี้ บริษัทห้างร้านสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าปัจจุบัน และผู้ที่อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคต ทั้งจากการลงทะเบียนเข้าใช้ เว็บ จากแบบสอบถามและจากการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า การวิจัยตลาด อินเตอร์เน็ตก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอีคอมเมิร์ซ อีคอมเมิร์ซ 2 ประเภท สินค้า ถ้าจะแบ่งอีคอมเมิร์ซตามประเภทสินค้าก็แบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ สินค้าที่ไม่ใช่ดิจิตอล เช่น สินค้าหัตถกรรม สินค้าศิลปะชีพ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังเครื่องประดับ เครื่องจักรอุปกรณ์ เป็นต้น ซึ่งต้องส่งสินค้าทางพัสดุภัณฑ์ ผ่านไปรษณีย์หรือบริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ SEOKEYWORDTHAILAND ร้านค้าออนไลน์ seo ให้บริการรับทำ รับทำ SEO ราคาถูก โปรโมทเว็บทั่วไทย ติด google mail : w_typethai@hotmail.com DTAC : 090-5727220 line แอด : wtypethai #เหมาจ่ายรายเดือน/3-6เดือน/จ่ายเป็นปี #ประหยัด#โปรโมทเว็บไซต์ #รับseo #seo #ราคาต่อรองได้ #เหมาจ่าย ทำหลายคำลดราคาถูกได้อีก (https://seokeywordth.files.wordpress.com/2015/08/iconweb.png) ที่มา : http://seokeywordth.wordpress.com/ Tags : adwords, seo ควบ adwords ,
|