หัวข้อ: ประโยชน์ทางยา ควาย พร้อมทั้งข้อมูลมากมาย เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 08:06:09 am (http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2.png)
ควาย[/b] ควายบ้าน หรือ water buffalo (ที่เรียกเช่นนี้เพราะเหตุว่าควายไม่มีต่อมเหงือกสำหรับระบายความร้อนจากร่างกาย จึงชอบอยู่กับน้ำ) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bubalus bubalis (Linnaeus) จัดอยู่ในตระกูล Bovidae ปรับปรุงมาจากควายป่า ชีววิทยาของควายป่า ควายป่า หรือ wild water buffalo มีลักษณะเด่นเป็นเขายาว (มีความยาวเฉลี่ยราว ๑๕๐ เซนติเมตร) เมื่อตัดตามทางขวางจะมองเห็นเขาเป็นสามเหลี่ยม มีรูปร่างทั่วๆไปคล้ายควายบ้าน แม้กระนั้นขนาดทุกส่วนใหญ่กว่ามาก ถ้ายืนเทียบกับควายบ้านจะดูอย่างกับว่าพ่อกับลูก ความสูงที่ไหล่ของตัวผู้ราว ๑.๘๐ เมตร น้ำหนัก ๘๐๐-๑๒๐๐ กก. โคนเขาครึ้ม วงเขากว้าง ปลายเขาแหลม ตอนล่างของเท้าอีกทั้งสี่มีสีขาว คล้ายใส่ถุงเท้าขาว ใต้คอมีลายขาวเป็นรูปลิ่มสามเหลี่ยมสันกว้าง ควายป่าเป็นสัตว์ที่ถูกใจอยู่เป็นฝูงใหญ่ๆควายในฝูงส่วนมากเป็นตัวภรรยารวมทั้งเพศผู้ที่ยังแก่น้อย เมื่อตัวผู้แก่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มักปลีกตัวออกจากฝูงไปอยู่และหาเลี้ยงชีพโดดเดี่ยวเป็นควายโทน ในฝูงหนึ่งมีผู้นำฝูงสำหรับผสมพันธ์เพียงแต่ตัวเดียว ควายป่าชอบหาเลี้ยงชีพตามป่าและก็ท้องทุ่งไม่ไกลจากแหล่งน้ำ เมื่อกินอิ่มแล้วหลังจากนั้นก็ถูกใจนอนปลักโคนหรือนอนแช่น้ำในลำห้วย โคลนตมช่วยให้คุ้มครองควายไม่ให้ยุ่งชำเลืองกัดเท่าไรนัก ควายป่ามีภูมิลำเนาตั้งแต่ภาคกลางของประเทศอินเดีย จนถึงรัฐอัสสัม เมียนมาร์ และก็ ประเทศในแหลมอินโดจีนทั้งสิ้น และก็ ไทย ลาว เวียดนาม และก็เขมร แล้วก็เมืองไทยเคยมีควายป่าเยอะมากตามลำน้ำที่ราบต่ำทั่วๆไป (นอกจากภาคใต้) ตอนนี้มีหลงเหลืออยู่เฉพาะที่เขตรักษาประเภทสัตว์ป่า ห้วยแข้งขา จังหวัดอุทัยธานีเพียงแต่แห่งเดียว มนุษย์จับควายป่ามาเลี้ยงเพื่อใช้งานแต่โบราณ ขนาดตัวของมันก็เลยเล็กลงเนื่องจากอดอาหารรวมทั้งออกกำลังกายเหมือนควายป่า ควายที่มีสีผิวอ่อนหรือสีออกชมพูๆเรียก ควายเผือก (pink buffalo) (http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/resize.jpg) คุณประโยชน์ทางยา แพทย์แผนไทยรู้จักใช้น้ำนมควาย เขาควายเผือก และกระดูกควายเผือก เป็นเครื่องยา ดังต่อไปนี้ ๑.