หัวข้อ: โรคเบาหวานกับน้ำตาล ฆาตกรต่อเนื่องสู่โรคร้ายที่ใครก็ไม่อยากเป็น เริ่มหัวข้อโดย: Saiswatka ที่ มิถุนายน 28, 2017, 12:31:09 pm โรคเบาหวานกับน้ำตาลฆาตกรต่อเนื่องสู่โรคร้ายที่ใครก็ไม่อยากเป็น
ขนมหวานหน้าตาสวยงาม (เหมาะแก่การถ่ายรูป) ที่ใครๆ เขาว่าช่วยคลายเครียดได้อาจจะทำให้คุณเครียดมากกว่าเดิมถ้าทานมากเกินไป เพราะศัตรูตัวร้ายทำลายสุขภาพและเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคต่างๆคือ “น้ำตาล” ที่เป็นส่วนผสมหลักของขนมหวานยอดฮิต โรคเบาหวาน เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างจากตับอ่อนมีหน้าที่นำน้ำตาลที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไปเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อส่งไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ถ้าเราบริโภคน้ำตาลเข้าไปเยอะๆ ตับอ่อนก็จะต้องผลิตอินซูลินออกมาในปริมาณมากแต่เมื่อมากเกินไปจนเกินที่ร่างกายต้องการเรียกว่าเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานมากจนใช้ไม่หมดไม่มีที่จะเก็บแล้ว (แน่นอนว่าคุณจะเกิดโรคอ้วนขึ้นด้วย) ตับอ่อนที่ทำงานหนักมาตลอดก็จะไม่อยากผลิตอินซูลินแต่จะทำยังไงล่ะ? ในเมื่อร่างกายยังต้องการจะใช้พลังงานการรักษาด้วยการฉีดอินซูลินเข้าไปจึงเกิดขึ้นเมื่อฉีดไปเรื่อยๆ ร่างกายก็เหมือนถูกบังคับนานๆ เข้าร่างกายก็จะเกิดการจะต่อต้านอินซูลิน ทำให้ไม่มีพลังงานไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆส่งผลไปถึงสมองทันที กลายเป็นโรคพาคินสัน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท ส่วนคำว่าเบาหวาน เกิดจากการที่ฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติทำให้มีน้ำตาลสะสมในกระแสเลือดสูง ต้องขับออกทางไต ส่งผลให้ปัสาวะมีรสหวาน(จากน้ำตาลที่ขับออก)กลายเป็นที่มาของคำว่าโรคเบาหวานนั่นเอง โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่มักเกิดคู่กับโรคเบาหวาน ซึ่งความดันจะมีผลเกี่ยวเนื่องกับการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดเมื่อมีความดันสูงหัวใจก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะเมื่อหลอดเลือดมีแรงต้านมากขึ้นหัวใจก็จะบีบตัวแรงขึ้นเมื่อมีแรงมากเลือดก็จะไปกระแทกผนังหลอดเลือดทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหาย ทำให้ร่างกายต้องซ่อมแซมด้วยสารที่มีส่วนประกอบของไขมัน เลือด และแคลเซียมแต่เมื่อเกิดการซ่อมแซมบ่อยๆ เข้าหลอดเลือดก็ยิ่งแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆเพราะมีสารที่ร่างกายเอามาซ่อมเข้าไปพอกบริเวณที่เสียหาย เมื่อหลอดเลือดแข็งตัวขึ้นหัวใจก็บีบแรงขึ้นอีกการซ่อมแซมก็เกิดขึ้นอีก วนเป็นวัฏจักรจนผนังหลอดเลือดเกิดหนาขึ้นด้วยสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาซ่อมแซมทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหายไปเรื่อยๆ หลอดเลือดส่วนไหนทนไม่ไหวก็จะเกิดการแตกพอกไขมันก็หนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวานเป็นตัวการที่จะเร่งให้เกิดการเสื่อมของหัวใจหลอดเลือดทั่วร่างกายและเมื่อหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจเสื่อมสภาพจากเบาหวาน ประกอบกับการมีไขมันในเลือดสูง ก็จะส่งผลให้มีการตีบของหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เกิด โรคหัวใจขาดเลือดแต่หากหลอดเลือดเกิดอุดตัน ก็จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคนิ่วในไตและถุงน้ำดี ผู้ที่มีภาวะอ้วนและในผู้ป่วยเบาหวานมักจะพบนิ่วในถุงน้ำดีเนื่องจากน้ำตาลปริมาณสูงที่สะสมในกระแสเลือดจะทำให้เลือดมีความเป็นกรดสูง (เมื่อไปจับตัวกับแคลเซียมจะเกิดนิ่วในไตได้อีก)ซึ่งจะเกิดการก่อตัวของยูริคแอซิดเพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระ แต่เมื่อยูริคแอซิดไปจับตัวกับแคลเซียมก็จะทำให้เกิดนิ่วในไตและถุงน้ำดี หรือเมื่อไปตกผลึกตามข้อก็ทำให้เป็นโรคเก๊าต์ได้อีกด้วย อ่านกันมาถึงตรงนี้คุณคงไม่ปฏิเสธว่าน้ำตาลปริมาณมากๆ นั้นคือตัวการทำลายสุขภาพอย่างแท้จริง แต่ก็ใช่ว่า “น้ำตาล” จะมีแต่โทษเพียงอย่างเดียว น้ำตาลจากธรรมชาติหลายชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายเพียงแค่ “เลือก” และ “รับประทาน” ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโรคร้ายแค่ไหนก็หมดสิทธิ์จะเข้าใกล้คุณแล้วละ MW-Wellness & Clinic แพทย์บูรณาการ realintegrativemedicine MW-Wellness &Clinic แพทย์บูรณาการ realintegrative medicine http://mw-wellness.com/
|