หัวข้อ: สัตววัตถุ เขาสัตว์อื่นที่ใช้เเทนเขากุยได้ เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ พฤศจิกายน 24, 2017, 03:17:23 pm (http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C.png)
เขาสัตว์อื่นที่ใช้แทนเขากุยได้[/size][/b] เขาประเภทอื่นที่มีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับเขากุย แบบเรียนว่าใช้แทนกันได้ ดังเช่น ๑.กาเซลคอพอก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gazella gutturosa Pallas มีชื่อสามัญว่า goitred gazelle เจอในเอเชียกึ่งกลาง จากทิศใต้ของทะเลสาบแคสเปียนถึงภาคตะวันตกของเมืองจีน โดยเฉพาะภาคเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ที่ต่อเนื่องไปจนกระทั่งเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน สัตว์ประเภทนี้เพศผู้มีต่อมใหญ่ขึ้นที่คอหอยคล้ายกับเป็นโรคคอพอก ซึ่งเห็นได้ชัดในฤดูผสมพันธุ์ตัวผู้มีเขายาว ลู่ช้อนไปข้างหลัง ปลายงอนขึ้น ยาวราว ๒๕ เซนติเมตร ๒.ชิ รูหรือ แอนติโลปประเทศทิเบต มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pantholops hodgsoni Abel มีชื่อสามัญว่า chiru หรือ Tibetan antelope เจอในทุ่งหญ้าเนินสูงของเขตปกครองตนเองประเทศทิเบต สูงที่ไหล่ยาว ๑ เมตร หนัก ๒๕-๓๕ กก. มีเขายาวมากมาย ชอบย้ายถิ่น ในฤดูผสมพันธุ์มีฝูงตัวเมียถึง ๒0 ตัว โดยที่ตัวผู้คุมฝูงอยู่เพียงแค่ตัวเดียว สัตว์ชนิดนี้ถูกใจใช้กลีบขุดหลุม นอนลึกๆเพื่อหลบอากาศหนาว ๓.กาเซลประเทศทิเบต มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Procapra picticaudata Hodgson มีชื่อสามัญว่า Tibetan gazelle สัตว์ชนิดนี้มีลักษณะของกาเซลหลายประการ เป็น มีขนหางสั้น ไม่มีต่อมหัวตา ไม่มีพู่ขนบนเขา มีเขาเฉพาะบุคคลผู้ ตัวเมียไม่มีลายที่หน้า ปลายเขาไม่โค้งเป็นตาขอ และก็ตรงปลายก้นมีแถบขาว สัตว์ชนิดนี้สูงที่ไหล่ราว ๖0-๖๕ เซนติเมตร หนักราว ๒0 โล ข้างตัวสีน้ำตาลจาง รวมทั้งจางเป็นสีเทาในฤดูร้อน พบตามเทือกเขาสูงในที่ราบสูงทิเบต ๔.กวางผา (http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/article_other-20111105-1508270.jpg) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nemorhaedus goral Hardwicke มีชื่อสามัญว่า common goral หรือ Himalayan goral เจอในประเทศไทย ตามภูเขาที่สูงชันทางทิศตะวันตกของแม่น้ำปิง เคยพบที่ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ และก็ภาคตะวันตกของประเทศพม่าต่อกับบังกลาเทศ ตลอดไปตามแนวเทือกเขาหิมาลัย ถึงบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย กวางเขาหินมีขนาดเล็กกว่าเลียงผา สีตามตัวเป็นสีเทาแกมน้ำตาลอ่อนๆแกมสีฟ้าจางที่ใต้คอมีสีขาว ที่สันคอไม่มีขนแผง แต่มีเส้นสีน้ำตาลเข้มจากสันคอไปบนสันหลังจนถึงหาง กวางเขาหินต่างจากเลียงหน้าผาตรงที่กวางผาไม่มีรูต่อมที่อยู่ระหว่างตากับจมูก เขาแหลมโค้งไปข้างหลังคล้ายแกงเลียงผา แต่เล็กมากยิ่งกว่า มีคอดที่โคนเขาราวครึ่งเดียวของความยาวเขา กวางผาเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่เป็นฝูงราว ๕-๖ ตัว เดินทำมาหากินตามท้องทุ่งในรุ่งเช้า สมุนไพร รวมทั้งช่วงเวลาเย็น บางทีก็นอนเล่นบนโขดหิน พระหนังสือธาตุวิภังค์ให้ยาที่เข้า “เขากุย” ไว้ ๒ ขนาน ขนานหนึ่งเป็น “ยาจิตรมหาวงษ์” ซึ่งมีบันทึกไว้ ดังนี้ ยาชื่อจิตรมหาวงษ์ แก้คอเปื่อยลิ้นเปื่อยยุ่ยแลปากยุ่ยแลแก้ไอ ท่านให้เอา รากมะกล่ำ ต้น ๑ รากมะกล่ำเครือ ๑ รากมะขามป้อม ๑ เนระภูเขาสี ๑ เขากวาง[/b] ๑ เขากุย[/b] ๑ นอแรด ๑ งาช้าง ๑ จันทร์ทั้งคู่นี้ บอแร็กสะตุ ๑ ยาดังนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำผงบดทำแท่งไว้ ละลานน้ำผึ้ง[/b]ทา หายแล พระคัมภีร์ปฐมจินดาร์ให้ยาหลายขนานที่เข้า “เขากุย” ขนานหนึ่งเป็นยาแก้ซางแห้ง ซึ่งมีบันทึกไว้ ดังต่อไปนี้ ยาแก้ทรางแห้ง คือทรางมิจฉาชีพทรางเพลิง ถ้าหากขึ้นตาเป็นเกล็ดกระดี่ แล้วให้เป็นยอดขึ้นพรึงไปหมดทั้งตัวดังผด เอาหอมแดง ๑ รากนมแมว ๑ รากเข็มเหลือง ๑ พรมไม่ ๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ กระเทียม ๑ หว้านเปราะ ๑ รากถั่วภูเขา ๑ เขากวาง ๑ นอแรด ๑ เขากุย ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวไอ้เข้ ๑ เขี้ยวหมี ๑ เขี้ยวหมู ๑ เขี้ยวแรด ๑ โกศทั้งยัง ๕ เทียนทั้ง ๕ การะบูร[/b] ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๒๘ สิ่งนี้ เอาเสมอภาค ทำเปณจุณ เอาน้ำดอกไม้เป็นกระสาย บดทำแท่ง ละลานน้ำแตงกวากิน แก้ในตาต้อทั้ง ๔ แลต้อสำหรับทรางกุมารทั้งปวง
|