นมควาย ได้จากเต้านมของควายบ้านเพศเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ตำรายาสรรพคุณโบราณว่า น้ำนมกระบือมีรสหวาน ร้อน มีคุณประโยชน์แก้พรรณมืดค่ำ ทำให้เจริญอาหาร โบราณใช้น้ำนมกระบือเป็นยากระสายยาและเครื่องยา ยาขนานที่ ๖๖ ใน ตำราพระยารักษาโรคพระนารายณ์ เข้า “น้ำนมควาย” (น้ำนมควาย) เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ร่วมกับ “น้ำนมแกะ” และก็เครื่องยาอย่างอื่นอีกหลายสิ่งหลายอย่าง (ดูเรื่อง”แกะ” หน้า ๒๓๗-๒๓๘) ๒.เขาควาย ตำราเรียนยาคุณประโยชน์โบราณว่า เขาควายมีรสเย็น ควาย แก้สรรพพิษ แก้ร้อนใน ถอนพิษ แก้พิษไข้ เป็นต้น พระตำราปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่ง เข้า “เขากระบือเผือก” (เขาควายเผือก) เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ อันว่าลักษณะกุมารธิดาใครกันแน่ เกิดขึ้นมาในวันจันทร์ วันพุฒ คลอดตอนเวลาเช้าเวลาเที่ยงก็ดีแล้ว ครั้นเมื่อมารดาออกจากเรือนไฟแล้วราวๆ ๓ เดือน จึงตั้งเกิดทรางน้ำทรางสะกอเจ้าเรือน เมื่อจะเกิดขึ้นนั้น เป็นตั้งแต่คอถึงเพดานลุปากประเภทหนึ่ง พวกหนึ่งกินนอกไส้ขึ้นมาจนกระทั่งลิ้น ก็เลยกระทำให้ลงแดง ให้อยากดื่มน้ำ ให้เชื่อม ถ้าหมอวางยาชอบกุมารผู้นั้น ก็เลยจะได้ชีวิตคืน ถ้าหากจะแก้ท่านให้เอา เขากระบือ ๑ เขาเบ็ญกานี ๑ สีเสียดอีกทั้ง ๒ ดอกบุนนาค[/b] ๑ เกสรบัวหลวง น้ำประสานทอง ๑ กระเทียม[/b] ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเท่าเทียม ทำเป็นจุที่บดทำแท่ง ละลายน้ำจันทร์รับประทาน แก้ลงท้องเพื่อทรางน้ำ พระคัมภีร์ไกษยให้ “ยะประจำธาตุไกษยปลวก” ขนานหนึ่ง เข้า “เขาควาย” เป็นเครื่องยา[/b]ด้วย ดังต่อไปนี้ ยาประจำธาตุไกษยปลวก เอาเขาควายเผา ๑ ผลสบ้าเผา ๑ ปูนแห้งข้างเตาเผา ๑ สิ่งละ ๑ ส่วน พริกไทย ๓ ส่วน ตำเป็นผงบดทำแท่งไว้ละลายน้ำปูนใสรับประทาน แก้ไกษยปลวก[/b] รวมทั้งเจริญรุ่งเรืองธาตุให้เป็นประจำวิเศษนัก ยาจีนใช้เขาควายแก้อาการหมดสติ แล้วก็ในโรคติดเชื้อแบบเฉียบพลันที่ทำให้จับไข้สูง แล้วก็อาการเลือดออกเพราะความร้อนภายใน ๓.กระดูกควาย ยาไทยนิยมใช้ “กระดูกควายเผือก” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ได้แก่ ยาแก้โรคเรื้อนรับประทานกระดูก ใน พระหนังสือชวดาร ดังต่อไปนี้ ยาต้มแก้โรคเรื้อนรับประทานกระดูกให้ขัดในข้อ เอากระดูกช้าง ๑ กระดูกแพะ ๑ กระดูกกระบือเผือก ๑ กระดูกสุนักข์ดำ ๑ เถาโคคลาน ๑ ป่าช้าหมอง ๑ ต้นหญ้าหนวดแมว ๑ ยาเข้าเย็นเหนือ ๑ ยาเข้าเย็นใต้ ๑ ยาดังนี้เอาเสมอภาค ดองเหล้าก็ได้ ต้มก็ได้กินแก้พยาธิแลโรคเรื้อน Tags : ว่านชักมดลูก
|