ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: teareborn ที่ พฤษภาคม 16, 2017, 01:47:07 pm



หัวข้อ: เกล็ดความรู้เกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของพริกไทย
เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ พฤษภาคม 16, 2017, 01:47:07 pm
(http://www.disthai.com/images/content/original-1494242527313.jpg)
ถิ่นกำเนิดของพริกไทย
พริกไทยมีถิ่นกำเนิดในแถบตอนใต้ของเทือกเขา กาต รัฐ เกละ เเล้วในประเทศอินเดีย  และศรีลังกา  ปัจจุบันเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศแถบที่มีอากาศร้อน  เช่น  บราซิล , อินเดีย , อินโดนีเซีย , มาเลเซีย , ส่วนในไทยนั้น นิยมปลูกกันมากในจังหวัด จันทบุรี , ตราด และ ระยอง โดยนิยม ปลูกพริกไทยกันมาก ในจังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง โดยสายพันธุ์ที่นิยม เพาะปลูกกัน มีด้วยกัน 6 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ใบหนา พันธุ์บ้านแก้ว พันธุ์ปรางถี่ธรรมดา พันธุ์ปรางถี่หยิก พันธุ์ควายขวิด และสายพันธุ์คุชชิ่ง
ลักษณะทั่วไปของพริกไทย
เป็นไม้เถาเลื้อยขึ้นตามต้นไม้อื่น ตามโขดหิน หรืออาจเลื้อยไปตามผิวดิน เเล้วบางชนิดเป็นไม้พุ่ม พบน้อยมากที่เป็นพืชล้มลุก มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ลำต้นหรือเถาเป็นข้อปล้อง ตรงข้อมักโป่งนูนออกชัดเจน เเล้วถ้าเป็นไม้เถามักพบแตกรากตามข้อ
ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตัวแบบสลับ แผ่นใบมักมีต่อมใสหรือต่อมมีสีขนาดเล็ก เเล้วในหนึ่งต้นใบมีขนาดและ ชนิดหลากหลาย ใบบนลำต้นทั้งที่เลื้อยตามผิวดินหรือเลื้อยขึ้นที่สูงมักมีรูปทรงคล้ายๆ กันในชนิดเดียวกัน เเล้วในหลายชนิดพบว่าใบบนลำต้นที่เลื้อยตามผิวดินมี คุณสมบัติคล้ายกันมาก เเล้วมีเพียงบางชนิดเท่านั้นที่ใบบนลำต้นและใบบนกิ่งมี คุณสมบัติแตกต่างกันชัดเจนและแตกต่างจากชนิดอื่นๆ จนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการระบุชนิดได้ ใบบนกิ่งมีชนิดต่างจากใบบนลำต้นและแตกต่างกันในแต่ละชนิด
ช่อดอกเป็นแบบช่อเชิงลด พบน้อยที่เป็นช่อเชิงลดประกอบแบบซี่ร่ม เกิดที่ข้อตรงข้ามกับใบ ดอกแยกเพศ อยู่ร่วมต้นกันโดยอยู่บนช่อดอกเดียวกัน อยู่คนละช่อดอก หรือพบทั้งสองประเภทนี้ หรือดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่แยกต้นกัน
ดอกมีขนาดเล็ก ไม่มีกลีบเลี้ยง ไม่มีกลีบดอก มีเฉพาะเกสรเพศผู้หรือเกสรเพศเมียและใบประดับขนาดเล็ก ใบประดับรูปกลมหรือรูปรี เชื่อมติดกับแกนช่อดอกหรือมีก้านชูให้ใบประดับยื่นออกมาจากแกนช่อดอก เกสรเพศผู้ 2-6 อัน เกสรเพศเมียมีรังไข่ฝังอยู่ในแกนช่อดอกหรือมีก้าน ยอดเกสรเพศเมีย 2-6 อัน
ผลแบบผลสด รูปกลมหรือรูปรี  ติดกับแกนหรือมีก้าน สีเขียวหรือเขียวอมเหลือง เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้มหรือแดง ส่วนใหญ่ออกดอกและติดผลเป็นช่วงๆ ตลอดปี ขึ้นกับความสมบูรณ์ของต้นและสภาพแวดล้อม ปัญหาที่สำคัญในการค้นพบพืชสกุลพริกไทย ก็คือ การตรวจสอบและระบุชนิดตัวอย่างพืชที่สำรวจพบ เนื่องจากพืชกลุ่มนี้มีประเภทสัณฐานที่ซับซ้อนและหลากหลายในแต่ละชนิด เช่น บางชนิดดอกเพศผู้กับดอกเพศเมียอยู่แยกต้นกัน บางชนิดดอกเพศผู้กับดอกเพศเมียอยู่ร่วมต้นกัน ซึ่งดอกทั้งสองเพศอาจอยู่บนช่อดอกเดียวกันหรือต่างช่อดอกกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือดอกไม่มีกลีบเลี้ยงและไม่มีกลีบดอก เเล้วมีเฉพาะเกสรเพศผู้หรือเพศเมียและใบประดับ กอปรกับดอกมีขนาดเล็กมาก
พริกไทย แบ่งตามวิธีการเก็บ และเตรียมได้เป็น 2 ชนิด คือ
พริกไทยดำ (Black pepper) ได้จากการนำเอาพริกไทย ที่แก่เต็มที่ แต่ยังไม่สุก มาตากแดดให้แห้ง จนออกเป็นสีดำ และไม่ต้องปลอกเปลือก
พริกไทยขาว (White pepper) หรือพริกไทยล่อน ได้มาจากการนำ เอาพริกไทยที่สุกเต็มที่ มาแช่ในน้ำเพื่อลอกเปลือกออก เเล้วนำไปตากให้แห้ง
สำหรับประโยชน์ทางยานั้น พริกไทยดำจะมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าพริกไทยล่อน (พริกไทยขาว) โดยเฉพาะสรรพคุณที่นำมาใช้ปรุงเป็นยาอายุวัฒนะ
การขยายพันธุ์ของพริกไทย 
พริกไทยขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการปักชำ โดยตัดส่วนลำต้นที่ไม่แก่จัด ยาวประมาณ 5-7 ข้อ ปักชำไว้จนรากงอกออกมาแข็งแรง แล้วจึงนำไปปลูกโดยต้องทำค้างไว้ให้เกาะด้วย พริกไทยอาจขึ้นได้ในดินทั่วๆ ไปที่มีการระบายน้ำได้ดี และชอบอากาศ ที่อบอุ่นและชื้น เช่น บริเวณจังหวัด จันทบุรี ระยอง และตราด
 
องค์ประกอบทางเคมี:
ในผลมีน้ำมันหอมระเหยอยู่  1% - 2.5% ประกอบด้วย beta-caryophyllene (28.1%), delta-3-carene (20.2%), limonene (17%), beta-pinene (10.4%), alpha-pinene (5.8%), terpinolene, alpha-copaene, alpha-humulene, delta-cadinene, camphene  เป็นต้น และพบสาร alkaloid 5-9% โดยมีอัลคาลอยด์ piperine และ piperettine (ทำให้เกิดกลิ่นฉุนและเผ็ด) เป็นองค์ประกอบหลัก และพบอัลคาลอยด์อื่นๆ เช่น  chavicine, piperyline, piperoleines A, B, C   piperanine


Tags : สุขภาพ,อาหารเสริม,สมุนไพร
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