ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: mc.hammer ที่ กันยายน 03, 2017, 08:02:21 pm



หัวข้อ: พระป่าและวัดป่าของไทย ปัจจัยสี่ของพระป่า กิจวัตรประจำวันของพระป่า
เริ่มหัวข้อโดย: mc.hammer ที่ กันยายน 03, 2017, 08:02:21 pm
พระป่าและวัดป่าของไทย ปัจจัยสี่ของพระป่า กิจวัตรของพระป่า
ภิกษุในพระพุทธศาสนาแบ่งออกได้เป็นสองฝ่ายเป็น ฝ่ายคันถธุระและฝ่ายวิปัสสนาธุระ ข้างคันถธุระ เรียนพระปริยัติธรรม คำอบรมสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้กำเนิดความรู้ในหลักธรรม เพื่อนำไปกระทำปฏิบัติ และสอนผู้อื่นต่อไป ภิกษุข้างนี้เมื่อศึกษาแล้วจะเกิดสติปัญญาที่เรียกว่า สุตตามยปัญญา เป็นปัญญาด้านการเรียนทราบจากภายนอกโดยการฟังการเห็นฯลฯ โดยมากพระภิกษุข้างคันถธุระ ชอบอยู่ที่วัดในเมืองหรือหมู่บ้าน เพื่อความสบายในการเสาะหาความรู้เพื่อตัวเองจากแหล่งวิชาความรู้ต่างๆและได้ใช้ความรู้นั้นๆสอนคนอื่นได้ง่าย ได้บ่อยมากและก็ได้จำนวนมาก ก็เลยเรียกพระภิกษุฝ่ายนี้อีกอย่างหนึ่งว่าเป็นฝ่ายค้างมวาสี หรือพระบ้าน
อีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่าฝ่ายวิปัสสนาธุระ นำเอาพระธรรมคำอบรมสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปกระทำปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เป็นจริงเป็นจังโดยย้ำที่การฝึกฝนจิตในด้านสมาธิ เพื่อเกิดปัญญาในลักษณะของภาวนามยปัญญา อันเป็นความรู้ที่แท้จริงตามหลักของพุทธศาสนา เป็นปัญญาที่เกิดขึ้นจากภายในผุดเกิดขึ้นเองเมื่อได้ปฏิบัติสัมมาสมาธิ จนกระทั่งระดับหนึ่งคือ จตุๆตถสมาธิ แล้วทำในใจให้แยบยลน้อมไปไปสู่ที่ใต้ต้นวิชชาสาม ซึ่งจะเป็นความรู้ตามความจริงในระดับหนึ่ง ตามกำลังความรู้ความเข้าใจของผู้ปฏิบัตินั้นๆอันเป็นวิถีทางนำมาซึ่งความหลุดพ้นจากสังสารวัตร ซึ่งเป็นเป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวมาแล้วข้างต้นต้องหาที่สงบเงียบ ห่างไกลต่อการรบกวนจากข้างนอกในรูปแบบต่างๆด้วยเหตุนี้พระภิกษุฝ่ายนี้ก็เลยออกไปสู่ชายป่า แสวงหาสถานที่ เพื่อให้เกิดสัปปายะแก่ตนเองที่จะบำเพ็ญสมาธิภาวนาอย่างสำเร็จ ก็เลยเรียกภิกษุข้างนี้ว่า ฝ่ายอรัญวาสี หรือพระป่า หรือพระธุดงค์
ในสมัยพุทธกาล ภิกษุทุกรูปจะเป็นพระป่า พระผู้มีพระภาคสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำชับให้ภิกษุสาวกของท่าน ให้ออกไปสู่โคนไม้ คูหาหรือเรือนร้าง เพื่อปฏิบัติสมาธิภาวนา พระพุทธเจ้าประสูติในป่า คือที่ป่าลุมพินีวัน ณ เขตติดต่อดินแดนระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ตรัสรู้ที่ใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ์ ในป่าริมฝั่งแม่น้ำเนรัญเฒ่า ตำบลใหญ่เวลาเสนานิคม เขตกรุงสาวัตถี แคว้นมคธ ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตรที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงกรุงพาราที่สี และก็เข้าสู่ตายที่ป่าในเขตกรุงกุสิที่นาราย ตลอดเวลา ๕๑ ปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงจาริกไปสั่งสอนเวไนยสัตว์ และเสด็จประทับอยู่ในป่า เมื่อมีบุคคลที่เลื่อมใสศรัทธาสร้างวัดมอบก็จะสร้างวัดในป่า ดังเช่นว่า เชตวัน เวฬุวัน อัมพวัน ลัฏฐิวัน ชีวกัมพวัน มัททกุจฉิสัตว์ป่าทายวัน อันธวัน แล้วก็นันทวัน เป็นต้น คำว่าวันแสดงว่าป่า พระพุทธองค์จะประทับอยู่ในวัดดังกล่าวตอนช่วงปี ปีหนึ่งไม่เกินสี่เดือน ยิ่งไปกว่านั้นจะเสด็จจาริกนอนตามโคนไม้ตามป่า
 
