ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

(http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%82%E0%B8%84.png)
วัว[/b]
คำ “โค” เป็นคำที่แผลงมาจากคำไทยว่า “งัว” ส่วนคำ “โค” เป็นคำเรียกสัตว์ประเภทนี้ในภาษาบาลี (คำ“วัว” นี้อาจหมายถึงพระอาทิตย์  ดังเช่นในคำ“โคจร” ซึ่งแสดงว่า ทางเดินของดวงตะวัน )
ชีววิทยาของวัว
โคเป็นสัตว์บดเอื้อง กินหญ้า มี ๔ เท้า และก็กีบเป็นคู่ เขากลวง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bos  Taurus (Linnaeus) จัดอยู่ในสกุล Bovidae
วัวบ้านมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  bos  Taurus  domesticus  Gmelin  โคบ้านของไทยมีวิวัฒนาการมาจากโคป่าหรือโคออรอคอยกส์  (Aurochs)  ซึ่งตอนนี้สิ้นพันธุ์ไปหมดแล้ว  วัวป่าที่ยังคงพบในบ้านเราเป็นโคแดง ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bos  javanicus  (D’Alton)  เข้าใจว่าวัวแดงนี้น่าจะสืบสกุลมาจากสชโคออคอยกส์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์  ต่อมาโคแดงนี้จึงสืบสกุลมาเป็นโคบ้านของเมืองไทย ทำให้รูปร่างรวมทั้งสีสันของวัวบ้านราวกับวัวแดงมาก แต่รูปร่างใหญ่กว่าและก็สูงยิ่งกว่า โคแดงมีความสูงที่ไหล่ราว ๑.๗๐ เมตร หรือกว่านั้น มีเขายาวราว ๗๐ ซม. โคแดงมีสีน้ำตาลแกมแดงเสมือนโคบ้าน ตัวผู้เมื่อมีอายุมากมายๆสีบางทีอาจเปลี่ยนไป วัวแดงเป็นสัตว์ที่ถูกใจอยู่เป็นฝูง ฝูงหนึ่งมีราว ๒๐-๓๕ ตัว มักมีตัวเมียแก่ๆเป็นผู้นำฝูง แต่ละฝูงมักมีตัวผู้เพียงแต่ตัวเดียว คอยปฏิบัติหน้าที่ผสมพันธุ์เมื่อตัวเมียเป็นสัด
(http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/img.jpg)
ผลดีทางยา
แพทย์แผนไทยรู้จักใช้น้ำนมวัว (นมวัว) ขี้วัว (ขี้วัว) รวมทั้งน้ำมูตรวัว (น้ำมูตรวัว) น้ำมันไขข้อโค เป็นยา
๑. นมโค ได้จากเต้านมของโคเพศเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ตำราสรรพคุณยาโบราณว่า น้ำนมวัวหรือนมโคมีรสหวาน มัน เย็น มีคุณประโยชน์ปิดธาตุ แก้โรคในอก ชูกำลังและก็เลือดเนื้อ รุ่งโรจน์ไฟธาตุ แพทย์แผนไทยมักใช้นมวัวเป็นน้ำกระสายยา อาทิเช่น “ยาแก้ลมโกฏฐาสยาวาตา” ใน พระคัมภีร์โรคนิทาน ใช้ “นมโค” เป็นน้ำกระสายยา ดังนี้ลมโกฏฐาสยาวาตาแตกนั้น มักให้กลิ่นคาวคอ ให้คลื่นไส้ ให้จุกเสียด ให้ยัดในอกถ้าหากจะแก้ ให้เอาใบสลอดต้มกับเกลือให้สุกแล้วตากแดดให้แห้ง ๑   ชะเอมเทศ [/b]๑  รากเจตมูลเพลิงเเดง[/b] ๑  รากโคนงแตก ๑  รากจิงจ้อใหญ่ ๑  ลำพัน[/b] ๑  พริกล่อน ๑  ดีปลี[/b] ๑  ใบหนาด[/b] ๑  การะบูร ๑  เอาเท่าเทียม ทำเปนจุณ ละลาย น้ำนมวัว ก็ได้ น้ำผึ้งก็ได้ น้ำร้อนก็ได้ รับประทานหายแล
