ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: teareborn ที่ กันยายน 13, 2017, 05:56:47 pm



หัวข้อ: ลูทีน (Lutein) คืออะไร?
เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ กันยายน 13, 2017, 05:56:47 pm

(https://www.uppic.org/image-38C0_59AFA176.jpg)[/size]
ขายลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา
ขายลูทีน การมองเห็นถือเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่มีความจำเป็นต่อมนุษย์พวกเราเป็นอย่าง ยิ่ง และอวัยวะที่เป็นตัวรับภาพต่างๆจากข้างนอกให้พวกเราได้รับทราบก็คือดวงตา กลไกสำหรับในการมองเห็นก็คือ เมื่อมีแสงสว่างตกกระทบกับวัตถุ แสงสว่างขายส่งลูทีนจะสะท้อนไปสู่ดวงตาเราผ่านกระจกตา รูม่านตา แก้วตา และก็ไปตกที่จอสำหรับรับภาพตาในรูปแบบของภาพหัวกลับแล้วจึงถูกส่งไปแปลเป็นภาพที่พวกเรา เห็นจริงในระบบประสาทส่วนท้ายทอย สารอาหารจำเป็นจะต้องสำหรับดวงตา ขายลูทีนมีอยู่หลายชนิด ร่วมกันหมายถึงวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงสารอาหารที่มีการค้นคว้าอย่างกว้างขวางว่าเป็นประโยชน์กับดวงตาโดยตรงก็ คือ ลูทีน และ ขายลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)เป็นสารธรรมชาติที่มีในผักผลไม้หลายอย่าง เป็นสารในเชื้อสายของสารแคโรทีนอยด์ และเจอได้ในบริเวณดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงรอบๆเลนส์ตารวมทั้งจอภาพตาในธรรมชาติแม้ว่าจะมีแคโรทีนอยด์ มากกว่า 600 จำพวก แต่มีเพียงแค่สาร 2 ประเภทนี้แค่นั้น ที่เจอในจุดรับภาพของจอตา สารทั้งสองประเภทนี้จะปฏิบัติภารกิจช่วยกรองหรือคุ้มครองปกป้องขายลูทีนรังสีจากแดดที่เป็น อันตรายต่อดวงตา รวมทั้งช่วยปกป้องเซลล์ของหน้าจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ โดยเหตุนั้น จึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว ดังนั้นผู้ใดกันแน่ที่อยากถนอมสายตาไว้ ใช้งานนานๆก็จำต้องกินผักและก็กินผลไม้ สีเหลือง แล้วก็สีเขียวเข้มมีการขายลูทีนทั่วๆไป รวมทั้งยังมีแหล่งที่เจอ ลูทีน และก็ ซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกจาก จะพบได้ทั่วไปในดอกดาวเรือง แล้วก็โกจิเบอร์ปรี่(เก๋ากี้) แล้ว ยังพบใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บรอกวัวลี ข้าวโพด ไข่ แครอท ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขม แตงร้านทั้งเปลือก ซูกินีทั้งเปลือก ถั่วแขก อะโวคาโด มัสตาร์ด ฟักทอง ฯลฯการบริโภคผักที่มีการรับผลิตลูทีนและก็ชีแซนทีน หรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีประโยชน์สำคัญนี้ ก็เลยมีสาระอย่างยิ่งต่อร่างกายของดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลายแบบด้วยกัน ที่สำคัญเป็น โรคต้อกระจก แล้วก็โรคจุดรับภาพเสื่อมโดยสรุปแล้ว ลูทีน (Lutein) จะช่วยทำให้ตาแข็งแรง ปกป้องประสาทตาเสื่อม สร้างเสริมการมองเห็นโดยช่วยคุ้มครองการเสื่อมของ Macular ที่จุดเล็กๆตรงกลางของที่รับแสงในตา (Retina) อันเป็นส่วนสาคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงสว่างของตา ปกป้องขายส่งลูทีนไม่ให้แสงแดดทำลายเรตินา คุ้มครองปกป้องโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือหน้าจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Macular Degeneration) ช่วยคุ้มครองแคปซูลลูทีนและลดอาการโรคต้อกระจก (Cataracts) ต้านทานอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของตา และก็เพิ่มสมรรถนะสำหรับเพื่อการมองเห็นได้ดิบได้ดีในที่มืดได้ดิบได้ดีขึ้น
    ขายลูทีน การกินสารในกลุ่มแคโรทีนในจำนวนที่สูงที่สุดจะมีอัตราเสี่ยงน้อยกว่าปริมาณร้อยละ 43 สำหรับสภาวะการเสื่อมของจอประสาทตาตามอายุอย่างฉับพลัน เมื่อเปรียบเทียบการรับประทานในปริมาณที่ต่ำที่สุด จากการเรียนรู้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 876 คนซึ่งแก่ ระหว่าง 55-80 ปี การได้รับลูทีนรวมทั้งซีซานทีน ในอัตราสูงจะช่วยลดความเสี่ยงของหน้าจอประสาทตาเสื่อมอย่างกระทันหันได้
ส่วนประกอบสำคัญ
 