(http://www.doisaengdham.org/images/column_1347440458/image013.jpg)
   
พระป่าของไทย

พระป่าของไทย เป็นพระที่อยู่ตามธรรมชาติเหมือนกับ พระบรมศาสดาผู้วิเศษตสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็พระสาวกตั้งแต่สมัยพุทธกาล เป็นคนที่บวชอุปสมบทถูกต้องครบบริบรูณ์ตามพระธรรมวินัย ไม่ผิดกฏหมายของบ้านเรือน บวชด้วยความเคารพนับถืออย่างเปี่ยมล้นแล้วก็บริสุทธิ์ใจในบวรพุทธศาสนา เมื่อบวชแล้วก็จริงจังบำเพ็ญมานะ ตามหลักพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้บรรลุธรรม อันนำไปสู่การพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ทำให้พ้นจากกองทุกข์ อันเป็นจุดมุ่งหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา
ในยุคจังหวัดสุโขทัยสม่ำเสมอมายังสมัยอยุธยา พวกเรามีพระภิกษุสงฆ์ข้างคามวาสี เน้นย้ำทางด้านคันถธุระแล้วก็ข้างอรัญวาสีเน้นทางด้านวิปัสสนาธุระ ดังจะเห็นได้ในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยสมเด็จพระพระราชามหาราช ครั้งที่ทำการศึกยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแม่ทัพเมียนมาร์ ได้ชัย แต่แม่ทัพนายกองผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยทำการบกพร่องได้รับการใคร่ครวญโทษ สมเด็จพระเนาวรัตน์ที่วัดป่าแก้วและภาควิชา ได้เสด็จมาแสดงธรรมเพื่อให้ทรงให้อภัยประหารแก่ แม่ทัพนายกองเหล่านั้น โดยชูเอาเรื่องราวตอนที่พระพุทธเจ้าผจญพญามาร ในคืนวันที่ จะทรงหยั่งรู้มาเป็นตัวอย่าง สมเด็จพระกษัตริย์มหาราชทรงดีใจชื่นชมโสมนัส ปลื้มปิติในพระธรรมที่สมเด็จพระนพรัตน์วัดป่าแก้ว ทรงแสดงยิ่งนักตรัสว่า "พระผู้เป็นเจ้าว่านี้ควรหนักหนา" รวมทั้งได้ทรงพระราชทานอภัยโทษประหารแก่แม่ทัพนายกองเหล่านั้น
จะมีความคิดเห็นว่าสมเด็จพระเนาวรัตน์วัดป่าแก้ว เป็นพระภิกษุฝ่ายอรัญวาสี ก็เลยได้ชื่อนี้แล้วก็อยู่ที่วัดป่า แต่ก็มิได้ตัดขาดจากโลกด้านนอก เมื่อมีสถานะการณ์สำคัญที่ข้างพระสงฆ์เหมาะสมที่จะออกมาเกื้อหนุนข้างชาติบ้านเมือง หรือบางครั้งก็อาจจะกล่าวโดยรวมว่า ข้างศาสนจักรช่วยเหลือฝ่ายอาณาจักร ท่านก็สามารถปฏิบัติธุระนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างผู้ที่ชำนาญในพระไตรปิฎก เพราะฉะนั้น พระสงฆ์ข้างอรัญวาสีผู้ปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ต้องมีวิชาความรู้ทางคันถธุระอย่างดีเยี่ยมมาก่อน จะได้ปฏิบัติวิปัสสนาธุระได้อย่างแม่นยำตรงทาง คุณสมบัติข้อนี้ได้มีตัวอปิ้งมาแล้วแต่สมัยโบราณ
