หัวข้อ: สัตววัตถุลิ่น เริ่มหัวข้อโดย: watamon ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 02:59:08 pm (http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99.png)
ลิ่น[/size][/b] ลิ่น หรือนุ่ม เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Manis javanica Desmarest มีชื่อสามัญว่า Malayan pangolin จัดอยู่ในตระกูล Manidae ชีววิทยาของลิ่น ลิ่นมีลำตัวแล้วก็หายาว เวลาเดินข้างหลังจะโค้ง ส่วนหัวรวมทั้งหางจะยืดตรง ความยาวของลำตัววัดจากปลายปากถึงโคนหาง ๕๐ -๖๐ เซนติเมตร หางยาว ๕๐ – ๘๐ เซนติเมตร มีน้ำหนักตัว ๖-๙ กิโลกรัม ส่วนหัวเล็ก ปากยาว ตาเล็ก ใบหูเล็ก ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดแข็ง สมุนไพร ใต้เกล็ดแต่ละเกล็ดมีขนเป็นเส้นๆ เกล็ดละ ๒ – ๓ เส้น เกล็ดสีเหลืองถึงสีน้ำตาลเข้ม บริเวณใต้คาง ท้อง ภายในขาจะไม่มีเกล็ด มีเล็บยาว ปลายแหลมแข็งแรง เหมาะกับขุดคุ้ยดินรวมทั้งรังปลวก ไม่มีฟัน มีลิ้นเป็นเส้นยาว หางปกคลุมด้วยเกล็ด ม้วนงอจับก้านไม้ได้ สัตว์ชนิดนี้โตสุดกำลังและสืบพันธุ์ได้เมื่ออายุราว ๑.๕ ปี ตั้งครรภ์นานราว ๑๔๐ วัน ออกลูกครั้งละ ๑ – ๒ ตัว ลูกที่เกิดใหม่จะติดตามไปกับแม่ โดยใช้ขาหน้ารวมทั้งขาข้างหลังกอดโคนหางแม่ไว้แน่น ลูกลิ่นดูดนมแม่ตรงจั๊กกะแร้ โดยที่แม่นอนตะแคงหรือนอนหงาย และก็เลิกกินนมเมื่ออายุราว ๓ เดือน ลิ่นอายุยงยืนราว ๑๐ ปี ลิ่นกินมด ปลวก และแมลงเป็นของกิน ถูกใจออกหากินในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันหลบนอนอยู่ในโพรงดิน เวลาเข้านอนจะม้วนหรือม้วนตัวกลม ใช้หางเกี่ยวกิ่งไม้ได้ แล้วก็สามารถปีนต้นไม้ได้ โดยใช้เล็บตีนช่วย ประสาทรับกลิ่นแล้วก็เสียงดีเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสาทรับกลิ่นซึ่งช่วยในการหาอาหาร แต่ว่าประสาทตาไม่ดีเจอได้ในทุกภาคของประเทศไย ในต่างถิ่นเจอพอดีลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย และก็อินโดนีเซียสัตว์ในสกุลเดียวกันนี้ที่อาจเจอในประเทศไทยอีก คือ ลิ่นจีน อันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Manis pentadactyla Linnaeus มีชื่อสามัญว่า Chinese pangolin (http://www.คลัง[b][u]สมุนไพร[/u][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/NjpUs24nCQKx5e1EaEDWRY0TVVtjKoUUUiiTFvVEwFD.jpg) ประโยชน์ทางยา หมอแผนไยใช้เกล็ดลิ่นในตำรับยาน้อยมาก ต่างจากยาจีนซึ่งแพทย์มักใช้ลิ่นเข้าตำรับยา เกล็ดลิ่นเป็นเครื่องยาที่มนตำรับยาแห่งประเทศจีนยืนยันไว้ มีชื่อยาในภาษาละตินว่า Squama Manitis มีชื่อสามัญว่า pangolin scale เกล็ดลิ่นที่ใช้ในยาจีนได้จากลิ่นจีน แต่ว่าในปัจจุบันเกล็ดลิ่นจากประเทศไทย ภูมิภาคอินโดจีน รวมทั้งแหลมมลายู ถูกส่งเข้าไปขายในประเทศจีนปีละมากมายๆ ส่วนใหญ่เป็นในรูปเกล็ดที่คั่วในทรายจนถึงพองก็ดีแล้วการเตรียมเกล็ดลิ่นสำหรับใช้เป็นเครื่องยานั้น อาจทำเป็น ๓ วิธีหมายถึง๑. ใช้เกล็ดแห้ง ล้างน้ำให้สะอาด แล้วผึ่งแดดให้แห้ง ๒. ใช้เกล็ดแห้งที่สะอาดแล้ว คั่วในกระทะทรายที่ร้อนมาก จนถึงเกล็ดลิ่นพอง ทิ้งให้เย็น ล้างให้สะอาด แล้วทำให้แห้ง หรือ ๓. เอาเกล็ดลิ่นที่คั่วกับทรายที่พองเต็มที่แล้ว จุ่มไปในน้ำส้มสายชูทันที แล้วคัดแยกออกทำให้แห้ง เมื่อจะนำมาใช้ปรุงยาก็ให้บดเป็นชิ้นเล็กๆ แบบเรียนยาจีนว่า เกล็ดลิ่นมีรสเค็ม เย็นนิดหน่อย แสดงฤทธิ์ต่อเส้นตับแล้วก็กระเพาะ มีคุณประโยชน์ คือ ๑. กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดรวมทั้งทำให้ระดูเป็นประจำ จึงใช้กับสตรีในภาวการณ์ขาดประจำเดือนรวมทั้งมีก้อนในท้องเหตุเพราะเลือดคั่ง ๒. ไล่ “ลม” ที่ก่อโรคแล้วก็ขจัดการอุดกั้นใน “เส้น” จึงใช้แก้ลักษณะของการปวดรวมทั้งชาตามแขนขา ๓. กระตุ้นน้ำนม ก็เลยใช้กับสตรีซึ่งไม่มีนมเลี้ยงลูก และก็ ๔. ลดการบวมรวมทั้งช่วยขจัดหนองจึงใช้แก้แผลฟกช้ำต่างๆ แผลบวมมีหนอง มักใช้ในขนาด ๔.๕ – ๙ กรัม ต้มน้ำ นิยมใช้เกล็ดที่คั่วจนกระทั่งพอดีแล้ว แต่ว่าการใช้กับสตรีในระหว่างท้อง ควรใช้ด้วยความระวัง
|