หัวข้อ: ไม่เหมือนกันของการสอน seo และการสอน sem มีความแตกต่างกันยังไงในการทำธุรกิจออนไลน เริ่มหัวข้อโดย: iAmtoto007 ที่ เมษายน 26, 2017, 10:14:50 am หลังจากที่มีผมได้ชี้แจงศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวกับ SocialMedia Marketing ไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนสนใจถามคำถามเกี่ยวกับแวดวงนี้เข้ามาพอสมควรขอรับ ซึ่งน่าจะมีสาเหตุจากกระแสของ e-commerce ที่กำลังครึกโครมมากมายในปีนี้ ทั้งจากการบุกจากบริษัทชนชาติไทยแล้วก็กลุ่มบริษัทข้ามชาติ ทำให้คนกลับมาตื่นตัวหัวข้อการโฆษณาเว็บไซท์รวมทั้งช่องทางวิธีขายทางไฟฟ้ากันอีกครั้ง
โดยเหตุนี้ ฉบับนี้ผมก็เลยอยากะขออนุญาติกล่าวถึงการตลาดออนไลน์ต่ออีกสักหนึ่งครั้ง โดยถือโอกาสอธิบายลักษณะการตลาดใหญ่ๆที่ผมพบว่าคนมักจะงงเต็กกันบ่อยๆเวลาผมมีโอกาสได้สอนหรือเสนองานให้กับลูกค้าขอรับ มันก็คือคำว่า “SEO” และก็ “SEM” สำหรับท่านที่เคยให้ความสนใจหัวข้อการตลาดออนไลน์นั้น อาจจะเคยทราบคำว่า “SEO” อยู่บ้าง โดย “SEO” นั้นเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” นั่นเองซึ่งถ้าเกิดจะแปลตรงตัวแล้ว เพื่อให้ความหมายถูกต้องนั้น จริงๆต้องจัดคำบอกเล่าใหม่เป็น “Optimization for Search Engines” ซึ่งจะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การปรับเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Search Engine” คำว่า “Search Engine” นี้ซึ่งก็คือเว็บไซท์ที่ใช้ในลัษณะของการหาเว็บไซท์อื่นๆหรือที่ยอดนิยมสุดในปัจจุบันมันก็คือGoogle นั่นเอง โดยมีคู่แข่งขันที่ได้รับความนิยมเป็นรองลงมาเป็น “Bing” ของ Microsoft หรือ “Baidu” ของจีน“Naver” ของเกาหลี “Yandex” ของรัสเซีย ในโลกที่มีเว็บไซท์มหาศาล กระบวนการที่ Search Engine เหล่านี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลว่ามีเว็บไซท์อะไรบ้างแล้วก็แต่ละเว็บไซท์มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถแสดงผลการค้นหาให้กับผู้ใชได้นั้น เป็นการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า “Crawler” กระทำ “ไต่” หาเว็บไซท์ต่างๆที่มีอยู่ทั้งโลกโดยอัตโนมัติ เพื่อทำการอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บไซท์ว่ามีรายละเอียดอะไร และก็แต่ละเว็บไซท์นั้นควรจะได้รับความสำคัญมากแค่ไหน ผ่านระบบการประเมิณผลพิเศษของแต่ละบริษัท ดังนี้ เนื่องด้วยในปัจจุบันนั้น แนวทางการหาข้อมูลหรือเว็บไซท์ที่น่าสนใจที่ยอดนิยมที่สุดก็คือการ “Search” หรือ “ค้นหา” ผ่าน “Search Engine”เหล่านี้ ด้วยเหตุดังกล่าว “SEO” นั้นจึงหมายคือการปรับรายละเอียดและก็องค์ประกอบเว็บไซท์ให้ “Search Engine” สามารถอ่านรายละเอียดเราได้ง่าย