ในสมัยรัตนโกสินทร์ มีพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นแบบอย่างของพระป่าในตอนนี้ มีชื่อเสียงกันดีคือ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท จันทร์) สมัยก่อนเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ (สะพานขั้นเส) หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล รวมทั้งหลวงปู่มั่น ความฉลาดทัตโคลนหาเถระ ทั้งสามท่านมีเสียงยกย่องเป็นที่เลื่องลือ ในดินแดนแห่งพุทธศาสนาฝ่ายทักษิณนิกาย อีกทั้งในประเทศไทย ประเทศลาว แล้วก็ประเทศพม่า สำหรับหลวงปู่มั่น ความฉลาดทัตโคลนหาเถระ เป็นพระภิกษุที่มีลูกศิษย์เป็นพระป่าเยอะที่สุดตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ท่านได้บวชอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ เมื่อปี พุทธศักราช๒๔๓๖ และตาย เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๙๖ นับตั้งแต่ปี พุทธศักราช๒๔๖๐ จนกระทั่งมรณภาพท่านได้ออกสั่งสอนลูกศิษย์เยอะมากๆ ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงลำดับสูงสุด โดยเน้นภาคปฏิบัติที่เป็นจิตภาวนาล้วนๆตามวิถีทางพระอริยมรรคมีองค์แปด เมื่อกล่าวโดยสรุปอาทิเช่น ไตรสิกขาเป็นศีล สมาธิ ปัญญา
ปัจจัยสี่ของพระป่า
เหตุที่จำเป็นสำหรับพระสงฆ์ในพุทธศาสนา เพื่อเหมาะสมแก่การดำเนินชีวิตอยู่สำหรับในการเจริญภาวนา พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้สี่อย่าง พระป่าของไทยได้เอามาปฏิบัติปฏิบัติจนกระทั่งนับว่าเป็นนิสัยคือ
๑. การออกเที่ยวบิณฑบาตมาดำรงชีวิตตลอดชีวิต การบิณฑบาตเป็นงานสำคัญประจำชีวิต ในอนุศาศน์ท่านสอนไว้มีทั้งข้อรุกขมูลเสนาสนะ และก็ข้อบิณฑบาต การออกบิณฑบาต พระผู้มีพระภาคทรงนับว่าเป็นกิจจำเป็นจะต้องประจำท่าน ทรงถือปฏิบัติเพื่อโปรดเวไนยสัตว์อย่างสม่ำเสมอตลอดมาถึงวันตาย การบิณฑบาต เป็นกิจวัตรที่อำนวยประโยชน์แก่ผู้บำเพ็ญเป็นเอนกปริยาย พูดอีกนัยหนึ่ง เวลาเดินบิณฑบาตไปในบ้านใกล้เรือนเคียง ก็เป็นการบำเพ็ญพยายามไปในตัวตลอดเวลาที่เดิน เหมือนกันกับเดินจงกรมอยู่ในสถานที่พักอย่างหนึ่ง เป็นการแปลงอิริยาบถในตอนนั้นอย่างหนึ่ง