๒. ขี้วัว ตำรายามักเรียก น้ำมูลโค แพทย์แผนไทยใช้ขี้วัวปรุงเป็นยาบำบัดโรคอีกทั้งด้านในและข้างนอกหลายขนาน โดยมากใช้ขี้วัวดำ หนังสือเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณว่า ขี้วัวดำมีรสขม เย็น มีสรรพคุณดับพิษร้อน พิษไข้ พิษรอยดำ ลางตำราเรียนว่าขี้วัวสดแล้วก็แห้งผสมกับใบน้ำเต้าสดรวมทั้งสุรา ตำคั้นเอาน้ำ ทาแก้เริม ไฟลามทุ่ง งูสวัด ลมพิษ   แล้วก็แก้พุพอง ฟกบวม ถอนพิษ
๓. น้ำมูตรโค แบบเรียนยามักเรียกว่า น้ำมูตรโค  แล้วก็มักใช้น้ำมูตรวัวดำเป็นน้ำกระสายยา ได้แก่ ยาสตรีขนานหนึ่งใน พระตำรามหาโชตรัต ใช้ “มูตรวัวดำ” เป็นกระสาย   ดังต่อไปนี้ ถ้าหญิงเลือดตกทางทวารหนักทวารเบา ไม่ออกสบาย ให้เอาขมิ้นอ้อย ๑ ไพล[/b] ๑ ผลผักชีล้อม ๑ บดละลายด้วย มูตรวัวดำ รับประทานหายแล
๔. น้ำมันไขข้อโค พระหนังสือมุจฉาปักขันทิกา ให้ยาน้ำมันทาแก้ไส้ด้วนไส้ลามรวมทั้งแผลฝีเน่าเปื่อยขนานหนึ่ง เข้า “น้ำมันไขข้อโค”   เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้
ถ้าเกิดไม่ฟัง   พิษนั้นกล้านักมักเผาเอาเนื้อนั้นสุก สาวเข้าไปแต่ว่าปลายองคชาตทุกๆวันๆก็ดีแล้ว   ท่านให้หุงน้ำมันนี้ใส่   ดับพิษทั้งรักษาเนื้อไว้   ไม่ให้สาวเข้าไปได้ ท่านให้เอามะพร้าวแตกออกบนต้นเขี้ยวน้ำมันให้ได้ถ้วย ๑  จึงเอาใบกระเม็ง ๑ ใบยาดูดสดๆ๑  เปลือกพันพาย ๑  เปลือกจิก ๑  เปลือกกรด ๑  เบญจลำโพง ๑  ใบเทียน ๑  ใบทับทิม[/b] ๑   ใบขมิ้นอ้อย[/b] ๑ ใบเลี่ยน ๑  ยาดังนี้เอาสิ่งละถ้วย ใส่ลงกับน้ำมันที่สกัดจากมะพร้าวหุงให้อาจจะแต่ว่าน้ำมัน แล้วเอาน้ำมันแมวดำชาตรีจอก ๑ น้ำมันถูไก่จอก ๑   น้ำมันไขข้อโคจอก  ๑   ปรุงใส่ลงเถิดวิเศษนัก  น้ำมันนี้ท่านตีค่าไว้ตำลึงทองคำหนึ่งใช้ได้ทุกสิ่ง แลตานทรางสรรพพิษฝีเปื่อยหนุ่ม   ทั้งยังแก้มิให้เป็นด่างเป็นแผลให้คงจะคืนดีคนเก่า แลแก้ไส้กุดไส้ลาม  ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมาแม้กระนั้นคราวหลังหายสิ้นอย่าสงสัยเลย  ได้ทำมามากแล้ว  ตำรานี้ฝรั่งเอามาแม้กระนั้นเมืองยักกัตราแล

ฐานข้อมูลผิดพลาด

ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย