หัวข้อ: ความไม่เหมือนของการสอน seo และการสอน sem มีความไม่เหมือนกันเช่นไรในการทำธุรกิจออ เริ่มหัวข้อโดย: iampropostweb ที่ เมษายน 27, 2017, 02:41:46 pm หลังจากที่มีผมได้ชี้แจงศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวกับ SocialMedia Marketing ไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนให้ความสนใจถามคำถามเกี่ยวกับวงการนี้เข้ามาพอเหมาะพอควรครับ ซึ่งน่าจะเกิดจากกระแสของ e-commerce ที่กำลังรื่นเริงมากมายในปีนี้ ทั้งจากการบุกจากบริษัทสัญชาติไทยรวมทั้งกรุ๊ปบริษัทต่างประเทศ ทำให้คนกลับมาตื่นตัวประเด็นการโปรโมทเว็บไซท์แล้วก็ช่องทางแนวทางการขายทางด้านอิเล็กทรอนิกส์กันอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ฉบับนี้ผมจึงอยากะขออนุญาติเอ๋ยถึงการตลาดออนไลน์ต่ออีกสักหนึ่งครั้ง โดยถือโอกาสชี้แจงลักษณะการตลาดใหญ่ๆที่ผมพบว่าคนชอบงงกันเป็นประจำเวลาผมมีโอกาสได้สอนหรือเสนองานให้กับลูกค้านะครับ ซึ่งก็คือคำว่า “SEO” รวมทั้ง “SEM” สำหรับท่านที่เคยมีความสนใจเรื่องการตลาดออนไลน์นั้น อาจจะเคยรับรู้คำว่า “SEO” อยู่บ้าง โดย “SEO” นั้นเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” นั่นเองซึ่งถ้าจะแปลตรงตัวแล้ว เพื่อให้ความหมายถูกนั้น จริงๆจะต้องจัดคำพูดใหม่เป็น “Optimization for Search Engines” ซึ่งจะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การปรับเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Search Engine” คำว่า “Search Engine” นี้หมายถึงเว็บไซท์ที่ใช้สำหรับการหาเว็บไซท์อื่นๆหรือที่ยอดนิยมสุดในขณะนี้ซึ่งก็คือGoogle นั่นเอง โดยมีคู่ปรับยอดนิยมด้อยกว่าลงมาเป็น “Bing” ของ Microsoft หรือ “Baidu” ของจีน“Naver” ของประเทศเกาหลี “Yandex” ของรัสเซีย ในโลกที่มีเว็บไซท์มากมาย วิธีการที่ Search Engine กลุ่มนี้ใช้ในการเก็บข้อมูลว่ามีเว็บไซท์อะไรบ้างรวมทั้งแต่ละเว็บไซท์มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อสามารถแสดงผลลัพธ์การค้นหาให้กับผู้ใชได้นั้น ได้แก่การใช้โปรแกรมที่เรียกว่า “Crawler” กระทำการ “ไต่” หาเว็บไซท์ต่างๆที่มีอยู่ทั้งโลกอัตโนมัติ เพื่อทำอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บไซท์ว่ามีเนื้อหาอะไร รวมทั้งแต่ละเว็บไซท์นั้นควรได้รับความสำคัญเยอะแค่ไหน ผ่านระบบการประเมิณผลพิเศษของแต่ละบริษัท ดังนี้ เนื่องจากในตอนนี้นั้น วิธีการหาข้อมูลหรือเว็บไซท์ที่น่าดึงดูดที่ที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือการ “Search” หรือ “ค้นหา” ผ่าน “Search Engine”เหล่านี้ ดังนั้น “SEO” นั้นก็เลยเป็นการปรับเนื้อหาและส่วนประกอบเว็บไซท์ให้ “Search Engine” สามารถอ่านรายละเอียดเราได้ง่าย