หัวข้อ: วิธีวิ่งให้ไม่เหนื่อย เริ่มหัวข้อโดย: itopinter_111 ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 11:07:04 am คนไทยมักเข้าใจผิดว่าถ้าเราอ้วนหรือไม่ใช่นักกีฬาก็จะไม่สามารถวิ่งได้นานๆได้ แต่ที่จริงแล้วมีวิธีฝึกที่ไม่ยากนักในการที่จะทำให้คุณสามารถวิ่งระยะไกลหรือ Long Distance Run (LSD) จนไปถึง การวิ่งมาราธอน ได้เลย ซึ่งคุณควรจะวิ่งแบบนี้ให้เป็นเพราะการวิ่งแบบ LSD จะช่วยยกระดับร่างกายคุณให้ออกกำลังและเล่นกีฬาอื่นๆได้ดีขึ้นด้วย โดย Ohlor รวบรวมเคล็ดลับวิธีวิ่งให้ไม่เหนื่อยมาให้ฝึกดังนี้
วิธีวิ่งให้ไม่เหนื่อยทำอย่างไร จัดสภาพร่างกายให้เหมาะสมก่อนวิ่ง: สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่บางคนอาจมองข้ามไป แต่ที่จริงมันจะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการวิ่งได้มากเลยทีเดียว
ใช้รองเท้าที่ถูกต้อง: หลายคนเข้าใจผิดแล้วหยิบรองเท้ากีฬาอะไรก็ได้มาวิ่ง แต่ที่จริงแล้วรองเท้าแต่ละชนิดออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน ดังนั้นคุณควรลงทุนซื้อรองเท้าให้เหมาะกับการวิ่งระยะไกล แล้วคุณจะเห็นผลลัพท์ที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเราแนะนำให้ เริ่มจากการวิ่งช้าๆ: คุณควรฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อดังนี้ (Resistant Training) เพื่อเพิ่มพลังในการวิ่งด้วยการยกเวทต่างๆในทุกส่วนตั้งแต่ร่างกายส่วนบนจนถึงขา จำไว้ว่าการจะวิ่งเร็วนั้นคุณต้องมีกล้ามเนื้อส่วนบนที่แข็งแรงด้วย ไม่ใช่กล้ามเนื้อขาอย่างเดียว สลับเดิน วิ่ง: โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นมือใหม่ การสลับเดินวิ่งจะช่วยให้คุณสามารถค่อยๆปรับตัวและวิ่งได้นานขึ้น คุณไม่ควรหักโหมวิ่งรวดเดียวโดยไม่พักเลย เพราะท้ายสุดแล้วคุณจะเหนื่อยเกินและจะเผาผลาญพลังงานน้อยกว่าการสลับเดินวิ่งที่กินระยะนานกว่าอีก พกน้ำ: เพราะน้ำจะช่วยให้คุณสดชื่นและพร้อมกับมาวิ่งได้อีก อีกทั้งยังทำให้การเผาผลาญพลังงานคุณดีขึ้น อย่างไรก็ดีคุณไม่ควรดื่มน้ำเยอะเกินไปเพราะจะทำให้จุก ควรจิบทีละนิดเพื่อให้ดับกระหายก็พอ พักและกินระหว่างฝึก: คุณจะหยุดพักกินบ้างทุกๆ 30-60 นาทีขึ้นอยู่กับความแข็งแรง โดยคุณอาจกินผลไม้ที่ไม่หนักท้องมากเพื่อเพิ่มกำลังให้คุณวิ่งต่อได้ และคุณไม่ควรหักโหมวิ่งหนักๆไปรอบเดียว เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่เหลือพลังในการฝึกที่เหลือเลย และจะทำให้ประสิทธิภาพในการฝึกน้อยลง คุณไม่ควรจะฝึกวิ่งช้าๆแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะการฝึกวิ่งเร็วจะเพิ่มความทนทานและความแข็งแรงของหัวใจคุณได้ดีขึ้น อีกทั้งยังยกระดับความสามารถของกล้ามเนื้อคุณ และส่งผลให้คุณวิ่งได้นานด้วยในที่สุด เพิ่มความยากขึ้นทีละนิด: คุณควรค่อยๆเพิ่มระยะหรือความเร็วให้มากขึ้นทีละนิด แต่อย่าหักโหม และพยายามมีระเบียบวินับกับการฝึกให้มากที่สุด ดังนั้นคุณควรจะบันทึกการฝึกของคุณไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการของการฝึกของคุณ ฝึกอย่างสม่ำเสมอ: จำไว้ว่ามันไม่ได้สำคัญว่าคุณเป็นนักกีฬามืออาชีพหรือไม่ที่จะวิ่งได้นาน แม้ว่าคนที่เคยเป็นนักกีฬามาก่อน แต่ถ้าขาดจากการฝึกมานาน ก็จะวิ่งได้แป๊ปเดียวแล้วเหนื่อยเร็ว ดังนั้นคุณไม่ควรทิ้งช่วงการฝึกเกิน 1 สัปดาห์เพื่อให้ร่างกายคุณคงระดับความฟิตไว้ได้ สร้างสภาพแวดล้อมในการฝึก: ไม่ว่าจะเป็นการชวนเพื่อนไปวิ่งหรือออกกำลังกายอื่นๆด้วยกัน เพราะมันจะดีกว่าคุณฝึกอยู่คนเดียว นอกจากนี้หากคุณมีเพื่อนเก่งๆเข้าร่วมการฝึกด้วย มันจะก่อให้เกิดสัญชาติญาณการแข่งขันซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และมันจะทำให้คุณเก่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องสงสัยเลย
|