ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: jackbaristaa ที่ มิถุนายน 20, 2017, 08:47:47 pm



หัวข้อ: รอบรู้ให้ละเอียดก่อนกินวิตามิน-อาหารเสริม 085-113-2921
เริ่มหัวข้อโดย: jackbaristaa ที่ มิถุนายน 20, 2017, 08:47:47 pm
(https://s13.postimg.org/t7w533g1j/Usana_online.jpg)
รอบรู้ให้ละเอียดก่อนกินวิตามิน-อาหารเสริม            เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงมากจนเหมือนว่าการกินอาหาร 3
มื้อจะไม่เพียงพออีกต่อไป
วิตามินและอาหารเสริมสารพัดอย่างสารพันยี่ห้อจึงวางขายกันเกลื่อน
(แถมยังขายดีมากเสียด้วย)           หากเดินเข้าไปในมุมวิตามินและอาหารเสริมของร้านขายยาสักแห่ง
เชื่อสิว่าคุณจะต้องมึนกับความหลากหลายของสินค้าในกลุ่มนี้ที่มาพร้อมกับสรรพคุณแตกต่างกัน
 นั่งคิดจนปวดหัว อ่านจนปวดตัวก็ยังไล่ไม่หมด
แต่ก่อนที่จะเลือกคว้าขึ้นมาสักกระปุก
ถามตัวเองสักนิดดีไหมว่าคุณรู้จักสิ่งที่เลือกดีแค่ไหน
และจำเป็นต้องกินจริง ๆ หรือเปล่า เมื่อไรที่ควรกินอาหารเสริม           ใช้ชีวิตแบบแย่ ๆ เช่น สูบบุหรี่จัด หรือติดแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่           กำลังตั้งครรภ์ เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน หรือร่างกายปฏิเสธอาหาร           อยู่ท่ามกลางสภาวะเป็นพิษ ภูมิต้านทานอ่อนกำลังลง สุขภาพอ่อนแอง่ายกว่าปกติ           
ก่อนจะซื้ออย่าลืมคำนึงด้วยว่าไม่มีอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับทุกคน
แต่ควรจะเลือกให้เหมาะกับตัวเองเพื่อฟื้นฟูปัญหาสุขภาพได้อย่างตรงจุด
และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย อย่าคิดว่ายิ่งกินมากย่งดี
ควรกินตามปริมาณบริโภคที่แนะนำต่อวันเท่านั้น
หากเกินปริมาณที่กำหนดไว้ก็อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้
 มารู้จักแหล่งวิตามิน-อาหารเสริมกันเถอะ           วิตามินแบ่งออกเป็นสองชนิดคือแบบที่ละลายในน้ำ ได้แก่
วิตามินซีและบี กับแบบที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค
ส่วนอาหารเสริมชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่กินเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ร่างกายอาจจะขาดหรือได้รับไม่เพียงพอ
 แต่ที่จริงวิตามินและอาหารเสริมราคาแพง ๆ
ที่เขาอัดเม็ดใส่กระปุกมานั้นต่างก็มีอยู่ทั่วไปและสามารถหากินเองได้ไม่ยาก  วิตามินเอ           ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง บำรุงสายตา สร้างภูมิต้านทานให้ระบบหายใจ ลดการอักเสบของสิวและลบเลือนจุดด่างดำ           พบได้ใน : ผักและผลไม้สีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม ตับ เนย
ไข่แดง นมสด และหอยนางรม ร่างกายคุณต้องการวันละ 900 ug
หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 3,000 ug  วิตามินบี 1           ช่วยในการทำงานของระบบประสาทหัวใจ และกล้ามเนื้อ
เพิ่มการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ถ้าขาดจะเหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ปวดกล้ามเนื้อ
 เป็นตะคริว และเหน็บชาตามมือและเท้า           พบได้ใน : ธัญพืช ข้าวซ้อมมือ ถั่วต่าง ๆ งา และขนมปัง ร่างกายคุณต้องการวันละ 1.2 มิลลิกรัม วิตามินบี 2           ช่วยในการเผาผลาญไขมันและกรดอะมิโนทริปโตฟาน
ทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของสีที่เรตินาของลูกตา