ทอลีน
 
เบต้าแคโรทีน
 
วิตามิน บี2
 
สารสกัดบิลเบอร์รี่
 
สารสกัดดอกดาวเรือง (มีลูทีนและซีแซนทีน)
 
สารสกัดใบแปะก๊วย

ขายส่งลูทีน จำหน่ายลูทีน แคปซูลลูทีน รับผลิตลูทีน ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)
สรรพคุณลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ทำหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด
 และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด
 และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตาช่วยให้ดวงตาแข็งแรง
 ป้องกันประสาทตาเสื่อม
สรรพคุณอื่นๆ
สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
เถาวัลย์เปรียงตามตำราไทยว่าทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง แก้เส้นเอ็นทุพพลภาพ แล้วก็แก้ลักษณะของการปวดปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งประชาชนประยุกต์ใช้เป็นยารักษาทุเลาลักษณะของการปวดเมื่อยล้าร่างกายมานานแล้วรับขายลูทีน
ตำรายาพื้นบ้าน: ใช้เถา ขับปัสสาวะ แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำดื่มแก้เมื่อย แก้เส้นเอ็นทุพพลภาพ แก้เมื่อยขบในร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา ต้มกินถ่ายเส้น ถ่ายกษัย แก้เส้นเอ็นขอด ถ่ายเสมหะ ไม่อึรับผลิตลูทีนเหมาะที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กได้ดี แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง ขับปัสสาวะ แก้เยี่ยวทุพพลภาพ บางตำราเรียนขายส่งลูทีนพูดว่าทำให้มีพอดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
o เป็นสมุนไพรที่มีการประยุกต์ใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นองค์ประกอบเพิ่มจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่อต้องการอบเพื่อรักษาอาการปวดปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว ฯลฯ
o เถามีรสขื่นแคปซูลลูทีนเบื่อ ใช้ต้มกินเป็นยาขับฉี่ แก้ฉี่ผิดปกติ แก้ปัสสาวะกระปริบกะพรำ ส่วนรากมีรสเฝื่อนเบื่อมีสรรพคุณเป็นยาขับฉี่รับผลิตลูทีนด้วยเหมือนกัน (เถา,ราก)และยังมีข้อมูลกล่าวว่าการใช้สมุนไพรประเภทนี้จะทำให้ฉี่ได้บ่อยกว่าปกติ ก็เลยอาจขายลูทีนมีคุณประโยชน์ต่อคนไข้ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย
o คนสมัยเก่าจะนิยมใช้เถาของเถาวัลย์เปรียงเพื่อเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรี (อาการตกขาวชนิดที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว) (เถา)
o เถามีสรรพคุณสำหรับเพื่อการบีบมดลูก (เถา)ขายเห็ดหลินจือ
แบบ ขนาดการใช้ บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชียาจากสมุนไพร 2556 ยาปรับปรุงจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อแล้วก็กระดูก ระบุรับผลิตลูทีนรูปแบบและขนาดวิธีการใช้ยาดังนี้