และก็ทำให้เว็บไซท์พวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนทำ “Search” เนื้อหาที่เราคิดว่าตรงกับเนื้อหาเว็บไซท์พวกเรานั่นเอง แน่ๆว่าเว็บไซท์ที่ติดอันดับสูงๆใน Search Engine นั้นจะได้รับการเข้าชมจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ท (“traffic”) ในเป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรก็แล้วแต่ทำให้คนที่เป็นเจ้าของเว็บแต่ละที่นั้นอยากได้ที่จะทำ SEO เว็บไซท์ตัวเองให้ติดอันดับสูงๆจนกำเนิดเป็นวงการผู้ประกอบอาชีพ SEO รับจ้างทำSEO ให้เว็บไซท์ต่างๆเป็นอย่างมาก เพื่อให้คนสามารถศึกษาค้นพบเว็บไซท์ตัวเองได้เมื่อเขากระทำการ “Search”โดยใช้คำบอกเล่า (“keywords”) ที่เกี่ยวเนื่อง ยกตัวอย่าดังเช่น ถ้าพวกเราเป็นร้านขายเครื่องเรือน เราก็คงจะต้องการให้เว็บไซท์ของพวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนค้นหาด้วยคำว่า “เฟอร์นิเจอร์”หรือ “ร้านค้าขายเครื่องเรือน” ฯลฯ ทั้งนี้วิธีการทำ SEO สำคัญๆมีสองแบบ แบบอันดับหนึ่งเป็นการมีองค์ประกอบเว็บไซท์ที่ดี ซึ่งขึ้นกับการวางแบบรายละเอียดเว็บไซท์ แล้วก็การทำโปรแกรมที่ดี ทำให้ crawler ของ Search Engine สามารถเข้าถึงรายละเอียดได้อย่างถี่ถ้วนซึ่งก็เปรียบการทำหนังสือหรือนิตยสารที่อ่านได้เข้าใจง่าย เป็นการคิดตั้งแต่ตอนทำเนื้อหา แล้วเมื่อพิมพ์บนเว็บไซท์ก็สามารถปล่อยให้ Search Engine พินิจพิเคราะห์ต่อเอง ส่วน SEO อีกแบบนึงนั้น เป็น SEO ที่มักจะทำกันเป็นรายเดือนหรือตลอด โดยเรียกกันว่าเป็นการ “ปั่น” เว็บไซต์ โดยจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO เป็นคนทำ โดยผู้ชำนาญนั้น จะมีความรู้ความเข้าใจว่า Search Engine แต่ละที่นั้น ใช้ระบบตรรกะอะไรในการประเมินความสำคัญของเว็บไซท์แต่ละเว็บไซท์ และจะใช้มายากลกลยุทธ์ต่างๆจากตรรกะนี้ เพื่อเว็บไซท์พวกเรานั้นติดอันดับสูงมากขึ้นๆรวดเร็วทันใจกว่าที่มันบางทีอาจจะควรเป็นตามปกติ (แบบอย่างการ“ปั่น” ในอดีตที่ระบบตรรกะของ Search Engine ยังไม่ค่อยบริบูรณ์เหมือนปัจจุบันนี้คือ การที่ชาวต่างชาติปั่นเว็บไซท์ของประธานธิปดี George W. Bush ให้ติดอันดับต้นๆเมื่อมีคน Search คำว่า“Stupid” ใน Google) กระบวนการทำ SEO แบบแรกนั้น เป็นการทำโดยอาจจะเสียแค่ค่าใช้สอยในตอนทำเว็บไซท์ แม้กระนั้นไม่ต้องเสียถัดไปเมื่อทยอยทำเนื้อหาเว็บอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าการทำ SEO แบบลำดับที่สองนั้น เป็นค่าครองชีพที่จำเป็นต้องทำตลอดเนื่องจากคล้ายกับเป็นการเกมระบบของ Search Engine ซึ่งตัว Search Engine นั้นก็จะกระทำปรับตรรกะระบบเพื่อไม่ให้สามารถถูกเกมได้อยู๋ตลอดเวลา อย่างไรก็ดี ตามที่เป็นจริงแล้ว SEO นั้นไม่ได้เป็นแนวทางการหาผู้เข้าชมจาก Search Engine เพียงแนวทางเดียว เนื่องจากว่าตัว Search Engine