ถ้าขาดก็จะทำให้การย่อยอาหารไม่เป็นปกติ และเป็นโรคปากนกกระจอก           พบได้ใน : ยีสต์ ไข่ นมสด เนย เนื้อสัตว์ และผักใบเขียว ร่างกายคุณต้องการวันละ 1.3 มิลลิกรัม  วิตามินบี 6           ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือด สร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
และช่วยในการเผาผลาญโปรตีน รวมทั้งรักษาสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ
ถ้าขาดจะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันและโลหิตจาง           พบได้ใน : เนื้อสัตว์ ตับ ปลา กล้วย และผักต่าง ๆ ร่างกายคุณต้องการวันละ
 1.3 มิลลิกรัม หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 100 มิลลิกรัม  วิตามินบี 12           ช่วยให้ร่างกายนำไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ไปใช้ได้อย่างสมบูรณ์ สร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการทำงานของระบบประสาท           พบได้ใน : ตับ (มีวิตามินบี 12 มากที่สุด) นม ไข่ และเนย ร่างกายคุณต้องการวันละ 2.4 ug  วิตามินซี           ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก การสร้างผิวหนัง กระดูก ฟัน และคอลลาเจน หากขาดจะติดเชื้อได้ง่ายและเป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน           พบได้ใน : ผลไม้และผักสด โดยเฉพาะมะเขือเทศ ฝรั่ง และส้ม  วิตามินดี           ช่วยดูดซึมและควบคุมปริมาณแคลเซียมในร่างกาย
เสริมสร้างกระดูกและฟัน ถ้าขาดอาจปวดข้อและกระดูก ปวดเมื่อย
และเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน           พบได้ใน : ไข่ ปลา น้ำมันตับปลา นม และเนย (อาบแดดตอนเช้า ๆ สักนิดก็ได้วิตามินเหมือนกันนะ)
ร่างกายคุณต้องการวันละ 15 ug หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 100 ug  วิตามินอี           ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และกล้ามเนื้อ และป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์           พบได้ใน : น้ำมันพืช เมล็ดทานตะวัน ถั่วต่าง ๆ
ผักสีเขียวปนเหลือง และมันเทศ ร่างกายคุณต้องการวันละ 15 มิลลิกรัม
หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัม  วิตามินเค           ช่วยในการแข็งตัวของเลือดและยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูก
ถ้าขาดจะทำให้เลือดไหลไม่หยุดและส่งผลต่อระบบการดูดซึมในร่างกาย           พบได้ใน : บรอกโคลี ผักกะหล่ำ ไข่แดง น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันตับปลา ร่างกายคุณต้องการวันละ 120 ug  แคลเซียม           ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ห่างไกลโรคกระดูกพรุน ควบคุมน้ำหนักตัว และความดันโลหิต           พบได้ใน : นม เนย โยเกิร์ต ผักใบเขียว และปลาตัวเล็ก ๆ
ที่กินได้ทั้งก้าง ร่างกายคุณต้องการวันละ 1,000 มิลลิกรัม
หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 2,500 มิลลิกรัม  โอเมาก้า-3            มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาท ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล           พบได้ใน : ปลาทะเลน้ำลึกและปลาน้ำจืดบางชนิด  แนะวิธีกินวิตามินเพื่อสุขภาพ           อยากแข็งแรงต้องกินวิตามินจริงเท็จแค่ไหน มาคุยกับคุณหมอผิว