และทำให้เว็บไซท์พวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนทำ “Search” รายละเอียดที่เราคิดว่าตรงกับรายละเอียดเว็บไซท์พวกเรานั่นเอง แน่ๆว่าเว็บไซท์ที่ติดอันดับสูงๆใน Search Engine นั้นจะได้รับการเข้าชมจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ท (“traffic”) ในมากมายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรก็แล้วแต่ทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์แต่ละที่นั้นอยากได้ที่จะทำ SEO เว็บไซท์ตนเองให้ติดอันดับสูงๆกระทั่งเกิดเป็นแวดวงผู้ประกอบอาชีพ SEO รับจ้างทำSEO ให้เว็บไซท์ต่างๆอย่างใหญ่โต เพื่อให้คนสามารถศึกษาและทำการค้นพบเว็บไซท์ตัวเองได้เมื่อเขาทำการ “Search”โดยใช้คำพูด (“keywords”) ที่เกี่ยว ยกตัวอย่ายกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราเป็นร้านขายเครื่องเรือน เราก็คงจะอยากให้เว็บไซท์ของเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนค้นหาด้วยคำว่า “เครื่องเรือน”หรือ “ร้านขายเครื่องเรือน” เป็นต้น ทั้งนี้การทำ SEO หลักๆมีสองแบบ แบบที่หนึ่งเป็นการมีส่วนประกอบเว็บไซท์ที่ดี ซึ่งขึ้นกับการออกแบบรายละเอียดเว็บไซท์ และก็การเขียนโปรแกรมที่ดี ทำให้ crawler ของ Search Engine สามารถเข้าถึงรายละเอียดได้อย่างถี่ถ้วนซึ่งก็เปรียบได้ดั่งการทำหนังสือหรือนิตยสารที่อ่านได้เข้าใจง่าย เป็นการคิดตั้งแต่ตอนทำรายละเอียด แล้วเมื่อพิมพ์บนเว็บไซท์ก็สามารถปลดปล่อยให้ Search Engine ตรึกตรองต่อเอง ส่วน SEO อีกแบบนึงนั้น เป็น SEO ที่มักจะทำกันเป็นทุกเดือนหรือตลอด โดยเรียกกันว่าเป็นการ “ปั่น” เว็บไซต์ โดยจ้างผู้ที่มีความชำนาญด้าน SEO เป็นคนทำ โดยผู้ที่มีความชำนาญนั้น จะมีความรู้ว่า Search Engine แต่ละที่นั้น ใช้ระบบตรรกะอะไรบ้างในการประเมินจุดสำคัญของเว็บไซท์แต่ละเว็บไซท์ รวมทั้งจะใช้กลกลยุทธ์ต่างๆจากตรรกะนี้ เพื่อให้เว็บไซท์พวกเรานั้นติดอันดับสูงมากขึ้นๆรวดเร็วกว่าที่มันอาจจะควรเป็นตามเดิม (แบบอย่างการ“ปั่น” ในสมัยก่อนที่ระบบตรรกะของ Search Engine ยังไม่ค่อยบริบูรณ์ราวกับทุกๆวันนี้เป็น การที่ชาวต่างประเทศปั่นเว็บไซท์ของประธานธิปดี George W. Bush ให้ติดอันดับต้นๆเมื่อมีคน Search คำว่า“Stupid” ใน Google) แนวทางการทำ SEO แบบแรกนั้น เป็นการทำโดยบางทีอาจจะเสียแค่ค่าครองชีพในตอนทำเว็บไซท์ แต่ว่าไม่ต้องเสียถัดไปเมื่อทยอยทำเนื้อหาเว็บอย่างสม่ำเสมอ แต่การทำ SEO แบบลำดับที่สองนั้น เป็นค่าครองชีพที่ต้องทำสม่ำเสมอด้วยเหตุว่าคล้ายกับเป็นการเกมระบบของ Search Engine ซึ่งตัว Search Engine นั้นก็จะกระทำปรับตรรกะระบบเพื่อไม่ให้สามารถถูกเกมได้อยู๋ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว SEO นั้นมิได้เป็นกระบวนการหาผู้เข้าชมจาก