แต่ละแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Googleนั้น มีพื้นที่ให้คนลงประชาสัมพันธ์ โดยจะทำการขึ้นโปรโมทเมื่อมีคนใส่คำค้นหาที่เราได้กำหนดไว้ ซึ่งการลงโฆษณาแบบงี้นั้น จะเรียกว่าเป็น “Search Engine Marketing” หรือ “SEM” นั่นเอง ค่าใช้จ่ายในการลงโปรโมทนั้น จะขึ้นตามปริมาณการคลิกเข้ามาดูเว็บไซท์ของผู้เข้าชมเท่านั้น โดยราคาต่อคลิก (“Cost Per Click” หรือ “CPC”) นั้นจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับว่ามีคนอยากลงโปรโมทเมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาคำบอกเล่า (keywords) เดียวกันกับที่เราต้องการเยอะแค่ไหน หากเป็นคำพูดที่กว้างๆอย่าง “เฟอร์นิเจอร์” แล้ว ค่าใช้สอยก็ชอบแพง แม้กระนั้นถ้าเป็นคำเฉพาะทางอย่าง “เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก” ราคาก็จะถูกลง แล้วก็ตรงต่อกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย อย่างไรก็ตาม หลายๆครั้ง ผู้ครอบครองเว็บไซท์จะทุ่มค่าใช้สอยไปกับแนวทางการทำ SEO ทุกเดือนแทนที่จะทำ SEM เพราะเหตุว่าเป็นความคิดส่วนตัวว่าการลงโปรโมทนั้นไม่น่าจะสำเร็จ บางทีอาจเพราะว่าตนเองมีนิสัยไม่ชอบคลิกคำชวนเชื่อ หรือจ่ายค่าSEO จนลืมตัวและคิดไปว่า ที่จริงแล้วแปลงงบมาจ่ายลงประชาสัมพันธ์แบบ SEM อาจทำให้สามารถคุมค่าใช้จ่ายได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ และก็ได้ keywords ที่หลายๆคำกว่าก็เป็นได้ เนื่องมาจากค่าใช้สอยในการจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทำ SEOนั้นก็ไม่ได้ถูกนัก จากประสบการณ์ของผมแล้ว SEO นั้น ก็เปรียบได้กับพวกเราส่งคนเข้าไปในกองผู้คนเพื่อให้เอ๋ยถึงแล้วก็ชี้แนะสินค้าของพวกเรา ซึ่งจะสร้างกระแสได้ แต่ว่าถ้าหากคำกล่าวที่เราส่งไปนั้น ไม่เป็นไปตามที่คนทั่วไปเขาคิดจริงๆก็บางทีอาจมีผลกระทบกลับมา และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายตลอดในการคอยส่งคนไปเพื่อไม่ให้กระแสตายลงอีกด้วย ต่างกับ SEM ที่เป็นเสมอเหมือนการใช้ Marketing Tools รวมทั้ง MarketingChannels ทั่วๆไป เพื่อคนพึงพอใจ และกำเนิดกระแสตามธรรมชาติของมันเองมากยิ่งกว่า อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วการทำ SEO แล้วก็ SEMนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบกิจการที่ต้องการจะใช้เว็บไซท์เป็นช่องเชิงพาณิชย์หรือหนทางการประชาสัมพันธ์อย่างเอาจริงเอาจังทั้งคู่ จึงเกิดเรื่องที่ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าและก็ทำความเข้าใจเพิ่มเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเลือกเส้นทางการเดินที่เหมาะกับธุรกิจของเราให้ได้ครับผม คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เรียน seo Tags : เรียน seo,seo
|