  • ขับเลือดเสียของสตรี ด้วยการใช้เถาวัลย์เปรียงทั้งยังห้าแบบสดๆเอามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มต่างน้ำ (ทั้งห้า)แคปซูลลูทีน
  • ทำให้มดลูกเข้าอู่ ด้วยการใช้เถาสดเอามาทุบให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนพุง แล้วนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
  • ใช้เถานำมาหั่นตากแห้งคั่วชงน้ำดื่มต่างน้ำชาเป็นยาทำให้เส้นหย่อนยาน แก้อาการเมื่อยขบตามร่างกาย แก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้า แก้เหน็บชา (เถา)
  • ใช้เถาเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์และกระดูกหัก โดยการนำเถามาตำให้เป็นผงผสมกับน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าวหรือน้ำมันหัวครำ แล้วก็ใช้เป็นยาทานวดรอบๆที่เป็นทุกๆวันกระทั่งหาย (เถา)ยาเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูล (โรงพยาบาล)ข้อบ่งใช้ : ทุเลาอาการปวดกล้าม ลดการอักเสบของกล้ามขนาดแล้วก็การใช้ : กินครั้งละ 500 มก. – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งแคปซูลลูทีน หลังรับประทานอาหารโดยทันทีข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้ในหญิงตั้งท้องยาสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูลข้อบ่งใช้ : ทุเลาอาการปวดข้างหลังส่วนล่าง (low back pain) รวมทั้งอาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)ขนาดและวิธีการใช้ : กินครั้งละ 400 มก. วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารในทันทีข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้กับหญิงมีครรภ์ยาเถาวัลย์เปรียง(แคปซูล) 400 mg (บัญชีร่วม รพสต.)ข้อบ่งใช้ : แก้ข้ออักเสบ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็ง OAขนาดและก็วิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 2*3PC (500Mg.– 1g.) วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารโดยทันทีข้อกำหนดใช้ : ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์รับผลิตลูทีน

    สรรพคุณชะพลู
    ชะพลูด้านการใช้เป็นของกิน ใบชะพลูมีรสหวาน เย็น และกลิ่นหอมหวนที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เลยนิยมเอามาทำอาหารได้มากมายรายการอาหาร บทบาทของชะพลูในจานอาหารครอบครัวประจำถิ่นมีจำนวนมากขายลูทีนเริ่มตั้งแต่เป็นผักสดที่นิยมรับประทานกับอาหารรสอร่อยทั้งหลาย ตัวอย่างเช่น ลาบ ก้อย น้ำตก เนื้อย่าง ปลาย่าง ตลอดจนน้ำพริกต่างๆชะพลูเป็นเครื่องปรุงที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดในของกินจานพื้นบ้านต่างๆแกงแคของภาคเหนือซึ่งถึงกับเรียกใบชะพลูว่า”ใบผักแค” เลยทีเดียว หรือไม่ก็เป็นด้วยเหตุว่าใช้ใบชะพลูเป็นเครื่องปรุงส่วนตัว ก็เลยเรียกแกงนั้นว่าแกงแค เป็นไปได้เช่นเดียวกันแคปซูลลูทีนส่วนภาคอีสารนิยมใส่ไว้ด้านในแกงอ่อมต่างๆแกงขนุนอ่อน แกงหัวปลี ภาคใต้ใช้แกงกะทิใบชะพลูกับหอยแครง ส่วนภาคกึ่งกลางนิยมใส่แกงคั่วหอยขม นิยมเอามารับประทานร่วมกับข้าวมันส้มตำ ประเภทที่เรียกว่าหากขาดใบชะพลู รสชาติของข้าวมันส้มตำก็อร่อยไปเลย รสชาติใบชะพลูขณะที่กัดรวมทั้งเคี้ยวรับประทานจะมีกลิ่นหอมยวนใจในขว้างรสจัด เคี้ยวนานๆจะได้รสเผ็ดอ่อนๆใบชะพลูขนาดกำลังอร่อยจะต้องเป็นใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนถึงเหลือเกิน ใบก็เลยจะนุ่ม หอม และก็เผ็ดพอดี แต่ ใบชะพลูกินได้ทุกขนาดอายุของมัน รับผลิตลูทีนหากแม้แก่มากมายก็กินได้ เพราะเหตุว่าเส้นใยไม่ถึงกับเหนียวกระทั่งกัดไม่ขาด เพียงแค่ใบจะหยาบคายสักหน่อย รวมทั้งกลิ่นจะผลักเล็กน้อย
    ในใบชะพลูมีสารเบตา-แคโรทีนสูงมากมาย ใบเอามารับประทานกับเมี่ยงคำ เอามาแกงใส่กะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่ไว้ภายในแกงกะทิหอยขม แกงคั่วปูในจังหวัดเมืองจันท์ใส่ไว้ด้านในรับผลิตลูทีนแกงป่าปลา

    Tags : ขายลูทีน,รับผลิตลูทีน
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