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์ผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท           การกินวิตามินเพิ่มจะไม่จำเป็นเลยหากคุณยังอายุน้อย ๆ
แค่การกินผักผลไม้หลากสีอย่างน้อย 5 กำมือต่อวัน
นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ก็พอ
แต่ถ้าคุณไม่ผ่านคุณสมบัติข้างต้น
การกินวิตามินเสริมก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม  สาว ๆ แต่ละวัยควรกินอะไรบ้าง           20+ : สาว ๆ วัยเลขสองร่างกายยังแข็งแรงไม่จำเป็นต้องกินอะไร
แต่ถ้าอยากกินจริง ๆ วิตามินรวมสักวันละเม็ดก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
(แต่เป็นเรื่องเสียตังค์)           30+ : พอขึ้นเลขสาม วิตามินรวมหนึ่งเม็ดต่อวันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรขาด
แต่ถ้าดื่มสุราหรือทำงานหนักก็ควรเพิ่มวิตามินบีรวมกับพวกสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีและคิวเทนที่จะช่วยให้การดูดวิตามินซีดีขึ้น           40+ : สาวเลขสี่จะเริ่มมีเรื่องโรคประจำตัวต่าง ๆ เข้ามา
ก็ควรเน้นพวกอาหารเสริมที่จะเข้าไปช่วยเรื่องโรคนั้น ๆ เช่น
หากมีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลก็อาจจะกินน้ำมันปลาซึ่งมีโอเมก้า-3
ซึ่งช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้           50+ : ช่วงนี้เป็นใกล้วัยหมดประจำเดือนควรระวังเรื่องกระดูก
ให้เสริมพวกแคลเซียมและวิตามินดีมาก ๆ เชื่อไหมว่าสาวไทยกว่า 1 ใน 3
กำลังขาดวิตามินดีและเสี่ยงกระดูกพรุนนะคะ  จะเลือกซื้อวิตามินอย่างไรดีคะ           1. อ่านฉลากให้ละเอียด เลือกที่มีตรา อย. รับรอง ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาก็ต้องมีตรา FDA หรือ USP           2.
วิตามินที่สกัดจากธรรมชาติจะดีและปลอดภัยกว่าพวกวิตามินสังเคราะห์และฉลากก็ควรอธิบายด้วยว่าที่บอกว่ามาจากธรรมชาติน่ะ
 สกัดมาจากอะไร           3. ที่ฉลากข้างขวดจะมีตารางโภชนาการระบุว่า RDA
หรือปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่เท่าไร
และความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ RDA
ให้เลือกแบบที่ไม่เกิน 100% ก็พอค่ะ           4. เลือกกินแค่ที่เราต้องการเท่านั้นก็พอ พวกวิตามินที่ละลายในน้ำยังไม่เท่าไร
 แต่วิตามินที่ละลายในไขมันจะสะสมในร่างกายและอาจจะกลายเป็นพิษ
ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้           5. คนที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อวิตามินมากินเอง เพราะวิตามินบางตัวอาจจะไม่ถูกกับโรคของคุณก็ได้ ต้องกิน 3 หยุด 1 เหรอคะ?           เป็นแค่ความเชื่อแต่ไม่ใช่ความจริง
น่าจะเกิดจากความกลัวว่าจะเกิดการสะสมของวิตามิน ประมาณว่ากล้า ๆ (อยากกิน)
 แต่ก็กลัว ๆ (ว่าจะมีอันตราย) แนะนำว่าสำหรับวิตามินที่ละลายในไขมันคือเอ
ดี อี และเค ควรเลือกรับประทานปริมาณต่ำ ๆ
หรือเจาะเลือดดูก่อนว่าจำเป็นต้องรับประทานหรือไม่
หรือง่ายที่สุดคือไม่ต้องรับประทาน เพราะมีโอกาสสะสมได้  กินวิตามินให้สวยช่วยได้จริงไหม           เรากินวิตามินและอาหารเสริมเพื่อความงามได้จริงหรือเปล่า
เรามาไขข้อสงสัยกับคุณหมอก้อย พ.ญ.รุจิรัตน์ วงศ์ทองศรี
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Genesis Skin Klinik ค่ะ           ถ้าการกินแล้วสวยหมายถึงกินแล้วผิวกระจ่างใสขึ้นนั้น