ผู้ที่บำเพ็ญทางสติปัญญาโดยบ่อย เมื่อเวลาเดินบิณฑบาต เมื่อได้มองเห็นหรือได้ยินสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาสัมผัสทางทวารย่อมเป็นเครื่องเสริมสติปัญญา และก็ถือเอาผลดีจากสิ่งนั้นๆได้โดยลำดับอย่างหนึ่ง เพื่อตัดความขี้คร้านของตนที่ชอบแม้กระนั้นผลสิ่งเดียว แม้กระนั้นขี้เกียจคร้านทำเหตุที่คู่ควรแก่กันอย่างหนึ่ง และก็เพื่อตัดทิฏฐิพยายามถือตน รังเกียจต่อการโคจรบิณฑบาต อันเป็นรูปแบบของการเป็นผู้ขอ เมื่อได้อะไรมาจากบิณฑบาตก็ฉันอย่างนั้น พอยังอัตภาพให้เป็นไป ไม่พอกพูนเกื้อหนุนกายให้มากมาย อันจะเป็นศัตรูต่อความเพียรพยายามทางใจให้รุ่งโรจน์ไปได้ยาก การฉันหนเดียวในหนึ่งวันก็ควรจะฉันเถิดแม้กระนั้นพอควร ไม่ให้มากเกินความจำเป็น และยังต้องดูเพราะอาหารชนิดใดเป็นคุณแก่ร่างกาย แล้วก็เป็นคุณแก่จิต เพื่อให้สามารถปฏิบัติสมาธิภาวนาได้ด้วยดี
๒. การถือผ้าบังสุกุลจีวรตลอดชีพ ในยุคพุทธกาล พระผู้มีพระภาคทรงเชิดชูพระมหากัสสปะว่า เป็นผู้เยี่ยมสำหรับเพื่อการทรงผ้าบังสุกุลเป็นความประพฤติ ผ้าบังสุกุล เป็นผ้าที่ถูกทอดทิ้งไว้ตามป่าช้า ตัวอย่างเช่นผ้าห่อศพ หรือผ้าที่ทิ้งไว้ตามกองขยะ ซึ่งเป็นของเศษเดนทั้งหลายแหล่ ไม่มีใครหวงแหน พระสงฆ์เอามาเย็บต่อเนื่องกันตามขนาดของผ้าที่จะทำเป็นสบง ผ้าจีวร สังฆาฏิ ได้ราวๆแปดนิ้วจัดเป็นผ้ามหาบังสุกุล ผ้าบังสุกุลอีกชนิดหนึ่งที่ด้อยกว่าลงมา คนที่มีจิตศรัทธานำผ้าที่ตนได้มาด้วยความบริสุทธิ์ไปวางไว้ภายในสถานที่พระภิกษุเดินจงกรมบ้าง ที่กุฎีบ้าง หรือทางที่ท่านเดินผ่านไปๆมาๆ แล้วหักกิ่งไม้วางไว้ที่ผ้า หรือจะจุดธูปเทียนไว้ พอให้ท่านรู้ว่าเป็นผ้าถวายเพื่อบังสุกุลเพียงแค่นั้น
๓. รุกขมูลเสนาสนัง ถือการอยู่โคนไม้ในป่าเป็นที่พักที่อาศัย มหาบุรุษพระพุทธเจ้าก่อนทรงรู้แจ้งในระหว่างที่แสวงหาโมกข์ธรรมอยู่หกปี ก็ได้มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างงี้โดยตลอด เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์จึงทรงชี้แนะพระสาวกให้เน้นการอยู่ป่าเป็นส่วนมาก จำทำให้การกระทำธรรมเจริญรุ่งเรืองกว่าการอยู่ที่อื่นๆ
๔. การฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่าทั้งชีวิต เป็นการฉันยาตามมีตามได้ หรือท่องเที่ยวสืบหายาตามชายเขา อันกำเนิดตามธรรมชาติเพื่อบรรเทาเวทนาของโรคทางกายเพียงแค่นั้น
 
