หัวข้อ: จำหนาย ล้อแม็ก ยางรถ คุณภาพถูกใจ มีให้เลือกสรรมากหน้าหลายตาทรง พร้อมโปรโมชั่นดีๆอีกมาก เริ่มหัวข้อโดย: iampropostweb ที่ มกราคม 22, 2015, 11:23:36 am สมัยนี้ความนิยมชมชอบในการทำสวยให้รถด้วยการใส่ล้อแม็กวงใหญ่ๆ ควบคู่ไปกับยางซีรี่ส์ต่ำๆ กำลังเป็นที่นิยมกันมาก ซึ่งเวลานี้ ปริมาตรของวงล้อนั้น "เลยเถิด ไปจนถึงระดับ 20 นิ้วขึ้นไปกันแล้ว แต่นั่นก็ถือได้ว่าเป็นเพียงการเล่นกันแค่ในโดยเจาะจงบางสังคม เพราะล้อ และ ยางขนาดที่ว่ามานั้น 1 ชุดมีราคาแพงมากเกรดที่สามารถจะซื้อหารถยนต์มือสองมาขับเล่นกันได้สบายๆ ซึ่งในระดับปกติธรรมดา ที่สามัญชน เล่นกันนั้น ก็จะอยู่ประมาณ 16-17 ไปกระทั่ง 18 นิ้ว ตามสูตร "บวกสอง" จากขนาดเป็นปกติที่ทางโรงงานให้มา ซึ่งเป็นความจุ ที่จัดว่า "เล่นได้" และให้ความสวยกับตัวรถในแบบที่คุ้มลงตัวเป็นที่สุด
หลายท่านอาจจะเคยข้องใจว่าเพราะเหตุไรต้องเรียกล้อรถที่ไม่ใช่ล้อรถเหล็กปั๊มจาก โรงงานว่า "ล้อแม็ก" นั่นก็เนื่องมาจาก "ล้อแม็ก" ในอดีตสมัยถูกผลิตขึ้นมาโดยมี "แมกนีเซียม" เป็นวัตถุดิบต้นฉบับในการผลิต เพื่อจุดมุ่งหมายในการลดความหนักเบาของ กระทะล้อ ให้เบาบาง ล้อแม็กจึงมีความหนักเบาเบากว่าล้อเหล็กแบบเดิม จากคุณลักษณะของ แม็กนีเซียม ที่เป็นโลหะน้ำหนักเบา และนั่นจึงเป็นแหล่งเกิดของคำว่า "ล้อแม็ก" ที่เรียกกัน ต่อๆ มาจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยข้อด้อยของล้อแมกนีเซียมในด้านทุนการผลิตที่แพงมาก ผนวกกับคุณลักษณะของเนื้อแมกนีเซียม ที่ง่ายต่อการผุพัง เมื่อนำมาใช้งานกับรถยนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ความชื่นชอบในตัวล้อแมกนีเซียมแท้ๆ จึงค่อยๆ จืดจางไป พร้อมกันกับการเข้ามาแทนที่ของ ล้ออลูมินั่มอัลลอย ซึ่งมีมูลค่าที่ถูกกว่า กำเนิดได้ง่ายกว่า ความก้าวหน้าของล้อแม็กนั้น ริเริ่มขึ้นในแวดวงรถแข่ง จากความประสงค์ที่จะให้กระทะล้อที่มีน้ำหนักเบา เพื่อให้ลดแรงต้าน การหมุนตัว ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งสรรพคุณปลีกย่อยต่างๆ ซึ่งถือเป็นผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือ การลดหน้าที่ให้กับระบบกันสั่นสะเทือน และ บังคับเลี้ยวซึ่งจะส่งผลให้การบังคับควบคุมรถเป็นไปได้อย่างฉับไว รถมีการตอบสนองต่อคำสั่งได้ดี และรวดเร็วทันใจขึ้น (http://www.autoyim.com/wp-content/uploads/2013/09/%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B9%258Ch.jpg) สุดท้ายก็คือ เรื่องการช่วยถ่ายเทความร้อนจากคุณค่าของตัววัตถุคือแม็กนีเซียม