ก็คงจะเน้นไปที่การกินพวกแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ทำให้หน้าไม่หมอง ริ้วรอยลดลง ลดผลกระทบจากแสงแดด
แล้วก็ทำให้หน้าดูเฟิร์มขึ้นเล็กน้อยด้วย
ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินอี คิวเทน และโอเมก้า-3  Basic Set เพื่อผิวใส           เซตพื้นฐานที่สาว ๆ
สามารถซื้อกินเองได้ทั่วไปและไม่อันตรายประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินอี
และคิวเทน โดยให้กินวิตามินซีวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม วิตามินอี 100-300
หน่วย และคิวเทน 30-100 มิลลิกรัม
ที่จำเป็นต้องมีคิวเทนด้วยก็เพราะเจ้าตัวนี้จะทำให้วิตามินซีและอีทำงานได้ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น
 กินต่อเนื่องสักหนึ่งเดือนก็จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงค่ะ           อ้อ ! การเลือกวิตามินควรดูแบบที่เป็น Time Release คือจะค่อย ๆ
ปล่อยวิตามินเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย
ระดับวิตามินในร่างกายจะได้คงที่และแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่กว่า
โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในน้ำได้อย่างวิตามินซีต้องเลือกให้ดี
ไม่อย่างนั้นกินเข้าไปเดี๋ยวเดียวก็ขับออกมาทางปัสสาวะหมด (สาว ๆ
ก็จะได้ปัสสาวะราคาแพงมาแทน)  กินกลูต้าฯ-คอลลาเจนไม่ช่วยให้ขาวเด้ง           กลูต้าไธโอนเป็นสารที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
แต่สารตัวนี้แทบจะไม่ดูดซึมในกระบวนการย่อยอาหารเลย
ดังนั้นต่อให้กินเข้าไปมากมายขนาดไหน ผิวก็จะไม่เปลี่ยนสีจากการกินกลูต้าฯ
หรอกค่ะ เสียเงินเปล่า ๆ           ส่วนคอลลาเจนก็ยิ่งไม่เกี่ยวข้องเลย
ไม่ว่าจะกินแบบผสมในเครื่องดื่มหรือแบบอัดเม็ด
บางคนกินแล้วรู้สึกดีอาจจะเป็นเพราะน้ำตาลหรือสารตัวอื่นที่เขาใส่เข้าไปโดยไม่ได้โฆษณา
 หรือไม่ก็เป็น Placebo Effect (อารมณ์เหมือนจิตนำกาย
พอเราเชื่อว่ากินแล้วดีร่างกายเราก็ดีไปด้วย)
ร่างกายของเราจะสร้างคอลลาเจนได้เอง
ซึ่งการกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นได้มีแต่ต้องใช้เลเซอร์เท่านั้น  วิตามินมากมายจำไม่ไหว มัลติวิตามินก็เป็นตัวเลือกที่ดี           วิตามินรวมหรือมัลติวิตามินจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ
ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันในปริมาณที่พอเหมาะอยู่แล้ว ทำให้สาว ๆ
สามารถกินได้โดยไม่ต้องมานั่งคำนวณว่าตัวเองขาดแร่ธาตุอะไรเท่าไร
ส่วนมากจะมีส่วนประกอบหลักคือแคลเซียมและธาตุเหล็ก            แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิตามินรวมของแต่ละยี่ห้อก็แตกต่างกันไป
ต้องอ่านข้างกล่องให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ อ้อ !
ถ้ากลัวว่าวิตามินรวมจะมีวิตามินหลากชนิดเกินจำเป็น
วิตามินบีรวมหรือบีคอมเพล็กซ์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
เพราะส่วนมากวิตามินที่เรากินได้ไม่ครบก็คือวิตามินบีนี่แหละ   เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย   คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ 
 ขอขอบคุณข้อมูลจาก ลิซ่า ไลน์มาคุยกันนะคะ
 http://line.me/ti/p/fg4pqAAlQz
 โทร. 085-113-2921
 idline :maisrina
 https://www.facebook.com/Usana-online-784835601679076/
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