(http://muangrayong.com/wp-content/uploads/2013/01/21.jpg)
   
กิจวัตรของพระป่า
[/size][/b]
กิจวัตรประจำวันที่สำคัญในพุทธศาสนา เป็นแถวปฏิบัติของพระป่า ที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำมีอยู่สิบประการคือ
๑. ลงโบสถ์ในอาวาสหรือที่ไหนๆมีพระภิกษุสงฆ์ตั้งแต่สี่รูปขึ้นไป ต้องสัมมนากันลงฟังพระขว้างฏินิพพาน ทุก ๑๕ วัน (ครึ่งเดือน)
๒. บิณฑบาตเลี้ยงชีพตลอดชีพ
๓. ทำวัตรสวดมนต์ ยามเช้า - เย็นทุกวี่ทุกวัน เว้นแต่ว่าเจ็บไข้อาการหนัก พระป่าจะทำวัตรสวดมนต์ไหว้พระเอง ไม่ได้ประชุมรวมกันทำวัตรสวดมนต์เหมือนพระบ้าน
๔. ปัดกวาดเสนาสนะ อาวาส ลานพระเจดีย์ ลานวัดรวมทั้งบริเวณใต้ต้นมหาโพธิ์ ถือเป็นกิจวัตรสำคัญ เป็นเครื่องมือขจัดความขี้คร้านมักง่ายได้เป็นอย่างดี พระระเบียบได้แสดงอานิสงค์ไว้ห้าประการ หนึ่งในห้าประการนั้นเป็น ผู้กวาดชื่อว่าเป็นผู้ดำเนินตามคำสั่งสอนของพระศาสดา แล้วก็ถ้าหากตายเนื่องจากว่าทำลายหมวดก็ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
๕. รักษาผู้สามครอบครองเป็น สังฆาฏิ จีวรและสบง
๖. อยู่ปริวาสบาป
๗. โกนผม โกนหนวด ตัดเล็บ
๘. ศึกษาเล่าเรียนสิกขาบทรวมทั้งปฏิบัติอาจารย์
๙. แสดงอาบัติคือ การเปิดเผยโทษที่ตนทำผิดพระวินัยที่เป็นลหุโทษ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งให้ทราบและสัญญาว่าจะสำรวมระวังมิให้เกิดทำผิดแบบนั้นอีก
๑๐. พิจารณาปัจจเวกขณะทั้งสี่ ด้วยความไม่ประมาทหมายถึงพินิจพิเคราะห์สังขาร ร่างกาย จิตใจ ให้เป็นของไม่เที่ยงถาวรที่ดีงามได้ยาก ให้เห็นเป็นไม่แน่นอน ทุกขัง อนัตตา เพื่อเป็นอุบายทางปัญญาอยู่ตลอดระยะเวลาในอิริยาบถทั้งยังสี่เป็นยืน เดิน นั่ง นอน
ธุดงค์วัตรของพระป่า
 ธุดงค์ที่พระผู้มีพระภาคให้ปฏิบัติเพื่อขจัดกิเลสที่ฝังอยู่ภายใจจิตใจของปุถุชน มีอยู่ ๑๓ ข้อ ดังนี้

๑. ปังสุกูลิกังคะ ถือใช้แต่ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร

๒. เตจีวริกังคะ ถือใช้ผ้าเพียงสามผืนเป็นวัตร

๓. ปิณฑปาติกังคะ ถือการเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร

๔. สปทานจาริกังคะ ถือการเที่ยวบิณฑบาตไปตามแถวเป็นวัตร เพื่อเป็นความงามในเพศสมณะในทางมรรยาท สำรวมระวังอยู่ในหลักธรรม หลักวินัย

๕. เอกาสนิกังคะ ถือการฉันมื้อเดียวเป็นวัตร เพื่อตัดกังวลในเรื่องการฉันอาหารให้พอเหมาะกับเพศสมณะให้เป็นผู้เลี้ยงง่าย ไม่รบกวนคนอื่นให้ลำบาก

๖. ปัตตปิณฑิกังคะ คือฉันเฉพาะในบาตรเป็นวัตร ฉันเฉพาะในบาตร เพื่อขจัดความเพลิดเพลินในรสอาหาร

๗. ขลุปัจฉาภัตติกังคะ ถือการห้ามฉันภัตอันนำมาถวายเมื่อภายหลังเป็นวัตร

๘. อารัญญิกังคะ ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร

๙. รุกขมูลิกังคะ ถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร ข้อนี้ตามแต่กาลเวลาและโอกาสจะอำนวยให้

๑๐. อัพโภกาลิกังคะ ถือการอยู่ในที่แจ้งเป็นวัตร ข้อนี้ก็คงตามแต่โอกาส และเวลาจะอำนวยให้

๑๑. โสสานิกังคะ ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติให้เหมาะกับเวลาและโอกาส

๑๒. ยถาสันถติกังคะ ถือการอยู่เสนาสนะแล้วแต่เข้าจัดให้ มีความยินดีเท่าที่มีอยู่ไม่รบกวนผู้อื่น อยู่ไปพอได้บำเพ็ญสมณธรรม

๑๓. เนสัชชิกังคะ ถือการ ยืน เดิน นั่ง อย่างเดียว ไม่นอนเป็นวัตร โดยกำหนดเป็นคืนๆ ไป

Tags : พระป่า,วัดป่า
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