และ อลูมินั่มอัลลอยที่มีการอมความร้อนน้อยกว่าเหล็ก โดยจะส่งผ่านความร้อน ทั้งที่ปรากฏจากล้อยาง ถูกันกับพื้นถนนหนทางเวลาวิ่ง ตลอดจนความร้อนที่เกิดจาก การเบรคออกสู่ข้างนอก ได้เร็วกว่า กระทะเหล็กธรรมดา ซึ่งคุณค่าต่างๆ ของล้อเม็กที่กล่าวมานี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มองข้ามไป ไม่ได้ ในกลุ่มนักแข่งรถ แต่สำหรับรถที่ใช้งานบนถนนทั่วไป การเลือกสรรซื้อล้อแม็ก อาจจะคำนึงถึง ความงดงาม ขนาดรูปแบบและแผนการผลิตเป็นสำคัญก่อน โดยเรื่องความงดงามนั้น ก็ขึ้นกับ ความพอใจของแต่ละบุคคลซึ่งคนส่วนใหญ่ มักจะใช้เป็นกฏเกณฑ์ในการตัดสินใจคัดเลือกซื้อเป็นสำคัญอยู่แล้ว เรื่องขนาดก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันเพราะล้อแม็กวงโตๆ จะช่วยขับให้รถดูสวยโดดเด่นขึ้นมาโดยทันที (หากเลือกสรรซื้อได้พอดี) แต่ โปรดรับทราบว่าการใส่ล้อที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเกินไปนั้น จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เริ่มจากช่วงล่าง หรือระบบกันกระเทือนของรถยนต์ ที่ต้องรับภาระมากกว่าปกติธรรมดากินแรงของเครื่องยนต์จากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น และหน้าสัมผัสของยางที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเร่ง และ ความรวดเร็วสูงสุดของรถยนต์ลดลงไป ระยะ PCD หรือ "Pitch Circle Diameter" คือ ที่ว่างของรูน็อต ที่ตัวล้อแม็ก และดุมล้อต้องมีที่ว่างที่เสมอ มีหน่วยวัดเป็นมม. โดยส่วนมาก รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีน็อตล้อชนิด 4 รูจะมีช่วง PCD 100 มม. แต่ก็มีอีกมาก หลายรุ่นที่ใช้ค่า PCD สัดส่วนอื่นๆ อาทิเช่น 98, 108, 110, 114.3 ซึ่งต้องเลือกสรรดู ให้ดี พร้อมทั้งอีกค่าที่มีจุดสำคัญไม่ด้อยไปกว่ากันก็คือ "ค่าอ๊อฟเซ็ท" ซึ่งก็คือ ค่าที่ย้ำเตือนตำแหน่งของหน้าแปลนด้านในของล้อแม็ก ที่สัมผัสกับดุมล้อเมื่อเทียบเคียงวัดกับตรงกลางของล้อแม็กในด้านข้าง มีหน่วยเป็น มิลลิเมตร เช่นกัน ดูง่ายๆ คือ ถ้าล้อแม็กมีค่าอ๊อฟเซ็ท เป็น บวก เมื่อสวมเข้าไปแล้วล้อนั้นจะยื่นออกมาต่ำกว่าล้อแม็กที่มีค่าอ๊อฟเซ็ทเป็นลบ ซึ่งตัวแปรอีกพวกที่จะบอกว่าครั้นเมื่อใส่ล้อแม็กชุดนั้น เข้าไปแล้ว ล้อจะ "ล้น" หรือจะ "ซ่อน" เข้าไปในอุโมงค์ล้อก็คือ ความกว้างของล้อแม็ก ซึ่งเวลาจ่ายเงินก็ควรจะต้องทำการเทียบวัดให้งามเสียก่อน ตกลงใจ สนใจสั่งซื้อล้อแม็กสวยๆได้ที่ http://goo.gl/4DmmY4 Tags : ล้อแม็ก,wheelspec,maxxis,bridgestone,yokohama
|