Search Engine เพียงแนวทางเดียว เหตุเพราะตัว Search Engine แต่ละแห่ง โดยเฉพาะ Googleนั้น มีพื้นที่ให้คนลงประชาสัมพันธ์ โดยจะกระทำขึ้นโปรโมทเมื่อมีคนใส่คำค้นหาที่พวกเราได้ระบุไว้ ซึ่งการลงโปรโมทอย่างนี้นั้น จะเรียกว่าเป็น “Search Engine Marketing” หรือ “SEM” นั่นเอง รายจ่ายในการลงโฆษณานั้น จะขึ้นตามจำนวนการคลิกเข้ามาชมเว็บไซท์ของผู้เข้าชมแค่นั้น โดยราคาต่อคลิก (“Cost Per Click” หรือ “CPC”) นั้นจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับว่ามีคนอยากได้ลงประชาสัมพันธ์เมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาคำบอกเล่า (keywords) เดียวกันกับที่เราต้องการเยอะมากมายสักเท่าไหร่ แม้เป็นคำบอกเล่าที่กว้างๆอย่าง “เฟอร์นิเจอร์” แล้ว ค่าครองชีพก็ชอบแพง แต่หากเป็นคำเฉพาะทางอย่าง “เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก” ราคาก็จะถูกลง และก็ตรงต่อกลุ่มเป้าหมายเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วย อย่างไรก็ตาม หลายๆครั้ง เจ้าของเว็บไซท์จะทุ่มค่าครองชีพไปกับกระบวนการทำ SEO รายเดือนแทนที่จะทำ SEM ด้วยเหตุว่าเป็นความคิดส่วนตัวว่าการลงประชาสัมพันธ์นั้นไม่น่าจะเห็นผล บางทีอาจเพราะตัวเองมีนิสัยรังเกียจคลิกคำชวนเชื่อ หรือจ่ายค่าSEO จนถึงลืมตัวและก็คิดไปว่า อันที่จริงแล้วแปลงงบประมาณมาจ่ายลงประชาสัมพันธ์แบบ SEM อาจทำให้สามารถคุมค่าใช้สอยได้มากขึ้นเรื่อยๆ และได้ keywords ที่หลายๆคำกว่าก็เป็นได้ เหตุเพราะค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทำ SEOนั้นก็ไม่ได้ถูกนัก จากประสบการณ์ของผมแล้ว SEO นั้น ก็เปรียบเหมือนเราส่งคนเข้าไปในกองผู้คนเพื่อให้เอ๋ยถึงและเสนอแนะสินค้าของเรา ซึ่งจะสร้างกระแสได้ แต่ว่าถ้าหากคำบอกเล่าที่เราส่งไปนั้น ไม่เป็นไปตามที่คนทั่วไปเขาคิดจริงๆก็บางทีอาจส่งผลกระทบกลับมา รวมทั้งยังจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสม่ำเสมอในการคอยส่งคนไปเพื่อไม่ให้กระแสตายลงอีกด้วย ต่างกับ SEM ที่เป็นเสมือนการใช้ Marketing Tools และ MarketingChannels ธรรมดา เพื่อคนสนใจ แล้วก็กำเนิดกระแสตามธรรมชาติของมันเองมากยิ่งกว่า อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วการทำ SEO และก็ SEMนั้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจะใช้เว็บไซท์เป็นช่องทางการค้าหรือหนทางการโฆษณาอย่างจริงจังทั้งสอง จึงเกิดเรื่องที่ควรศึกษาค้นคว้าและก็ทำความเข้าใจเพิ่มอีกเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเลือกเส้นทางการเดินที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราให้ได้นะครับ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สอน seo Tags : สอน seo,เรียน seo,seo
|